ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 271 ภรรยากับลูกชายนอกสมรส

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 271 ภรรยากับลูกชายนอกสมรส at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 271 ภรรยากับลูกชายนอกสมรส

ตอนที่ 271 ภรรยากับลูกชายนอกสมรส

นางหาทางออกให้ตัวเอง และเรียกสาวใช้ส่วนตัวมาช่วยพยุงนางกลับไป

สาวใช้นามว่าหรูฮวาอยากเข้าไปช่วยพยุงนาง ทว่าเมื่อเห็นสายตาเย็นชาของท่านอ๋องซู่ นางก็ไม่กล้าขยับเขยื้อน

หลังจากการค้นหาสิ้นสุดลง ผู้ค้นหาก็ออกมารายงานว่าไม่พบสิ่งผิดปกติใด มู่ฉินเจินจึงไม่สนใจหญิงชราอีก ก่อนจะพาคนของตนจากไป

ทันทีที่อ๋องซู่จากไป ทุกคนในจวนสกุลหวังก็รู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ พลางสูดหายใจแรงๆ บรรยากาศที่กดดันเมื่อครู่ ทำให้พวกเขาไม่กล้าหายใจจริงๆ

ในขณะที่แม่เฒ่าหวังยังคงมีเหงื่อเย็นผุดท่วมตัวด้วยความตกใจกลัว โชคดีที่นางมีไหวพริบดี ไม่เช่นนั้นเข็มเล่มนั้นคงปักอยู่บนมือนางแล้ว

ยามมองไปทางที่มู่ฉินเจินจากไป แววมืดมนพลันแวบผ่านในดวงตานาง ไม่ได้การแล้ว จะปล่อยให้เรื่องราวจบเช่นนี้ไม่ได้!

ลูกชายของนางเสียชีวิตแล้ว ชีวิตในอนาคตย่อมไม่ราบรื่นเหมือนอย่างตอนนี้แน่ ดังนั้นนางต้องหาเงินให้มากหน่อย เพื่อวางแผนสำหรับอนาคต

อย่ามองญาติพี่น้องมาแสดงความเสียใจมากมายในตอนนี้เลย นางรู้ดีถึงความบิดเบี้ยวในใจของพวกเขา

ลูกชายนางไร้ทายาท มีเพียงหลานสาวไร้ค่าวัยห้าขวบ ทำให้ไม่มีใครสืบทอดกิจการครอบครัว คนเหล่านี้จึงต้องการให้บุตรตัวเองมารับสืบทอดทรัพย์สินของลูกชายนางต่อ

นางไม่ต้องการให้เงินของครอบครัวตกไปอยู่ในมือของคนนอก แต่หญิงชราอย่างนางมิอาจเอาชนะคนป่าเถื่อนผู้ทะเยอทะยานเหล่านี้ได้ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางรีดไถเงินจากตำหนักอ๋องซู่มาไว้ในมือให้ได้

เมื่อคิดได้ดังนี้ นางก็มองลูกสะใภ้ด้วยสายตาขุ่นเคือง ต้องโทษที่ท้องนางไม่ได้ดังหวัง ให้กำเนิดแต่ลูกสาวที่ไร้ค่าออกมา ปล่อยให้ตระกูลหวังไม่มีคนสืบทอดมรดก

ฮูหยินหวังสบเข้ากับสายตาขุ่นเคืองของหญิงชราก็รู้แล้วว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ จึงกอดลูกสาวไว้แนบแน่น และยิ้มอย่างเศร้าสร้อย

……

หลังจากที่มู่ฉินเจินออกจวนไป เขาก็สั่งเกาจัวหยวน “ไปสืบดูว่าตอนที่หวังจงมีชีวิตอยู่มีเรื่องด้านนอกหรือเรื่องรักใคร่อะไรหรือไม่ แล้วก็ตรวจสอบภรรยาของเขาด้วย”

แม้เกาจัวหยวนจะไม่เข้าใจ แต่ก็ไปทำตามคำสั่งทันที

มู่ฉินเจินนึกถึงพฤติกรรมของฮูหยินหวังเมื่อครู่ ก็ยิ่งสงสัยในตัวนางมากขึ้น

เมื่อครู่หญิงชราโวยวายจะฆ่าตัวตาย เกือบทุกคนที่อยู่หน้าโถงไว้ทุกข์ต่างรีบเข้ามาห้ามนาง มีเพียงฮูหยินหวังเท่านั้นที่ยังคุกเข่าอยู่ที่เดิมพร้อมกับลูกสาว และมองทุกอย่างด้วยสายตาเย็นชา

นี่แสดงให้เห็นว่า ระหว่างฮูหยินหวังกับหญิงชราต้องมีเรื่องขัดแย้งกันเป็นแน่ บวกกับสภาพของฮูหยินหวังที่มีอายุเพียงสี่สิบปี ทว่าใบหน้ากลับซีดเซียว จอนสองข้างมีสีขาว หน้าตาแห้งเหี่ยวไม่สมกับอายุของนางเลย

อีกทั้งสาวน้อยที่อยู่ข้างนางก็มีร่างกายบอบบางอ่อนแอ สีหน้าคล้ำหมอง แค่มองก็รู้แล้วว่าขาดสารอาหาร

จากการคาดเดาทั้งหมดนี้ ฮูหยินหวังผู้นี้น่าจะไม่เป็นที่โปรดปรานในจวน

เพราะไม่ได้รับความโปรดปราน จึงลงมือสังหารสามีตัวเอง จะว่าไปแล้วก็ดูสมเหตุสมผลทีเดียว

……

เรื่องที่เฉียวเยี่ยนเข้าคุกแพร่ไปถึงในวัง รวมถึงจวนสกุลเฉียว

ซูเนี่ยนหว่านกับเฉียวจิ่นไปเยือนเรือนจำตั้งแต่เช้าตรู่ เว่ยอวิ๋นซูก็ตามพวกเขามาด้วย

เมื่อเห็นลูกสาวนั่งเงียบๆ อยู่ในห้องขัง ซูเนี่ยนหว่านก็หลั่งน้ำตาออกมา

“เสี่ยวเยี่ยน แม่มาเยี่ยมเจ้าแล้ว ได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่? มีตรงไหนไม่สบายหรือเปล่า? มีใครมารังแกเจ้าไหม?”

นางเปิดปากถามติดต่อกันรัวๆ จนเฉียวเยี่ยนถอนหายใจออกมาเบาๆ นางรู้อยู่แล้วว่าจะเป็นเช่นนี้

ผู้คุมมาเปิดประตูให้พวกเขาอย่างรู้งาน คนในห้องขังนี้ไม่ใช่นักโทษ แต่เป็นบรรพบุรุษ!

ก่อนท่านอ๋องซู่จากไปก็ได้สั่งพวกเขาไว้ หากใครริอาจไม่เคารพซู่หวางเฟย ก็ไม่รับประกันว่าหัวจะยังติดกับบ่า

เฉียวเยี่ยนกอดมารดา พลางเช็ดน้ำตาให้ ก่อนเอ่ยปลอบ “ท่านแม่ ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าไม่เป็นไร ท่านดูสิข้ายังสบายดีอยู่เลย”

ขณะที่นางพูดก็หมุนตัวให้หญิงชราดูด้วย ซูเนี่ยนหว่านหัวเราะทั้งน้ำตา พลางใช้นิ้วจิ้มหน้าผากนาง และก่นด่าอย่างระอา “โตจนปานนี้แล้ว ยังทำให้แม่เป็นห่วงอีก”

หลังจากกล่อมหญิงชราแล้ว เฉียวเยี่ยนก็มองไปที่เฉียวจิ่นกับเว่ยอวิ๋นซู เมื่อเห็นพวกเขาตัวติดกันแถมยังมีบรรยากาศที่อธิบายไม่ถูก จึงหยักยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมาเล็กน้อย

นางมองเว่ยอวิ๋นซูอย่างหยอกล้อ ก่อนเอ่ยติดตลก “สีหน้าดูแดงปลั่งเป็นประกาย ดูเหมือนช่วงนี้จะได้รับการบำรุงเป็นอย่างดีสินะ”

เว่ยอวิ๋นซูหน้าแดง พลางมองค้อนนาง “มาถึงตอนนี้แล้ว เจ้ายังล้อข้าเล่นอีก รีบบอกมาเลยนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

เฉียวเยี่ยนเล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบให้พวกเขาฟัง เมื่อทั้งสามคนได้ฟังแล้วก็ตีหน้าขรึม

เว่ยอวิ๋นซูผู้มีอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นคนเริ่มเอ่ยก่อน “รอก่อนเถิด ข้าจะไปเอาความยายแก่ชั่วคนนั้น บังอาจเอ่ยรีดไถเงินห้าหมื่นตำลึงทอง ไม่ได้บ้วนปากในตอนเข้ารึไรถึงเอ่ยวาจาเหม็นเน่าเช่นนี้!”

เฉียวเยี่ยนรู้สึกอายที่จะบอกว่าตอนนั้นนางก็เอ่ยปากรีดไถทองหนึ่งแสนตำลึงกับเจียงอวี่เฉียนเหมือนกัน ที่หญิงชราทำกับนางนับว่ายังเกรงใจอยู่

นางเอ่ยปลอบ “เรื่องนี้พวกเจ้าอย่ายื่นมือเข้ามาแทรกดีกว่า ท่านอ๋องข้าจะทำทุกอย่างเอง”

แม้จะกล่าวเช่นนี้ แต่ทั้งสามคนก็ยังกลั้นโทสะไว้ไม่ไหว นี่ถือว่าเฉียวเยี่ยนประสบกับภัยพิบัติอันไร้เหตุผล คนอื่นมาตายในร้านของตัวเอง คนข้างนอกได้ยินลมเป็นฝนจนแพร่กระจายข่าวไปทั่ว ราวเห็นกับตาว่านางใส่ยาพิษในจานคนอื่น

ไม่เพียงแต่เป็นข่าวลือในหมู่ประชาชนเท่านั้น แม้แต่ตระกูลใหญ่ต่างๆ ในราชสำนักก็ยังหวาดระแวงซึ่งกันและกัน โดยคิดว่าใครเป็นคนวางกับดักเพื่อใส่ร้ายตำหนักอ๋องซู่

ในเวลาเพียงคืนเดียว ซูเนี่ยนหว่านกับเฉียวจิ่นได้รับเทียบเชิญมากมาย หลายครอบครัวพยายามล้วงข้อมูลจากปากพวกเขาภายใต้หน้ากากที่ว่าเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยง จึงถูกพวกเขาปฏิเสธทั้งหมดไปทีละคนๆ

ทั้งสามคนอยู่กับเฉียวเยี่ยนจนเช้า จากนั้นก็จากไปอย่างไม่เต็มใจ พวกเขาเพิ่งไปได้ไม่นาน มู่ฉินเจินก็หิ้วกล่องอาหารมากินข้าวกับนาง พร้อมบอกสถานการณ์ที่ไปตรวจสอบมาด้วย

มู่ฉินเจินส่งเกาจัวหยวนไปสืบเรื่องราวรักใคร่ของหวังจง ซึ่งก็พบเข้าจริงๆ

หวังจงมีบ้านเล็กบ้านน้อยอยู่ข้างนอก และบ้านน้อยนั้นยังให้กำเนิดลูกชายแกเขาด้วย ปีนี้อายุสี่ขวบแล้ว ทว่าทุกคนในจวนหวังเหมือนกับไม่รู้ว่าเขามีภรรยากับลูกชายนอกสมรสอยู่

ภรรยานอกสมรสคนนี้ถูกเขาเลี้ยงดูอยู่ในบ้านน้อยๆ หลังหนึ่ง มีสาวใช้คอยปรนนิบัติ แม้ไม่ร่ำรวยเหมือนตระกูลผู้ดี แต่ก็อยู่กันอย่างมีความสุข

แต่ฮูหยินหวังเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของหวังจง นางแต่งงานกับเขาก่อนที่เขาจะสอบผ่านจิ้นชื่อด้วยซ้ำ และหลายปีมานี้นางหาเลี้ยงชีพด้วยการเย็บปักถักร้อยเพื่อการสอบขุนนางของหวังจงมาโดยตลอด หลังจากหวังจงได้เป็นขุนนาง นางก็กลายเป็นฮูหยินของขุนนาง

แม้หวังจงจะเป็นขุนนาง แต่เขากลับยังคงอยู่กับภรรยาที่แก่ชราและร่วงโรยลง และได้รับชื่อเสียงที่ดีในราชสำนัก จนเหล่าบัณฑิตต่างยกย่องเขาว่ามีความรักและความชอบธรรม

แต่สิ่งที่คนนอกไม่รู้คือ เขาไม่เพียงแต่หาภรรยานอกสมรส เขายังไปอยู่กับภรรยาและลูกชายนอกสมรสเป็นประจำ ไม่สนใจใยดีภรรยาตามกฏหมายในจวนเลย แม้กระทั่งบุตรสาวแท้ๆ ของตัวเองก็ยังทุบตี

ส่วนแม่เฒ่าหวังก็มีท่าทางไม่ดีกับนาง เพราะฮูหยินหวังไม่ได้ให้กำเนิดบุตรชายแก่สกุลหวัง ดังนั้นกล่าวได้ว่า ฮูหยินหวังกับลูกสาวมีชีวิตย่ำแย่ยิ่งกว่าข้ารับใช้ในจวนเสียอีก

เมื่อเฉียวเยี่ยนรู้เรื่องราวภายในแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกว่าความสงสัยแต่เดิมของตัวเองถูกต้องแล้ว

ผู้หญิงที่ตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง มักจะทำเรื่องสุดโต่ง

หวังจงมีท่าทางเคร่งขรึมน่าเกรงขาม ทว่าไร้คุณธรรม ทอดทิ้งภรรยา แถมยังทุบตีดุด่าลูกสาวแท้ๆ เสมอ บวกกับแม่เฒ่าหวังที่เป็นแม่สามีอารมณ์ร้าย ความเป็นไปได้ที่นางจะลงมือจัดการหวังจงยิ่งมีสูงขึ้น

อีกอย่าง พิษที่ค่อยๆ ออกฤทธิ์ในร่างกายของหวังจง ต้องเป็นคนใกล้ชิดเท่านั้นที่จะกระทำเป็นแรมปีได้

ทว่าเรื่องนี้เป็นเพียงแค่การคาดเดาของนาง จำต้องหาทางสืบต้นตอของพิษรวมถึงให้นางถูกประหารให้ได้

นี่คือจุดที่มู่ฉินเจินแก้ไม่ได้ วันนี้เขาค้นหาทั่วทั้งจวนแล้ว แต่ก็ไม่พบต้อตอของพิษเลย บางทีอาจถูกทำลายหลักฐานไปนานแล้ว

ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ร่างของหวังจง หากผ่าชันสูตรศพได้ ปัญหายากๆ ส่วนใหญ่ก็จะคลี่คลายได้

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

เป็นไปได้นะที่หวังจงจะโดนเมียหลวงฆ่า บีบให้เขากับลูกมีชีวิตแบบนั้น เป็นใครใครก็แค้นอะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด