ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 275 แมวโง่ตัวน้อย
ตอนที่ 275 แมวโง่ตัวน้อย
ตอนที่ 275 แมวโง่ตัวน้อย
มู่ฉินเจินกับเฉียวเยี่ยนกลับเรือนจิ่งเสวียนไปได้ไม่นาน ฮุ่ยเซียงก็ยกอาหารออกมาจากครัวใหญ่ เตรียมกินข้าว
เด็กน้อยทั้งสามที่หน้าแดงก่ำจากการเล่นถูกลุงฉูตามกลับมา
เพิ่งออกจากคุกมา เช้านี้คนครัวจึงเตรียมอาหารที่หลากหลายมาก หมูตุ๋นน้ำแดง เจียวหมาจี[1] ปลาตุ๋นซอสถั่วหมัก ไข่ตุ๋นหมูสับ น้ำแกงเห็ดสามเซียน แล้วก็เครื่องเคียงอื่น ๆ
หลังจากวิ่งไปทั่วตำหนักมาหนึ่งรอบ เด็กทั้งสามก็หิวแล้ว เสี่ยวฉวนเอ๋อร์กับเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เหมือนแมวน้อยตะกละก็ไม่ปาน ยืนกลืนน้ำลายสูดกลิ่นหอมของอาหารอย่างหิวโหยอยู่หน้าโต๊ะ
ในขณะที่เสี่ยวอันอันเหมือนแมวโง่น้อยที่ยืนงงงวยอยู่ไม่ไกล จ้องอาหารบนโต๊ะใหญ่ และกลืนน้ำลายไม่หยุด
หอมจังเลย เมื่อก่อนในจวนมีอาหารอร่อยมากมาย แต่ส่วนใหญ่นางกับมารดาจะกินไม่หมด
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เด็กน้อยก็รู้สึกเศร้าสร้อยอีกครั้ง
แต่ก่อนที่นางจะได้ปรับอารมณ์ มือนุ่ม ๆ คู่หนึ่งก็จับมือน้อยของนาง นางเงยหน้าขึ้น สบตากับดวงตากลมโตสดใสของพี่อวี๋เอ๋อร์
“มาเถิด เราไปล้างมือกัน ล้างมือเสร็จก็กินข้าวได้แล้ว”
เสี่ยวอันอันได้ยินว่าตนกินอาหารพวกนี้ได้ ดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ และมีความสุขทันที พลางพยักหน้าน้อย และไปล้างมือกับเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์
เฉียวเยี่ยนรู้สึกปลื้มใจเมื่อเห็นภาพนี้ บางครั้งสหายวัยเดียวกันก็สามารถเอ่ยปากนุ่มนวลกว่านางได้ อีกทั้งช่วยให้เด็กน้อยปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่และสร้างความรู้สึกอยากอยู่ด้วยได้มากกว่าผู้ใหญ่
หลังจากล้างมือเสร็จ เด็กทั้งสามก็นั่งดี ๆ อย่างเชื่อฟัง รอให้เฉียวเยี่ยนตักอาหารให้พวกเขา
เสี่ยวฉวนเอ๋อร์กับเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ตอนกินข้าวทำให้คนไร้ความกังวลมาตั้งแต่เด็กแล้ว พวกเขาถือตะเกียบน้อย คีบกินอย่างเอร็ดอร่อย
และเสี่ยวอันอันก็เป็นเด็กดีที่ทำให้คนไร้กังวล กินโดยไม่เล่นไม่ส่งเสียงดัง และกินจนปากเยิ้มไปด้วยน้ำมัน
เด็กร่างกายอ่อนแอ ท้องไส้ไม่ค่อยดี เฉียวเยี่ยนไม่กล้าให้นางกินมากเกินไป จึงจำกัดการปริมาณอาหารของนาง จากนั้นก็ส่งคนไปเชิญหมอมาตรวจร่างกายให้นางอย่างละเอียด
โชคดีที่เจ้าตัวเล็กแค่ขาดสารอาหาร ไม่มีปัญหาอะไรมาก ค่อย ๆ บำรุงไปเดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้ว
มาถึงบ้านใหม่วันแรก เสี่ยวอันอันใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมาก
ท่านน้าคนสวยดีกับนางมาก และอ่อนโยนกับนางมาก แม้ท่านลุงหน้านิ่งจะดุไปหน่อย แต่ก็ไม่ด่านาง บางครั้งก็ยิ้มให้นางด้วย
พี่ฉวนเอ๋อร์กับพี่อวี๋เอ๋อร์พานางไปเล่นทั่วทุกที่ ให้ของกินอร่อย ๆ ของเล่นสนุก ๆ แก่นาง นางไม่เคยมีความสุขขนาดนี้มาก่อนเลย
เพียงแค่หนึ่งวัน เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์กับเสี่ยวอันอันก็สนิทกันจนเหมือนเป็นพี่น้องแท้ ๆ แล้ว อีกทั้งเจ้าปลาอ้วนยังดึงอันอันไปพักอยู่ห้องเดียวกับนาง
เฉียวเยี่ยนก็ตั้งใจไว้แบบนั้น เด็กเพิ่งมาอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ อาจจะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย การมีเด็กน้อยอยู่เป็นเพื่อนด้วย จะได้ลดความรู้สึกหวาดกลัวลงบ้าง
แต่ก่อนจะพาเสี่ยวอันอันกลับมาบ้าน นางกังวลว่าเด็กทั้งสองจะตำหนิเสี่ยวอันอัน ทว่าตามสถานการณ์ในตอนนี้เห็นได้ว่า เด็กน้อยทั้งสองได้มองนางเป็นน้องสาวแท้ ๆ แล้ว และชื่นชอบอย่างมาก นี่คือสิ่งที่นางหวังจะเห็นมากที่สุด
ตอนเย็น มู่ฉินเจินไปกล่อมเสี่ยวฉวนเอ๋อร์นอนในห้องเสี่ยวฉวนเอ๋อร์ ความจริงเสี่ยวฉวนเอ๋อร์นอนหลับไม่เคยต้องกล่อมมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว สองพ่อลูกเหมือนมาคุยเล่นกัน คุยเรื่องวีรกรรมคนดัง เหตุการณ์บ้านเมือง กล่าวคือ ไม่เหมือนหัวข้อระหว่างพ่อแม่ลูกเลย
ทว่าทั้งสองคนเข้าขากันอย่างน่าประหลาด คนหนึ่งเต็มใจเล่า อีกคนหนึ่งเต็มใจฟัง
เจ้าปลาอ้วนเคยฟังบิดาเล่าเหตุการณ์บ้านเมืองหนึ่งครั้ง ไม่กี่นาทีก็ผล็อยหลับจนสัปหงก
นางเลื่อมใสพี่ชายมาก ไม่คิดเลยว่าจะทนฟังเรื่องน่าเบื่อที่บิดาเล่าได้ แถมยังฟังอย่างสนุกสนานด้วย
นางคิดว่าพี่ชายจะต้องกลัวว่าจะไปทำร้ายจิตใจบิดา ถึงได้เอาอกเอาใจบิดาอย่างแข็งขัน
แต่นางเป็นนางฟ้าตัวน้อย นางฟ้าตัวน้อยต้องให้คนอื่นมาเอาอกเอาใจ ผู้ใหญ่อย่างท่านพ่อเอาอกเอาใจยากเกินไป มอบให้พี่ชายเป็นคนทำดีกว่า
เฉียวเยี่ยนกล่อมสาวน้อยทั้งสองนอนอยู่ในห้องเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์
เสี่ยวอันอันอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย และเปลี่ยนเสื้อผ้าผืนบางเก่าทรุดโทรมเป็นชุดนอนตัวน้อยของเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์
เจ้าปลาอ้วนมีเสื้อผ้าอยู่หลากหลายชุด บางตัวยังไม่ได้ใส่ หรือสวมแค่ครั้งสองครั้งก็ตัวเล็กเกินไปแล้ว ไม่สามารถใส่ได้อีก จึงถูกรื้อค้นออกมามอบให้เสี่ยวอันอัน
เด็กน้อยวุ่นตลอดทั้งคืนเหมือนมดตัวน้อย หยิบเสื้อผ้าสวย ๆ รองเท้าสวย ๆ ของเล่นต่าง ๆ ออกมาแบ่งให้น้องสาวที่รู้จักใหม่
เสี่ยวอันอันมองเสื้อผ้าสวย ๆ กองใหญ่ตรงหน้า ก็ตกใจเหมือนแมวโง่น้อย
พี่อวี๋เอ๋อร์ใจดีมาก ๆ ให้ของแก่นางเยอะแยะมากมาย แต่ท่านแม่เคยบอกว่ามนุษย์ต้องรู้จักพอ ไม่ควรอยากได้ของ ๆ คนอื่นมากเกินไป
นางเอื้อมมือไปดึงกระโปรงสีฟ้าจากในกองเสื้อผ้ามากอดไว้ในอ้อมแขน แล้วเอ่ยขอบคุณเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์อย่างนอบน้อม “ขอบคุณพี่หญิง ข้าขอแค่ตัวเดียวก็พอแล้ว”
เจ้าปลาอ้วนกระวนกระวายขึ้นมา และผลักกองเสื้อผ้าไปหานาง “ไม่ได้ ทั้งหมดนี่เป็นของเจ้า!”
พี่อวี๋เอ๋อร์ผู้รุนแรงขมวดคิ้วน้อยแน่น และเอ่ยห้ามเสี่ยวอันอันคัดค้าน
เฉียวเยี่ยนเห็นเด็กทั้งสองเข้าขากันได้เป็นอย่างดีก็รู้สึกชื่นใจมาก นางจับพวกเขาขึ้นเตียง ยัดเข้าใส่ในผ้าห่ม แล้ววางตุ๊กตาไว้ในอ้อมกอดคนละตัว แล้วจัดแจงผ้าห่มดี ๆ
“เอาล่ะ นี่มันก็ดึกมากแล้ว ได้เวลาฟังนิทานก่อนนอนแล้ว”
นี่คือกิจกรรมก่อนนอนของเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ทุกคืน นางคุ้นเคยเป็นอย่างดีและปรบมือรอมารดาเล่านิทาน ทว่าเสี่ยวอันอันกลับใคร่รู้มาก นางไม่เคยฟังนิทานก่อนมาก่อนเลย
เฉียวเยี่ยนเอามือแปะหลังเด็กน้อยทั้งสองเบา ๆ ก่อนเอ่ยเสียงแผ่ว “อวี๋เอ๋อร์แบ่งปันของของตัวเองให้น้อง เป็นการกระทำที่สง่างามและยอดเยี่ยมมาก พิสูจน์ได้ว่าเด็กดีโตขึ้นเยอะเลย ส่วนอันอันรู้จักขอบคุณพี่ นับว่าเยี่ยมมากเหมือนกัน”
“แต่อันอันก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ของพวกนี้พี่สาวเต็มใจมอบให้เจ้า อีกอย่างหากเจ้าไม่เอาล่ะก็ เสื้อผ้าสวยงามเหล่านี้ก็จะถูกพับเก็บไว้ในตู้ ไม่แน่อาจจะขึ้นรา จากนั้นก็อาจจะใส่ไม่ได้อีก”
“อันอันอยากให้ชุดกระโปรงสวย ๆ เหล่านี้ขึ้นราหรือ?”
เสี่ยวอันอันส่ายหน้าอย่างเร่งรีบ และตอบกลับเสียงเบามาก “ไม่อยาก”
ชุดกระโปรงสวยงามขนาดนี้ นางไม่เคยเห็นมาก่อน หากมันขึ้นราก็น่าเสียดายมาก
เฉียวเยี่ยนลูบใบหน้าน้อยของนาง ก่อนเอ่ยอย่างอ่อนโยนต่อ “ดังนั้นอันอันเต็มใจจะทำเรื่องดี ๆ ไหม? ช่วยพี่สาวสวมชุดกระโปรงสวย ๆ เหล่านี้ ไม่ให้พวกมันได้ขึ้นรา”
เมื่อได้ยินเฉียวเยี่ยนเอ่ยเช่นนี้ เสี่ยวอันอันก็ตอบตกลงอย่างดีใจ นางหาใช่เด็กไม่ดีจอมละโมบ นางกำลังทำเรื่องดี ๆ ต่างหาก
หลังจากพูดเรื่องเหล่านี้จบ เฉียวเยี่ยนก็หยิบสมุดนิทานเด็กข้างเตียงมาเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟัง ท่ามกลางเสียงเล่าอันนุ่มนวล พวกเขาก็ค่อย ๆ จมสู่ห้วงแห่งความฝัน
เมื่อออกมาจากห้องเด็ก ๆ ก็เจอเข้ากับมู่ฉินเจินที่ออกมาจากห้องเสี่ยวฉวนเอ๋อร์พอดี สองสามีภรรยายิ้มให้กัน และเดินตรงไปยังศาลาในลานบ้านอย่างไม่ต้องอธิบายอะไร
พวกเด็ก ๆ หลับกันหมดแล้ว สองสามีภรรยาจึงดื่มด่ำไปกับโลกของเราสองคนอย่างเงียบ ๆ
มู่ฉินเจินกอดเฉียวเยี่ยนไว้ ให้นางหนุนแขนตัวเองเป็นหมอน ดูดวงดาวบนฟากฟ้าด้วยกัน พลางคุยเรื่องสัพเพเหระไปด้วย
“เจ้าวางแผนจะทำอย่างไรกับอันอัน?”
เฉียวเยี่ยนได้ยินคำถามเขา ก็เอ่ยแผนที่เตรียมไว้นานแล้วของตัวเองออกมา
“ข้าคิดว่ารอผ่านไปอีกสักระยะหนึ่ง รอให้อันอันเข้ามาอยู่ในครอบครัวเราอย่างสมบรูณ์แล้ว ข้าค่อยถามความเห็นของนาง หากนางยอมเปลี่ยนใจ เช่นนั้นเราก็จะเป็นพ่อแม่ให้นาง หากไม่ยินยอม เช่นนั้นก็แล้วแต่นาง สรุปนางเป็นเด็กในบ้านเราก็พอแล้ว”
อันอันจดจำเรื่องต่าง ๆ ได้แล้ว หากจะให้นางเชื่อว่าพวกเขาเป็นพ่อแม่แท้ ๆ ของนาง มันเป็นไปไม่ได้เลย และนางอยากเคารพความต้องการของนาง
มู่ฉินเจินพยักหน้า มีเด็กมาเพิ่มก็ดีเหมือนกัน บ้านจะได้ยิ่งคึกคัก อีกอย่างเขาก็รู้สึกว่าเด็กน้อยคนนั้นว่านอนสอนง่ายมาก
[1] เจียวหมาจี 椒麻鸡 ไก่ต้มแช่เย็นราดน้ำยำรสเผ็ดชา
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
อันอันน้อยได้มาอยู่บ้านใหม่แล้ว โชคดีจังที่เจ้าเด็กแสบสองคนยอมรับน้อง
ไหหม่า(海馬)
Comments