ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 206 การทำน้ำแข็งด้วยดินประสิว
ตอนที่ 206 การทำน้ำแข็งด้วยดินประสิว
ตอนที่ 206 การทำน้ำแข็งด้วยดินประสิว
เมื่อเฉียวเยี่ยนเห็นดินประสิวสองกระสอบ นางก็ตื่นเต้นจนเกือบหอมมู่ฉินเจินไปสองฟอดต่อหน้าคนนอก
ในเมื่อมีดินประสิวแล้ว ต่อไปก็เป็นขั้นตอนการทำน้ำแข็ง
ใส่น้ำลงไปในถังไม้ให้เต็ม จากนั้นเทผงดินประสิวลงไปข้างใน เมื่อดินประสิวเจอกับน้ำ อุณหภูมิจะลดฮวบลง นอกถังไม้มีหยดน้ำเกาะขึ้นมา จากนั้นก็จะเห็นน้ำในถังไม้ค่อยๆ แข็งตัวเป็นน้ำแข็ง
ในห้องครัวมีแค่สามีภรรยาสองคน ครั้นมู่ฉินเจินเห็นภาพตรงหน้า ก็ตกใจจนเบิกตาโต จวบจนน้ำกลายเป็นน้ำแข็งแล้ว เขาก็ยังใช้นิ้วแหย่อย่างไม่อยากจะเชื่อ
เฉียวเยี่ยนยากจะเห็นเขาเผยท่าทางอัศจรรย์ใจออกมา จึงเอ่ยอธิบายด้วยรอยยิ้ม “เมื่อดินประสิวเจอน้ำ มันจะดูดความร้อนในน้ำออกไป ดังนั้นน้ำจึงค่อยๆ เย็นลง สุดท้ายก็จะแข็งจนกลายเป็นน้ำแข็ง”
แม้มู่ฉินเจินจะเข้าใจที่นางอธิบาย แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันน่าทึ่งอยู่ดี
แต่น้ำแข็งที่ทำออกมาจากดินประสิวกินไม่ได้ ซึ่งน้ำแข็งถังนี้เฉียวเยี่ยนก็ไม่คิดจะเอามากินน นางหิ้วเอาไปไว้ในอุโมงค์ใต้ดิน เพื่อทำให้อุณหภูมิลดลง
อุโมงค์ที่ขุดไว้ในตำหนัก ปกติจะเอาไว้ใช้เก็บผัก อุณหภูมิด้านในต่ำกว่าบนพื้นดินมาก เมื่อเอาน้ำแข็งไปเก็บไว้ในนั้น ความเร็วในการละลายก็จะช้าลงอย่างมาก
เช้านี้เฉียวเยี่ยนสั่งข้ารับใช้ไปทำความสะอาดในอุโมงค์ เพื่อนำขนมหวานไปเก็บรักษาความสดใหม่ไว้ในช่วงสั้นๆ สามวันนี้
นำถังที่ใช้ได้ในตำหนักมาใส่น้ำสะอาด จากนั้นก็ใส่ผงดินประสิวลงไปข้างใน รอจนมันแข็งเป็นน้ำแข็งแล้วก็เอาไปไว้ในอุโมงค์ และไม่นานอุณหภูมิในอุโมงค์ก็ลดลง
นอกจากทำน้ำแข็งที่ใช้ลดอุณหภูมิแล้ว เฉียวเยี่ยนยังทำน้ำแข็งที่สามารถกินได้ไม่น้อย น้ำแข็งที่กินได้มิอาจใส่ดินประสิวเข้าไปโดยตรงได้ จำต้องลดอุณหภูมิทางอ้อม
นำถังน้อยไปใส่ไว้ในถังใหญ่ ใส่น้ำให้เต็มถังน้อย ในถังใหญ่เองก็เติมน้ำด้วยเช่นกัน นำดินประสิวใส่เข้าไปในถังใหญ่ เช่นนี้ อุณหภูมิน้ำในถังใหญ่จะลดลง และแข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็ง ด้วยเหตุนี้ก็จะทำให้น้ำในถังน้อยแข็งตัวเป็นน้ำแข็งด้วยเช่นกัน
หลังทำน้ำแข็งเสร็จ เฉียวเยี่ยนก็เริ่มจดจ่ออยู่กับการทำของหวาน แม้แต่อาหารสามมื้อในหนึ่งวันก็มอบให้เป็นหน้าที่ห้องครัวใหญ่
อันดับแรกนางจะทำคุกกี้ชูครีม ซึ่งการทำของหวานต้องให้ความสำคัญกับอัตราส่วน ดังนั้นนางจึงตั้งใจไปซื้อคันชั่งเล็กที่ไว้ชั่งสมุนไพรในร้านขายยามา
มู่ฉินเจินมองนางขานชื่ออันนั้นทีอันนู้นที ก็รู้สึกว่านางเหมือนหมอที่ถือใบสั่งยาอย่างไรอย่างนั้น
ขั้นตอนแรกในการทำคุกกี้ชูครีมหรือชูว์ โอ คราแคลงคือการทำคราแคลง*ชั้นบนสุด คนเนยและน้ำตาลให้เข้ากัน หลังจากคนเข้ากันดีแล้ว ให้ร่อนแป้งสาลีลงไปแล้วคนต่อ รอคนเข้ากันเสร็จก็นำก้อนแป้งไปใส่ไว้ระหว่างกระดาษไขสองชั้น จากนั้นนวดให้แบนด้วยไม้นวดแป้ง
(*Craquelin ศัพท์เบเกอรี่ในภาษาฝรั่งเศส แปลว่าแป้งหวานกรอบร่วนชั้นบนของตัวขนม)
หลังจากนวดจนแบนแล้วก็นำไปไว้บนน้ำแข็งให้เย็นครู่หนึ่ง ให้มันเซ็ตตัว หลังจากเซ็ตตัวแล้วก็นำแม่พิมพ์วงกลมมากดแล้วพักเก็บไว้
หลังจากทำคราแคลงด้านบนเสร็จ ก็ทำตัวแป้งชูครีม
นำเนยกับนมวัวผสมเข้าด้วยกันและตั้งไฟ จากนั้นร่อนแป้งใส่ สุดท้ายเพิ่มความร้อนจนมันเดือด แล้วคนด้วยไฟอ่อน จนกระทั่งแป้งทั้งหมดถูกความร้อนจนสุก
เทแป้งที่สุกแล้วออกมาพักให้เย็น จากนั้นก็เทไข่ไก่ที่ตีเข้ากันแล้วลงไปคลุกเคล้าทีละน้อย
จากนั้นนำแป้งที่ทำเสร็จแล้วใส่ลงในถุงบีบ แล้วบีบลงบนถาดอบ แล้วใส่คราแคลงไว้ด้านบนก็นำเข้าเตาอบได้
การใช้เตาเผาขนมปังอบของหวานนับเป็นงานฝีมืออย่างหนึ่ง ด้วยมิอาจควบคุมอุณหภูมิให้เป็นตามต้องการได้ หลังจากเฉียวเยี่ยนลองมาหลายครั้งก็หาทางออกได้ โชคดีที่ตอนนี้เชี่ยวชาญชำนาญแล้ว ยามทำออกมาจึงง่ายดายนัก
ตัวชูครีมที่อบเสร็จแล้วมีสีเหลืองกรอบ นอกจากสองสามอันที่มีคราแคลงด้านบนไหม้เล็กน้อย ที่เหลือล้วนสวยงามมาก
เจาะรูข้างใต้ตัวชูครีม แล้วใช้ถุงบีบฉีดครีมที่ตีเสร็จแล้วเข้าไปด้านในก็เป็นอันเสร็จ
ขนมทุกอย่างต้องเอาเข้าเตาอบหลายครั้ง จนเฉียวเยี่ยนสงสารท่านอ๋องที่ต้องตีไข่ขาวกับครีมไม่หยุด
แม้วรยุทธ์จะล้ำเลิศ สมรรถนะร่างกายยอดเยี่ยม แต่การทำอะไรอย่างหนึ่งซ้ำๆ เป็นเวลานานๆ ร่างกายก็เหนื่อยล้าได้
ทว่ามู่ฉินเจินกลับมีความสุขท่ามกลางความเหน็ดเหนื่อย เขาชอบความรู้สึกที่ได้อยู่เคียงข้างนาง และทำในสิ่งที่เขาทำได้เช่นนี้
ต่างคนต่างวุ่นอยู่กับงาน มีเรื่องให้ทำก็ไม่รู้สึกว่าน่าเบื่อ การแอบอู้คุยเรื่องน่าสนใจบางอย่างในตอนที่ยุ่ง หรือแบ่งปันอาหารแสนอร่อยที่แลกมากับความพยายามอย่างหนักแก่กันและกัน ชีวิตเช่นนี้ทำให้เขาพอใจ และไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
ไม่กี่วันมานี้ ในตำหนักอ๋องซู่มีแต่กลิ่นหอมหวานของนมเนยอบอวลไปทั่ว พวกข้ารับใช้ได้กลิ่นหอมนี้ก็รู้สึกแค่ว่าทั้งตัวกำลังจะลอย
เด็กทั้งสองได้กลิ่นหอมก็หิวโหยจนน้ำลายไหล เฉียวเยี่ยนจึงห่อขนมหวานให้พวกเขาพกไปกินด้วยกันกับเพื่อนร่วมชั้นที่สำนักศึกษาจำนวนมาก
ส่วนเฉียวเยี่ยนกับมู่ฉินเจินที่ทำอยู่นานล้วนไม่รู้สึกอะไรกับขนมหวานแล้ว ประหนึ่งเครื่องจักรผลิตขนมอันเฉยชาสองเครื่อง
หลังจากใช้เวลาไปสองวัน พวกเขาก็ทำขนมหวานออกมาจำนวนมาก ทั้งชูครีม คุกกี้ ทาร์ตไข่ ขนมเค้ก ขนมปังต่างๆ
วันสุดท้ายนี้เฉียวเยี่ยนตั้งใจจะทำเค้กวันเกิดให้ฮ่องเต้เฒ่า เค้กวันเกิดเขาจะต้องใหญ่เป็นพิเศษ สักสี่ชั้นห้าชั้นก็ไม่ถือว่ามาก
ด้วยเหตุนี้ เฉียวเยี่ยนจึงให้ช่างไม้ทำชั้นวางเค้กห้าชั้นในเวลาชั่วข้ามคืน
ตัวเค้กได้อบเสร็จล่วงหน้าก่อนแล้ว เหลือแค่ทาครีมกับใส่ไส้แยมผลไม้ก็เป็นอันเสร็จ
ทว่าหลังจากทาครีมเสร็จแล้ว การบีบครีมแต่งหน้าเค้กก็กลายเป็นปัญหาขึ้น
เฉียวเยี่ยนเป็นคนที่ชอบอาหารอร่อย แม้จะทำของหวานเป็น แต่นางบีบครีมแต่งหน้าเค้กไม่เป็นจริงๆ หลังจากลองมาสองสามครั้ง ครีมที่อ่อนนุ่มล้วนดูไม่เป็นรูปร่างเมื่ออยู่ในมือนาง
นางวางแผนจะทำเค้กท้ออายุยืน ตรงกลางสุดจะเป็นท้ออายุยืนขนาดใหญ่หนึ่งลูก และล้อมรอบด้วยท้ออายุยืนลูกเล็ก รอบๆ เค้กทั้งสี่ทิศจะใช้ดอกท้อกับลูกท้อมาตกแต่ง
นางโยนถุงบีบลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิด พลางโน้มศีรษะเข้าไปในอ้อมกอดมู่ฉินเจินและทำคอตก
มู่ฉินเจินกอดนางไว้อย่างเข้าใจ และตบหลังนางเบาๆ เป็นการปลอบโยน ก่อนเอ่ยเสียงต่ำเบา “ไม่เช่นนั้น ให้ข้าลองไหม?”
เฉียวเยี่ยนพยักหน้า อย่างไรเสียนางทำไม่ได้ ใครก็ทำไม่ได้เช่นกัน
มู่ฉินเจินถือถุงบีบครีมลองมือก่อน จากนั้นลูกท้ออายุยืนขนาดใหญ่ก็ถูกวาดตรงกลางเค้กในทันที
ท้ออายุยืนลูกใหญ่กลมสีชมพูน่ารักปรากฎแก่สายตา ตรงส่วนปลายเป็นใบสีเขียวสองใบ มันเหมือนจริงมาก และน่ารักมากเช่นกัน
เฉียวเยี่ยนนิ่งค้าง กระพริบตาวาววับสองดวง พลางมองท่านอ๋องตัวเองอย่างนับถือ
นี่มันน่าทึ่งเกินไปหน่อยแล้ว เพียงลงมือทำครั้งแรกก็บีบครีมเป็นรูปท้ออายุยืนสวยงามเช่นนี้ออกมาได้ ฝีมือแบบนี้น่าจะไล่ตามเชฟในร้านเค้กสมัยปัจจุบันทันแล้ว
หลังจากบีบครีมเป็นท้ออายุยืนลูกใหญ่ตรงกลางเค้กเสร็จ มู่ฉินเจินก็ทำตามความต้องการของเฉียวเยี่ยน บีบลูกท้อขนาดเล็กไว้รอบนอก ส่วนที่เหลือเขาก็ทำตามความคิดของตัวเอง วาดดอกท้อ ใบท้อ แล้วเขียนคำอวยพรสองคำ
เฉียวเยี่ยนมีสภาพแข็งทื่อเป็นหินไปนาน จวบจนมู่ฉินเจินแต่งหน้าเค้กเสร็จในคราวเดียว นางถึงได้สติกลับมา
นางกอดมู่ฉินเจินไว้ และเขย่งปลายเท้า หอมแก้มเขาไปหนึ่งฟอด พลางเอ่ยอย่างยินดี “สามี ท่านเก่งเกินไปแล้ว!”
เมื่อได้รับคำชื่นชมจากนาง มู่ฉินเจินก็สุขกายสบายใจอย่างมาก มุมปากเขาหยักยกขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ แม้แต่ใบหน้ายังเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
ความจริงแล้วเหตุที่เขาลงมือได้ง่าย เพราะเขารู้วิธีวาดภาพ พู่กันที่ใช้ในการวาดภาพก็อ่อนและควบคุมยากเช่นกัน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับหัวบีบ ดังนั้นเวลาลงมือทำจึงง่ายกว่ามาก
เค้กวันเกิดขนาดใหญ่ห้าชั้น มีไส้อยู่ในตัวเค้กสามชั้น ชั้นหนึ่งเป็นแยมลูกท้อน้ำผึ้ง อีกขั้นหนึ่งเป็นแยมสตรอเบอรี ตรงกลางเป็นไส้เผือกบด รสชาติเข้มข้นมาก
เมื่อเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์กับเสี่ยวฉวนเอ๋อร์เห็นเค้กก้อนใหญ่ขนาดนี้ก็อึ้งค้าง เมื่อเทียบกับของเสด็จปู่ เค้กวันเกิดของพวกเขาล้วนมีขนาดเล็กจนน่าสงสารนัก ถึงกระนั้นแม้จะอิจฉา แต่พวกเขาก็เข้าใจ เค้กของเสด็จปู่มีขนาดใหญ่เช่นนี้เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว เพราะพวกเขาต้องเคารพอาวุโสและรักเมตตาเด็ก
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ใครอย่าเพิ่งมาตำหนักอ๋องซู่ในตอนนี้นะคะ ไม่งั้นตบะแตก จะไปหากินที่ไหนก็ไม่มีให้กินแน่
ในที่สุดท่านอ๋องก็ค้นพบความถนัดของตัวเองแล้วสินะ
ไหหม่า(海馬)
Comments