ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 212 ขอให้รักกันเป็นร้อยปี

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 212 ขอให้รักกันเป็นร้อยปี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 212 ขอให้รักกันเป็นร้อยปี

ตอนที่ 212 ขอให้รักกันเป็นร้อยปี

เฉียวเยี่ยนกระแอมครู่หนึ่ง ก่อนตะโกนเอ่ยกับขโมยที่อยู่ข้างใน “เจ้าคนข้างในนั้นฟังข้าให้ดี! เจ้าถูกล้อมไว้แล้ว เลิกต่อต้าน และยอมจำนนซะ! ”

เฉียวเยี่ยนตะโกนอย่างออกรส ตอนเด็กๆ เคยดูภาพยนตร์บู๊ล้างผลาญมาก็มาก ช่วงที่ชอบที่สุดก็คือช่วงนี้แหละที่รู้สึกว่ามันเท่เป็นพิเศษ หากมีลำโพงสักหนึ่งอันก็จะยิ่งเท่เข้าไปใหญ่

พวกองครักษ์ที่อยู่รอบๆ มองการกระทำอันบ้าบิ่นของหวางเฟยก็พากันรู้สึกเอือมระอาเสียเต็มประดา ทว่ามู่ฉินเจินกลับมองนางด้วยสีหน้าหลงใหล รู้สึกว่านางในเวลานี้ช่างน่ารักยิ่ง

โจรในห้องที่กำลังคุ้ยกล่องค้นตู้อยู่ได้ยินการเคลื่อนไหวด้านนอกก็หน้ากระตุก เตรียมหลบหนีทันใด

เขามองคนที่ยังหลับสนิทอยู่บนเตียง แล้วถือดาบพุ่งเข้าไป เพื่อหาตัวประกันเป็นเบี้ยต่อรองในการหลบหนี

ทว่าในขณะที่เขากำลังเข้าไปใกล้เตียง คนที่นอนอยู่บนเตียงก็เด้งตัวขึ้นทะยานสู่อากาศ และตวัดกระบี่อันแหลมคมชี้ตรงหน้าเขา

เกาจัวหยวนถือกระบี่สำหรับฝึกฝนด้วยท่าทางสง่างาม ก่อนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้ารอเจ้ามานานแล้ว!”

แต่ปฏิกิริยาของหัวขโมยนั้นรวดเร็วมาก มันยกมือขึ้นกวัดแกว่งดาบสั้นในมือปัดกระบี่ที่ขวางหน้าออก และเตะเก้าอี้ข้างๆ ไปทางเกาจัวหยวน

เกาจัวหยวนยกกระบี่ตะบันไปที่เก้าอี้ ทำให้เจ้าโจรฉวยโอกาสในช่วงเวลานี้ทะยานขึ้นไปบนคานบ้าน พุ่งทะลุหลังคาออกไป เตรียมหลบหนีทางหลังคา

แต่บนหลังคาก็มีองครักษ์หลายคนรักษาการณ์อยู่นานแล้ว ทันทีที่เขาขึ้นบนหลังคา ก็ต่อสู้กับพวกองครักษ์ทันที

ความแข็งแกร่งของเขาเหนือกว่าพวกองครักษ์ พวกองครักษ์ต้องลงมือพร้อมกัน ถึงจะเทียบเสมอกับเขาได้

เมื่อมู่ฉินเจินเห็นสถานการณ์ตรงหน้า เขาก็แตะปลายเท้าเบาๆ และทะยานขึ้นสู่หลังคา เข้าร่วมการต่อสู้ด้วย

วรยุทธ์ของหัวขโมยเทียบมู่ฉินเจินไม่ได้ แต่กระนั้นวิชาตัวเบาของเขากลับยอดเยี่ยมมาก จึงป้องกันตัวได้อย่างคล่องแคล่ว

มู่ฉินเจินไม่ได้ใช้อาวุธ เขาวาดฝ่ามือรวบรวมกำลังภายในไว้กลางฝ่ามือ และซัดโจมตีทางด้านหลังของโจรอย่างดุเดือด

เจ้าโจรถูกซัดหลังจนได้รับบาดเจ็บ ร่างกายเซถลาอย่างเสียสมดุลพร้อมกับกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง กระทั่งเกือบพลัดตกจากหลังคา

เขามองมู่ฉินเจินกับพวกองครักษ์ที่อยู่ตรงข้ามด้วยสายตาเย็นเยือก และรู้ว่าวันนี้เขาคงหนีไม่ได้แล้ว

ทันใดนั้น สายตาเขาก็จ้องไปยังเฉียวเยี่ยนที่เงยหน้าจดจ่อดูการต่อสู้อยู่บนพื้น ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว

เขาโน้มตัวไปหยิบกระเบื้องสองสามแผ่นเขวี้ยงใส่คนที่อยู่ตรงข้าม เพื่อสกัดการเคลื่อนไหวของพวกเขาเอาไว้

จากนั้นก็พลิกตัวลงจากหลังคาอย่างฉับไว วิ่งตรงไปหาเฉียวเยี่ยน และคว้าคอนางไว้

“ปล่อยข้าออกไป! ไม่เช่นนั้น ข้าจะฆ่านาง!”

น้ำเสียงของเขาทั้งหนักแน่นทั้งนุ่มนวล ยากจะแยกแยะว่าเป็นชายหรือหญิง ดวงตาคู่นั้นเย็นเยือกดุจน้ำแข็ง ประสานเข้ากับสายตาเย็นชาพอๆ กันของมู่ฉินเจินที่อยู่บนหลังคา

ในเมืองหลวงมีข่าวลืออย่างกว้างขวางว่าอ๋องซู่กับซู่หวางเฟยมีความสัมพันธ์ดีมาก เขาไม่เชื่อว่าชายคนนี้จะไม่เปลี่ยนสีหน้าเมื่อเห็นหญิงอันเป็นที่รักของตัวเองถูกจับเป็นตัวประกัน

แต่ดูเหมือนเขาจะคิดผิด อีกฝ่ายมิเพียงไม่ตระหนก กลับกันยังเผยสายตาเย้ยหยันออกมา ราวกับสงสารเขาก็มิปาน

ครั้นมองไปยังพวกองครักษ์ที่อยู่ด้านหลังมู่ฉินเจิน ท่าทางของพวกเขาล้วนเหมือนกับท่านอ๋องไม่มีผิด บ้างก็ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก

เกาจัวหยวนยกมือกอดอกอย่างสบายๆ ก่อนเอ่ยเยาะเย้ย “พี่โจร นี่เจ้ากำลังเล่นกับไฟอยู่นะ!”

จับพวกเราคนใดคนหนึ่งในนี้เป็นตัวประกันยังดีกว่าจับหวางเฟยเป็นตัวประกันเสียอีก!

เพราะการจับหวางเฟยเป็นตัวประกัน อันดับแรกจะถูกหวายเฟยลงมือทุบตีด้วยตัวเอง จากนั้นก็จะถูกท่านอ๋องของพวกเขาที่มองภรรยาดั่งชีวิตทุบตีอีกครั้ง พูดสั้นๆ คือ ช่างน่าสงสารนัก!

ท่าทางของโจรดูตึงเครียด และก้มลงมองเฉียวเยี่ยนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน

เฉียวเยี่ยนมองเขาด้วยรอยยิ้มสดใส แม้กระทั่งยกมือขึ้นทักทายเขา “สวัสดีจ้าน้องสาว”

เจ้าโจรมึนงงกับสถานการณ์นี้ และก่อนที่จะได้สติ ก็เห็นเฉียวเยี่ยนที่ยิ้มให้เมื่อครู่เปลี่ยนสีหน้าไปอย่างฉับพลัน

นางบิดแขนของอีกฝ่ายด้วยมือข้างเดียว และหมุนตัวกลับอย่างว่องไว จากที่หันหลังให้อีกฝ่าย ก็เปลี่ยนมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายแทน

สิ่งทำให้นางไม่คาดคิดก็คือเรื่องบางอย่างที่เกิดขึ้นในวินาทีต่อมา!

