ตอนที่ 278 มู่ถง (ระบบมู่) มู่ถง (ถังไม้)

ตอนที่ 278 มู่ถง (ระบบมู่) มู่ถง (ถังไม้)

วันต่อมาหลังเด็กทั้งสามตื่นขึ้นมา ก็พบว่ามีเพื่อนตัวน้อยเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน ใบหน้าทั้งสามต่างเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ แม้แต่ปากน้อยก็ยังอ้ากว้าง

แม้พวกเขาจะไม่รู้จักระบบตัวน้อย แต่ระบบตัวน้อยคุ้นเคยกับพวกเขาเป็นอย่างดี จึงโบกมืออ้วนท้วนของตัวเองอย่างกระตือรือร้น

“อรุณสวัสดิ์ทุกคน”

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะได้สติกลับมา และเอ่ยอย่างมีความสุข “ท่านแม่ ท่านเก็บน้องอีกคนมาให้ข้าหรือ?”

เมื่อก่อนคนตัวเล็กเป็นน้องเล็กสุดของครอบครัว ล่าสุดก็มีเสี่ยวอันอันมา ทำให้นางได้สัมผัสความรู้สึกของการเป็นพี่สาว ตอนนี้มีน้องสาวแสนสวยมาเพิ่มอีกหนึ่งคน พี่สาวอย่างนางรู้สึกแข็งแกร่งกว่าที่เคย

เฉียวเยี่ยนยิ้ม และแนะนำให้กับเด็กน้อยทั้งสาม “นี่ไม่ใช่น้องสาว แต่เป็นพี่สาวคนโตของพวกเจ้าต่างหาก”

ระบบตัวน้อยดูเหมือนมีอายุสี่ห้าขวบ รูปร่างยังไม่สูงเท่าเสี่ยวฉวนเอ๋อร์กับเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ก็จริง แต่จิตใจของนางเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็กทั่วไป สามารถเป็นพี่สาวของเด็กทั้งสามได้

เมื่อได้ยินเช่นนี้ แม้แต่เสี่ยวฉวนเอ๋อร์ที่มีใบหน้าเคร่ขรึมก็แสดงสีหน้าอย่างอื่นออกมา เขามองรูปร่างอ้วนกลมของระบบตัวน้อย ไม่คิดเลยว่าเจ้าก้อนกลมๆ นี้จะเป็นพี่สาวของพวกเขา

ครั้งแรกที่ออกจากทะเลแห่งจิตสำนึกมาเป็นคน ระบบตัวน้อยทั้งมีความสุขทั้งตื่นเต้น เมื่อมองไปยังน้องชายน้องสาวในอนาคต นางก็วางแผนที่จะรวมกองพลพวกเขาโดยเร็วที่สุด

ด้วยเหตุนี้นางจึงเหมือนเป็นนักมายากลก็ไม่ปาน จู่ๆ ก็มีขนมสองถุงปรากฏอยู่ในมือ นางโบกมือให้เด็กทั้งสามเหมือนพี่สาวคนโต “ไปกัน พาพวกเจ้าไปกินขนม!”

เด็กทั้งสามเห็นของปรากฏขึ้นมาในมือนางอย่างกะทันหัน ก็ยิ่งเบิกตาที่เดิมทีก็กว้างอยู่แล้วยิ่งกว้างเข้าไปอีก เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์กับเสี่ยวอันอันเอามือปิดปากเล็กด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เสี่ยวอันอันเอียงศีรษะเอ่ยด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว “พี่หญิงเป็นนางฟ้าตัวน้อยหรือ?”

ระบบตัวน้อยเท้าเอวอ้วนกลมของนาง พลางเงยหน้าขึ้นหัวเราะอย่างโง่เขลา เป็นคนวันแรกก็ถูกเรียกว่านางฟ้าแล้ว ชีวิตช่างมีความสุขอะไรเช่นนี้

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์จ้องขนมในมือระบบตัวน้อยไม่วางตา พลางกลืนน้ำลายอย่างไม่ย่อท้อ

ช่วงนี้ฟันนางเริ่มเปลี่ยน ท่านแม่ยึดขนมทั้งหมดของนางไป ตอนนี้ เห็นของอร่อยๆ ในดวงตากลมโตคลอหยาดน้ำพลันเปล่งประกายเจิดจรัส ราวกับว่าจะพุ่งเข้าไปตะครุบในวินาทีถัดไป

ในเวลาเพียงไม่นาน ระบบตัวน้อยก็ซื้อตัวน้องเล็กได้สำเร็จสองคน ส่วนเสี่ยวฉวนเอ๋อร์นั้น เขายังรู้สึกว่าเจ้าก้อนกลมที่เตี้ยกว่าเขานี้ไม่ควรเป็นพี่สาวของพวกเขา

ระบบตัวน้อยที่ตื่นเต้นเกินไปมาก ตบหน้าอกน้อยของตัวเอง และโบกมือให้น้องทั้งสาม “ไปกันเถิด พวกเรากินไปด้วยเล่นไปด้วย”

คิ้วเฉียวเยี่ยนกระตุก เตรียมหิ้วระบบตัวน้อยที่กำลังจะไปเล่นกลับมา และตีก้นน้อยๆ ของนางสองครั้ง

สัมผัสที่กลมและนุ่มนิ่มนั้น ทำให้นางอดตีไปอีกสองครั้งไม่ได้!

นางหัวเราะในใจอย่างบ้าคลั่ง ในที่สุดก็ได้ตีตูดเจ้าเด็กนี่แล้ว!

ระบบตัวน้อยที่ถูกตีตั้งแต่เป็นคนวันแรกตกตะลึง ขนมในมือร่วงหล่นลงพื้น ก่อนรีบเอามืออ้วนๆ กุมก้นน้อยไว้ และตะโกนอย่างดุดันแบบเด็ก “ท่านโฮสต์ ท่านมันไร้คุณธรรม! ท่านรังแกเด็ก!”

เฉียวเยี่ยนลูบหัวนางสองครั้ง “ฉวนเอ๋อร์กับอวี๋เอ๋อร์ฟันแท้กำลังขึ้น ห้ามกินขนม อันอันร่างกายอ่อนแอ กินขนมมากเกินไปไม่ดี เจ้าที่เป็นพี่สาวควรเป็นตัวอย่างที่ดี ห้ามนำพวกเขาต่อต้าน”

จู่ๆ ระบบตัวน้อยก็เหี่ยวเฉาลง แม้จะยังไม่ยอมรับอยู่เล็กน้อย กระนั้นก็หางลู่หูตกไปแล้ว

เมื่อเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ได้ยินว่าไม่มีขนมที่จะถึงปากตัวเองแล้ว ก็อดคร่ำครวญแทนปากตัวเองไม่ได้

ปากเอ้ย ขอโทษจริงๆ หลายวันมานี้เจ้าคงหิวโหยแย่แล้ว!

เฉียวเยี่ยนแสร้งทำเป็นไม่เห็นความคิดของเจ้าปลาอ้วน ท่าทางตัวเล็กตัวน้อยนั้น แทบเขียนคำว่าอยากกินแปะไว้บนหน้าผาก

ทันใดนั้นนึกถึงระบบตัวน้อยเรียกนางเมื่อครู่ได้ นางก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เราต้องเปลี่ยนการเรียกชื่อ จากนี้ไปข้าเป็นแม่เจ้า เขาเป็นพ่อเจ้า จำไว้อย่าเรียกผิด”

ขณะกล่าวนางก็ชี้ไปที่มู่ฉินเจิน เด็กซนนี้เอาแต่เรียกมู่ฉินเจินว่าพี่มู่คนหล่อมาตลอด หากเรียกชื่อนี้ออกมาตอนอยู่ต่อหน้าคนอื่น ต้องเป็นเรื่องตลกขบขันแน่

ระบบตัวน้อยแสร้งทำเป็นชักกระตุก และเอ่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อ”ข้าปฏิบัติต่อท่านเป็นโฮสต์ แต่ท่านกลับอยากเป็นแม่ข้า!”

นางมองไปที่มู่ฉินเจินอีกครั้ง และเอ่ยดราม่าต่อ”เคยมีผู้ชายหล่อเหลาคนหนึ่งมาอยู่ตรงหน้าข้า แต่ตอนนี้เขากลับเป็นพ่อข้า”

รอยยิ้มบางเบาบนใบหน้ามู่ฉินเจินแข็งทื่อ คำพูดเหล่านี้เมื่อออกมาจากปากเด็กน้อย มันก็ค่อนข้างทำให้คนยอมรับว่าไร้ความสามารถ

ขมับเฉียวเยี่ยนเต้นกระตุก เจ้าดราม่าตัวน้อยนี้ เพิ่งออกมาก็ทำแสบแล้ว จากนี้ไปต้องนำอีกสามคนซุกซนไปทั่วแน่

เมื่อนึกถึงชีวิตที่มีสีสันในอนาคต นางก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “พอได้แล้ว เก็บทักษะการแสดงของเจ้าซะ เราสองคนเก่งขนาดนี้ เป็นพ่อแม่เจ้าไม่เสียเปล่าหรอก”

“แล้วก็ชื่อของเจ้าก็ต้องเปลี่ยนด้วย ออกมาแล้วชื่อว่าระบบตัวน้อย อธิบายไม่ค่อยได้เท่าไหร่”

นางเอียงศีรษะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พลันตบหัวตัวเองไปทีหนึ่ง และนึกชื่อดีๆ ชื่อหนึ่งขึ้นมาได้ “ไม่งั้นเจ้าชื่อว่ามู่ถงดีหรือไม่?”

ระบบตัวน้อย “…”

จะให้นางชื่อว่าสุ่ยถง(ถังน้ำ)หรือ?

เมื่อคำพูดนางออกมา มู่ฉินเจินก็อดหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ได้ “เด็กผู้หญิงใช้ชื่อนี้ฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่”

มู่ถง (ระบบมู่) มู่ถง (ถังไม้)

วันหน้าถ้าคนอื่นมาถามชื่อ ไม่หัวเราะตายเลยหรือ

เฉียวเยี่ยนแค่ล้อเล่น เมื่อเห็นท่าทางพูดไม่ออกของระบบตัวน้อย ก็รู้สึกสดชื่นมาก

ทีนี้ยังจะทำซ่าอยู่อีกไหม!

แต่คิดมาครึ่งค่อนวันแล้ว ก็ยังคิดชื่อที่ทั้งน่าฟังทั้งเหมาะกับตัวตนของระบบตัวน้อยไม่ออก

ระบบตัวน้อยถอนหายใจออกมาอย่างยอมจำนน ก่อนเอ่ยด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว “มู่ถงก็มู่ถง ใครให้ข้าเป็นแค่ระบบตัวน้อยกัน”

ชื่อของพวกเขาในโลกระบบเป็นตัวเลขทั้งหมด เช่นนาง มีเลขคือ 999999 เพียงแต่นางเป็นองค์หญิงน้อยแห่งโลกระบบ จึงไม่มีใครเรียกเลขประจำตัวนาง

เด็กทั้งสามตามจังหวะของพ่อแม่กับพี่สาวคนใหม่ไม่ทันแล้ว พวกเขาฟังจนเวียนหัว ตอนนี้รู้เพียงสิ่งเดียวว่าพี่สาวคนใหม่ของพวกเขามีชื่อที่โด่งดังกังวานมากคือ ‘มู่ถง!’( ถังไม้)

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์กับเสี่ยวอันอันต่างมองพี่มู่ถงด้วยสายตาเลื่อมใส ชื่อนี้เท่มาก ไม่ซ้ำใคร พวกเขาก็อยากจะมีเหมือนกัน!

และเสี่ยวฉวนเอ๋อร์กำลังครุ่นคิดบทสนทนาของพวกเขาเมื่อครู่ นางบอกว่านางเป็นถงจื่อ(ถัง)ใบหนึ่ง หรือว่านางเป็นมู่ถง(ถังไม้)กลายวิญญาณกัน?

ดังนั้นถึงได้เป็นพี่สาวของพวกเขาได้?

มู่ถงที่เพิ่งออกมาสดๆ ใหม่ๆ อาศัยเสน่ห์ความเป็นผู้นำเฉพาะตัวของตัวเองจนกลายเป็นผู้บังคับบัญชาของเด็กทั้งสามในไม่ช้า แม้แต่เสี่ยวฉวนเอ๋อร์ก็ยังถูกบังคับให้ยอมรับพี่สาวคนนี้

ระบบตัวน้อยมาจากโลกระบบ ดังนั้นสมรรถภาพทางกายและความสามารถจึงแตกต่างจากคนทั่วไปโดยสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น สามารถกระโดดขึ้นไปบนหลังคาบ้านได้อย่างสบาย สามารถเปิดหลังคากระเบื้องได้ด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียว หรือสะบัดมือในอากาศ แล้วของปรากฏออกมาอยู่ในฝ่ามือทันทีได้

ด้วยทักษะอันน่าอัศจรรย์เหล่านี้ เด็กทั้งสามที่ถูกนางล่อลวงต่างก็ปรบมือพลางชื่นชมว่าเยี่ยมติดต่อกัน

เฉียวเยี่ยนมองระบบตัวน้อยที่นำพวกเด็กๆ เล่น และเอ่ยกับมู่ฉินเจิน”วันเวลาอันสงบสุขของเราน่าจะสิ้นสุดลงแล้ว”

แต่มู่ฉินเจินกลับมองเด็กๆ ที่เล่นกันอย่างสนุกสนานด้วยใบหน้าอ่อนโยน

“คึกคักหน่อยก็ดี”

เฉียวเยี่ยน “…”

พี่ชาย ยามลูกน้องใต้บังคับบัญชาของท่านเล่นโวยวายเช่นนี้ ไยจึงไม่เห็นท่าทางนี้ของท่านเลย?

หลังจากมู่ฉินเจินผู้รักเด็กโดยไม่มีขีดจำกัดค้นพบว่าระบบตัวน้อยมีความสามารถในการยกกระเบื้องในบ้าน จึงสอนวิชาตัวเบาให้พวกเด็กๆ สามคน

เสี่ยวฉวนเอ๋อร์กับเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์มีพื้นฐานการต่อสู้ในระดับหนึ่งแล้ว สามารถเริ่มเรียนวิชาตัวเบาได้ เสี่ยวอันอันก็แค่เข้าไปเล่นร่วมด้วย

ท่านั่งม้าก็นั่งได้อย่างบิดๆ เบี้ยวๆ เรียนหมัดมวยกับพวกพี่ๆ สิบกระบวนท่าไม่แม่นยำไปแล้วเก้าท่า

มู่ฉินเจินจนใจ เห็นทีเจ้าเด็กคนนี้จะไม่มีพรสวรรค์ทางด้านศิลปะการต่อสู้เสียแล้ว

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

รอชื่อใหม่ของระบบนะคะ ระหว่างนี้ชื่อมู่ถงก็น่ารักดีเหมือนกัน

ตำหนักอ๋องซิวเตรียมเละแน่ มีเด็กสี่คนอยู่ในบ้าน

ไหหม่า(海馬)