ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 209 งานเลี้ยงเริ่มขึ้น

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 209 งานเลี้ยงเริ่มขึ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 209 งานเลี้ยงเริ่มขึ้น

ตอนที่ 209 งานเลี้ยงเริ่มขึ้น

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวเยี่ยนก็รู้สึกงงงวยเช่นกัน จริง ๆ แล้วในใจของนางไม่ได้ปฏิเสธการมีความสัมพันธ์กับเขาเลย ติดเพียงว่าขณะที่ใกล้จะเข้าด้ายเข้าเข็มแล้วก็มีเหตุมาทำให้ล่มกลางคันเท่านั้น

ทุกครั้งที่เข้าสู่ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ ร่างกายของนางกลับต่อต้านการกระทำขั้นต่อไป จนถึงตอนนี้นางยังจำได้ถึงความรู้สึกที่ร่างกายอยู่เหนือความควบคุมของสมองได้อยู่เลย

วันนี้มู่ฉินเจินสวมชุดคลุมผ้าแพรสีดำดูหรูหราปักดิ้นทองเป็นลายมังกรสี่เล็บ ซึ่งเข้าคู่กับอาภรณ์ของเฉียวเยี่ยนเป็นอย่างดี จนดูราวกับว่าทั้งสองกำลังสวมชุดคู่รัก

หลังจากเก็บข้าวของทั้งหมดแล้ว เฉียวเยี่ยนก็จับมือของมู่ฉินเจินมือหนึ่ง จับมือเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์อีกมือหนึ่ง ขณะที่มู่ฉินเจินจับมือนำเสี่ยวฉวนเอ๋อร์ และครอบครัวสี่คนก็เดินไปที่โถงจัดเลี้ยง

ระหว่างทางที่เดินไป รูปลักษณ์อันงดงามของครอบครัวสี่คนก็ดึงดูดความสนใจของผู้สัญจรไปมาจำนวนมาก จนขันทีและสาวใช้บางคนได้เห็นแล้วรู้สึกอัศจรรย์ใจ

แม้พวกเขาจะรู้มาก่อนแล้วว่าหวางเฟยเหนียงเหนียงสะคราญโฉมเพียงใด ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นนางแต่งกายแบบเต็มยศ จนไม่อาจละสายตาไปจากความงามนี้ได้

เมื่อเข้าไปในโถงจัดเลี้ยง คนส่วนใหญ่ก็มาถึงแล้ว สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ครอบครัวสี่คน

เฉียวเยี่ยนเชิดหน้าด้วยท่าทางอกผายไหล่ผึ่ง ทุกย่างก้าวที่นางเดินนั้นสง่างามและมั่นใจ กลบรัศมีสตรีผู้มั่งคั่งหลายคนจนสิ้น

กระทั่งอยู่ต่อหน้าผู้คน นางและมู่ฉินเจินก็ไม่ปล่อยมือกัน กฎที่ว่าขณะเดินด้วยกันภรรยาต้องตามหลังสามีนั้นใช้ไม่ได้สำหรับคู่ของนาง

วันนี้นางแต่งตัวหรูหรามาก แต่จริง ๆ แล้วนางซ่อนความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ในใจ

ใช่แล้ว นางมาที่นี่เพื่อประกาศศักดาของตัวเอง!

มีนางปีศาจมากมายที่หมายปองท่านอ๋องของนางอยู่ หากนางอ่อนข้อลงเมื่อใด เหล่านางปีศาจพวกนั้นก็จะคิดว่าตนยังมีหวังอยู่

แน่นอนว่าสาวๆ เหล่านั้นที่มีความคิดเล็กน้อยกับมู่ฉินเจินพอได้เห็นเฉียวเยี่ยนแล้วก็ฝันสลายอีกครั้ง ทำได้เพียงจ้องมองเฉียวเยี่ยนพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

เกลียดนางแต่ทำอะไรนางไม่ได้ ช่างน่าโมโหนัก!

มู่ฉินเจินและเฉียวเยี่ยนอยู่ใกล้ฮ่องเต้และฮองเฮามากที่สุด และเด็กทั้งสองก็ถูกฮ่องเต้กับฮองเฮาลากไปนั่งด้วยกันทันทีมาถึง

เฉียวเยี่ยนมีความสุขและผ่อนคลาย นางโยนหน้าที่ดูแลลูกๆ ให้ฮองเฮา ขณะที่นางรับประทานอาหารและชมการแสดงอย่างสบายใจ

หลังจากที่ฮ่องเต้ชราตรัสเปิดงานไม่กี่คำ งานเลี้ยงก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ สิ่งแรกที่ปรากฏขึ้นคือเค้กวันเกิดขนาดยักษ์ที่เฉียวเยี่ยนทำขึ้น

เทียนถูกจุดบนเค้กแล้ว และคนในวังก็ค่อยๆ ถือเค้กเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง มันดึงดูดความสนใจของทุกคนทันทีที่พวกเขาเข้ามา

เค้กอันสวยงามส่งกลิ่นหอมหวานจนดูราวกับภาพฝัน หลังจากจุดเทียนแล้ว ก็ไม่ต้องพูดถึงทูตต่างอาณาจักรที่ตกตะลึงไปเลย กระทั่งผู้คนในเมืองหลวงก็ยังตกใจ

ความแปลกใหม่ดังกล่าวปรากฏขึ้นในเมืองหลวงเมื่อใด เหตุใดพวกเขาถึงไม่รู้

ส่วนจะรับประทานเค้กวันเกิดอย่างไร ฮ่องเต้เฒ่าทรงทราบดี ด้วยเคยร่วมฉลองวันเกิดพระนัดดาทั้งสองครั้งไปแล้ว

ก็แค่อธิษฐานต่อหน้าเค้กแล้วเป่าเทียนเท่านั้น

ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นยกเว้นครอบครัวของเฉียวเยี่ยนล้วนตกตะลึง แต่โชคดีที่เฉียวเยี่ยนได้หาคำอธิบายให้ท่านอ๋องอธิบายกับทุกคนแล้วว่าเค้กคืออะไร

แน่นอนว่ามันจะเป็นการสาดน้ำมันให้ไฟแห่งความอิจฉาของทุกคนที่มีต่อเค้กก้อนนี้ลุกโชน

หลังจากที่ทุกคนได้ฟัง พวกเขาก็ตระหนักได้และพยักหน้า

หลังจากที่ชายชราขอพรเสร็จ สตรีในราชสำนักก็ออกมาทันทีและแบ่งเค้กออกเป็นส่วนเล็กๆ ใส่จาน และแจกจ่ายต่อทุกคนที่มาร่วมงานเลี้ยง

เค้กถูกแจกจ่ายให้กับคนมากกว่าร้อยคน ทำให้แต่ละคนได้รับเพียงชิ้นเล็ก ๆ ซึ่งสามารถกินได้หมดในสองคำ

ทันทีที่เค้กเข้าปาก ทุกคนต่างรู้สึกถึงความหอมนุ่มและกลิ่นนมเนยที่หอมแรง อีกทั้งแยมรสชาติหวานอมเปรี้ยวที่สอดไส้ระหว่างเค้กแต่ละชั้นยังเป็นตัวตัดรสชาติมันเลี่ยนของครีมเป็นอย่างดี

ขุนนางและสมาชิกในครอบครัวที่ได้กินขนมแปลกประหลาดนี้เป็นครั้งแรกต่างก็ลิ้มรสอันโอชะอย่างเงียบ ๆ ด้วยความเข้าใจโดยปริยาย

สตรีดูเหมือนจะชอบของหวานมากกว่าบุรุษโดยธรรมชาติ ดังนั้นจึงมีเหล่าฮูหยินคุณหนูหลายคนที่ถึงกับเบิกตากว้างด้วยความอัศจรรย์ใจหลังได้ชิมเค้ก

เค้กชิ้นเล็ก ๆ นี้ได้ลงกระเพาะของพวกเขาเรียบร้อยแล้วก่อนที่พวกเขาจะจดจำรสชาติได้ หลายๆ คนที่ยังกินได้ไม่หนำใจจึงได้แต่มองชั้นวางเค้กที่ว่างเปล่าอย่างอับจนหนทาง

หลังจากกินเค้กแล้ว ทูตจากชนเผ่าเล็กๆ ทางตอนเหนือก็ชื่นชมทักษะการทำอาหารของราชวงศ์เทียนลี่เป็นอันมาก ทั้งยังเอ่ยถามฮ่องเต้เฒ่าว่าใครเป็นผู้ทำเค้กก้อนนี้ขึ้นมา ด้วยต้องการซื้อเพื่อนำกลับไปให้ผู้นำในเผ่าของพวกเขาได้กิน

ฮ่องเต้เฒ่าลูบเคราของเขาและหัวเราะเสียงดังอย่างหยิ่งทระนง เจ้าสิ่งนี้เกิดจากฝีมือของพระสุณิสา คนนอกไม่อาจซื้อได้หรอก!

เมื่อทูตต่างอาณาจักรได้ยินว่าซู่หวางเฟยเป็นคนทำขนมชนิดนี้ เขาก็พลันเหี่ยวเฉา พวกเขาที่เป็นชนเผ่าเล็ก ๆ จะกล้าให้หวางเฟยแห่งอาณาจักรยิ่งใหญ่มาอบขนมเพื่อมอบแก่พวกเขาได้อย่างไร

ฮ่องเต้ชราตรัสยกย่องเฉียวเยี่ยนอย่างเปิดเผยต่อหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนและฝ่ายกลาโหมทั้งหมด และในที่สุดก็ประทานรางวัลแก่นางด้วยทองคำและอัญมณีมากมาย

จากนั้นทุกคนในงานเลี้ยงก็เริ่มประจบสอพลอเฉียวเยี่ยนตามๆ กัน ซึ่งในใจจริงของบางคนก็ไม่ได้หมายความตามที่พูด ซ้ำยังเกลียดนางอีกด้วย เพียงแต่พวกเขาเอ่ยยกย่องไปเช่นนั้นก็เพื่อตามน้ำคนอื่นๆ เท่านั้น

เฉียวเยี่ยนยิ้มและเปลี่ยนสุราเป็นชาอย่างสุภาพ ยกดื่มตอบรับคำชมของทุกคน

หลังจากเป่าเค้กวันเกิดเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาของการแสดงที่ต้องมีในงานเลี้ยง

ในเวลานี้ สาวใช้ยังนำขนมอื่น ๆ ที่ เฉียวเยี่ยนเป็นคนทำมาให้แขกได้เพลิดเพลินกับการแสดงขณะรับประทานของหวาน

ทุกคนที่ยังคงนึกถึงความหวานของเค้กเมื่อครู่นี้ก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นของหวานหลายชนิดอีกครั้ง

ทุกครั้งที่ได้ชิมของหวาน ในใจของทุกคนก็ราวกับต้องมนต์สะกด เอาแต่ละเลียดชิมโดยไม่สนใจการแสดงที่เหล่าคุณหนูได้เตรียมการไว้เลย

เฉียวเยี่ยนกินของหวานไม่มากนัก แต่เน้นไปที่กินผลไม้ ผลไม้จากวังล้วนเป็นเครื่องบรรณาการและรสชาติก็ดีมากทุกชนิด

ขณะรับประทานอาหารก็มองดูสาวน้อยแสนสวยเหล่านั้นเต้นรำ พลางคร่ำครวญว่าพวกนางยังเด็กมาก ไม่เหมือนนางที่แก่แล้ว

มู่ฉินเจินที่ปอกองุ่นให้นางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อได้ยินเสียงกระซิบของนาง

“เจ้าแก่ตรงไหน เจ้ายังเด็กอยู่เลย”

เฉียวเยี่ยนอ้าปากกินองุ่นที่เขาป้อนเข้าปาก เอียงศีรษะและคิดว่า: “ดูเหมือนว่าข้าจะยังไม่แก่ ข้าอายุแค่ยี่สิบสองปีเท่านั้น”

การเป็นแม่ช่างยาวนานนัก นอกจากนั้นนางที่มาจากยุคปัจจุบันก็ถือว่ามีอายุค่อนข้างมากสำหรับยุคนี้ นางจึงเพิกเฉยต่ออายุของร่างกายตัวเองไป

การแสดงส่วนใหญ่เป็นการเต้นและดีดฉิน และในไม่ช้าเฉียวเยี่ยนก็รู้สึกเหนื่อยล้าทางสายตา แต่เมื่อนางรู้สึกเบื่อ อี้จื่อจิ้นได้ก็ขึ้นมาบนเวที

ทุกวันนี้ อี้จื่อจิ้นซึ่งกลายเป็นตัวตลกได้เก็บตัวไม่ค่อยเปิดเผยหน้าต่อสาธารณะ ผ่านไป 2-3 วัน เฉียวเยี่ยนก็รู้สึกว่านางแตกต่างออกไปเล็กน้อย

นางในคืนนี้ไม่ได้จ้องมองมู่ฉินเจินอีก อีกทั้งยังไม่ขบเคี้ยวฟันและกลอกตาใส่เฉียวเยี่ยนด้วย ทำเพียงเดินตามฮูหยินอัครเสนาบดีอย่างมีมารยาท

เป็นไปได้ไหมว่านางกำลังวางแผนสร้างความวุ่นวายบางอย่าง?

เฉียวเยี่ยนยังคงคิดอยู่ นางคงได้เริ่มแสดงแล้ว

วันนี้เป็นวันพระราชสมภพของฮ่องเต้ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ นางก็เปลี่ยนเครื่องแต่งกายที่เรียบง่ายและสง่างามก่อนหน้านี้ของนางเป็นชุดผ้าโปร่งสีแดง ใบหน้าของนางได้รับการตบแต่งอย่างประณีต บนหว่างคิ้วมีฮวาเตี่ยนวาดประดับอยู่

บนเวที เสียงกู่ฉินอันไพเราะได้ดังขึ้น และนางก็ร่ายรำอย่างสง่างามตามเสียงนั้น การร่ายรำนั้นสวยงามและอ่อนช้อย ในที่สุดก็ดึงสายตาของผู้ชมที่ใจอยู่กับอาหารกลับไปที่เวที

เฉียวเยี่ยนชื่นชมนางด้วยใจจริง แม้ว่านางจะเคยเห็นการเต้นรำของนางมาก่อน แต่นางก็ยังคิดว่ามันสวยงามมากในเวลานี้

แม้ว่าทั้งสองคนจะเป็นศัตรูกัน แต่นั่นก็ไม่ได้ขัดขวางนางจากการดูการแสดงนี้

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

เสียใจด้วยค่ะ เค้กนี่มันเป็นของลิมิเต็ดอีดิชั่น มีเพียงซู่หวางเฟยเท่านั้นที่ทำได้

คุณหนูอี้ดูเปลี่ยนไปนะคะ มีแผนอะไรในใจหรือเปล่า นางดูร้ายลึกขึ้นอย่างบอกไม่ถูก

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *