ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 294 รู้กับผีสิ
ตอนที่ 294 รู้กับผีสิ
ตอนที่ 294 รู้กับผีสิ
ทันทีที่คหบดีจางเห็นพวกองครักษ์ เขาก็โกรธจนตัวสั่นไปทั้งตัว พลางชี้ไปที่พวกเขาด้วยมือสั่นเทา “เป็นพวกเจ้านี่เอง!”
เขาเอ่ยกับนายอำเภออย่างตื่นเต้นราวกับคนเสียสติก็มิปาน “ใต้เท้า เป็นพวกเขาที่มาปล้นคนกับสองสามีครอบครัวหลี่เมื่อวาน ทั้งยังทำร้ายข้ารับใช้ในจวนข้าบาดเจ็บไปหลายคน!”
เมื่อนายอำเภอได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างราวกับไข่ห่าน เอ่ยด้วยโทสะ”ได้ พวกเจ้ากำเริบเสิบสานเช่นนี้ ข้ายังไม่ทันได้ไปจับพวกเจ้า พวกเจ้าก็มาถึงที่ด้วยตัวเองแล้ว”
“คุกเข่าลง!”
พวกองครักษ์ต่างจุดเทียนไว้อาลัยให้นายอำเภอสุนัขผู้นี้อย่างเงียบๆ ในใจ ริอาจให้ท่านอ๋องกับหวางเฟยของเราคุกเข่า ช่างกล้าหาญจริงๆ ไม่กลัวความทุกข์ยากเลย!
ในเมื่อท่านอ๋องกับหวางเฟยไม่อยากเปิดเผยตัวตน พวกเขาจึงไม่เอ่ยถึงมัน และเฝ้าดูนายอำเภอชาติหมาผู้นี้หาเหาใส่หัว
องครักษ์ปกป้องเจ้านายไว้ พวกเจ้าหน้าที่ถือไม้โบยไว้ในมือ ล้อมพวกเขาเอาไว้ ทั้งสองฝ่ายตึงใส่กัน
เฉียวเยี่ยนยิ้มเย้ยหยัน และเอ่ยอย่างเหยียดหยาม “เจ้านะหรือ ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะให้ข้าคุกเข่าให้หรอก หากเจ้าเป็นขุนนางดีตัดสินคดีความอย่างยุติธรรม ข้าย่อมรู้จักมารยาท ทว่าตั้งแต่ขึ้นศาลมา เจ้าไม่เคยถามจำเลยสักประโยคและตัดสินลงโทษให้พวกเขา เห็นได้ว่า เจ้าเป็นขุนนางโง่เขลาที่งี่เง่ามาก!”
คำพูดของนางเฉียบคมและไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ทำให้นายอำเภอโกรธกริ้วมากจนหน้าดำหน้าแดง
ส่วนผู้ชมในห้องโถงต่างปรบมือและตะโกนว่าดีติดๆ กัน
หลายปีมานี้พวกเขารู้พฤติกรรมของเจ้าสุนัขคนนี้ดี ในที่สุดก็มีคนพูดแทนความในใจของพวกเขาแล้ว!
สีหน้าของนายอำเภอยิ่งแดงก่ำขึ้น ควันพุ่งออกมาจากทวารทั้งเจ็ด ทว่าอ้าปากพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง “บังอาจนัก!”
ชายประเภทดีแต่คำรามไร้ความสามารถเช่นนี้ เฉียวเยี่ยนไม่สนใจ ก่อนขยับปากเอ่ย “เจ้าจะกลับคำไหม? ตาเจ้าหามีแววไม่หรืออย่างไร? ถึงไม่เห็นว่าข้ามีความกล้าหาญยิ่งใหญ่เพียงใด?”
“ข้าว่าเจ้างี่เง่าไร้ความสามารถ ไยต้องตื่นเต้นขนาดนั้นด้วย อย่างไรเสียข้าก็พูดความจริง”
“ข้าขอถามเจ้า เจ้ารู้หรือไม่ไหมว่ารูปคดีนี้เป็นอย่างไร? หรือเพียงได้รับสินบนเล็กน้อยจากคหบดีจาง ฟังคำพูดไม่กี่คำของเขา ก็ด่วนตัดสินในใจไปก่อนแล้ว”
“หลี่ชุนเหมย ปีนี้อายุสิบห้าปี ไปซื้อของกับแม่ที่ตลาดในวันที่สิบสาม ถูกคหบดีจางที่กำลังเดินตลาดมาเห็นเข้า จึงเข้าไปลวนลามนาง หลี่ชุนเหมยกับแม่รีบหนีกลับบ้าน แต่คหบดีจางไม่ยอมแพ้ ส่งคนมาหาหลายครั้ง เกลี้ยกล่อมให้ครอบครัวหลี่ขายลูกสาวไปเป็นภรรยาน้อยของตน”
“คู่สามีภรรยาหลี่ไม่เห็นด้วย คหบดีจางจึงส่งข้ารับใช้ในจวนไปฉุดคร่าคนที่บ้านครอบครัวหลี่เมื่อสองวันก่อน และให้เงินห้าสิบตำลึงแก่สามีภรรยาหลี่ ทั้งยังบีบบังคับให้หลี่ซ่างเกินทำสัญญาขายลูกสาว”
“หลังจากนั้น สองสามีภรรยาหลี่มารับคนถึงที่ แต่ถูกคนของคหบดีจางไล่ทุบตี หลี่ซ่งซื่อคิดไม่ตกในเรื่องนี้ จึงกระโดดน้ำหมายจะฆ่าตัวตาย และถูกข้าช่วยกลับมาได้ ”
เฉียวเยี่ยนเล่าคดีทั้งหมดแบบคำต่อคำ จ้องไปที่นายอำเภอด้วยสายตาเฉียบคม ทว่านายอำเภอหลบสายตา ไม่กล้ามองนางตรงๆ
คหบดีจางฟังคำพูดนางก็คัดค้านทันที เขาไม่ได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้นายอำเภอทราบจริงๆ ทว่านายอำเภอรับเงินห้าร้อยตำลึงจากเขาไปแล้ว และรับปากว่าจะช่วยจัดการเรื่องนี้ให้เขาอย่างเรียบร้อย
เขามองเฉียวเยี่ยนกับมู่ฉินเจินด้วยสายตามาดร้าย ไม่รู้ว่าคนต่างถิ่นสองคนนี้มาจากไหน ดูมีราศีไม่ธรรมดาเลย
แต่มังกรที่แข็งแกร่งไม่อาจสู้งูเจ้าถิ่น* ต่อให้พวกเขาจะมีคนหนุนหลัง แต่ในอำเภอชิงผิงนี้ หากยุแหย่เขาก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างสาสมเช่นกัน!
(*强龙压不过地头蛇 มังกรที่แข็งแกร่งไม่สู้งูเจ้าถิ่น คนที่มีความสามารถก็ยังยากที่จะจัดการกับคนที่มีอำนาจในท้องถิ่น)
รอกลับไปวันนี้แล้ว เขาจะหาคนมาสั่งสอนพวกเขาดีๆ แน่ ส่วนโฉมสะคราญเยาว์วัยคนนี้ หากนางรู้จักเอาตัวรอด เขาก็ไม่รังเกียจที่จะรักนาง
ชายชราคิดแผนการอย่างสนุกสนานในใจ ก่อนยิ้มอย่างหยาบโลนบนใหน้าขึ้นมาอีกครั้ง
มู่ฉินเจินรู้สึกถึงสายตาเขา จึงเอี้ยวตัวบังเฉียวเยี่ยนที่ยังพูดอยู่
ชายชราบ้ากามคนนี้ เขาจดจำหน้าเอาไว้แล้ว!
กล้าจ้องเจ้าท่อนไม้ของเขาตาเป็นมันเช่นนี้ ต้องมีสักวันที่เขาจะต้องร้องไห้!
หลังจากเฉียวเยี่ยนเล่ารูปคดีจบ จู่ๆ นางก็เอ่ยเสียงดัง”ท่านนายอำเภอ ที่ข้าพูดมาทั้งหมด ไม่ใช่ว่าท่านไม่รู้หรอกใช่ไหม?”
นายอำเภอถูกรังสีของนางบีบจนล่าถอย และเอ่ยตะกุกตะกัก “นะ…แน่นอนว่าข้าระ…รู้อยู่แล้ว”
เฉียวเยี่ยนเอ่ยตะกุกตะกักเลียนแบบเขา “เจ้าระ…รู้กับผีนะสิ!”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ผู้คนที่มาดูต่างระเบิดหัวเราะลั่น นายอำเภอจึงหน้าดำหน้าแดงเพราะเหตุนี้
“หยะ…หยาบคายนัก!”
“หยาบคายหรือไม่หยาบคายข้าไม่รู้ ข้ารู้แค่ว่าคำพูดของข้ามีเหตุผล”
“ในเมื่อนายอำเภอรู้รูปคดีความนี้ เช่นนั้นตอนนี้ ข้าขอเชิญพยานของข้าออกมาพิสูจน์ว่าสิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริง”
สิ้นเสียงเฉียวเยี่ยน พยานหลายคนที่คุยกันไว้ล่วงหน้าก็ออกมาเป็นพยานให้ครอบครัวหลี่
เป็นเพราะโกรธเจ้าหน้าที่สุนัขตัวนี้มากจริงๆ พวกพยานจึงกล้าขึ้นมา แม้แต่คุกเข่าก็ไม่คุกเข่าลง
ชายหนุ่มสูงใหญ่ในวัยยี่สิบกว่าคนหนึ่งเผชิญหน้ากับนายอำเภอด้วยสีหน้าเย็นชา และเอ่ยด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้าง “ข้าชื่อหลี่หมิงฝู เป็นเพื่อนบ้านครอบครัวลุงซ่างเกิน ในวันที่น้องชุนเหมยถูกชิงตัวไป ข้าได้ยินเสียงดังจึงเข้าไปช่วยเหลือ ทว่าถูกคนของคหบดีจางฟันจนบาดเจ็บ บนแขนข้ายังมีบาดแผลเป็นหลักฐานอยู่เลย!”
ขณะกล่าว เขาก็แกะผ้าพันแผลที่พันรอบแขนออก เผยให้เห็นบาดแผลยาวประมาณห้ากงเฟินที่มียาทาแผลอยู่ แม้จะผ่านไปสองวัน แต่บาดแผลยังคงมีเลือดไหลซึม บริเวณรอบๆ แดงบวม เห็นแล้วดูเจ็บปวดมาก
เมื่อหลี่หมิงฝูเอ่ยออกมา พยานที่เหลือก็เอ่ยตาม พวกเขาล้วนเป็นเพื่อนบ้านของครอบครัวหลี่ซ่างเกิน และเห็นฉากที่หลี่ชุนเหมยถูกฉุดตัวไปในวันนั้นกับตาตัวเอง
มีพยานเผยหลักฐานเป็นที่ประจักษ์เช่นนี้ นายอำเภอก็พูดไม่ออก และอดมองไปที่คหบดีจางไม่ได้
คหบดีจางเหงื่อแตกพลั่ก ก่อนเปิดปากโต้เถียง “พวกเขาเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน พยานนี้ไม่นับ ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาสมรู้ร่วมคิดกันหรือเปล่า!”
“เห็นได้ชัดว่าข้าซื้อหลี่ชุนเหมยคนนี้มาด้วยเงินห้าสิบตำลึง และมีหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร บนนั้นยังมีตราประทับของหลี่ซ่างเกินด้วย!”
ขณะกล่าว เขารีบหยิบสัญญาออกมาจากอก และยื่นให้ต่อหน้านายอำเภอ
นายอำเภอรับสัญญามา ในที่สุดก็มีบางอย่างเอ่ยได้เสียที “บนกระดาษสีขาวนี้เขียนไว้อย่างชัดเจน หลี่ซ่างเกินยินดีขายลูกสาวให้กับคหบดีจางในราคาห้าสิบตำลึง ทั้งสองซื้อขายกันด้วยความยินยอม ไม่มีใครเสียเปรียบใคร”
“พยานเหล่านี้ล้วนเป็นเพื่อนบ้านครอบครัวของหลี่ซ่างเกิน มีความน่าสงสัยว่าร่วมมือกัน ดังนั้นจึงไม่นับเป็นหลักฐานได้”
ทันทีที่คำพูดของเขาออกมา ห้องพิจารณาคดีก็เกิดโกลาหล พวกพยานต่างกัดฟันด้วยความโกรธ ผู้คนที่อยู่ด้านล่างต่างพากันส่ายหัว
เจ้าหน้าที่สุนัขคนนี้ ช่างปั้นน้ำเป็นตัวเสียจริง!
เฉียวเยี่ยนสงบนิ่ง รู้แล้วว่าเขาต้องมาไม้นี้!
นางพลันตบมือ องครักษ์คนหนึ่งก็คุมตัวคนหนึ่งเข้ามา
นางขยิบตาให้นายอำเภอ “ในเมื่อท่านนายอำเภอบอกว่าเพื่อนบ้านไม่นับเป็นหลักฐาน เช่นนั้นข้าจึงทำได้เพียงให้พ่อบ้านในจวนคหบดีจางมาเป็นพยาน”
คหบดีจางกับนายอำเภอจ้องพ่อบ้านที่ถูกหิ้วเข้ามาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
พ่อบ้านถูกองครักษ์ผลักจนเข่าทรุดฮวบลงบนพื้น ก่อนที่นายอำเภอจะทันได้ถาม เขาก็ชิงสารภาพอย่างเร่งรีบ “ข้าพูด ข้าพูด ข้าจะพูดทุกอย่าง!”
“เป็นความจริงที่นายท่านข้าส่งคนไปแย่งคนที่บ้านครอบครัวหลี่ วันก่อนข้าก็ตามไปที่นั่นด้วย และครอบครัวหลี่มาพาคนกลับไปถึงที่ ก็ถูกข้าส่งคนไปทุบตีไล่พวกเขาออกไป”
เรื่องนี้อยู่เหนือการคาดคิดของคหบดีจาง เขาจึงเตะพ่อบ้านอย่างรุนแรง และสาปแช่งด้วยความโกรธ “ไอ้สวะ! เจ้าต้องถูกพวกเขาซื้อตัวให้มาใส่ร้ายข้าแน่!”
สถานการณ์ตรงหน้าเกินความคาดหมายเขา ดูเหมือนพวกคนต่างถิ่นนี้ จะไม่ธรรมดาจริงๆ !
นายอำเภอปวดหัวจริงๆ คหบดีจางเป็นคนอย่างไรเขาย่อมรู้อยู่แก่ใจดี
แต่เขารับสินบนมาแล้ว ในเมื่อรับเงินมาแล้ว ก็ต้องปกปิดให้เขา
คหบดีจางเป็นครอบครัวร่ำรวยที่สุดในอำเภอชิงผิง ในภายภาคหน้ายังต้องพึ่งพาบารมีเขาอยู่
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ยิ่งสู้กลับยิ่งโดนต้อน เอาสิ เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับซู่หวางเฟย
ไหหม่า(海馬)
Comments