ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 173 เดินขบวนไปตามถนน โยนผ้าเช็ดหน้า

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 173 เดินขบวนไปตามถนน โยนผ้าเช็ดหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 173 เดินขบวนไปตามถนน โยนผ้าเช็ดหน้า

ตอนที่ 173 เดินขบวนไปตามถนน โยนผ้าเช็ดหน้า

ความจริงแล้วเขารู้สึกขบขันมากกับท่าทางของทั้งสองเมื่อครู่ ซึ่งเหมือนลิงน้อยสองตัวกระโดดโบกมือไปมา

เขาจึงคลี่ยิ้มออกมา เฉียวเยี่ยนกับเว่ยอวิ๋นซูเห็นแล้วก็รู้สึกภูมิใจ เห็นหรือยังล่ะ นี่คือพี่ชายของพวกเรานะ!

เว่ยอวิ๋นซูมักคิดกับตัวเองว่าเขาคือพี่ชาย ข้ามักจะเรียกเขาว่าพี่เฉียวจิ่น จะคิดอย่างไร เขาก็คือพี่ชายข้า!

แต่ที่พวกนางคิดไม่ถึงก็คือ รอยยิ้มของเฉียวจิ่นทำให้สาวๆ ที่คลั่งไคล้อยู่แล้วก็ยิ่งคลั่งไคล้มากขึ้น

“ว้าว! เขายิ้มล่ะ! เขาต้องยิ้มให้ข้าแน่!”

“ใครว่าล่ะ เขากำลังยิ้มให้ข้าชัดๆ ดูสิเขากำลังมองมาทางข้า!”

“พวกเจ้าเลิกเถียงกันได้แล้ว เขากำลังมองข้าอยู่!”

……

เสียงทะเลาะเซ็งแซ่ทางด้านข้างทำให้เฉียวเยี่ยนกับเว่ยอวิ๋นซูรู้สึกเอือมระอา

หยุดหลงตัวเองกันก่อนได้ไหม เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเจ้าเป็นใคร แล้วเหตุใดเขาต้องยิ้มให้พวกเจ้าเล่า?

เว่ยอวิ๋นซูกำลังจะเปิดปากเอ่ยว่า หยุดเถียงกันได้แล้ว เขายิ้มให้ข้าต่างหาก!

แต่ก่อนที่จะได้เอ่ยออกไป ก็เห็นกลุ่มสาวงามผู้คลั่งไคล้เริ่มโยนผ้าเช็ดหน้าลงไปข้างล่าง โยนไปทางเฉียวจิ่นตามๆ กันไป แต่เฉียวจิ่นไม่รับ

เฉียวเยี่ยนตกตะลึง มองไปที่เว่ยอวิ๋นซูก่อนเอ่ยถาม “นี่ทำอะไรกันหรือ?”

เว่ยอวิ๋นซูรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย ก่อนกัดฟันเอ่ย “พวกนางต้องการยั่วยวนพี่เฉียว และอยากเป็นพี่สะใภ้เจ้าน่ะสิ!”

หลังจากนางพูดจบ ก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากอก และโยนไปทางเฉียวจิ่นคล้ายกับอารมณ์เสีย

นางฝึกฝนวรยุทธ์มาตลอดทั้งปี มีกำลังภายใน ความแม่นยำก็เป็นเลิศ ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นจึงโดนตัวเฉียวจิ่นอย่างไม่มีผิดพลาด ส่วนเฉียวจิ่นหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา ก่อนเงยมองไปยังนาง วินาทีที่ทั้งสองประสานสายตากัน ใบหน้าก็พลันแดงเรื่อ

ขบวนแห่เดินไปไกลแล้ว ทว่าแก้มของเว่ยอวิ๋นซูยังร้อนผะผ่าว เมื่อครู่นางสติเลอะเลือนเหมือนถูกผีเข้าสิงจริงๆ ถึงได้โยนผ้าเช็ดหน้าให้พี่เฉียว แล้วแบบนี้จะเผชิญหน้าเขาต่อไปอย่างไร? เขาคงไม่เข้าใจนางผิดหรอกใช่ไหม?

เฉียวเยี่ยนมองฉากตรงหน้าด้วยรอยยิ้มเอ็นดู พลางเอ่ยติดตลก “ข้าเห็นเจ้าเป็นสหายสนิท แต่เจ้ากลับอยากเป็นพี่สะใภ้ข้า อวิ๋นซู เจ้ามีเจตนาแอบแฝงนะ”

เว่ยอวิ๋นซูยิ่งมีสีหน้าแดงเรื่อ และเอ่ยตะกุกตะกัก “พูดมั่วๆ …มะ…ไม่ใช่เสียหน่อย ข้าก็แค่ไม่อยากให้นังจิ้งจอกพวกนั้นทะ…ทำสำเร็จก็เท่านั้น ใช่! เป็นแบบนี้แหละ!”

ขณะกล่าว นางก็พยักหน้ากับตัวเอง ทว่าเฉียวเยี่ยนเห็นแล้วกลับยิ้มกรุ้มกริ่มลึกขึ้น

“หากไม่มีอะไร แล้วเจ้าจะหน้าแดงทำไม? อวิ๋นซู เจ้าไม่ซื่อสัตย์เลยนะ”

เว่ยอวิ๋นซูถลึงตาใส่เฉียวเยี่ยนอย่างอับอาย พลางเอ่ยตำหนิ “เฉียวเฉียว เจ้าล้อข้าหรือ! ข้าจะไปฟ้องป้าหว่าน!”

เฉียวเยี่ยนผายมือ “เชิญเลย แม่ข้า ป้าหว่านของเจ้า ใกล้จะกลายเป็นแม่เจ้าแล้วเป็นป้าหว่านของข้าแทน ข้าที่เป็นลูกสาวยังไม่สนิทสนมกับนางเท่าเจ้าเลย”

ซูเนี่ยนหว่านชอบเว่ยอวิ๋นซูมาก และรักนางราวกับว่าเป็นลูกสาวของตนเอง ปกตินางอยู่ที่จวนอันซีโหวก็มักจะถูกลงโทษ แต่เมื่อไปที่จวนสกุลเฉียว นางสามารถกินดื่มสนุกสนาน ทำได้ตามอำเภอใจโดยไม่ต้องเกรงกลัวใครได้

เว่ยอวิ๋นซูยังคงอับอายอยู่ ทว่าความจริงนางเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดตนถึงโกรธที่เห็นสตรีเหล่านั้นโยนผ้าเช็ดหน้าให้พี่เฉียวจิ่น เลยโยนผ้าเช็ดหน้าออกจากมือไปโดยไม่คิดอะไรมาก

ตอนนี้เมื่อคิดๆ ดูแล้ว นางแทบอยากตบตัวเองเสียสักสองที

นังโง่เอ๊ย เขาเป็นอะไรกับเจ้ากัน เจ้าถึงโยนผ้าเช็ดหน้าให้เขา หากพี่เฉียวตกใจกับเรื่องนี้ขึ้นมา ต่อไปจะมองหน้ากันอย่างไร!

เฉียวเยี่ยนเห็นท่าทางหงุดหงิดของนางก็ยิ้มอย่างจนใจ แล้วเอ่ยอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น “สักวันหนึ่งพี่ชายข้าก็ต้องหาพี่สะใภ้มาให้ข้า หากเทียบกับคนอื่นๆ ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่สะใภ้ของข้าจะเป็นเจ้า”

หลังจากทิ้งคำพูดนี้ไว้ นางก็จูงมือเว่ยอวิ๋นซูเดินลงไปข้างล่าง เพื่อคลายความอับอายของนาง “ไปกันเถิด ข้ายังต้องไปที่โรงงานรอตอนบ่ายจัดงานเลี้ยงฉลองให้พี่ชายข้า เจ้ามาช่วยข้าด้วยนะ ”

เว่ยอวิ๋นซูรู้สึกอายเล็กน้อยกับคำพูดนางเมื่อครู่ เฉียวเฉียวบอกว่านางหวังให้ตนเป็นพี่สะใภ้ของนาง…

ในขณะที่นึกถึงคำพูดของเฉียวเยี่ยน ในหัวนางก็ผุดภาพดวงหน้าสง่างามดุจหยกของเฉียวจิ่นขึ้นมา จึงหัวเราะแห้งๆ ออกมาสองครั้ง

ไอ้หยา! ไม่ได้การแล้ว พี่เฉียวจิ่นเป็นเหมือนเซียนที่ถูกเนรเทศ จะเป็นคนที่สตรีหยาบกระด้างเช่นเจ้าคิดถึงได้หรือ ไม่กลัวว่าแขนหนาของเจ้าจะทำเอวเขาหักหรือ

เว่ยอวิ๋นซูตำหนิตัวเอง นางกลายเป็นคนนอกเมื่ออยู่ในเมืองหลวง มีเพียงเฉียวเฉียวเท่านั้นที่ไม่ถือสานาง เต็มใจที่จะเล่นกับนาง

คุณหนูคนอื่นๆ ต่างมีความรอบรู้ มีมารยาท ชำนาญศิลปะสี่แขนงต่างๆ ตรงข้ามกับนางที่นอกจากเรื่องความสามารถในการควงดาบใหญ่แล้ว ดูเหมือนจะไม่มีพรสวรรค์อย่างอื่นให้แสดงออกมาได้เลย

ในจิตใต้สำนึกของนาง เฉียวจิ่นควรคู่ควรกับภรรยาที่อ่อนโยนเรียบพร้อม สามีที่อ่อนโยน ภรรยาที่เพรียบพร้อม ชายหญิงงดงามเหมาะสมกัน นั่นถึงจะเป็นกิ่งทองใบหยก

ส่วนคนหยาบกระด้างเฉกเช่นนาง ถือดาบยืนข้างสามีตัวเองจะเหมาะสมหรือ? คนที่ไม่รู้คงคิดว่านางเป็นองครักษ์หญิง!

ในใจของนางบังเกิดความคิดวกวนเป็นพันๆ รอบราวเส้นทางคดเคี้ยวสิบแปดตลบบนภูเขา เมื่อมาถึงโรงงานนางถึงได้สติกลับมา

นี่เป็นครั้งแรกที่นางมาเยือนโรงงานของเฉียวเยี่ยน เมื่อเข้าประตูไปก็ถูกดึงดูดทันที

วันนี้อากาศดีมาก ในลานมีเส้นมันเทศจำนวนมากตากแห้งอยู่บนราวตาก เว่ยอวิ๋นซูเคยกินเส้นมันเทศหลังจากกลับมาเมืองหลวงแล้ว แต่ไม่รู้ว่ามันทำออกมาอย่างไร เมื่อได้มาเห็นในวันนี้ก็คิดว่ามันแปลกมาก

คนงานในห้องผลิตอาหารแปรรูปกำลังผัดน้ำพริกหมูสับอยู่จนกลิ่นหอมฟุ้งลอยอบอวลไปทั่วโรงงาน ทำให้เว่ยอวิ๋นซูมิอาจหยุดกลืนน้ำลายได้ในขณะที่สูดดม เฉียวเยี่ยนเห็นท่าทางหิวโหยเช่นนั้นก็พานางเข้าไปในห้องผลิต

ทันทีที่เข้าไปในห้องผลิต กลิ่นก็ยิ่งแรงขึ้น เมื่อเห็นน้ำพริกหมูสับที่กำลังผัดอยู่ในหม้อใหญ่ นางก็แทบอยากให้มีข้าวสักชามหนึ่งอยู่ในมือ

วันนี้นอกจากมาตรวจสอบสถานการณ์การผลิตในห้องผลิตแล้ว เฉียวเยี่ยนยังตรวจสอบคลังสินค้ากับบัญชีอีกด้วย

ผู้ดูแลงานหลายคนได้เตรียมบัญชีไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว รอแค่ให้นางมาตรวจสอบดู

ในคลังสินค้ายังคงได้รับการเฝ้าโดยเฉพาะ จวบจนตอนนี้ยังไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ เมื่อเข้าประตูไปก็จะเห็นชั้นวางวางเรียงกันเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่ภายใน ซึ่งบนนั้นเต็มไปด้วยสินค้าหลากหลายอย่าง

อย่ามองว่าสินค้ามีปริมาณมาก ทว่าจริงๆ แล้วของพวกนี้สามารถขายหมดได้ภายในเดือนเดียว ตอนนี้โรงงานของพวกเขากำลังร่วมมือกับร้านค้าหลายแห่ง พวกเขามาที่โรงงานเพื่อซื้อสินค้าเป็นประจำ ในบรรดานั้น คู่ค้ารายใหญ่ที่สุดคือร้านสกุลอู๋ของคหบดีอู๋

ร้านสกุลอู๋เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ หลังขนถ่ายสินค้าจำนวนมหาศาลไปจากโรงงานทุกปี กิจการของคหบดีอู๋ก็ฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง และตอนนี้ก็รุ่งเรืองเฟื่องฟูขึ้นแล้ว

วันนี้ก็มีคนมาซื้อสินค้า ซึ่งผู้ดูแลงานกำลังเรียกพวกคนงานมาขนของอยู่

เฉียวเยี่ยนมองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะไปดูสมุดบัญชีในห้องทำงานของนาง เว่ยอวิ๋นซูนั่งถัดจากนาง เอามือเท้าคางและสุ่มหยิบสมุดบัญชีมาเปิดดู จากนั้นก็อดเบิกตาอ้าปากค้างไม่ได้ ทุกรายการบัญชีในนั้นเริ่มต้นด้วยรายได้หนึ่งพันตำลึง แค่รายการบัญชีเพียงสองวันก็มีรายได้เป็นหมื่นกว่าตำลึง

นางกอดเฉียวเยี่ยนไว้ราวกับเสือร้ายตะปบเหยื่อ ก่อนบ่นพึมพำ “เฉียวเฉียว เจ้าถีบหัวส่งมัจจุราชมู่ออกไปแล้วมาอยู่กับข้าเถิด ข้าสัญญาว่าจะปฏิบัติต่อเจ้าเป็นอย่างดี”

เฉียวเยี่ยนเผลอยิ้มออกมา และเอ่ยติดตลก “เจ้าแน่ใจหรือว่าสิ่งที่เจ้าสนใจคือข้า หาใช่เงินของข้า?”

เว่ยอวิ๋นซูหัวเราะเสียงดัง”ตัวเจ้าเป็นของข้าแล้ว เงินจะไม่เป็นของข้าได้อย่างไร?”

แต่เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ นางก็ยืดตัวตรงขึ้นอีกครั้ง และสอนเฉียวเฉียวอย่างจริงจัง “เฉียวเฉียว เจ้าต้องระมัดระวังหน่อย มีความลับอะไรก็อย่าพาข้าไปดูด้วยเสียหมด หากวันหนึ่งข้าเปลี่ยนไปเป็นคนไม่ดี ยึดเอาทุกอย่างของเจ้าไปจะทำอย่างไร? เจ้าเหลือความระแวงต่อคนอื่นเสียหน่อย จะได้มีทางหนีทีไล่เมื่อเกิดเรื่องได้”

เฉียวเยี่ยนยิ้มและไม่พูดอะไร นางสงสัยใครก็จะไม่ใช้คนมาแต่ไหนแต่ไร ทว่าหากจะใช้คนแล้วก็อย่าระแวง เป็นเพราะนางเชื่อใจอีกฝ่ายต่างหาก นางจึงไม่สร้างปราการกับอีกฝ่าย

………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

อาการแบบนี้เขาเรียกว่าหวงค่ะอวิ๋นซู หวงสะกดแบบนี้นะ

เสี่ยวเยี่ยนนี่ก็ดึงดูดทุ่งลิลลี่ตลอดเลยนะ มีเสน่ห์กับทั้งผู้ชายผู้หญิงจริงๆ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *