ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 222 หลางหยาถูโต้
ตอนที่ 222 หลางหยาถูโต้
ตอนที่ 222 หลางหยาถูโต้
ยามนี้มีคนมามากมาย ทำให้ลานกว้างๆ ดูแน่นขนัดทันใด ชาวบ้านผู้ซื่อตรงและเหนียมอายเห็นคนมามากมายเช่นนี้ ก็ประหม่าจนไม่รู้ว่าจะวางมือเท้าไว้ที่ไหน
ในบ้านมีหวางเฟยคนหนึ่งพักอยู่ พวกเขาใช้เวลาไปตั้งหลายวันกว่าจะบีบให้ตัวเองยอมรับ และติดต่อสื่อสารกับหวางเฟยเป็นปกติ
แต่ตอนนี้แม้กระทั่งท่านอ๋องก็มา แถมยังพาองครักษ์ที่ดูเหมือนจะเก่งกาจมามากมาย อยากจะสงบอย่างไรก็สงบไม่ลงหรอก!
เฉียวเยี่ยนรู้ว่าความยิ่งใหญ่เอิกเกริกของพวกเขาทำให้ชาวบ้านตกใจ จึงรู้สึกเกรงใจเล็กน้อย
ในตอนที่กำลังจะปลอบโยนพวกเขา ก็เห็นมู่ฉินเจินหยิบถุงเงินจากข้างเอว โยนใส่ในมือของหัวหน้าครอบครัว ก่อนเอ่ยเรียบเฉย “ขอพักสองคืน เงินในนี้เป็นของพวกเจ้า ส่วนที่พักของพวกเจ้า คิดหาทางเองแล้วกัน”
ชายวัยกลางคนผู้ซื่อตรงเหนียมอายถือถุงเงินหนักแล้วก็ตกใจนิ่งค้างอยู่ที่เดิม แม้แต่ตาก็ไม่กระพริบ
เฉียวเยี่ยนมองพฤติกรรมอันป่าเถื่อนของท่านอ๋องแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก
พี่ชาย หากไม่ใช่เพราะท่านให้เงิน การกระทำของท่านก็ไม่ต่างอะไรกับอันธพาลดีๆ นี่เอง!
นางยิ้ก้าวไปข้างหน้าเอ่ยกับขายคนนั้นด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร “พี่ชายโปรดอภัยด้วย วันนี้พวกเขามาอย่างกระทันหัน ข้าเองก็ไม่ทันได้เตรียมตัว ฉะนั้นจึงทำได้เพียงรบกวนพวกเจ้าแล้ว”
หัวหน้าหมู่บ้านพูดตะกุกตะกักพลางโบกมือไม่หยุด “มะ…ไม่รบกวนเลย! พวกท่านอยากพักอยู่ถึงเมื่อไหร่ก็ได้เลย ขะ…ข้าน้อยจะพาครอบครัวไปที่บ้านพ่อตา!”
เขากล่าวจบก็หมุนตัววิ่งออกไป แต่หลังจากไปได้สองก้าว ก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ ก่อนหันกลับมายัดถุงเงินใส่มือเฉียวเยี่ยน
“หวางเฟยเหนียงเหนียง ข้ารับเงินนี้ไว้ไม่ได้ ท่านเก็บไว้เถิด พวกท่านเข้าพักได้เลยขอรับ”
แม้จะเป็นเงินของมู่ฉินเจิน แต่ตัวคนก็ดูเย็นชาเกินไป ดังนั้นเขาจึงมอบเงินให้เฉียวเยี่ยน อย่างไรพวกเขาก็เป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว จะให้ใครก็ล้วนเหมือนกัน
มีหวางเฟยมาพักอยู่ในบ้านก็เพียงพอจะให้เขาโอ้อวดอีกหลายปีแล้ว ตอนนี้มีท่านอ๋องมาอีก เขาย่อมต้องให้ลูกหลานเผยแพร่ถ่ายทอดเรื่องนี้ต่อๆ ไป!
ต่อให้เขาไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว พวกลูกหลานเหลนชนรุ่นหลังของเขาก็ยังรู้ว่าบ้านของพวกเขาเคยมีบุคคลสูงส่งสองคนมาพักอยู่ที่นี่!
เฉียวเยี่ยนประทับใจกับชาวนาเหล่านี้ เห็นๆ อยู่ว่านางไม่ได้นำอะไรมาให้พวกเขา เป็นพวกเขาเองที่ใช้ความจริงใจยิ่งใหญ่ของตัวเองมาปฏิบัติต่อนาง
นางยัดถุงเงินใส่มือหัวหน้าหมู่บ้านกลับ และเอ่ยอย่างจริงจัง “เจ้าต้องรับเงินนี้เอาไว้ ไม่เช่นนั้นเราจะไปพักอยู่ที่อื่น”
“เจ้าคิดเสียว่าตัวเองเปิดโรงเตี๊ยม และพวกเราเป็นลูกค้ามาพักอยู่ที่นี่ มาพักอยู่บ้านเจ้ากลับไม่จ่ายเงิน นี่มันเหมือนโจรปล้นชัดๆ หากเผยแพร่ออกไป คนข้างนอกจะว่าข้ากับท่านอ๋องอย่างไร เจ้าเองก็คงไม่อยากให้ข้ากับท่านอ๋องต้องแบกรับคำครหาว่าเป็นโจรลับหลังหรอกใช่หรือไม่?”
ชายผู้ซื่อสัตย์กังวลใจจนเกาหัว ห้าฝีปากของเขาก็เถียงสู้ฝีปากเดียวของหวางเฟยไม่ได้!
ในระหว่างที่เขากำลังกังวลใจอยู่นั้น ท่านอ๋องที่เงียบมาตลอดเมื่อครู่ก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “รับเงินไป นี่คือคำสั่ง! ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งเปิ่นหวาง จะฟ้องศาลลงโทษ!”
ทันใดนั้น ไม่รอให้ชายผู้นั้นพูดอะไรอีก ภรรยาของเขาก็ตกใจกลัวอย่างมากจนวิ่งเข้าไปหา ลากคนของตัวเองเข้าไปเก็บกระเป๋าในห้องอย่างรวดเร็ว แล้วพาทั้งครอบครัวรีบไปขึ้นเกวียนมุ่งไปยังบ้านพ่อตา
เฉียวเยี่ยนชำเลืองมองคนของตัวเอง ก่อนเอ่ยอย่างอารมณ์เสีย “ท่านมันเจ้ายศเจ้าอย่าง วางอำนาจบาตรใหญ่ ป่าเถื่อนอะไรเช่นนี้!”
มู่ฉินเจินขบขันกับการเปรียบเทียบของนาง ก่อนตอบอย่างสนุกสนาน “ใช่ ข้ามิเพียงวางอำนาจบาตรใหญ่ แต่ยังมิซื่อตรงด้วย!”
เฉียวเยี่ยนระอาสุดขีด เหตุใดเขาถึงเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางนัก?
เจ้าของบ้านไปแล้ว พวกองครักษ์ก็หาที่ปักหลัก ส่วนมู่ฉินเจินย่อมต้องพักห้องเดียวกับเฉียวเยี่ยนอยู่แล้ว
เหล่าบุรุษกำลังจัดเก็บห้อง เฉียวเยี่ยนจึงพาฮุ่ยเซียงกับหลันหนิงไปทำอาหารที่ห้องครัว เด็กน้อยทั้งสองก็กลายเป็นผู้ติดตามน้อยติดสอยห้อยตามเข้าไปในห้องครัว
นาง ฮุ่ยเซียง และหลันหนิงกินข้าวกลางวันแล้ว แต่กลุ่มคนที่มาจากเมืองหลวงต้องยังไม่ได้กินแน่
ห้องครัวในบ้านชาวบ้านไม่ได้ใหญ่เท่าตำหนักอ๋อง เมื่อมีคนจำนวนมากเข้ามาก็ดูแออัดขึ้นมาทันทีอย่างเห็นได้ชัด จะหันตัวก็ดูลำบาก เฉียวเยี่ยนจึงไล่หลันหนิงให้พาเด็กๆ ออกไปเล่นข้างนอก
หลันหนิงมีหน้าตาสะสวย วรยุทธ์ล้ำเลิศ พวกองครักษ์ในตำหนักสองสามคนล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง ทว่าฝีมือการทำกับข้าวนั้นไม่ผ่านจริงๆ
ระดับความสามารถของนางห่างกับการระเบิดห้องครัวไปเพียงสองชุ่น ครั้งก่อนเฉียวเยี่ยนกับฮุ่ยเซียงวุ่นอยู่ในเรือนกระจกและปล่อยให้นางกลับไปดูแลเรื่องกับข้าว นางก็แทบจะเผาห้องครัวทิ้ง
ทว่าโชคดีนางยังดูแลเด็กได้ วิชาตัวเบาของนางเทียบได้กับมู่ฉินเจิน อุ้มเด็กน้อยไว้มือละข้าง พาพวกเขาทยานบินขึ้นต้นไม้ ทำให้พวกเด็กๆ มีความสุขไม่น้อย
ผักในห้องครัวเป็นผักที่เฉียวเยี่ยนให้ฮุ่ยเซียงไปซื้อมาหลังจากเข้ามาพักอยู่ มีเนื้อมีข้าว และผักที่สามารถเก็บไว้นานได้
หลังมองผักสะระแหน่กับผักอวี๋ซิงเฉ่าอวบน้ำในตะกร้าผัก เฉียวเยี่ยนก็เตรียมจะทอดหลางหยาถูโต้ในคืนนี้
น่าเสียดายนางไม่มีมีดที่ใช้ทำหลางหยาถูโต้วโดยเฉพาะ จึงทำได้เพียงหั่นมันฝรั่งเป็นเส้นๆ
นำมันฝรั่งที่หั่นเป็นเส้นเสร็จไปล้างแป้งออกในน้ำสะอาดเพื่อป้องกันการเกิดอ็อกซิไดซ์ จากนั้นตักออกมาสะเด็ดน้ำให้แห้ง แล้วนำลงหม้อทอด
นางชอบกินมันฝรั่งทอดที่กรอบเล็กน้อย ดังนั้นจึงไม่ทอดให้สุกมาก เพื่อรักษารสสัมผัสที่กรอบเอาไว้
ใส่ผงพริก ซีอิ๊ว น้ำมันงา เครื่องปรุงเหล่านี้ลงไปในมันฝรั่งเส้นที่ทอดเสร็จแล้ว สุดท้ายใส่สะระแหน่ป่ากับผักอวี๋ซิงเฉ่า คลุกเคล้าให้เข้ากันก็รับประทานได้แล้ว
เผื่อบางคนที่ไม่คุ้นชินกับผักอวี๋ซิงเฉ่า เฉียวเยี่ยนจึงแบ่งมันฝรั่งเป็นอีกจาน ซึ่งจานนั้นไม่ใส่ผักอวี๋ซิงเฉ่า
ในฐานะที่เป็นของว่างมีชื่อเสียงบนรายการของว่างมาหลายปี ตั้งแต่ปัจจุบันถึงอดีตก็ไม่มีใครสามารถต้านทานกลิ่นหอมของหลางหยาถูโต้ได้ ทันทีที่ตักออกจากหม้อ ฮุ่ยเซียงที่อยู่ด้านข้างก็น้ำลายไหลนานแล้ว แม้แต่ผักอวี๋ซิงเฉ่าที่รู้สึกว่าเหม็นคาวในวันนี้ ยามนี้กลับดูน่าอร่อยมาก
ส่วนเด็กน้อยทั้งสองที่ถูกหลันหนิงพาอุ้มเหาะไปบนหลังคานอกบ้านได้กลิ่นหอมก็วิ่งกลับมายังห้องครัว
เฉียวเยี่ยนตักใส่จานให้พวกเขาเล็กน้อย ให้พวกเขายกไปกินนอกห้อง แล้วพวกองครักษ์ที่จัดเก็บห้องเสร็จก็รีบเข้ามา
ฮุ่ยเซียงกินไปด้วยดูไฟให้เฉียวเยี่ยนไปด้วย ขณะที่เฉียวเยี่ยนยืนอยู่หน้าหัวเตา ถือตะหลิวผัดกับข้าวอยู่
วันนี้เวลาเร่งรัดเกินไป นางจึงไม่ทันทำอาหารอะไรมากมาย มีผักกาดขาวผัดพริกดอง หมูสามชั้นทอด แล้วก็เนื้อรมควันกับไส้กรอกนึ่ง บวกกับหลางหยาถูโต้เข้าไปด้วย อาหารเย็นวันนี้ก็นับว่าครบหมดแล้ว
เป็นไปตามที่นางคาดไว้ หลางหยาถูโต้ได้รับคำวิจารณ์ที่ดี ยำผักอวี๋ซิงเฉ่าจานนั้นก็กลายเป็นจุดสนใจทั้งบริเวณนั้น
คนส่วนใหญ่ยอมรับรสชาตินี้ได้ มีบางคนที่ตอนกินเข้าไปคำแรกก็รู้สึกเหม็นมากๆ จวบจนเคี้ยวไปครู่หนึ่งกลับค้นพบว่ารสชาติวิเศษมาก และมิอาจหยุดกินได้
ฮุ่ยเซียงก็รู้สึกว่าผักอวี๋ซิงเฉ่าที่ปรุงรสแล้วอร่อยกว่าตอนที่เด็ดใบจากคันนามากินเปล่าๆ มากโข
หลังจากรับประทานเสร็จ ทุกคนต่างสัมผัสได้ถึงความเหนื่อยล้า พวกเฉียวเยี่ยนทำงาน ส่วนพวกมู่ฉินเจินรีบเดินทางมา
พวกเด็กๆ บังคับความง่วงเอาไว้ไม่ได้แล้ว พวกเขานั่งที่โต๊ะอาหารค่ำทั้งที่ปากมันเยิ้ม ก่อนจะเริ่มเคลิ้มหลับ
ฮุ่ยเซียงล้างหน้าให้พวกเขา และอุ้มพวกเขาเข้าไปในห้องของตัวเองกับหลันหนิง
ท่านอ๋องกับหวางเฟยห่างกันช่วงสั้นแต่ผูกพันรักมั่นยิ่งกว่าเพิ่งแต่งงาน คืนนี้จะต้องทำเรื่องที่บรรยายออกมาไม่ได้แน่ อย่าให้เจ้านายน้อยทั้งสองไปรับความทรมานนั้นเสียจะดีกว่า
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เมนูชวนน้ำลายสออีกแล้ว แต่ก็ยังขยาดผักคาวตองอยู่ดีค่ะ
ฮุ่ยเซียงรู้เหรอว่าท่านอ๋องจะทำอะไรหวางเฟย?
ไหหม่า(海馬)
Comments