ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 244 ลูกของนางโตกันแล้ว
ตอนที่ 244 ลูกของนางโตกันแล้ว
ตอนที่ 244 ลูกของนางโตกันแล้ว
เมื่อ ‘เฉียวเยี่ยน’ กำลังจะจากไป มู่ฉินเจินก็คลายมือที่กำแน่น ราวกับว่าตัดสินใจบางอย่างได้แล้ว
เขามองไปที่ใบหน้าของเฉียวเยี่ยน และเอ่ยในสิ่งที่เขาอยากจะพูดมานาน
“ขอโทษ”
นี่เป็นคำขอโทษอันล่าช้า เขายอมรับว่าตอนนั้นตนเองเย็นชาเกินไปที่ขับไล่นางไปอยู่ชนบท และเกือบทำให้นางถึงแก่ความตาย ทว่าเขากลับไม่นึกเสียใจเลย เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้น เขาคงไม่ได้พบกับคนที่เขารักมากที่สุดแล้ว
ความรู้สึกนี้ช่างย้อนแย้งเหลือเกิน จึงทำได้เพียงกล่าวคำขอโทษอันเล็กน้อยเท่านั้น
วิญญาณของ ‘เฉียวเยี่ยน’ ออกจากร่างไปอย่างช้าๆ ครั้นได้ยินคำพูดของเขาก็ตกใจมากอย่างเห็นได้ชัด ไม่คิดเลยว่าในชีวิตที่เหลืออยู่ของนางจะได้ยินเขากล่าวคำขอโทษกับตนด้วย
นางแย้มยิ้มแผ่วเบา “ท่านไม่ต้องขอโทษหรอก บางทีนี่อาจเป็นบัญชาสวรรค์ที่ดีที่สุดสำหรับพวกเราแล้ว”
นางเป็นคนไม่ฉลาด นิสัยก็อ่อนแอ เป็นเรื่องยากมากที่จะอยู่ในโลกอันปลิ้นปล้อนหลอกลวงใบนี้ แต่หลังจากได้ข้ามไปสมัยปัจจุบันก็ค้นพบว่าบนโลกใบนี้ยังมีอีกที่หนึ่งที่ไม่มีใครดูแคลนหรือรังแกนาง และชายหญิงล้วนเท่าเทียมกัน
ในโลกนั้นไม่มีการต่อสู้แย่งชิงกันมากนัก บุรุษกับสตรีต่างดิ้นรนเพื่อชีวิตของตัวเอง กระทั่งคนไม่มีสมองอย่างนางก็สามารถมีชีวิตที่ดีได้
เมื่อวิญญาณออกจากร่าง ร่างของเฉียวเยี่ยนก็ทรุดฮวบลงกับพื้น มู่ฉินเจินรีบโอบแขนรอบตัวนาง อุ้มนางขึ้นมาและจ้องหน้าอย่างตั้งใจ รอการกลับมาของคนที่เขาคุ้นเคย
หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวเยี่ยนก็ลืมตาขึ้น มู่ฉินเจินสบตากับนางและคลี่ยิ้ม เขาแน่ใจแล้วว่านี่คือคนที่เขาคุ้นเคยที่สุด
เฉียวเยี่ยนก็มองเขาด้วยรอยยิ้มเช่นกัน พลางโอบรอบคอเขาทั้งสองข้าง “ยินดีที่ได้พบท่านอีกครั้ง ท่านอ๋องที่รักของข้า”
นางฝังใบหน้าไว้ในอ้อมแขนของเขา ฟังการเต้นของหัวใจเขา ความรู้สึกตกเป็นคนของสมัยโบราณไม่เคยรุนแรงเท่านี้มาก่อน นับจากวันนี้เป็นต้นไป นางเป็นคนโบราณอย่างแท้จริงแล้ว!
ซูเนี่ยนหว่านกับเฉียวจิ่นมองสองสามีภรรยาที่กอดกัน ต่างยิ้มขึ้นมาด้วยความปลื้มใจ
ดีจริงๆ !
……
อีกไม่ช้าปีใหม่ก็จะย่างกรายมาถึงแล้ว ปีนี้ทั้งปีไม่ค่อยราบรื่น เฉียวเยี่ยนจึงวางแผนจะจัดงานรื่นเริง ชะล้างโชคร้ายของปีนี้ออกไป
นางรวบรวมข้ารับใช้ให้ไปเตรียมของสำหรับปีใหม่ แต่นางรู้สึกว่าช่วงนี้คนในตำหนักทำตัวแปลกๆ ราวกับว่ามีเรื่องบางอย่างปิดบังนางอยู่
แต่เมื่อนางถาม พวกเขาก็พูดเหมือนกันตั้งแต่ต้นจนจบว่าไม่มีเรื่องราวอะไร แม้แต่ลูกน้อยทั้งสองของนางเองก็เป็นเช่นกัน
ก่อนที่นางจะทันได้เข้าใจอะไร ฮองเฮาก็ส่งคนมาถ่ายถอดรับสั่งให้นางเข้าวัง ให้นางไปสอนวิธีทำขนมหวาน
ฮองเฮาหลงรักเตาเผาขนมปังในตำหนักอ๋องมานานแล้ว จึงให้คนสร้างไว้ในตำหนักคุนหนิงหนึ่งเตา และเพิ่งสร้างเสร็จไม่กี่วัน นางก็แทบรอให้เฉียวเยี่ยนเข้าวังมาสอนนางไม่ไหว
ด้วยการสอนนี้ ทำให้นางไม่สามารถออกจากวังมาได้หลายวัน
ในช่วงที่นางเข้าวังมา ก็ใช้เวลาคิดค้นของหวานต่างๆ ร่วมกับฮองเฮาอยู่ในครัวเล็กๆ ของตำหนักคุนหนิงทุกวัน ซึ่งฮองเฮาในตอนนี้เหมือนเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำก็มิปาน หากไม่ได้สำเร็จการเรียนรู้วิชาขนมหวานทั้งหมด นางก็จะไม่ยอมหยุด
นางพูดหลายครั้งว่านางต้องการออกจากวัง ทว่าฮองเฮาไม่ยอมปล่อยนางไป หากนางยืนกรานจะไป อีกฝ่ายก็จะทำตัวออดอ้อนนางเหมือนเด็กๆ
ช่วยไม่ได้ นางจึงทำได้เพียงใช้เวลาอยู่ในวังกับเด็กหญิงเฒ่า
ในครั้งนี้ลูกทั้งสองของนางกลับไม่เกาะติดอย่างน่าประหลาดใจ เมื่อรู้ว่านางจะเข้าวัง ก็โบกมือน้อยลาอย่างเชื่อฟัง แทบอยากไล่นางออกจากตำหนักไปให้เร็วที่สุด
นางยิ่งฉงนในใจมากขึ้น หรือว่าตนถูกตัดหางปล่อยวัดแล้ว?
จนกระทั่งวันที่ยี่สิบเก้าเดือนสิบสอง วันรุ่งขึ้นก็คือวันส่งท้ายปีเก่า เฉียวเยี่ยนจึงเอ่ยถึงความคิดที่จะออกจากวังกับฮองเฮาอีกครั้ง และในที่สุดฮองเฮาก็อนุญาตให้นางกลับบ้านในวันสิ้นปีได้
ตกดึกระหว่างนอนอยู่บนเตียงนุ่มในตำหนักคุนหนิง เฉียวเยี่ยนก็รู้สึกนอนไม่หลับ นางเข้าวังมาเจ็ดแปดวันแล้ว ท่านอ๋องของนางกลับไม่มาหานางเลย หรือภรรยาอย่างนางจะไม่สวยแล้ว?
ในเมื่อว่างจนไม่มีอะไรทำ นางก็คุยเล่นกับระบบตัวน้อย
“ระบบ เจ้าว่าช่วงนี้พวกคนในตำหนักกำลังทำอะไรกันอยู่ ไฉนข้าถึงรู้สึกว่าพวกเขาแปลกมากๆ ”
การแสดงออกของระบบตัวน้อยเหมือนกับปกติ ยังน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนเดิม และตอบกลับด้วยน้ำเสียงน่ารัก
[ไม่นะ ข้าจับตาดูอยู่ ไม่มีเรื่องอะไร]
นางโกหกจนเป็นนิสัย หลังพูดจบก็แอบหัวเราะในใจ
คิกๆ แน่นอนว่าพวกเขากำลังเตรียมทำให้ท่านประหลาดใจน่ะสิ แต่นางก็ไม่คิดจะบอกท่านโฮสต์หรอก เพราะอยากจะรอดูปฏิกิริยาของนางในวันพรุ่งนี้
เฉียวเยี่ยนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็จริง ระบบตัวน้อยของนางเป็นเครื่องตรวจจับเรดาร์ หากในตำหนักเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นจริง เด็กน้อยต้องบอกนางแน่นอน
หลังจากคุยกับเด็กน้อยไปจนถึงเที่ยงคืน นางก็สลึมสลือผล็อยหลับไป แต่เมื่อถึงยามเหมา ท้องฟ้าข้างนอกยังคงมืดอยู่ ประตูห้องของนางถูกผลักเปิดจากข้างนอกเข้ามา และมีนางข้าหลวงกรูกันเข้ามา
เฉียวเยี่ยนตกใจกับการเคลื่อนไหวนี้จนเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียง มือก็ทำท่าจะต่อสู้ และมองดูคนที่เข้ามาอย่างระแวดระวัง
ครั้นเห็นเสื้อผ้า เครื่องประดับศีรษะพวกนี้อยู่บนถาดในมือพวกนาง ก็สับสนมึนงง
แม่นมเฒ่าข้างกายฮองเฮาตามเข้ามาเช่นกัน ครั้นเห็นท่าทางของเฉียวเยี่ยน ก็ยิ้มอย่างใจดีขึ้นมา “หวางเฟยอย่าได้ตกใจ พวกบ่าวมาเพื่อทำผม แต่งตัวให้ท่าน”
เฉียวเยี่ยนรู้สึกสับสนเล็กน้อย และไม่เข้าใจ
ฟ้ายังไม่สว่างก็ลุกขึ้นมาทำผมแต่งตัว? นี่จะทำอะไรกัน?
ยังไม่ทันให้นางได้เข้าใจอะไร พวกนางข้าหลวงก็วางถาดในมือลง ก้าวเข้ามาช่วยพยุงนางลุกจากเตียง ก่อนพาเดินไปหลังฉากกั้น
ทันใดนั้นก็มีขันทียกน้ำร้อนเข้ามา เทลงในอ่าง ในอ่างถูกโรยด้วยเครื่องหอมกับกลีบกุหลาบ ไอความร้อนทำให้กลิ่นหอมอบอวลไปทั่วห้อง
เฉียวเยี่ยนถูกพวกเขาพาไปที่ข้างอ่าง พวกนางข้าหลวงพยายามปลดเสื้อผ้าของนางทั้งบนทั้งล่างออก นางหน้าซีดด้วยความตกใจ จับเสื้อผ้าตัวเองไว้แน่น
“พวกเจ้าจะทำอะไร? เช้าตรู่เช่นนี้อย่ามาเล่นลวนลามกับข้านะ!”
พวกนางข้าหลวงหัวเราะขบขันไปกับคำพูดของหวางเฟย แม่นมเฒ่าที่อยู่ด้านข้างรีบเอ่ยอธิบาย “หวางเฟย วันนี้เป็นมงคล ก่อนแต่งตัวทำผมต้องชำระร่างกายให้สะอาดก่อน”
เฉียวเยี่ยนยิ่งสับสนเข้าไปใหญ่ “ข้าแต่งงานแล้วนะ ลูกๆ ของข้าก็โตกันแล้วด้วย!”
นางหมดวัยนั้นไปแล้ว จะเอาวันมงคลที่ไหนมาอีก
หากไม่ใช่เพราะคนพวกนี้คือคนที่นางเคยเจอ นางคงมีเหตุผลที่จะสงสัยอย่างเต็มเปี่ยมว่าตัวเองทะลุมิติอีกครั้งแล้ว
พวกนางข้าหลวงยิ่งหัวเราะอย่างมีความสุขมากขึ้น และรีบแย่งกันอธิบายให้นางฟัง
เมื่อเฉียวเยี่ยนฟังจบ ก็ทบทวนความคิดหลายครั้ง ก่อนที่จะยอมรับเรื่องที่นางกำลังจะแต่งงานในวันนี้
ไม่คิดเลยว่าท่านอ๋องของนางจะโรแมนติกเป็น และขอให้ทุกคนปิดบังนาง เพื่อจะจัดงานแต่งงานให้กับนาง
เมื่อรู้เรื่องนี้ หัวใจนางก็หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งทันที ทั้งรู้สึกแปลกๆ ทั้งตื่นเต้น และแอบบ่นท่านอ๋องของนางอยู่ในใจ
เป็นพ่อคนแม่คนแล้วยังจะทำเรื่องยิ่งใหญ่เช่นนี้อีก ช่างไม่อายจริงๆ
ในใจนางมีฟองสีชมพูผุดขึ้นมา ระบบตัวน้อยฟังเสียงหัวใจที่เต้นแรงของโฮสต์ ก็เลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนเอ่ยติดตลกอย่างจุ้นจ้าน
[คนบางคน เป็นพ่อเป็นแม่คนแล้วยังหน้าไม่อาย!]
[ท่านโฮสต์ ขอให้ท่านมีลูกคนที่สองเร็วๆ มีลูกดกหัวปีท้ายปีนะ!]
เฉียวเยี่ยน “…”
นี่มองนางเป็นแม่หมูหรือ
ในใจเฉียวเยี่ยนเต็มไปด้วยความอ่อนหวานกับความคาดหวัง นางถูกสาวใช้เปลื้องผ้าเปลือยกาย ลงไปแช่ในอ่างน้ำร้อนหอมอบอวล สูดดมกลิ่นหอมบนร่างกายตัวเอง และรู้สึกว่าหากนางออกไปเต้นรำในตอนนี้ คาดว่าคงสามารถดึงดูดผีเสื้อมา และกลายเป็นสนมเสาวคนธ์(1)คนที่สองได้เลย
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็สวมชุดแต่งงานซึ่งทำจากผ้าอวิ๋นจิ่น(2)สีแดงปักลวดลายซับซ้อนและงดงามด้วยไหมทอง เมื่อสวมบนกายแล้วก็ดูหรูหราและสูงส่งยิ่ง
…………………………………………………………………………………………………………………………
(1)สนมเสาวคนธ์ เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์จีนซึ่งเชื่อกันว่า จักรพรรดิเฉียนหลงรับเป็นภรรยาในช่วงศตวรรษที่ 18 และเชื่อกันว่าจักรพรรดิเฉียงหลงโปรดนางมากเพราะว่ามีกลิ่นกายที่หอม มีอีกชื่อนึงว่า หรงเฟย
(2)云锦 ผ้าอวิ๋นจิ่น ผ้าไหมทอง หรืออาจเรียกว่าผ้าตาด เป็นผ้าปักลายดอก พื้นผิวเรียบ
สารจากผู้แปล
ขอแก้นิดนึงค่ะท่านอ๋อง ท่านไม่ได้ทำให้เฉียวเยี่ยนคนเดิมเกือบตาย ท่านทำให้นางตายเลยแหละ ส่งคนอย่างเฉียวเยี่ยนคนเดิมไปอยู่ชนบทแบบนั้นคิดว่านางจะใช้ชีวิตรอดเหรอ? นั่นไม่ต่างจากฆ่านางทั้งเป็นเลยนะ แต่ในเมื่อขอโทษแล้ว เฉียวเยี่ยนคนเดิมไม่ติดใจอะไรแล้ว เรื่องนี้ก็แล้วกันไปแล้วกันค่ะ ขอให้ท่านรักและดูแลเฉียวเยี่ยนคนปัจจุบันดีๆ ไม่งั้นเจอพลังสหบาทาจากผู้อ่านและผู้แปลแน่
จัดงานแต่งงานรับขวัญเฉียวเยี่ยนกลับมาเหรอ? โอเค ทำดีค่ะท่านอ๋อง เหมือนดักทางไว้เลยว่าต้องทำยังไงแม่ๆ ของเฉียวเยี่ยนจะอ่อนข้อให้ เกลียดคนรู้ทันจังว้า ๕๕๕
ไหหม่า(海馬)
Comments