เฉียวเยี่ยนเหยียดอุ้งมือตะปบที่หน้าอกนาง แถมยังขยำไปอีกหลายครั้ง

หลังจากคลำเสร็จ เฉียวเยี่ยนก็ยิ้มเหมือนคนหื่นกาม “เป็นน้องสาวจริงๆ ด้วย แต่อย่ารัดไว้ตลอดเวลาเลย รัดไว้นานมันไม่ดีต่อสุขภาพ”

โจรไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน จึงยกมือหนึ่งปกป้องหน้าอกตัวเอง อีกมือก็ต้านทานการโจมตีของเฉียวเยี่ยน ก่อนเอ่ยลอดไรฟัน “นังคนไร้ยางอาย!”

เฉียวเยี่ยนกระพริบตากลมโตไร้เดียงสาของตัวเอง ขณะมือคู่นั้นยังคงลูบไล้ขึ้นลงเอาเปรียบอีกฝ่าย หลังจากสัมผัสหน้าอกเสร็จก็เคลื่อนไปสัมผัสบั้นท้าย

“จะว่าข้าไร้ยางอายได้อย่างไร เราต่างเป็นพี่สาวน้องสาวกัน แตะนิดแตะหน่อยไม่สึกหรอหรอกน่า”

พวกองครักษ์ที่อยู่บนหลังคาต่างตัวแข็งทื่อไปหมด และไม่อยากยอมรับว่าคนโรคจิตด้านล่างนั้นคือหวางเฟยของพวกเขา

แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังนับถือ เมื่อครู่ปะทะกับโจรมาอย่างยาวนาน พวกเขาก็ยังไม่รู้เลยว่าโจรเป็นสตรี แต่หวางเฟยกลับทราบได้อย่างง่ายดาย

เกาจัวหยวนสะกิดแขนมู่ฉินเจินอย่างไม่กลัวตาย และถามอย่างต่ำช้าว่า “นายท่าน หวางเฟยก็มักจะทำเช่นนี้กับท่านเหมือนกันใช่หรือไม่?”

ท่านอ๋องผู้องอาจผึ่งผายถูกหวางเฟยลวนลามประหนึ่งสาวน้อยอยู่บนเตียง ยิ่งนึกภาพนี้ก็ยิ่งสนุกแล้ว

มู่ฉินเจินถลึงตาใส่เขา จากนั้นก็ยกเท้าเตะไปทางเขาจนเกือบจะทำให้เขาหล่นลงมา

เกาจัวหยวนตกใจจนหวาดผวา “ท่านปู่ ความผิดของของข้าน้อยไม่ถึงกับตายหรอกกระมัง?”

ทันทีที่ประหม่า ก็เปลี่ยนจาก ‘นายท่าน’ เป็น ‘ท่านปู่’ ไปเสียสิ้น

เฉียวเยี่ยนที่อยู่ด้านล่างยังคงหยอกล้อกับหัวขโมยหญิงที่ทำอะไรไม่ถูก จะไม่ให้นางโดนมองว่าโรคจิตได้อย่างไร

กรงเล็บมังกรคู่หนึ่งจู่โจมเข้าที่หน้าอก และดึงคอเสื้อของหญิงสาวอย่างง่ายดาย และไม่นานก็ปลดที่คาดผมของนางออก ทำให้เส้นผมดำขลับสยายอยู่บนไหล่นาง

ผมสีดำปลิวไสวปิดกั้นการมองเห็น ขณะที่หัวขโมยหญิงจับคอเสื้อที่ขาดของตัวเองไว้โดยไม่ทันตั้งตัว หน้ากากบนใบหน้าของนางก็ถูกเฉียวเยี่ยนดึงออกมา

คิ้วงามหนาเข้ม ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความกล้าหาญ หางตายกขึ้น ช่างเป็นดวงตาดอกท้อที่มีเสน่ห์คู่หนึ่ง

รูปลักษณ์นี้แม้ไม่จัดว่างามชวนตะลึง ทว่าหน้าตาสะสวยในแบบที่เห็นแล้วสบายตามาก

เฉียวเยี่ยนผิวปากใส่นางอย่างแทะโลม “คนสวยหน้าตาไม่เลวเลย ไม่สู้เจ้าล้างมือในอ่างทองคำ(1)แล้วมาตามเปิ่นเฟยดีหรือไม่?”

นางสนใจวิชาตัวเบาของอีกฝ่ายจริงๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้หญิงที่จะมีวิชาตัวเบาเช่นนี้

ระบบตัวน้อยก็ผิวปากอย่างหยาบโลนเลียนแบบโฮสต์เช่นกัน

[ดอกไป๋เหอในบ้านเกิดบานแล้ว! ขอให้ท่านโฮสต์รักกันเป็นร้อยปี!]

เฉียวเยี่ยนวุ่นอยู่กับการเกี้ยวพาราสีหญิงสาว จึงไม่มีเวลาจัดการกับเด็กซนคนนี้ จึงเอ่ยกับหัวขโมยหญิงต่อ “คิดให้ดีๆ มารับใช้ใกล้ชิดข้า ได้ประโยชน์มากเลยนะ”

โจรหญิงจะฟังสิ่งที่นางพูดเข้าหูในเวลานี้ได้อย่างไร นางคิดแค่ว่าทั้งชีวิตนี้นางจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอับอายเช่นคืนนี้อีก

มู่ฉินเจินที่อยู่บนหลังคากลับมีสีหน้าจนปัญญา เขารู้พรสวรรค์ของเจ้าท่อนไม้ดี แต่การที่นางดึงคนเข้ามาอยู่ฝั่งตัวเองภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แน่ใจหรือว่าจะไม่ทำให้คนตกใจหนีไป?

ทว่าความสนใจของพวกองครักษ์กลับเบนไปในทิศทางที่แปลกประหลาด

นี่หวางเฟยชอบของใหม่เบื่อของเก่า และจะเขี่ยท่านอ๋องทิ้งรึ?

หัวขโมยหญิงกำลังถูกเฉียวเยี่ยนไล่ต้อนจนกังวลใจ ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าหลุดลุ่ย และมีสีหน้าเบื่อชีวิตเต็มทน

ในที่สุดนางก็ทรุดลงกับพื้นอย่างหอบเหนื่อย และยื่นมือทั้งสองข้างให้เฉียวเยี่ยน ทำราวกับว่าให้รีบใส่กุญแจมือนาง

“รีบพาข้าไปเถิด จะฆ่าจะแกงก็แล้วแต่เลย!”

ขอแค่อย่ามาทำลวนลามใส่นาง!

โตจนปานนี้แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนลวนลามใส่นาง และที่สำคัญคนผู้นี้ก็เป็นสตรีด้วย!

นางที่ปกติมีสีหน้าสุขุมเย็นชา ในเวลานี้กลับตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ

…………………………………………………………………………………………………………………………

(1)金盆洗手 เป็นสำนวน แปลว่ากลับตัวกลับใจเป็นคนดี

สารจากผู้แปล

วิธีจับโจรของหวางเฟยมันช่าง…ชวนให้คิดไปถึงเรื่องพรรค์นั้นจริงๆ

บรรดาองครักษ์ของท่านอ๋องก็คือเตรียมง้างเสียมจะขุดหลุมปลูกดอกลิลลี่แล้ว

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *