ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 290 เจ้าสิ่งที่น่ารังเกียจ

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 290 เจ้าสิ่งที่น่ารังเกียจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 290 เจ้าสิ่งที่น่ารังเกียจ

ตอนที่ 290 เจ้าสิ่งที่น่ารังเกียจ

เฉียวเยี่ยนยังไม่ทันได้ถาม ท่านอ๋องบางคนก็เอ่ยงุ้งงิ้งต่อ “เขาบอกว่าเขาจะมีลูกแปดคน เช่นนั้นข้าจะมีลูกสิบสองคน ฮึ่ม! มีมากกว่าเขาสี่คน!”

เอ่อ…

รู้สึกว่าคืนนี้ชายสองคนดื่มเหล้าแล้วก็โต้เถียงกันเรื่องหนึ่ง ว่าใครจะมีลูกมากกว่ากัน?

ช่างเป็นคนปัญญาอ่อนสองคนจริงๆ !

เฉียวเยี่ยนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ยกมือโอบศีรษะเขา และแตะเบาๆ “ได้ จะมีสิบสองคน ยี่สิบสี่คนก็แล้วแต่ท่าน ไม่มีใครมีลูกมากกว่าท่านทั้งนั้น”

“อืม”

มู่ฉินเจินรู้สึกพอใจ ส่งเสียงอืมออกมาอย่างเชื่อฟัง และถูไถศีรษะกับหน้าอกของเฉียวเยี่ยน

เฉียวเยี่ยน “…”

ข้าสงสัยว่าท่านกำลังถือโอกาสเอาเปรียบ อีกทั้งยังมีหลักฐานเต็มๆ ด้วย!

หลังจากถูไถอยู่ครู่หนึ่ง มือของท่านอ๋องบางคนก็เริ่มอยู่ไม่สุข แลเอื้อมมือมาถึงตัวเฉียวเยี่ยน ลากไล้ไปทั่ว

เฉียวเยี่ยนดึงมือเขา และตบเขาเบาๆ ไปทีหนึ่ง “เชื่อฟังนะ นอนหลับดีๆ !”

มู่ฉินเจินจะถูกไล่ออกอย่างง่ายดายไปได้อย่างไร ดวงตาหยาดเยิ้มพร่ามัว มองนางอย่างน้อยใจ

“เจ้าตีข้า! ฮึ่ม เจ้าบอกว่าจะมีลูกยี่สิบสี่คน และตอนนี้ข้าอยากมีแล้ว!”

เส้นเลือดบนขมับของเฉียวเยี่ยนเต้นตุบๆ อยากจะตบคนเมาจนหมดสติไปเสียสักป้าบ

นั่นนางก็แค่พูดไปงั้นๆ ใช่ว่าจะมีจริงๆ สี่สิบสี่คนเสียหน่อย ต่อให้คลอดจนตายก็ทำไม่ได้หรอก!

ท่านอ๋องที่กระตือรือร้นอยากมีลูกพลิกตัวกลับ กดเฉียวเยี่ยนไว้ใต้ร่าง กัดแทะร่างกายของนางอย่างรุนแรงไปทั่ว

เฉียวเยี่ยนรู้สึกว่าตัวนางในตอนนี้คงเป็นเนื้อติดกระดูกที่ถูกสุนัขตัวใหญ่แทะเล็มจนเกลี้ยงเกลา

ราตรีเงียบสงัด สองสามีภรรยาถ่ายทอดความรักกันอย่างลึกซึ้ง สำรวจความลึกลับของเรื่องใหญ่อย่างการ ‘สืบทายาท’

……

เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งคู่หลับตื่นสาย เมื่อท่านอ๋องบางคนตื่นขึ้นมาแล้วนึกถึงเรื่องไร้สาระที่เขาพูดเมื่อคืน ก็อยากยกมือขึ้นปิดหน้า

ไม่มีหน้าไปเจอใครแล้ว ให้เขาเป็นอาเจียวของเจ้าท่อนไม้ไปทั้งชีวิต และถูกนางซ่อนเอาไว้ในเรือนทองไปเลยดีกว่า

หากเฉียวเยี่ยนรู้ความคิดนี้ของเขา คงได้อ้าปากร้องเสียงดังออกมาแน่

เพ้ย ทรมานข้าจนปวดเอวปวดขา แล้วยังอยากให้ข้าซ่อนอาเจียวไว้ในเรือนทองอีก* ฝันไปเถอะ!

(*ซ่อนอาเจียวไว้ในเรือนทอง ใช้ในเชิงผู้ชายแอบมีผู้หญิงอื่นโดยไม่บอกใครรู้ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชายเสมอไป)

หลังจากเด็กทั้งสี่ตื่นและเห็นว่าบิดามารดายังนอนอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงพากันถอนหายใจ “แผนของแต่ละวันเริ่มต้นจากตอนเช้า เวลาประดุจดังทองคำ”

เกาจัวหยวนกลั้นยิ้ม และพาเจ้านายน้อยทั้งสี่ออกไปจากลานบ้าน พลางหลอกด้วยสีหน้าเลวทราม “เด็กๆ พ่อแม่พวกเจ้ากำลังทำน้องให้อยู่ อย่าไปรบกวนพวกท่านเลย”

เด็กทั้งสี่ได้ยินเช่นนี้ก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟังด้วยกัน ระบบตัวน้อยทอดมองภูเขาและแม่น้ำของนางแล้วก็รู้สึกพอใจอย่างสุดซึ้ง ดูเหมือนกองทัพเด็กของพวกเขา จะมีสมาชิกมาเพิ่มแล้ว

……

ทุ่งนาสำหรับดำกล้าข้าวถูกไถเสร็จเรียบร้อยและแบ่งออกเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนเล็กๆ ส่วนเมล็ดข้าวที่เฉียวเยี่ยนแช่ก็ได้แตกยอดออกมาแล้ว นำเมล็ดข้าวหว่านในนาอย่างสม่ำเสมอ จากนั้นจึงค่อยๆ กลบด้วยโคลน เพื่อเพิ่มการดูแลให้แข็งแกร่งขึ้น หลังจากนั้นประมาณหนึ่งเดือนก็สามารถย้ายต้นกล้าไปปลูกได้

ชาวนาที่รับผิดชอบหว่านข้าวพบว่าเมล็ดข้าวที่เจ้านายเอามาให้มีขนาดใหญ่กว่าเมล็ดที่พวกเขาปลูกมากจริงๆ ทั้งยังอวบอิ่มสมบูรณ์ ไม่แน่อาจจะเป็นอย่างที่นางกล่าว ผลผลิตอาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

หลังได้เพาะกล้าข้าวแล้ว หัวใจของเฉียวเยี่ยนก็สงบลงไม่น้อย นางเข้าทุ่งนาไปดูความคืบหน้าในการไถนาของพวกชาวบ้านทุกวัน หรือไม่ก็พาทั้งครอบครัวไปตกปลา จับปลาเลน ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมาก

แต่เรื่องเรียนของลูกๆ ก็ละเลยไม่ได้ ท่านอ๋องจึงเข้ารับตำแหน่งเป็นอาจารย์ชั่วคราว สอนลูกทั้งสี่อ่านหนังสือ

เมื่อก่อนเสี่ยวอันอันไม่เคยเรียนตัวอักษรมาก่อน ตอนนี้ต้องเริ่มตั้งแต่ต้น จึงไล่ตามพวกพี่ๆ ไม่ทัน ทำให้นางถือพู่กันกระดาษตั้งใจฝึกอย่างหนักทุกวัน

ระบบตัวน้อยมีกลโกง และสัมผัสความรู้ได้กว้างขวาง อีกทั้งเมื่อเจอสิ่งที่ไม่เข้าใจ แค่ค้นหาในระบบ ไม่กี่นาทีก็เข้าใจแล้ว

เจ้าปลาอ้วนเด็กหลังห้องยังคงชอบเรียนรู้ตำราพิชัยสงครามกับศิลปะการต่อสู้เช่นเคย หากบิดาของนางสอนศาสตร์วิชาการ นางก็จะนอนหลับอ้าปาก

ในบรรดาลูกทั้งหมด เสี่ยวฉวนเอ๋อร์เป็นคนที่ไร้กังวลที่สุด ไม่ว่าจะเรียนอะไร ก็ตั้งใจหมด

ครอบครัวของเฉียวเยี่ยนอาศัยอยู่ในเจียงหนานอย่างมีความสุข ในขณะที่เมืองหลวงเกิดเหตุการณ์ใหญ่ขึ้น

มู่เจ๋อจิ่นกับอี้จื่อจิ้นแต่งงานกันแล้ว

งานแต่งงานนั้นยิ่งใหญ่มาก ถนนยาวสิบลี้ล้วนตกแต่งประดับประดาไปด้วยสีแดง อี้จื่อจิ้นสวมชุดแต่งงาน และนั่งบนเกี้ยวของตำหนักอ๋องรุ่ยที่มารับนาง

ภายใต้ผ้าคลุมหน้านั้น มุมปากของนางหยักยกขึ้นตลอดเวลา สีหน้าฉายรังสีเย่อหยิ่ง

นับแต่บัดนี้ไป นางคือรุ่ยหวางเฟยแล้ว!

เทียบเท่ากับเฉียวเยี่ยน กระทั่งอีกฝ่ายต้องเรียกนางว่าพี่สะใภ้ด้วยซ้ำ!

นางอี้จื่อจิ้นเกิดมาก็เป็นคนชั้นสูง ต่อให้เมื่อก่อนจะถูกเยาะเย้ยแล้วอย่างไรเล่า? นางในตอนนี้ก็คือพระญาติ เป็นรุ่ยหวางเฟยผู้สูงส่ง!

ภายใต้คำขอของนาง งานแต่งในวันนี้จึงถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ นางแค่อยากให้คนที่เคยดูถูกนางอิจฉานาง ริษยานาง!

มู่เจ๋อจิ่นขี่ม้าตัวใหญ่ไปรับเจ้าสาวด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้า ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับไม่ส่งไปถึงดวงตา สำหรับเขาแล้ว การแต่งงานจะมีหรือไม่มีก็ได้ และนี่ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตีสนิทจวนอัครเสนาบดี

งานแต่งใหญ่ของมู่เจ๋อจิ่นจัดที่ตำหนักอ๋องรุ่ย ลานป่าไผ่จึงเงียบสงบลงทันตา หลันหนิงที่ถูกปฏิบัติในฐานะแขกผู้มีเกียรติ ยากที่จะมีเวลาพักผ่อน จึงดื่มเหล้าอยู่ในลานบ้าน

มู่เจ๋อจินเจ้าโชคร้ายคนนี้มักจะทำตัวไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ แต่จริงๆ แล้วส่งคนไปจับตาดูนางลับหลัง แต่คนที่เขาหามาล้วนไร้ความสามารถ มิอาจหลบสายตาของนางไปได้

เมื่อเห็นนางไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเป็นเวลานาน คนที่เฝ้าจับตาดูนางก็คลายความระแวดระวังลง นางจึงใช้โอกาสนี้ตรวจสอบลานป่าไผ่นี้ทั้งหมดไปรอบหนึ่ง

แต่สุนัขจิ้งจอกตัวนั้นซ่อนตัวได้ลึกมาก จวบจนตอนนี้นางยังไม่พบเบาะแสใดๆ เลย

หลันหนิงยกจอกร่ำสุราใต้แสงจันทร์ เมามายคลายทุกข์ ในใจรู้สึกสุขแสน

แต่ก็มักจะมีคนตาบอดมารบกวนอารมณ์สุนทรีย์ของนางเสมอ

มู่เจ๋อจิ่นเจ้าของงานแต่งงานใหญ่วันนี้ไม่ได้อยู่เข้าห้องหอในตำหนักอ๋องซู่ แต่กลับวิ่งแจ้นมาที่ลานป่าไผ่

หลันหนิงมองใครบางคนที่เดินเข้ามาในลานตัวเอง ก็แสร้งเอ่ยประหลาดใจ “ท่านอ๋อง ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร?”

มู่เจ๋อจินเดินไปอยู่ด้านข้างนางและนั่งลง ด้วยท่าทางของชายสูงศักดิ์อ่อนโยน “ขอดื่มเหล้าสักจอกด้วยได้ไหม?”

หลันหนิงตำหนิอยู่ในใจอย่างมาก ทว่าภายนอกกลับตอบรับอย่างเชื่อฟัง และรินเหล้าให้เขาหนึ่งแก้ว “ท่านไม่ควรดื่มมาก ชิมรสชาติเสียหน่อยก็พอแล้ว”

มู่เจ๋อจิ่นดื่มเหล้าไปแค่เพียงอึกเดียว ก่อนเอ่ยเสียงเบาด้วยรอยยิ้ม “ก็ยังเป็นท่านที่เป็นห่วงข้ามากที่สุด”

หลันหนิง “?”

เจ้าคนนี้คงไม่ได้ป่วยหนักอะไรใช่ไหม? คืนแต่งงานทั้งทีกลับวิ่งมาหานางที่นี่ แถมยังพูดจาเพ้อเจ้ออีก!

นางแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน “ท่านอ๋องควรกลับไปได้แล้ว วันนี้เป็นงานมงคลใหญ่ของท่าน”

ความจริงนางอยากพูดว่า รีบไสหัวไป อย่ามารบกวนข้าดื่มเหล้า!

แต่ไม่คิดเลยว่าไอ้หมาบ้าที่กินยาผิดขวดกลับเข้ามาใกล้นางอย่างฉับพลัน และเอ่ยด้วยคิดว่าตัวเองมีเสน่ห์มากๆ ออกมา “เจ้าหึงแล้ว”

มันไม่ใช่ความสงสัย แต่เป็นความมั่นใจ

หลันหนิงเกือบระเบิดอารมณ์ตัวเองออกมาอย่างกลั้นไม่ไหว อยากจะซัดเข้าหน้าไอ้หมาบ้าคนนี้สักหมัดหนึ่ง

นางหึง? กลัวว่านางจะกินรังแตนดีกว่า!

นางลุกขึ้นถอยหลังไปสองสามก้าว เพื่อให้ห่างจากเขา พลางเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นเยือกดุจน้ำแข็ง “ท่านอ๋องโปรดสำรวมตนด้วย”

มู่เจ๋อจิ่นเห็นนางเช่นนี้ ก็หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วเอ่ยต่อ “ข้ารู้ว่าเจ้าชอบเปิ่นหวาง หลานเอ๋อร์ ข้าก็รู้สึกดีกับเจ้าเช่นกัน”

หลันหนิงกำมือแน่นไม่หยุด เจ้าหมาบ้านี่ วิ่งมาพูดคำพูดเหล่านี้กับนางในคืนแต่งงาน อยากตายหรือ?

วันนี้เพิ่งแต่งหนึ่งคน ทำไม ตอนนี้กลับอยากเพลิดเพลินไปกับชีวิตหลายภรรยาเสียแล้ว

เพ้ย เขาสมควรหรือ ยังกล้ามาบอกว่านางชอบเขาอีก ชอบพ่องสิ!

………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ท่านอ๋องซู่นี่จะตั้งทีมฟุตบอลให้ได้เลยใช่ไหม พี่ก็แรงเกินนน

แรงมากอ๋องรุ่ย กินยาผิดเหรอ เดี๋ยวโดนวางยาพิษแทนเป็นไง

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด