ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 139 กระโดดไล่จับไก่ไปมา

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 139 กระโดดไล่จับไก่ไปมา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 139 กระโดดไล่จับไก่ไปมา

ตอนที่ 139 กระโดดไล่จับไก่ไปมา

หลังจากเล่นกับเด็กน้อยทั้งสองสักพัก เว่ยอวิ๋นซูก็ขอตัวลากับฮองเฮา เข้าสวนป่าท้อไปหาเฉียวเยี่ยน

สวนป่าท้อใหญ่เกินไป พวกนางข้าหลวงกับองครักษ์จึงไม่รู้ตำแหน่งที่แน่นอนของเฉียวเยี่ยน ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แต่ชี้ทิศทางคร่าวๆ ให้นาง

เว่ยอวิ๋นซูก้าวเข้าไปในสวนป่าท้อ นางชมทิวทัศน์ไปด้วยหาเฉียวเยี่ยนไปด้วย ระหว่างทางก็พบกับพวกคนงานที่กำลังปีนต้นไม้ไปผสมเกสรดอกท้อหลายคน

นางรู้สึกฉงนว่าเหตุใดพวกเขาถึงแหย่ดอกไม้ด้วยพู่กัน แต่ไม่ได้ถามละเอียดนัก ถามแค่ตำแหน่งของเฉียวเยี่ยน

ด้วยการชี้ทางของคนงาน ไม่นาน นางก็พบเฉียวเยี่ยนที่กำลังปีนต้นไม้ใช้พู่กันแหย่ดอกไม้เช่นเดียวกัน

“เฉียวเฉียว! ในที่สุดข้าก็หาเจ้าพบ!”

นางส่งเสียงอุทานเจื้อยแจ้วด้วยความประหลาดใจจากระยะห่างออกไป ครั้นเฉียวเยี่ยนเห็นนางก็ประหลาดใจเช่นกัน

“อวิ๋นซู! เจ้ามาได้อย่างไร?”

หลังถามด้วยรอยยิ้มแล้วก็เก็บแปรงกับขวดเล็กๆ ในมือใส่ลงในย่าม และกระโดดลงมาจากต้นท้ออย่างชำนาญ

เว่ยอวิ๋นซูวิ่งเข้ามากอดนางไว้ ประหนึ่งกอดของเล่นแสนรัก ปากก็เริ่มพร่ำบ่นออกมา “เฉียวเฉียว เจ้ายังไม่รู้ ข้าถูกแม่ข้าบ่นจนใกล้จะตายแล้ว จึงไปหาเจ้า แต่เจ้ากลับไม่อยู่ ข้าจึงได้แต่ไปตีเนียนกินข้าวที่จวนท่านน้าหว่าน”

เฉียวเยี่ยนลูบศีรษะของนางเหมือนลูบหัวสุนัข และเอ่ยอย่างจนใจ “พอแล้ว ทำเหมือนเป็นเด็กเลย”

เว่ยอวิ๋นซูยืดตัวขึ้น พลันความน้อยใจที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าก็หายไปทันที ชี้ไปยังแปรงกับขวดเล็กในย่ามของเฉียวเยี่ยนและเอ่ยถาม “ระหว่างทางที่ข้ามา ข้าเห็นคนงานหลายคนใช้พู่กันแหย่ดอกไม้ เพราะเหตุใดหรือ?”

เฉียวเยี่ยนคิดว่าความรู้ทางชีววิทยาสมัยใหม่ขั้นพื้นฐานที่สุดในกระบวนการปฏิสนธิของละอองเรณูต้องอธิบายในสมัยโบราณไม่ได้แน่ นางจึงเปลี่ยนเป็นการอธิบายอย่างง่ายๆ

“หลังจากดอกท้อบาน ละอองเรณูจากดอกไม้อื่นๆ จะลอยไปผสมกับเกสรตัวเมียของมัน เพื่อทำให้เกิดผล และมีหลายวิธีในการแพร่กระจายละอองเรณู เช่น ลมพัดก็สามารถแพร่ได้ แมลงขนาดเล็กหลายชนิดที่กินน้ำหวานของดอกไม้ก็แพร่ได้เช่นกัน ทว่าสิ่งเหล่านี้เป็นแค่สื่อนำขั้นพื้นฐานที่สุดเท่านั้น”

“หากอาศัยแค่สิ่งเหล่านี้ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ดอกท้อส่วนใหญ่จะไม่ได้รับละอองเรณู เวลานี้จึงต้องการคนช่วยกันรวบรวมเกสรจากต้นหนึ่งไปใส่ในขวดเล็กๆ แล้วใช้แปรงแพร่กระจายมันไปยังอีกต้นหนึ่ง ”

เว่ยอวิ๋นซูเข้าใจในทันที และเข้าใจความหมายของการผสมเกสรเทียม “ดังนั้น คนจึงช่วยผสมเกสรเทียม เช่นนี้ดอกท้อส่วนใหญ่ก็จะสามารถออกผลได้ และเพิ่มปริมาณได้ด้วย”

เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ นางก็มองเฉียวเยี่ยนด้วยดวงตาเป็นประกาย “ว้าว! เฉียวเฉียว เจ้าฉลาดเกินไปแล้ว เจ้าคิดวิธีเช่นนี้ได้ด้วย!”

เฉียวเยี่ยนยิ้มและไม่ตอบ ไม่ใช่ว่านางฉลาด นางเป็นแค่นักเดินทางข้ามเวลาที่หยิบยืมเอาภูมิปัญญาของผู้อื่นมาก็เท่านั้น

นางเกิดในยุคเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า ความรู้ที่ได้เรียนมาล้วนมาจากประสบการณ์ที่สรุปโดยบรรพบุรุษนับพันๆ ปี โลกยกย่องนางว่าเป็นคนแปลก แต่จริงๆ แล้วเป็นเพราะนางเกิดมาช้ากว่าพวกเขาไปหลายพันปีก็เท่านั้น

เว่ยอวิ๋นซูสนใจการผสมเกสรเทียมมาก จึงขอให้เฉียวเยี่ยนสอนนาง บ้านนางมีต้นผลไม้อยู่สองสามต้น หากได้เรียนรู้เคล็ดลับนี้ และกลับไปแสดงให้แม่นางได้เห็น ต่อไปนางก็อาจจะไม่ถูกบ่นขนาดนั้นแล้วก็ได้

ในย่ามของเฉียวเยี่ยนยังมีเครื่องมือสำรองอยู่ นางจึงให้อีกฝ่ายชุดหนึ่ง และสอนนางอย่างละเอียด เว่ยอวิ๋นซูเรียนอย่างตั้งใจ โดยพื้นฐานแล้วเพียงแค่มองแวบเดียวก็ทำเป็นแล้ว และแทบอยากลงมือทำไม่ไหว

แต่หลังจากที่นางทำมันกลับพบว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แรงมือที่ลงของนางก็เหมือนกับพวกคนงาน จิ้มจนดอกท้อฉีกเป็นชิ้น และทดลองไปหลายครั้งกว่าจะทำสำเร็จ

ช่วงบ่ายมีลมแรง ไม่เอื้อต่อการผสมเกสร เฉียวเยี่ยนจึงให้พวกคนงานเลิกงานเร็ว ซึ่งมันยังเช้าอยู่ แต่กลับไม่มีอะไรทำแล้ว นางจึงตัดสินใจทำอะไรกินตามที่ฉุกคิดได้อย่างฉับพลัน

นางส่งคนไปเก็บใบบัวในสระบัวที่เชิงเขา และให้องครักษ์สองสามคนไปขุดดินกับโคลน ในขณะที่นางพาเว่ยอวิ๋นซูไปจับไก่ทั่วส่วนป่าท้อ

บอกว่าไปจับไก่ มิสู้บอกว่าไปล่าสัตว์ ไก่ที่เลี้ยงแบบปล่อยมีนิสัยพอๆ กับไก่ป่า หากอยากจับพวกมันในตอนกลางวัน พูดไม่ได้ว่ามันจะง่าย

ด้วยเหตุนี้ เฉียวเยี่ยนกับเว่ยอวิ๋นซูจึงงัดทักษะฝีมือชั้นเลิศของตนอกา แต่ละคนถือหินคนละถุง กระโดดขึ้นลงไปมาในป่าท้อเหมือนลิงสองตัว

เล็งเป้าไปที่ไก่ พลางหยิบก้อนหินออกมา แล้วเขวี้ยงไปที่หัวของมัน ซึ่งจะต้องแรงพอ และมีความแม่นยำที่พอจะทำให้ไก่หมดสติได้ด้วยหินก้อนเดียว

แต่กระนั้น ไก่ที่พวกทหารปลดประจำการเลี้ยงออกมา เหมือนจะได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพ พวกมันว่องไว วิ่งเร็วมาก แถมยังหลบหลีกการโจมตีได้ เว่ยอวิ๋นซู ‘ยิง’ ไปหลายครั้งก็ไม่โดน จนกลายเป็นไก่ร่าเริงแล้ว

คนสองคนที่มีทักษะไม่ธรรมดา เพื่อไก่แค่สองสามตัว ไม่นึกเลยว่าจะไล่จนเหงื่อชุ่ม และในที่สุดเมื่อพวกเขาหิ้วไก่ที่หมดสติตายกลับไปที่พัก สีหน้าภูมิใจก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า

เว่ยอวิ๋นซูถูกไก่สองสามตัวนั้นทรมานไม่น้อย จึงรับงานถอนขนกับแยกชิ้นส่วนไก่ด้วยตัวเอง เพื่อใช้หน้าที่นี้ระบายโทสะอย่างดุดัน

เฉียวเยี่ยนไม่ปฏิเสธ และมอบหน้าที่จัดการไก่ให้นาง ส่วนตัวเองก็ไปที่ครัวเตรียมเครื่องปรุงสำหรับหมักไก่

นางกำลังจะทำไก่ขอทาน* เนื้อของไก่เลี้ยงปล่อยสดใหม่มาก ไขมันก็มีน้อย เหมาะแก่การทำไก่ขอทานมาก

(เป็นไก่ยัดไส้ห่อใบบัวอบ

หั่นต้นหอม ขิงใส่ลงในอ่าง แล้วใส่เครื่องปรุงอื่นๆ เช่น ฮวาเจียว เม็ดยี่หร่า พริกไทย ซีอิ๊วลงไป คลุกเคล้าจนเป็นน้ำซอส อีดเดี๋ยวเทลงบนไก่จนชุ่มก็เป็นอันเสร็จ

เว่ยอวิ๋นซูเหม็นกลิ่นคาวไก่มาก จึงหากระดาษสองก้อนมาอุดจมูกเอาไว้ และพึมพำด่า “พวกเจ้าทำให้ข้าเหนื่อย ทำให้ข้าเหม็นกลิ่นคาวไปก่อนเถิด อีกเดี๋ยวข้าจะกินพวกเจ้าให้หมด! ”

เมื่อเฉียวเยี่ยนออกมาจากครัวและได้ยินนางตะโกนสาปแช่งกับตัวเอง ก็ตลกอย่างมาก เมื่อเห็นนางโยนเครื่องในไก่ทิ้ง นางก็รีบไปเก็บกลับมาทันที

“เครื่องในไม่ต้องทิ้ง พวกนี้เอาไปทอดน่ะอร่อยมาก”

เว่ยอวิ๋นซูไม่เคยกินเครื่องใน ต่อให้กินก็เป็นที่พ่อครัวทำความสะอาดแล้วทอดมันจนหอมกรุ่น จะเหมือนกับก้อนเนื้อที่มีกลิ่นเหม็นคาวในตอนนี้ได้อย่างไร แถมยังมีมูลมันด้วย

นางส่ายหน้าด้วยความขยะแขยง “ไม่เอา ในนั้นเต็มไปด้วยมูล ข้าไม่กล้ากิน!”

เด็กทั้งสองนั่งยองๆ ดูการเชือดไก่อยู่ข้างๆ ได้ยินเช่นนั้น เจ้าปลาอ้วนก็รีบเอ่ยขึ้น “เครื่องในอร่อยมาก เครื่องในที่ท่านแม่ทอดหอมมาก ไม่มีกลิ่นเหม็นสักนิด!”

ขณะพูด เด็กน้อยก็สูดปากไปด้วย เห็นได้ชัดว่าหิวกระหาย

เฉียวเยี่ยนลูบศีรษะเด็กน้อย และเอ่ยอย่างหลงใหล”ลูกหิวแล้วหรือ เดี๋ยวแม่จะทอดเครื่องในไก่ให้เจ้ากิน”

นางเก็บเครื่องในไก่ที่เว่ยอวิ๋นซูโยนทิ้งขึ้นมา และหาขนไก่ยาวสองสามอันรีดกากในลำไส้รีดออกมาให้หมดก่อย แล้วค่อยใช้ขนไก่ด้านที่แข็งพลิกสำไส้กลับออกมา

กึ๋นไก่ใช้มีดตัดออก นำเศษกากของเสียที่อยู่ภายในล้างทำความสะอาด แล้วลอกหนังชั้นนอกออก

เมื่อของเสียทุกอย่างไหลออกมา กลิ่นมูลไก่ก็ลอยโชยเต็มอากาศ รมจนเว่ยอวิ๋นซูเกือบลืมตาขึ้นมาไม่ได้ นางนึกไม่ออกจริงๆ ว่าสิ่งนี้จะทำออกมาอร่อยได้

หลังจากเฉียวเยี่ยนทำความสะอาดข้างในลำไส้กับกึ๋นไก่แล้ว ก็ใส่แป้งสาลีลงไปหนึ่งกำมือ และล้างอย่างระมัดระวัง แป้งสาลีสามารถดูดซับสิ่งสกปรกจากเครื่องในไก่ได้ จากนั้นล้างด้วยน้ำเกลือหลายๆ ครั้ง สุดท้ายก็ล้างด้วยน้ำสะอาด ล้างเครื่องในไก่ก็เป็นอันเสร็จ

หลังจากล้างเครื่องในไก่สะอาดแล้ว ก็หั่นลำไส้เป็นชิ้นเล็กๆ ฝานกึ๋นไก่เป็นแผ่นๆ ผ่าหัวใจไก่เป็นสองส่วน เอาเลือดตรงกลางออก ตับไก่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จวบจนหั่นเครื่องในไก่ทั้งหมดเสร็จ ก็เทน้ำใส่ในหม้อ แล้วใส่เครื่องในไก่ลงในหม้อ เพิ่มหอม ขิง เหล้าเหลืองลงไปดับกลิ่นคาว แล้วเริ่มลวก

หลังจากน้ำเดือดแล้วให้ตักฟองออก จนกระทั้งต้มเครื่องในไก่สุกก็ตักออกมาล้างให้สะอาด

หลังจากจัดการเครื่องในไก่เสร็จ เฉียวเยี่ยนไม่ได้ผัดผักก่อนแต่อย่างใด นางไปหมักไก่ที่เว่ยอวิ๋นซูจัดการเสร็จแล้วก่อน หลังจากหมักไว้ประมาณหนึ่งชั่วยามก็เริ่มห่อด้วยใบบัวและโคลน

ห่อไก่ที่หมักแล้วด้วยใบบัว จากนั้นมัดด้วยเชือกฟางให้แน่น ด้วยกลัวว่าใบบัวจะแตก โคลนจะปนเปื้อนติดเนื้อไก่ เฉียวเยี่ยนจึงห่อกระดาษคราฟท์ทับชั้นใบบัวอีกครั้ง สุดท้ายก็ห่อโคลนไว้ชั้นบนสุด

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ไก่ขอทานน่ากินจังเลยค่ะ เห็นบทบรรยายแล้วน้ำลายไหลเลย

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *