ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 250 ไก่อ่อนจิกกัดกัน

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 250 ไก่อ่อนจิกกัดกัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 250 ไก่อ่อนจิกกัดกัน

ตอนที่ 250 ไก่อ่อนจิกกัดกัน

ไม่รอให้มู่เจ๋อจิ่นได้ถาม หลันหนิงก็อธิบายต่อ “ข้าได้ม้าน้ำมาโดยบังเอิญตอนที่ข้าเดินทางไปตามชายฝั่งเมื่อหลายปีก่อน มันมีขนาดเล็ก อาศัยอยู่ในทะเลลึก ยากมากที่จะจับได้ ”

“หลายปีมานี้ข้าได้รับมาแค่เพียงครั้งเดียว จากนั้นไปเสาะหาก็หาไม่เจออีกเลย”

หลันหนิงถอนหายใจอย่างเสียดาย พร้อมนำตัวยาม้าน้ำแห้งชิ้นเล็กๆ ออกมาให้เขาดู ตัวยาชิ้นนี้ถูกนางห่อไว้อย่างมิดชิด แค่เห็นก็รู้แล้วว่าปกติมันล้ำค่ามาก

นี่ก็เป็นของที่เฉียวเยี่ยนให้นางล่วงหน้ามาเช่นกัน

มู่เจ๋อจิ่นหยิบยาขึ้นมาสังเกตอย่างละเอียด และวางที่ปลายจมูกสูดดมกลิ่น เป็นของที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ

ทว่าความระแวดระวังของเขาที่คลายลงได้เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าหมอเทวดาตรงหน้าเขาขาดตัวยาจริงๆ หรือกำลังเล่นลูกไม้อะไรกับเขากันแน่

หลันหนิงยังคงสงบนิ่ง คิดในใจว่าคนๆ นี้ระวังตัวมากจริงๆ หากต้องการบุกเข้าไปในค่ายศัตรู ก็จำต้องใช้ยาที่แรงกว่านี้

นางเก็บหมอนชีพจรของตัวเองไว้ และเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบ “ม้าน้ำเป็นตัวยาจำเป็นสำหรับยาชูกำลังนี้ หากไม่มีมัน ประสิทธิภาพของยาจะลดลงอย่างมาก และข้าก็ไม่แน่ใจว่ามันจะรักษาอาการขององค์ชายได้หรือไม่”

มู่เจ๋อจิ่นขมวดคิ้วมุ่น ครุ่นคิดอยู่เนิ่นนาน ในที่สุดก็ตัดสินใจอย่างกล้าหาญ

มันเป็นความจริงที่ว่าร่างกายของเขาดีขึ้น และหลายปีมานี้ก็มีเพียงนางเท่านั้นที่สามารถรักษาอาการป่วยของเขาได้ ดังนั้นเขาจะลองเชื่อใจนางสักครั้งหนึ่ง

หากพบว่านางมีบางอย่างผิดปกติไป เขาจะกำจัดนางทิ้งทันทีแน่นอน!

เขาลุกขึ้น ทำความเคารพหลันหนิงด้วยความเคารพ ก่อนเอ่ยคำเชิญ “ข้าน้อยกับท่านหมอเทวดาเจอกันครั้งแรกดวงก็สมพงษ์กัน จึงอยากเชิญท่านหมอเทวดามาเยือนตำหนักเพื่อรักษาร่างกายของข้าน้อย หากท่านหมอมีเงื่อนไขใด ก็เอ่ยได้อย่างเต็มที่ ข้าน้อยจะทำให้สมใจ ส่วนตัวยาหายากทั้งสองอย่างนี้ ข้าน้อยก็จะส่งคนไปหาทันที ”

ใบหน้าของหลันหนิงเปื้อนรอยยิ้มจางๆ มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ในที่สุดปลาตัวใหญ่ก็ติดกับดักแล้ว

นางแสร้งทำเป็นปฏิเสธ “ไม่ต้องไปเยือนตำหนักหรอก ข้าเป็นคนชอบความสงบ ไม่ชอบความวุ่นวายในเมือง หากองค์ชายต้องการข้า ก็มาหาข้าได้ที่ยอดเขาหัวอวิ๋น”

เฉียวเยี่ยนบอกว่า ของที่ได้มาง่ายเกินไปบุรุษล้วนไม่พอใจ นางต้องยั่วเขา ให้เขาได้ลดเกียรติไปเชื้อเชิญถึงสำนักด้วยความจริงใจเช่นเล่าปี่ หากนางสัญญาว่าจะลงภูเขาไปอีก แบบนี้ความระแวดระวังของเขาก็จะลดลงมาก

ต่อมามู่เจ๋อจิ่นก็พูดข้อเสนอที่เย้ายวนใจมากมาย กระนั้นหลันหนิงล้วนปฏิเสธทั้งหมด และขับไล่เขากับผู้ติดตามออกไป ก่อนจะปิดประตู

มู่เจ๋อจิ่นไม่แปลกใจกับผลลัพธ์เช่นนี้เลยแม้แต่น้อย หากเขาเอ่ยข้อเสนอง่ายๆ และหมอเทวดาผู้นี้วิ่งแจ้นตามเขาไป เขาถึงจะต้องตรวจสอบตัวตนของนางดีๆ

หลังจากมู่เจ๋อจิ่นจากไป หลันหนิงจึงรีบส่งพิราบสื่อสาร นำเรื่องนี้ไปแจ้งเฉียวเยี่ยนอย่างรวดเร็ว

เฉียวเยี่ยนได้รับจดหมายแล้วก็รู้สึกพอใจมาก จึงสั่งให้นางยั่วเขาต่อไป เมื่อความระแวดระวังของเขาใกล้จะหายไปหมดแล้ว ค่อยแอบเข้าไปหาข่าวในค่ายศัตรู

เพื่อตั้งรับสถานการณ์นี้ นางจึงใช้ความพยายามอย่างมาก ยาที่ให้มู่เจ๋อจิ่นไปล้วนเป็นยาปัจจุบันที่ใช้สำหรับโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ซึ่งมีราคาแพงมาก

ยานี้สามารถปรับปรุงร่างกายของเขาให้ดีขึ้นได้ แต่หากอยากรักษาให้หายขาดหมด เขาต้องเข้ารับการผ่าตัด

เพราะร่างกายกำลังดีขึ้น มู่เจ๋อจิ่นก็คิดว่าตัวเองอาจจะหายได้ เฉียวเยี่ยนกำลังใช้ความกระตือรือร้นของเขาเพื่อล่อให้เขาติดเบ็ดไปทีละขั้น

เมื่อทราบแรงจูงใจของเขาทั้งหมดแล้ว ก็สั่งให้คนของนางถอนตัวและหยุดจ่ายยา เขาที่สมควรตายก็ต้องตาย

แต่ยาพวกนี้นางก็ไม่ได้ให้ไปเปล่าๆ นางให้หลันหนิงเก็บเงินจำนวนมากทุกครั้ง ไม่ปล่อยให้ตัวเองขาดทุนหรอก

มู่ฉินเจินรู้เรื่องนี้ก็ดีใจและทำอะไรไม่ถูก หญิงตัวเล็กของเขาขุดหลุมฝังคนอื่นยังไม่พอ ยังเอาเงินคนอื่นมาด้วย และที่สำคัญคนที่ติดกับดักยังรอโดนกับดับด้วย

……

วันที่สิบเจ็ดเดือนสาม สตรอเบอรี่ส่วนใหญ่ในเรือนสตรอเบอรี่เก็บเกี่ยวได้แล้ว เฉียวเยี่ยนพาฮุ่ยเซียงไปที่หมู่บ้านลวี่หลัวตั้งแต่เช้าตรู่ ตอนนี้สามพ่อลูกที่บ้าน คนโตกำลังยุ่งอยู่กับการฝึก ส่วนคนเล็กอีกสองคนยุ่งอยู่กับการไปสำนักศึกษา ไม่มีเวลาไปกับเก็บสตรอเบอร์รี่กับนาง

ตอนนี้สตรอเบอรี่ชุดนี้สุกก่อนเป็นอันดับแรก มีขนาดลูกใหญ่ สีสด หวานอมเปรี้ยว นางจึงเก็บให้กับคนในครอบครัวก่อน จากนั้นค่อยเริ่มขาย

ฮุ่ยเซียงกับเฉียวเยี่ยนหิ้วตะกร้าคนละใบ เดินไปมาในเรือนกระจก เลือกเก็บแต่ลูกใหญ่ๆ เก็บไปด้วยกินไปด้วย เมื่อตะกร้าเต็ม ตัวเองก็กินอิ่มพอดี

ระหว่างทางกลับจากหมู่บ้านลวี่หลัวไปเมืองหลวง จะผ่านถนนสายหลักไปค่ายทหาร เฉียวเยี่ยนมองสตรอเบอรี่แดงสดสองตะกร้า พลางอยากไปส่งให้มู่ฉินเจินที่ค่ายทหารเล็กน้อย

นางให้รถม้าพานางไปส่งที่ประตูค่ายทหาร ฮุ่ยเซียงกับคนขับรถม้ากลับตำหนักก่อน นางจะเข้าไปในค่ายทหารเพียงลำพัง

ทางเข้าค่ายทหารมีทหารคอยคุ้มกันหนาแน่น ทว่าทหารเฝ้าประตูรู้จักนาง ทันทีที่เห็นร่างนางก็ปล่อยให้ผ่านไปทันทีอย่างมีความสุข

เฉียวเยี่ยนทักทายพวกเขาไม่นาน ก็หยิบสตรอเบอรี่ให้พวกเขาคนละสองสามลูก ก่อนหิ้วตะกร้าเดินเข้าไป

เพิ่งเข้าไปภายในค่ายทหารไม่ทันไร ก็ได้ยินเสียงตะโกนของพวกทหารที่กำลังฝึกอยู่ในสนามฝึกดังมาแต่ไกล พวกเขาทำเพื่อเดินขบวนทัพในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า

นางไม่ได้เข้าไปหามู่ฉินเจินที่สนามฝึก แต่หิ้วตะกร้าเข้าไปในกระโจมของเขา และนั่งบนฟูกนุ่มรอเขากลับมาแทน

ไม่นานนัก เสียงฝีเท้าก็ดังมาจากนอกกระโจม เสียงนี้นางคุ้นเคยเป็นอย่างดีว่าเป็นบุรุษของนางเอง

นางรู้สึกอยากแกล้งขึ้นมา จึงไปซ่อนตัวอยู่หลังชั้นหนังสือ

มู่ฉินเจินเข้าไปในกระโจมเหมือนเช่นเคย จากนั้นก็นั่งลงหน้าโต๊ะ พลิกฏีกาในมือดู เฉียวเยี่ยนเห็นว่าเขาไม่เห็นตัวเอง ก็แอบหัวเราะเยาะสองครั้ง จากนั้นก็ก้มตัว ย่องเดินไปข้างหลังเขา

นางยื่นมือเรียวหยกคู่หนึ่งออกไป กอดเขาจากด้านหลังอย่างโอนอ่อน แสร้งทำเป็นเข้าไปใกล้อย่างนุ่มนวล และเอ่ยด้วยน้ำเสียงสะบัดสะบิ้ง “ท่านอ๋อง ข้าชื่นชมท่านมานานแล้ว อยากคอยปรนนิบัติอยู่เคียงข้างท่าน”

มู่ฉินเจินบีบมือเล็กๆ ที่สร้างปัญหาคู่นั้นไว้ ก่อนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม”ได้สิ บังเอิญว่าดอกไม้ในบ้านเปิ่นหวางชิมพอแล้ว ขอลองชิมดอกไม้ป่าเช่นเจ้าดูหน่อย”

เฉียวเยี่ยนหมดกำลังใจ เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกค้นพบแล้ว ก็กัดหูของเขาเบาๆ และพองแก้ม ทั้งดูงดงามและน่ารัก

“ที่แท้ท่านอ๋องก็ไม่ชอบดอกไม้ที่บ้านอย่างข้าสินะ งั้นก็ได้ ข้าจะรีบหาตำแหน่ง ให้ท่านได้หาดอกไม้ป่าสักสิบดอก”

มู่ฉินเจินยื่นมือไปโอบเอวนาง แล้วดึงมาเบาๆ ให้นางนั่งลงบนตักตัวเอง และหอมแก้มนาง “ดอกไม้ในบ้านออกจากบ้านมาก็เป็นดอกไม้ป่าแล้วมิใช่หรือ? สำหรับข้าแล้ว จะดอกไม้บ้านหรือดอกไม้ป่าล้วนเป็นเจ้า”

เฉียวเยี่ยนรู้สึกจั๊กจี้หน้ายามถูกเขาหอม จึงหดหัวตัวเอง พลางตบหน้าอกเขาด้วยรอยยิ้ม และบ่นอย่างออดอ้อน “กะล่อน จับข้าได้แล้วก็ไม่บอก”

“ทุกคำที่ข้าพูดต่างออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ เหตุใดพอมาถึงถึงฮูหยินถึงได้เป็นกะล่อนไปเสียล่ะ?”

มู่ฉินเจินไม่ปล่อยให้นางหนี มือใหญ่กดท้ายทอยนาง และหอมแก้มนางไปหลายฟอดก่อนจะหยุดลง

ทันทีที่นางเข้ามาในค่ายทหารก็มีคนมารายงานเขาแล้ว และเหตุผลที่เขากลับมาที่กระโจม ก็เป็นเพราะนาง

ระบบตัวน้อยดูทั้งสองหัวเราะสนุกสนานกัน พลันนึกคำหนึ่งขึ้นมาได้ ‘ไก่อ่อนจิกกัดกัน’

ไอ้ประเภทข้าหอมเจ้าเจ้าหอมข้าไปมา มันไม่ใช่ไก่อ่อนสองตัวจิกกัดกันหรอกรึ?

เมื่อเห็นโฮสต์ตัวเองหมกมุ่นอยู่กับความงาม และเมินเฉยต่อนางที่เป็นผู้เยาว์ในโลกระบบ นางใช้นิ้วอ้วนกลมจิ้มหน้าจอสองครั้ง กดเพลงหนึ่งให้โฮสต์ของนาง

“ฟังฉันพูดว่าขอบคุณ เพราะมีคุณมันถึงได้อบอุ่นทั้งสี่ฤดูกาล…”(1)

นางจะขอบคุณจริงๆ หากช่วยพิจารณาถึงคนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอย่างนางหน่อย!

………………………………………………………………………………………………………………………….

มาจากเนื้อเพลง 听我说谢谢你

สารจากผู้แปล

ระบบบอกเหม็นความรักจังเลยค่ะ ช่วยไปรักกันไกลๆ หน่อย

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *