ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 214 เสียงดังอื้ออึงเหมือนยุงนับพันตัว
ตอนที่ 214 เสียงดังอื้ออึงเหมือนยุงนับพันตัว
ตอนที่ 214 เสียงดังอื้ออึงเหมือนยุงนับพันตัว
โจรหญิงได้ยินเสียงอันคุ้นเคย ทั้งร่างพลันสั่นเทา และเบิกตาขึ้นทันใด!
เป็นนางจริงด้วย! หญิงผู้นี้ที่ทำให้นางขายหน้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนนับตั้งแต่ยี่สิบสามปีผ่านมา!
เดิมทีนางคิดว่าผู้คุมนำอาหารมาส่งให้ แต่ไม่นึกเลยว่าเฉียวเยี่ยนจะมา
เฉียวเยี่ยนมองท่าทางของนางอยู่ในสายตา พลางกัดน่องไก่ไปคำหนึ่ง และเอ่ยอู้อี้ “เราล้วนเป็นหญิงด้วยกัน แล้วข้าก็เป็นหญิงที่แต่งงานแล้วด้วย ลูกก็มีแล้วสองคน วางใจเถิด ข้าไม่ทำอันใดเจ้าหรอก”
เส้นเลือดที่ขมับโจรหญิงพลันกระตุก ไม่รอให้นางเปิดปาก ก็รู้ได้แล้วว่าตอนนี้นางโมโหมาก
“เชิญเจ้าออกไปเถิด!”
นางไม่มีเจตนาจะลุกขึ้น สีหน้ามืดทะมึนราวกับจะกลั่นตัวเป็นหยาดฝน พลางออกคำสั่งไล่เฉียวเยี่ยน
ทว่าเฉียวเยี่ยนกลับไม่กระดิกตัวไปไหน ถือแก้วรินน้ำสไปร์ทเย็น แล้วดื่มลงไปหนึ่งอึกใหญ่อย่างสบายใจ
“ทั่วทั้งตำหนักอ๋องเป็นของท่านอ๋องข้า และท่านอ๋องก็เป็นของข้า กล่าวง่ายๆ คือ ตำหนักอ๋องนี้ก็เป็นของข้า ข้าย่อมจะไปไหนมาไหนก็ได้”
โจรหญิง “…”
ข้าไม่ได้อยากฟังความรู้สึกฉันท์สามีภรรยาของพวกเจ้าว่าดีมากแค่ไหนเสียหน่อย!
แม้นภูเขาไม่เคลื่อน น้ำยังคงไหลริน(1) ในเมื่อนางยังนั่งนิ่งไม่ไหวติง เฉียวเยี่ยนก็ถือน่องไก่นั่งลงตรงหน้านางเสียเลย โดยทำท่าทางอยากคุยกับนางดีๆ
“สาวสวย เจ้าชื่ออะไร เราสองคนมาทำความรู้จักกันเถิด”
“จริงสิ ข้าแนะนำตัวเองก่อนแล้วกัน ข้าชื่อเฉียวเยี่ยน ปีนี้อายุยี่สิบสองปี คือซู่หวางเฟยที่คนอื่นๆ เรียกกัน”
มุมปากโจรหญิงกระตุก นางในเวลานี้อยากเงยหน้าขึ้นมองฟ้าแล้วร้องโอดครวญกับพระเจ้า ‘ท่านเทพยดา รีบเอาคนมหัศจรรย์นี้ไปเก็บทีเถิด!’
นางมีชีวิตอยู่มาหลายปี ไม่เคยเจอคนประเภทนี้เลยจริงๆ หรือจะเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่พระเจ้าแอบสร้างขึ้นมา?
ระบบตัวน้อยที่อยู่ในห้วงจิตสำนึกสัมผัสได้ถึงความเก้อเขินของพี่สาวผู้เย็นชา จึงเอ่ยกับโฮสต์หน้าหนาของนาง
[ท่านโฮสต์ โปรดจำไว้ด้วยว่าท่านเป็นคนมีครอบครัวแล้ว อย่าจีบสาวหว่านเสน่ห์ไปทั่ว เดี๋ยวพี่มู่คนหล่อก็สอนบทเรียนให้หรอก!]
เฉียวเยี่ยนกลอกตาใส่ระบบตัวน้อย “เด็กซนอย่างเจ้าจะไปรู้อะไร ข้ากำลังใช้อุบายชักจูงให้ยอมจำนนต่างหาก ดูสิว่าหญิงสาวคนนี้มีวรยุทธ์เก่งกาจแค่ไหน หากนางมาอยู่ใต้บังคับบัญชาข้าได้ จะต้องเป็นคนที่มีความสามารถอันดับหนึ่งของข้าแน่!”
เห็นอีกฝ่ายไม่สนใจนาง เฉียวเยี่ยนก็เริ่มเปิดโหมดช่างพูด โดยกัดน่องไก่ข้างหูโจรหญิงไปพลาง คุยสัพเพเหระไปพลาง
“ลูกทั้งสองของข้าหน้าตาดีมาก หากมีโอกาสจะให้เจ้าได้เห็น”
“เจ้าแต่งงานแล้วหรือยัง? มีคนรักหรือไม่ หากไม่มี ข้าจะแนะนำให้คนหนึ่ง ชายหนุ่มส่วนใหญ่ในตำหนักเรายังโสดอยู่…”
โจรหญิงรู้สึกเพียงว่าข้างหูมีเสียงอื้ออึงของยุงนับพันตัว เสียงดังจนน่ากลัว นางเหลือบมองเฉียวเยี่ยนอย่างลึกซึ้ง สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมา ก่อนเอ่ยอย่างเย็นชา “หลันหนิง ยี่สิบสามปี ไม่ได้แต่งงาน ไม่มีคนรัก”
เฉียวเยี่ยนรู้สึกเปรมปรีดิ์ ยอมเปิดปากพูดแล้ว ดีจังเลย!
นางเอ่ยต่อ “หลันหนิง? หลันที่แปลว่าดอกกล้วยไม้หรือ?”
หลันหนิงพยักหน้า จากนั้นก็หลับตานั่งทำสมาธิต่อ
แม้จะหลับตา แต่นางก็ได้กลิ่นอาหารโชยแตะปลายจมูกตลอด วินาทีที่เฉียวเยี่ยนเข้าใกล้นาง กลิ่นน่องไก่ก็ยิ่งแรงขึ้น กระเพาะว่างเปล่าของนางเริ่มร้อง กระทั่งเริ่มจินตนาการถึงรสชาติน่องไก่นั้น
เห็นนางรับประทานอย่างเอร็ดอร่อยเหลือเกิน มันน่าจะอร่อยมากแน่
เฉียวเยี่ยนจงใจเขย่ากระดูกน่องไก่ตรงหน้านาง และเอ่ยอย่างเสียดาย “น่าเสียดาย ข้าใช้เวลาทั้งบ่ายในการหมักออกมา เนื้อนุ่มสดใหม่ กลิ่นหอมเข้มข้น แม้แต่กระดูกก็ยังกรอบ แต่สุดท้ายเจ้าก็ไม่กิน”
หลันหนิงกลืนน้ำลายเบาๆ ตอนนี้นางอยากปิดปากเฉียวเยี่ยนมาก ยิ่งอีกฝ่ายพูด นางก็ยิ่งหิว!
“เฮ้อ ช่างเถิด หากเจ้าไม่กิน ข้าจะเอาไปให้คนอื่น เผอิญพี่ผู้คุมที่อยู่ข้างนอกยังไม่ได้กินข้าวพอดี”
หลันหนิง “…”
เจ้าเอาวางไว้ตรงนั้นแล้วออกไปไม่ได้รึ?
ขณะที่เฉียวเยี่ยนเอ่ย นางก็กินเนื้อไก่ทอดอีกครั้ง พลางอธิบายถึงรสชาติของเนื้อไก่ไปด้วย
หลันหนิงทนมาได้เค่อหนึ่ง ในที่สุดก็พ่ายแพ้ให้กับหญิงน่ารำคาญผู้นี้
นางลุกขึ้นจากพื้น เดินไปหยิบขาเป็ดที่โต๊ะขึ้นมากัด เป็นอย่างที่นางว่าจริงๆ กลิ่นหอมเข้มข้น เนื้อนุ่มละมุน
เมื่อเฉียวเยี่ยนเห็นเช่นนี้ ดวงตากลมโตงดงามก็ทอแววยิ้มอย่างมีชัย
ยัยตัวเล็ก! คอยดูแล้วกันว่าข้าจะเปลี่ยนเจ้าได้หรือไม่!
“เป็นอย่างที่ข้าพูดใช่ไหมล่ะ”
ขณะกล่าว นางก็เทสไปรท์เย็นจากในไหมาให้อีกฝ่ายแก้วหนึ่ง “ลองชิมดู น้ำนางฟ้าที่ข้าหมักเอง”
เฉียวเยี่ยนที่คุยโวโอ้อวดนึกขอโทษบริษัทโคคาโคล่าในใจ ในเมื่ออธิบายความเป็นมาไม่ได้ ก็ทำได้เพียงอ้างว่าตัวเองผลิตอย่างรู้สึกกระดากอาย
หลันหนิงหยิบแก้วขึ้นมาดม ในนั้นมีกลิ่นหอมของผลไม้จางๆ จึงคิดว่าเป็นเหล้าผลไม้
นางเงยหน้าดื่มลงไปจนหมด เมื่อเข้าสู่ปากมันรู้สึกเย็นๆ และแสบปากเล็กน้อย ราวกับในปากเกิดฟองขึ้นมา
สีหน้าขรึมของนางปรากฏท่าทางฉงนออกมาเล็กน้อย สายตาจับจ้องไปที่ไหในมือของเฉียวเยี่ยน
เฉียวเยี่ยนเข้าใจ ท่าทางเช่นนี้คืออยากจะลองชิมอีกครั้ง
นางยิ้มและเติมให้จนเต็มอีกครั้ง คราวนี้นางไม่ได้ดื่มหมดในคราวเดียวอีก แต่จิบเพียงเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ลิ้มรสมัน
เมื่อของเหลวเข้าสู่ปาก ฟองจะแตกอยู่ในปาก หลังจากนั้นสักครู่ฟองทั้งหมดก็จะหายไป เมื่อกลืนลงลำคอก็ไม่มีความรู้สึกแสบปากอีกแล้ว
นางไม่พูดอะไรเลย แม้จะคิดว่ามันน่าทึ่งมากๆ ทว่ายังคงมีท่าทางไม่แยแสเช่นเดิม
แม้จะแสดงออกว่าเย็นชา แต่ก็ยังกินดื่มไม่ขาดปาก
หลังจากกินข้าวผัดหยางโจวชามใหญ่เสร็จ ก็กินขาเป็ดสองขา น่องไก่หนึ่งขา ไก่สับกับยำแตงกวาก็กินไปไม่น้อย
ครั้งแรกที่ได้ดื่มสไปรท์ นางก็เหมือนเสพติดก็ไม่ปาน สไปร์ทไหหนึ่งเต็มๆ นอกจากเฉียวเยี่ยนดื่มไปสองแก้วแล้วที่เหลือก็เข้าท้องนางหมด
หลังจากกินอิ่มดื่มพอแล้ว นางก็เรอออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ บางทีอาจเป็นเพราะนางคิดว่ามันน่าเกลียดเกินไป ใบหูของนางจึงแดงเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย
จากนั้นนางก็รีบสงบเสงี่ยมลงอีกครั้ง และยังคงพูดเย็นชาเช่นเคย “ข้าเป็นหนี้บุญคุณเจ้า เจ้าสามารถถามคำถามข้าได้ข้อหนึ่ง หลังจากนั้น ข้าจะไม่ตอบคำถามใดๆ อีก”
เฉียวเยี่ยนยิ้ม “ได้ เจ้ามาจากไหน?”
หลันหนิง “…”
ขอล่ะ พี่สาว ข้าให้โอกาสเจ้าถาม แต่เจ้ากลับถามคำถามไร้ประโยชน์เนี่ยนะ?
นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกจับและอีกฝ่ายไม่ซักถามนาง แต่ชวนนางรับประทานทานอาหาร และตรวจสอบครอบครัวนาง!
หญิงตรงหน้าไม่แน่อาจจะป่วยหนัก!
นางระงับอาการใจร้อนอยากจะไล่เฉียวเยี่ยนออกจากห้องขัง และเอ่ยลอดไรฟัน “ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง!”
เฉียวเยี่ยนยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ”ข้าก็ถามไปแล้วไง หรือเจ้าต้องการให้ข้าถามอย่างอื่น?”
“ข้าขอเดาว่า เจ้าคงอยากให้ข้าถามว่าทำไมเจ้าถึงขโมยยา และใครคือผู้บงการอยู่เบื้องหลังเจ้าใช่ไหม? พวกนี้ไม่จำเป็นต้องถามหรอก ท่านอ๋องของข้าจะตรวจสอบให้กระจ่างเอง”
หลันหนิงยิ้มเยาะ “เจ้ามั่นใจในตัวเขาเสียจริง!”
เฉียวเยี่ยนเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง “คนของข้า ข้าย่อมมั่นใจอยู่แล้ว”
หลันหนิงนึกในใจ ‘วันนี้เราคุยกันต่อไปไม่ได้แล้ว!’
นางยังไม่ทันคิดกล่าวตอบโต้คำพูดของเฉียวเยี่ยน ก็ได้ยินนางวิเคราะห์ด้วยเหตุผลขึ้นมา
“เจ้ามีผิวแดงเรื่อสุขภาพดีและเปี่ยมล้นไปด้วยพลัง แน่นอนว่าเจ้าไม่ได้ขโมยยานี้เพื่อตัวเจ้าเอง ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเจ้าแน่”
“ประการต่อมา วรยุทธ์ของเจ้าไม่ธรรมดา การเคลื่อนไหวคล่องแคล่วเป็นอิสระ ไม่เหมือนว่าได้รับการฝึกแบบรวมกลุ่ม ดังนั้นข้ากล้าเดาว่าเจ้าเป็นคนในยุทธจักร”
“คนที่สามารถจ้างคนฝีมือดีเช่นเจ้าได้ จะต้องมีพื้นฐานครอบครัวที่ไม่ธรรมดา คนที่ทั้งป่วยและมีฐานะดีในเมืองหลวงก็มีไม่เท่าไหร่ ดังนั้น การสืบหาคนอยู่เบื้องหลัง จึงมีข้อจำกัดแค่ทางด้านเวลาเท่านั้น ”
“อย่างสุดท้าย เจ้าถูกจับมาคืนหนึ่งแล้ว ก็ยังไม่มีใครมาปิดปาก ดังนั้นข้าจึงแน่ใจว่าเจ้าก็ไม่รู้เช่นกันว่าใครอยู่เบื้องหลังเจ้า เจ้าแค่ทำงานแลกเงินก็เท่านั้น”
………………………………………………………………………………………………………………………….
(1)山不转水转 แม้นภูเขาไม่เคลื่อน น้ำยังคงไหลริน หมายถึง การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาทั้งดีและไม่ดี ดั้งนั้นตั้งสติเพื่อเผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้น
สารจากผู้แปล
ทรมานด้วยความหิวจนทนไม่ไหวต้องเอ่ยสารภาพมาเองสินะ ร้ายกาจ แต่น่าเสียดายผู้แปลกินข้าวแล้ว เรารอด
ไหหม่า(海馬)
Comments