ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 193 ไร้เหตุผล

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 193 ไร้เหตุผล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 193 ไร้เหตุผล

ตอนที่ 193 ไร้เหตุผล

เฉียวเยี่ยนพูดไม่ออก และแตะหัวเขาเบาๆ “เด็กดี ไปทำงานของท่านเถิด อย่ามากวนข้า”

เจ้าสุนัขแซ่มู่ไม่ทำอะไรแล้ว และยังคงเกาะติดกับนางเช่นเดิม ก่อนบ่นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้ารำคาญที่ข้ามากวนหรือ?”

มันไม่ใช่คำถาม แต่เป็นการยืนยัน ท่าทางนั้นดูเจ้าเล่ห์ไม่น้อย

เฉียวเยี่ยนสำลักจนพูดไม่ออก วางสมุดบัญชีในมือลง หันมามองเขา และเอ่ยอย่างยอมแพ้ “เจ้าบอกข้าสิ ต้องทำอย่างไรถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม?”

พี่ชาย ท่านไม่รู้หรือว่าตอนนี้ท่านดูจะเกินๆ ไปหน่อยนะ? แล้วท่าทางเย็นชาพวกนั้นล่ะ?

แผนชั่วของมู่ฉินเจินประสบความสำเร็จ เขาหยักยิ้มมุมปากเล็กน้อย”ข้าอยากให้เจ้าอยู่กับข้า”

เฉียวเยี่ยนมีคำถามอยู่เต็มหัว “ตอนนี้ข้าไม่ได้อยู่กับท่านหรอกหรือ?”

มู่ฉินเจินเหลือบมองนาง “เห็นๆ อยู่ว่าเจ้าอยู่กับสมุดบัญชี”

เฉียวเยี่ยน “…”

เอาล่ะ นางไม่รู้จะตอบกลับอย่างไรดีเลย

“แล้วข้าต้องทำอย่างไรถึงจะนับว่าอยู่กับเจ้า?”

นางใช้น้ำเสียงเพื่อนตัวน้อยง้อเพื่อนตัวโตที่เริ่มงอแงในเวลานี้ ช่วยไม่ได้ หากไม่ง้อเขาดีๆ เขาก็จะไม่กลับเป็นปกติเหมือนเดิม

ท่านอ๋องบางคนตอบรับอย่างหน้าด้าน “เจ้าไม่ได้อยู่ข้างกายข้ามาห้าวันเต็ม รวมทั้งหมดหกสิบชั่วยาม ข้าคิดถึงเจ้าทั้งหกสิบชั่วยามเต็ม ดังนั้นเจ้าต้องวางเรื่องทุกอย่างในมือลง และอยู่กับข้าตลอดหกสิบชั่วยามอย่างจริงใจ”

เฉียวเยี่ยนสูดหายใจเข้าลึก อยากจะโต้แย้งกลับ ทว่ากลับหาคำพูดไม่ได้ไปชั่วขณะ จึงได้แต่พึมพำอย่างน้อยใจ “ไฉนท่านจึงไร้เหตุผลเพียงนี้”

ทันทีที่นางพูดออกไป ก็รู้สึกแค่ว่าคนที่พิงนางเปลี่ยนอิริยาบถ จากนั้นนางก็ถูกผลักล้มลงไปนอนราบบนพื้น และมีชายคนหนึ่งตามมาคร่อมร่างนางไว้

เขาจูบปิดปากนาง กดเบาๆ และเอ่ยอย่างคลุมเครือ “ข้าไม่มีเหตุผลอย่างที่เจ้าว่านั่นแหละ และเจ้าต้องอยู่กับข้าเช่นนี้เป็นเวลาหกสิบชั่วยามเต็ม”

สมองเฉียวเยี่ยนขาวโพลน ขบคิดคำพูดของเขา

หกสิบชั่วยาม!

ถูกจูบหกสิบชั่วยาม นางไม่ถูกจูบจนตายเลยหรือ!

กระนั้นไม่นานความคิดนางก็พันกันยุ่งเหยิง มู่ฉินเจินครอบครองริมฝีปากนางอย่างบ้าคลั่ง จูบจนดวงตาทั้งสองของนางพร่ามัวและลืมทุกอย่างไปเสียสิ้น รู้แค่ว่าต้องจูบเขากลับ จูบตอบเขากลับอย่างดุเดือด

ห้องหนังสืออันเงียบสงบเหลือเพียงเสียงสองคนประสานริมฝีปากกันอย่างอบอุ่น รวมถึงเสียงหอบหายใจถี่รัว

เวลาผ่านไปเชื่องช้าเนิ่นนาน มือของมู่ฉินเจินก็เริ่มอยู่ไม่สุข เขาสัมผัสร่างกายนางไปทั่วทุกที่

เฉียวเยี่ยนรู้สึกอาย กระนั้นก็ไม่ผลักออก ปล่อยให้เขากระทำการอุกอาจ แต่มู่ฉินเจินก็ไม่ได้ทำเกินไป เรื่องราวจึงยังไม่เลยเถิดไปจนถึงขั้นสุดท้าย

การจูบอันยาวนานได้จบลง เสื้อผ้าของเฉียวเยี่ยนยับยู่ยุ่งเหยิง ดวงตาทั้งสองว่างเปล่าเลื่อนลอย จ้องมองเพดานอยู่นานมิอาจได้สติกลับมาได้

ทว่าชายข้างกายที่เพิ่งหยุดการกระทำกลับกอดนางเอาไว้อีกครั้ง และกระซิบข้างหูนาง “เจ้าท่อนไม้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว…”

ทันใดนั้น ในหัวของเฉียวเยี่ยนก็ระเบิดบึ้ม ก่อนเอ่ยอย่างมึนงง “หะ…หา?”

แต่สิ่งที่ตอบกลับนางมาเป็บจูบอันลึกซึ้งขึ้นของชายคนหนึ่ง เขาบีบมือนางไว้ และนำพานางสัมผัสร่างของตัวเอง ไล่ลงไปสู่เบื้องล่าง…

เมื่อถึงตอนกินข้าว เด็กทั้งสองก็ค้นพบเรื่องแปลกๆ เรื่องหนึ่ง มารดาของพวกเขาไม่มองหน้าบิดาเลย แม้แต่คำพูดยังพูดกับบิดาน้อยมาก เอาแต่ก้มหน้าก้มตากินข้าว และบิดาพวกเขาก็เอาแต่มองมารดาอย่างยิ้มๆ

เฮ้อ! โลกของผู้ใหญ่ช่างเข้าใจยากเสียจริง!

……

พริบตาเดียวก็เข้าสู่เดือนสิบแล้ว โรงงานเฉียวจี้มาถึงช่วงที่ยุ่งที่สุดในหนึ่งปี เพราะมีคาราวานพ่อค้ามากมายมารับสินค้าในช่วงนี้

อีกสองเดือนก็จะปีใหม่แล้ว พวกคาราวานพ่อค้าที่มารับสินค้าช่วงนี้ ก็จะสามารถขนส่งสินค้าไปยังร้านค้าต่างๆ ได้ก่อนปีใหม่

ลูกท้อที่ขนมาจากหมู่บ้านจิ่วหลีพัวได้เริ่มผลิตเป็นลูกท้อเชื่อมแล้ว

นำลูกท้อไปล้างให้สะอาดก่อน จากนั้นปอกเปลือกคว้านเอาเมล็ดออก และแบ่งเนื้อออกเป็นสองส่วน พยายามหั่นให้เป็นชิ้นใหญ่ หลังจากจัดการเนื้อเสร็จแล้วก็นำไปลวก ก็คือนำไปผ่านน้ำร้อนสักสองสามวินาทีเพื่อรักษาสีผลเอาไว้

นำเนื้อลูกท้อที่ลวกเสร็จแล้วไปใส่ในขวดโหล แล้วนำน้ำตาลที่เคี่ยวเสร็จแล้วเติมลงไปในนั้น ขั้นตอนนี้เรียกว่าการเชื่อม หลังจากเชื่อมแล้วก็จะปิดผนึกแล้วนำไปนึ่งฆ่าเชื้อ

ลูกท้อที่เพิ่งเชื่อมเสร็จจะยังไม่เข้ารสชาติดี รอจนเข้ารสชาติก็ถึงวันหิมะตกแล้ว ถึงตอนนั้นก็เอาไปหมกไว้ในหิมะครู่หนึ่ง ลูกท้อเชื่อมก็จะทั้งแข็งทั้งเย็น และยังหวานฉ่ำ

การทำลูกท้อเชื่อมเพิ่งเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการแปรรูป และด้วยกังวลว่าพวกคนงานจะทำผิดพลาด สองสามวันนี้เฉียวเยี่ยนจึงไปดูพวกเขาทำงาน บางครั้งก็เข้าไปช่วยทำด้วย

สองสามวันมานี้เว่ยอวิ๋นซูรบเร้ามารดานางว่าอยากไปเที่ยวข้างนอก มารดานางรู้ว่านางจะไปตามเฉียวเยี่ยน จึงไม่ห้ามอะไร

ในความเป็นจริงอันซีโหวฮูหยินเลิกบ่มสอนนางให้เป็นกุลสตรีที่มาจากตระกูลใหญ่มีฐานะแล้ว เด็กคนนี้เหมือนบิดาตัวเองมาตั้งแต่เกิด ไม่เรียบร้อยอ่อนหวานเลยสักนิด

นางคิดว่า หากเป็นกุลสตรีที่มาจากตระกูลใหญ่มีฐานะไม่ได้ เช่นนั้นเป็นคนพิเศษโดดเด่นเช่นซู่หวางเฟยก็ไม่เลวเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้จึงไม่คุมนางอีก และปล่อยให้นางไปเรียนกับเฉียวเยี่ยนดีๆ

เว่ยอวิ๋นซูตอบตกลงอย่างเปรมปรีดิ์ ในใจหวังว่าช่วงเวลานี้จะสามารถเกาะติดเฉียวเยี่ยนได้ทุกวัน หากไม่ใช่ว่ามีมัจจุราชมู่อยู่ในตำหนักอ๋องซู่ นางก็คงจะสิงอยู่ในเรือนของหวางเฟยแล้ว

วันนี้ เฉียวเยี่ยนยังคงไปโรงงานเช่นเคย เว่ยอวิ๋นซูนัดกับนางเรียบร้อยแล้ว จึงตรงไปหานางที่โรงงาน

วันนี้ทั้งสองวุ่นอยู่ในโรงงานมาครึ่งค่อนวัน โดยติดฉลากบนขวดลูกท้อเชื่อม

ตอนนี้คนทั้งโรงงานวุ่นกันไปหมด ทุกคนทำงานกันอย่างว่องไว แต่ละแผนกแต่ละงาน ทำจนเหงื่อไหลท้วม

ยังเหลืออีกสิบกว่าวันกองคาราวานชุดแรกจะมารับสินค้าอีกครั้ง พวกเขาจำต้องเร่งความเร็วให้เร็วยิ่งขึ้น

เมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังวุ่น เฉียวเยี่ยนก็ไปช่วยติดฉลาก ซึ่งฉลากนั้นน่ารักมาก เป็นลูกท้อฉบับการ์ตูน บนนั้นยังมีตราประทับเฉียวจี้ด้วย

นำกาวไปทาบนฉลากแล้วติดลงบนขวดก็เป็นอันเสร็จสิ้น งานนี้ฟังดูเหมือนง่าย แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะทำซ้ำเป็นพันๆ ครั้ง หลังทำเสร็จก็ปวดเมื่อยเนื้อตัวเล็กน้อย

เฉียวเยี่ยนติดมาทั้งวัน รู้สึกเมื่อยคอไปหมด แต่เว่ยอวิ๋นซูกลับทำอย่างสบายๆ ทำงานที่ไม่ต้องใช้สมองนี่น่าสนใจกว่าเย็บปักถักร้อยมาก

ปริมาณของลูกท้อในสวนป่าท้อหมู่บ้านจิ่วหลีพัวแค่คิดก็รู้แล้วว่านอกจากทำเป็นลูกท้อเชื่อมเสียส่วนใหญ่ ที่เหลือก็นำไปขายแบบสดๆ

สำหรับลูกท้อที่เพิ่งเก็บเกี่ยวในตอนนั้น เฉียวเยี่ยนได้ส่งไปให้พวกเจ้าขุนมูลนายต่างๆ จวนละสองตะกร้า ลูกท้อใหญ่หวานอร่อย เพียงชั่วครู่เดียวก็ครองใจใครได้หลายคน

จวนบางหลังมีคนมาก ทุกครั้งที่ซื้อลูกท้อก็จะซื้อตามเต็มตะกร้า และบางครอบครัวก็ซื้อเพื่อตอบแทนบุญคุณ ซู่หวางเฟยอุตส่าห์ส่งลูกท้อมาให้พวกเขา หากพวกเขาไม่ซื้อไปสองตะกร้าเพื่อแสดงความจริงใจ มันก็ดูจะไม่เหมาะสมนัก

อีกทั้ง ลูกท้อนี้มันก็อร่อยมากจริงๆ

แน่นอนว่าในบรรดาทุกจวน นางก็ไม่ส่งไปให้จวนอัครเสนาบดีเช่นเคย เผยความไม่ลงรอยกันของทั้งสองจวนออกสู่ภายนอก

ท่ามกลางพวกขุนนางชมเชยเฉียวเยี่ยนและชมเชยว่าลูกท้ออร่อย อัครเสนาบดียืนอยู่ด้านข้างอย่างโดดเดี่ยวเข้าไปพูดแทรกไม่ได้ จำทำได้แต่กลับบ้านไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

หลังจากส่งพวกกองคาราวานทั้งหมดที่มารับสินค้าในโรงงานไป ก็เป็นวันที่ยี่สิบสองเดือนสิบแล้ว และวันที่ยี่สิบสี่เดือนสิบเป็นวันเกิดครบห้าขวบของเด็กทั้งสอง เฉียวเยี่ยนยังคงทำเค้กให้พวกเขาด้วยตัวเองเฉกเช่นปีที่แล้ว ซึ่งนางอบเค้กกับขนมบางส่วนไว้ล่วงหน้าบ้างแล้ว เมื่อถึงพรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องยุ่งมาก

ปีนี้มู่ฉินเจินมิอาจทำเค้กร่วมกับเฉียวเยี่ยนได้เพราะถูกงานราชการรัดตัว เฉียวเยี่ยนจึงเรียกเว่ยอวิ๋นซูมาช่วย

เว่ยอวิ๋นซูเห็นวิธีการทำเค้กแปลกใหม่เช่นนี้เป็นครั้งแรกก็ถึงกับเบิกตากว้างในทุกขั้นตอน เผยสีหน้าประหลาดใจออกมา

โดยเฉพาะวินาทีที่เห็นเค้กออกมาจากเตาอบขนมปัง นางก็ประหลาดใจจนพูดไม่ออก กุมปากตื่นเต้นอย่างบ้าคลั่ง อยากจะสร้างเตาอบขนมปังในบ้านเสียเดี๋ยวนั้น

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ว้ายยย ท่านอ๋องโบ้ช่างร้ายกาจจจ ยัดเยียดไส้กรอกให้เสี่ยวเยี่ยนเหรอ เขาถึงกินข้าวไม่ลงขนาดนั้นอะ

แต่ก็เหมือนกรรมตามสนองอะ โดนงานรัดตัว อดทำเค้กวันเกิดลูกร่วมกับเสี่ยวเยี่ยนเลย ๕๕๕

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *