ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 180 เด็กๆ แยกห้องนอน
ตอนที่ 180 เด็กๆ แยกห้องนอน
ตอนที่ 180 เด็กๆ แยกห้องนอน
เรื่องตลกในพระราชวังไม่ได้แพร่มาถึงหูเฉียวเยี่ยนเลยสักนิด นางยังคงหาเงินอย่างมีความสุขในทุกวัน จากนั้นก็ฟังเสียงคะแนนของระบบที่เข้ามาในบัญชีด้วยความเบิกบานใจ
วันนี้ระบบได้เลื่อนระดับเพิ่มอีกขั้นแล้ว ตอนนี้อยู่ในระดับหก ซึ่งยังห่างจากระดับเต็มสี่ระดับ แม้การเพิ่มระดับจะเชื่องช้ายิ่ง แต่เฉียวเยี่ยนกลับมีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้มาก รอจนพาระบบตัวน้อยออกมาได้เมื่อใด นางต้องตีก้นเจ้าเด็กซนนี้เป็นอันดับแรก
ระบบตัวน้อยที่ไม่รู้ว่ามีคนนึกถึงก้นน้อยๆ ของตัวเองกำลังฉลองการเลื่อนระดับของตัวเองอย่างมีความสุขอยู่ นางซื้อของว่างจากร้านค้ามากองหนึ่ง กินจนเรอออกมา แถมยังตบพุงกลมๆ ของตัวเองจนสั่นกระเพื่อม
เด็กน้อยที่ใช้ชีวิตแบบปลาเค็มทุกวันเริ่มมีเนื้อมีหนังเพิ่มขึ้นมาแล้ว ทว่าไม่ขี้เหร่สักนิด กลับดูอวบขาวอมชมพู ดูน่ารักเป็นอย่างยิ่ง
เรือนกระจกที่ใช้ปลูกสตรอเบอรียังคงอยู่ระหว่างการพักดินเพื่อฆ่าเชื้อโรค เฉียวเยี่ยนจึงไม่วิ่งไปที่หมู่บ้านลวี่หลัวอีก นางวาดแผนภาพ และไปจ้างช่างฝีมือสร้างชั้นเพาะปลูกสตรอเบอรีแบบยกระดับ
ความจริงแล้วเป็นแค่การแขวนรางไม้ยาวไว้บนชั้นวางไม้อย่างเป็นระเบียบ และเจาะรูที่ด้านล่างรางไม้เพื่อให้ระบายน้ำได้สะดวก ถึงครานั้นแค่ปลูกต้นสตรอเบอรี่ลงในรางไม้ก็เป็นอันเสร็จ
งานในโรงเรือนสตรอเบอรีได้สิ้นสุดลงชั่วคราว และช่วงสองสามวันมานี้นางก็ยุ่งกับอีกเรื่องหนึ่งอีกแล้ว
ต้องจัดห้องแยกเดี่ยวให้เด็กทั้งสอง มิควรให้พวกเขานอนกับนางและมู่ฉินเจินต่อไปได้อีกแล้ว
ต้นเดือนสิบปีนี้ลูกทั้งสองจะอายุครบห้าขวบ ต้องกล่อมเกลาทักษะการดูแลตนเองของพวกเขา อีกทั้งต้องสร้างความรู้ด้านความแตกต่างระหว่างชายหญิงด้วย
ตอนนี้มู่ฉินเจินได้ย้ายไปพักอยู่กับนางที่ห้องปีกตะวันตกแล้ว ห้องทางปีกตะวันออกจึงว่าง เฉียวเยี่ยนเลือกห้องที่อยู่ติดกันสองห้อง และตกแต่งห้องนอนให้พวกเด็กๆ
ตอนนี้พวกเด็กๆ ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จึงไม่ได้เตรียมลานบ้านเดี่ยวไว้ให้พวกเขา รอให้โตกว่านี้อีกหน่อยถึงให้พวกเขาย้ายออกไป
เสี่ยวฉวนเอ๋อร์มีนิสัยค่อนข้างสงบ ไม่ชอบสรวลเสเฮฮา ชอบเพียงสีที่ดูเงียบสงบและเย็นสบายเท่านั้น เฉียวเยี่ยนจึงใช้สีฟ้าเป็นสีหลักในการเตรียมห้องให้เขา ผ้าม่านก็เปลี่ยนเป็นผ้าสีฟ้าอ่อนแซมไปด้วยลวดลาย บนผนังก็แขวนภาพวาดตกแต่งที่ดูเรียบง่ายเอาไว้เล็กน้อย
หากห้องมีใหญ่เกินไป เด็กๆ จะเกิดความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัยได้ง่าย นางจึงใช้ฉากกั้นแบ่งห้องออกเป็นสองส่วน ห้องด้านนอกเป็นห้องหนังสือน้อย ในนั้นวางโต๊ะที่เหมาะกับความสูงของเด็กน้อยไว้ บนโต๊ะมีพู่กัน น้ำหมึก กระดาษ และหินฝนหมึกวางไว้อยู่
ตรงตำแหน่งติดผนังในห้องหนังสือคือชั้นวางหนังสือ ข้างชั้นวางหนังสือมีบันไดไม้เล็กๆ อยู่ หากหยิบหนังสือชั้นบนสุดไม่ได้ก็สามารถเหยียบบันไดไม้ขึ้นไปหยิบได้
ส่วนเจ้าปลาอ้วนชอบสีชมพู ทั้งของเล่นทั้งเสื้อผ้าทุกอย่างจึงล้วนเป็นสีชมพู เมื่อเทียบกับเสี่ยวฉวนเอ๋อร์แล้ว ห้องของนางตกแต่งได้ง่ายกว่า แค่ตกแต่งตามห้องเจ้าหญิงก็ได้แล้ว
ภายในห้องใช้ฉากกั้นแบ่งเป็นสองส่วนเช่นกัน ตรงห้องหนังสือด้านนอกนางได้เตรียมหนังสือเกี่ยวกับการทหารกับหนังสือภาพให้เด็กน้อยไว้ไม่น้อยเลย
เจ้าเด็กหลังห้องชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับทหารเท่านั้น ส่วนหนังสืออย่างอื่นแค่อ่านก็ง่วงแล้ว ตอนนี้ เฉียวเยี่ยนสามารถเดาได้ว่า ลูกสาวนุ่มนิ่มน่ารักของนางกำลังพัฒนาไปในทิศทางของสตรีแข็งแกร่งเป็นแน่แล้ว
ของในห้องนอนด้านในเป็นสีชมพูทั้งหมด บนเตียงสีชมพูเต็มไปด้วยของเล่นตุ๊กตา ผ้าม่านกับผ้าปูเตียงสีชมพู และบนพื้นยังปูด้วยพื้นพรมสีขาว
ตรงข้ามเตียงเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ในลิ้นชักยังเตรียมกิ๊บติดผมน่ารักๆ มากมายให้เด็กน้อยด้วย
แม้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์จะยังเล็ก แต่นางรักความสวยความงามมาก ทุกวันหลังจากหวีผมแล้วนางต้องสวมดอกไม้ผ้าประดับศีรษะก่อนถึงจะออกจากบ้านได้
วันที่ยี่สิบหกเดือนเจ็ด
นางจัดตกแต่งห้องเด็กๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากลูกทั้งสองกลับจากสำนักศึกษาและรับประทานอาหารเย็นแล้ว นางก็จูงมือน้อยของพวกเขาไปดูห้อง
ห้องแรกที่ไปคือห้องนอนของเสี่ยวฉวนเอ๋อร์ เมื่อผลักประตูเปิดออก สายตาของเด็กน้อยก็ถูกดึงดูดโดยชั้นหนังสือที่เต็มไปด้วยหนังสือ
ห้องหนังสือเล็กที่จัดการได้สะอาดมากเป็นพิเศษ บนโต๊ะยังมีปากกา หมึก กระดาษ และหินฝนหมึกที่เขาชอบวางอยู่ด้วย เขาแทบอยากไปนั่งลงและเริ่มแหวกว่ายในมหาสมุทรแห่งความรู้ทันทีอย่างทนไม่ไหว
หลังจากเข้าไปในห้องด้านใน แสงในตาเขาก็ยิ่งเปล่งประกายมากขึ้น ทุกสิ่งในห้องล้วนเป็นของที่เขาชอบทั้งหมดเลย
เฉียวเยี่ยนสำรวจดูท่าทางของเด็กน้อยอย่างละเอียด เมื่อเห็นว่าเขาชอบก็เอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน “ลูกรัก แม่คิดว่าพวกลูกโตกันแล้ว สามารถมีพื้นที่เล็กๆ เป็นของตัวเองได้ ดังนั้นแม่จึงเตรียมห้องเล็กๆ ไว้ให้เจ้ากับน้องสาว ต่อไปพวกลูกนอนห้องใครห้องมันดีหรือไม่?”
เสี่ยวฉวนเอ๋อร์พยักหน้าระรัว เด็กชายที่เพิ่งอายุสี่ขวบอยากพิสูจน์ตัวเองว่าโตแล้วมาตลอด และการนอนแยกจากมารดาก็เป็นสัญญาณของการเติบโตอย่างหนึ่ง เขาแทบรอไม่ไหวแล้ว
เมื่อเฉียวเยี่ยนเห็นเขาตกลงอย่างมีความสุขเช่นนี้ นางก็รู้สึกปลื้มใจ ผลลัพธ์เช่นนี้อยู่ในการคาดเดาของนางเช่นกัน แต่ไม่รู้ว่าเจ้าปลาอ้วนที่ติดคนจะเล่นลูกไม้อะไรหรือไม่
แต่นางคิดมากเกินไป หลังจากเด็กน้อยเห็นห้องของพี่ชาย นางก็แทบอยากไปดูห้องตัวเองอย่างทนไม่ไหว จนกระทั่งเฉียวเยี่ยนพานางเข้าไปในห้องสีชมพู คนตัวเล็กก็มีความสุขอย่างมาก
สวยมากจริงๆ เป็นสีชมพูที่นางชอบที่สุดด้วย!
นางกระโดดขึ้นลงไปมาอยู่กับที่ จากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนเตียง กอดตุ๊กตากระต่ายหูยาวที่ตัวใหญ่กว่านาง และถูไถใบหน้าไปมาบนนั้น
ตุ๊กตาขนฟูนุ่มนิ่มกอดได้สบายมาก เตียงใหญ่ก็กว้างมาก เจ้าปลาอ้วนกลิ้งไปมาอยู่บนนั้นไปหลายรอบก่อนจะลุกจากเตียงอย่างพึงพอใจ
ไม่รอให้เฉียวเยี่ยนได้พูดอะไร นางก็จับมือมารดาเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อย ลูบเบาๆ และเอ่ยปลอบโยน “ท่านแม่ ข้าเป็นเด็กอายุสี่ขวบแล้ว สามารถนอนคนเดียวได้ หากท่านแม่กลัวที่จะนอนกับท่านพ่อ ก็มาหาลูกได้ ลูกจะปกป้องท่านแม่เอง!”
พูดจบ เด็กน้อยยังอวดเบ่งกล้ามของนาง ซึ่งแน่นอนว่า ตอนนี้มันเป็นเพียงก้อนเนื้อนุ่มๆ เท่านั้น แต่ท่าทางดุดันแบบเด็กน้อยเหมือนจะบอกว่า ‘ลูกน่ะเก่งมากเลยนะ!’
เฉียวเยี่ยนรู้สึกขบขันกับเด็กน้อย แต่ก็รู้สึกอบอุ่นใจด้วย จึงดึงเด็กทั้งสองเข้ามากอด และเอ่ยอย่างอ่อนโยนที่สุด “พวกลูกเป็นเด็กที่ดีที่สุด และแม่ก็ภูมิใจในตัวพวกเจ้า”
เด็กคนอื่นอาจจะมีงอแงบ้างที่ต้องแยกห้องนอนกับพ่อแม่ แต่เด็กทั้งสองของนางไม่มีปัญหาเลย
ด้วยกังวลว่าเด็กๆ จะกลัว เฉียวเยี่ยนจึงให้ฮุ่ยเซียงดูแลเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ และให้เฟิงหยางดูแลเสี่ยวฉวนเอ๋อร์
เด็กน้อยสองคนที่มีห้องเป็นของตัวเองแล้วก็กระโจนเข้าไปในห้อง เจ้าปลาอ้วนกอดตุ๊กตากลิ้งไปมาอยู่บนเตียงตัวเอง ในขณะที่เสี่ยวฉวนเอ๋อร์นำบันไดน้อยมาวางตรงชั้นหนังสือ แล้วปีนขึ้นไปหาหนังสือ
ในคืนแรกกับการนอนแยกห้องกับเด็กๆ เฉียวเยี่ยนรู้สึกไม่คุ้นชินเล็กน้อย และลุกจากเตียงหลายครั้ง แอบไปดูห้องนอนพวกเขา เมื่อแน่ใจว่าพวกเขาหลับสนิทแล้ว ก็ย่องกลับไปซุกอยู่ในผ้าห่มของตัวเอง
ในตอนที่นางจะลุกไปดูเด็กๆ เป็นครั้งที่ห้า ก็ถูกมู่ฉินเจินกอดเอาไว้ เสียงของเขาทุ้มและแหบพร่า “ในเมื่อนอนไม่หลับ เรามาหาอะไรทำกันดีกว่า”
เฉียวเยี่ยนรู้สึกสับสนกับคำพูดของเขา ในหัวก็คิดว่าเขาจะทำอะไร แต่ไม่รอให้นางได้คิดออก ก็รู้สึกว่าบนตัวมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น จากนั้นจึงพบว่าตนเองถูกมู่ฉินเจินกดลงกับเตียง
มู่ฉินเจินจูบนาง ลมหายใจถี่แรง เจือด้วยความเร่าร้อนที่แตกต่างจากเมื่อก่อน อาจเป็นเพราะเด็กทั้งสองไม่อยู่ การเคลื่อนไหวของเขาจึงดูป่าเถื่อนขึ้นเล็กน้อย สองมือรวบประสานกับมือน้อยของเฉียวเยี่ยน และกดมือของนางไว้ข้างกายสองด้าน
และการจูบของเขาก็รุนแรงอย่างหาที่เปรียบมิได้ เขาแยกปากนางออก สูบปล้นชิงจูบอย่างบ้าคลั่งราวกับปีศาจดูดวิญญาณผู้คนที่พยายามสูบคนใต้ร่างให้เหือดแห้ง
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เข้าทางท่านอ๋องเลยดิ ลูกๆ ไม่อยู่เนี่ย ว่าแต่เจ้าท่อนไม้จะยอมให้กินไหมน้า
ไหหม่า(海馬)
Comments