ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 319 จอบน้อยและเคียวใหญ่ของนาง

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 319 จอบน้อยและเคียวใหญ่ของนาง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 319 จอบน้อยและเคียวใหญ่ของนาง

ตอนที่ 319 จอบน้อยและเคียวใหญ่ของนาง

แม้จะมีการคัดค้านของข้าราชบริพาร ทว่าฮ่องเต้เฒ่ากับมู่ฉินเจินก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะความคิดเห็นทั้งหมด พื้นที่รกร้างทางตะวันตกของเมืองได้เริ่มก่อสร้างแล้ว โดยมีฝ่ายกรมโยธาธิการเป็นคนดูแล

คนท้องอย่างเฉียวเยี่ยนเองก็ไม่ว่าง รวบรวมความรู้ด้านการเกษตรที่นางได้เรียนรู้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จัดทำเป็นตำราอธิบายการเกษตรที่ยุคนี้สามารถเข้าใจได้

ความรู้พื้นฐานทางพฤกษศาสตร์ในยุคปัจจุบันเป็นทฤษฎีที่ไม่เคยปรากฏในยุคนี้ ดังนั้นนางจึงต้องใช้สมองเขียนตำราที่เข้าใจง่ายและมีคุณค่าในการสอนขึ้นมา

เวลาผ่านไปแวบเดียวก็เข้าสู่เดือนแปดแล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เฉียวเยี่ยนชอบที่สุดในทุกปี เพราะเป็นฤดูการเก็บเกี่ยว!

จะมีอะไรทำให้ชาวนามีความสุขมากไปกว่าการเฝ้าดูพืชผลที่ตัวเองปลูกอย่างยากลำบากมาทั้งปีเจริญเติบโตขึ้นมาอย่างดีกันล่ะ?

แน่นอนว่าไม่มี!

ในตำหนักกับพระราชวังกำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตครั้งใหญ่ ฟักทองลูกโตๆ แต่ละลูก ทุกลูกมีน้ำหนักสิบกว่าถึงยี่สิบชั่ง หากเก็บรักษาเอาไว้ในห้องใต้ดิน ก็สามารถกินได้จนไปถึงปีหน้าเลย

ปอกเปลือกฟักทองลูกใหญ่ แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เอาลงไปต้มในน้ำสะอาด และไม่ต้องใส่อะไรเพิ่มลงไป ฟักทองที่ต้มสุกออกมาก็ทั้งเนียนทั้งหวาน อร่อยกว่าเนื้อปลาและเนื้อเสียอีก

หรือไม่ก็นำฟักทองนึ่งมาบดละเอียดผสมเข้ากับแป้งข้าวเจ้า นวดจนเป็นแป้งก้อน แล้วปั้นเป็นรูปกลมๆ เหมือนแผ่นแป้ง จากนั้นนำลงไปทอดในหม้อน้ำมัน ก็จะได้เป็นขนมฟักทองทอดที่กรอบนอกนุ่มใน

แล้วก็ยังมีข้าวโพดที่ฝักใหญ่มาก หักออกมาสองสามอันแล้วโยนลงหม้อหุงหรือย่างบนเตาถ่าน ทั้งหวานทั้งนุ่ม สองสามวันมานี้คนในตำหนักเอาแต่วนอยู่ในสวนข้าวโพด

มะเขือเทศ พริก มะเขือยาวก็โตได้ที่แล้ว เก็บมาเต็มตะกร้าใหญ่สองสามใบ มะเขือเทศที่กินไม่หมดก็นำมาทำเป็นซอส พริกตากแห้งแล้วมาบดเป็นผง เท่านี้ก็ไม่ต้องกลุ้มใจเรื่องเครื่องปรุงในปีหน้าแล้ว

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา คนในตำหนักได้รับประทานผักสดทุกวัน พวกพ่อครัวปรุงอาหารด้วยวิธีต่างๆ ทำให้ทุกคนต่างอ้วนขึ้นสองจินไปตามๆ กัน

ปีก่อนๆ เฉียวเยี่ยนจะนำพวกข้ารับใช้ไปเก็บเกี่ยวด้วยกัน ทว่าปีนี้นางกลายเป็นผู้ที่ถูกดูแล การอยากเข้าไปในสวนนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

นางที่ตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนมีท้องนูนโต นั่งมองข้ารับใช้วุ่นกับการเก็บเกี่ยวอยู่ในที่ร่ม และรู้สึกคันไม้คันมือเป็นอย่างมาก

ดูฟักทองลูกใหญ่นั่นสิ นางอยากไปแบกไปสองลูกจริงๆ แล้วก็พวกที่กำลังเก็บพริกเหล่านั้น เห็นแล้วรู้สึกเพลินมาก!

แล้วคนขุดมันเทศนั่น ไม่ได้กินข้าวมากันหรือไร? ไยถึงแรงน้อยเพียงนี้? หากนางลงไปทำ แปบเดียวคงได้มันเทศเต็มสองตระกร้าใหญ่แล้ว!

เฮ้อ เคียวใหญ่ จอบน้อย และตะกร้าผักน้อยของนาง เราคงไม่มีวาสนาต่อกันแล้ว!

มู่ฉินเจินนั่งอยู่ในศาลากับเฉียวเยี่ยนและแตะขานางเบาๆ เห็นสีหน้าเสียดายของนางที่มองพวกข้ารับใช้เก็บเกี่ยวตาปริบๆ ก็รู้สึกว่ามันน่ารักจริงๆ

เขาเอื้อมมือไปลูบใบหน้านวลเนียนอ้วนกลมของนาง ก็รู้สึกดีจนวางมือไม่ลง

เนื่องจากการตั้งครรภ์ทำให้ความอยากอาหารดีมาก เฉียวเยี่ยนจึงมีรูปร่างอ้วนกลมหลายเท่า จนมีคางสองชั้น ซึ่งตอนนี้แก้มของนางพองออกด้วยความโกรธ ประกอบกับท้องกลมนูนของนาง ตัวนางจึงเหมือนลูกบอล

แต่ใครใช้ให้นางหน้าตาดีกัน ถึงแม้จะอ้วนกลม แต่ก็ยังเป็นสาวอ้วนที่สวยและน่ารัก

เฉียวเยี่ยนที่มีใบหน้ายับยู่ยี่ หันไปมองใครบางคนด้วยท่าทางน้อยใจ ดวงตากลมโตคลอหยาดน้ำ ราวกับกล่าวหาว่าเขาประพฤติผิดศีลธรรม

มู่ฉินเจินหัวเราะออกมาเสียงเบา พลางเลื่อนมือออกจากใบหน้านางไปที่ศีรษะ และลูบหัวนาง

“พอแล้ว อย่าเสียใจไปเลย รอเด็กคลอดออกมาก่อน เมื่อใดฤดูวสันต์เวียนมาถึง เจ้าขุดดินได้มากเท่าที่เจ้าต้องการเลย และเราจะไม่ห้ามเจ้า”

ครั้นเฉียวเยี่ยนได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย โชคดีที่นางพลาดการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง แต่นางก็ยังมีการเพาะปลูกในฤดูใบไม้ผลิปีหน้าอยู่

เมื่อคำนวณตามเวลาแล้ว เด็กควรจะเกิดในปลายเดือนสิบหรือต้นเดือนสิบเอ็ด เมื่อเริ่มฤดูใบไม้ผลิปีหน้า เด็กก็จะมีอายุหลายเดือนแล้ว และนางก็สามารถทำสวนได้มากเท่าที่ต้องการ!

“งั้นก็ได้ แปลงนั้นแปลงนี้เป็นของข้า ปีหน้าใครก็ห้ามแตะต้อง ข้าจะขุดมันเอง!”

ราวกับต้องการแก้แค้น นางทำการจองที่ดินสองสามแปลงอย่างดุดัน ปีหน้านางจะแบกจอบขุดให้หนำใจไปเลย

……

เดือนแปดยังเป็นฤดูกาลกินปูด้วย ทว่าน่าเสียดายที่คนท้องอย่างเฉียวเยี่ยนกินไม่ได้ ดังนั้นทั้งตำหนักองค์รัชทายาทจึงไม่มีปูสักตัว ด้วยกลัวว่าไท่จื่อเฟยของพวกเขาเห็นแล้วจะหิวกระหาย

คนอื่นตั้งท้องครั้งหนึ่งพักไปสามปี แต่ไท่จื่อเฟยของพวกเขาท้องหนึ่งครั้งไร้เดียงสาไปอีกสามปี อย่างอื่นดีหมด เพียงแต่ปากหิวกระหาย อะไรก็อยากกินไปหมด

บางครั้งเห็นเจ้านายน้อยกำลังกินขนมอยู่ ก็จะเข้าไปหยิบแย่งมากินเล็กน้อย พ่อครัวในครัวเผลอ บางคนก็แอบย่องเข้าไปขโมยของกิน ทำให้พ่อครัวในตำหนักต่างเข้มงวดอย่างกวดขันกับเจ้านายบางคนที่แอบมาขโมยกิน ประหนึ่งต่อสู้กับกองโจรอย่างไรอย่างนั้น

วันนี้ลูกๆ กลับมาจากสำนักศึกษา และนำกล่องขนมกลับมาให้เฉียวเยี่ยน ซึ่งเป็นขนมบ๊วยเปรี้ยวที่ฮองเฮาทรงทำเอง

เมื่อรู้ว่านางชอบรับประทานของเปรี้ยวตอนท้อง ฮองเฮาจึงค้นคว้าขนมเปรี้ยวหวานมากมายกับพวกวิเสทหลวง และขนมบ๊วยเปรี้ยวในวันนี้ก็เป็นขนมคิดค้นขึ้นมาใหม่

ด้วยรสเปรี้ยวอมหวานของบ๊วยและเนื้อขนมอันนุ่มนิ่ม เฉียวเยี่ยนก็กินอย่างมีความสุขจนหมดกล่อง

เด็กทั้งสี่เห็นมารดาชอบรับประทานเช่นนี้ ก็ยิ้มจนตาหยี่ พลางพากันเข้ามาลูบท้องทีละคน และพูดคุยกับน้องชายหรือน้องสาวคนเล็กที่อยู่ข้างใน

กล่าวได้ว่าชีวิตเฉียวเยี่ยนขณะท้องนับว่ามีความสุขมาก สามีเอาอกเอาใจ เด็กๆ คอยดูแล ท่านแม่กับแม่สามีทำอาหารอร่อยๆ ให้นางทั้งวัน นางรู้สึกว่าตัวเองถูกเลี้ยงจนจะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์แล้ว

ฝนแรกในฤดูใบไม้ร่วงทำให้อากาศหนาวเย็นขึ้นเล็กน้อย ฮองเฮาผู้เป็นแม่สามีแสนดี ไม่ระวังตากอากาศเย็นจนป่วยหนัก

ความเจ็บป่วยของฮองเฮาเป็นเรื่องที่ใหญ่ที่สุด ครั้นฮูหยินตราตั้ง*แต่ละจวนได้ยินว่าพระอาการของฮองเฮาดีขึ้น ก็เข้าวังพากันมาเยี่ยมเยือน

(*诰命夫人 ก้าวมิ่งฟูเหริน (ฮูหยินตราตั้ง) เป็นการอวยยศให้กับเมียเอก โดยแต่ละระดับมีบรรดาศักดิ์ต่างกันไป โดยตำแหน่งที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือตำแหน่งก้าวมิ่งฟูเหริน หญิงที่จะได้ตำแหน่งนี้จะต้องมีสามีที่เป็นขุนนางในระดับหนึ่งหรือสอง ซึ่งในแต่ละราชวงศ์ก็จะมีรายละเอียดที่ต่างกันไป ตำแหน่งนี้ถ้าเทียบกับไทยก็น่าจะเป็นตำแหน่งท่านผู้หญิงหรือคุณผู้หญิง)

คนแก่แล้วโรคก็เยอะตามด้วย ดังนั้นเฉียวเยี่ยนจึงกังวลใจ นางจึงเข้าวังไปเข้าเฝ้าฮองเฮาด้วยตัวเอง พร้อมนำยาแก้หวัดสมัยใหม่มาให้พระนางด้วย

ถึงอย่างไรตอนนี้คนทั้งบ้านก็รู้จักตัวตนของนางแล้ว จึงไม่มีอะไรต้องปิดบังยาพวกนี้ หากสามารถทำให้ร่างกายพวกเขาดีขึ้น นางก็ยินดีทำเป็นที่สุด

หลังจากฮองเฮากินยาแล้ว ประสิทธิผลก็ดีมาก และเริ่มอาการดีขึ้นภายในสองวัน เฉียวเยี่ยนเองก็ไม่รีบร้อนออกจากวัง อยู่กับพระนางในวังสักสองสามวัน แล้วถือโอกาสนี้เดินเล่นดูเหล่านางข้าหลวง ขันทีเก็บเกี่ยวผลผลิตไปด้วย

เมื่อพระอาการของฮองเฮาดีขึ้น แขกในตำหนักคุนหนิงก็มีมากขึ้น และมีฮูหยินตราตั้งมาเข้าเยี่ยมทุกวัน

วันนี้มีคนมาไม่น้อย นอกจากคนหน้าใหม่สองคน คนอื่นๆ ล้วนเป็นคนรู้จักเก่าของเฉียวเยี่ยน ได้แก่ อันซีโหวฮูหยินภรรยาท่านอัครเสนาบดี และอี้จื่อจิ้น รุ่ยหวางเฟยที่ไม่เจอกันมานาน

อันหยางปั๋วฮูหยินก็อยู่ด้วย ครั้งก่อนเจ้าเด็กเปรตของพวกเขาทุบตีคนอยู่บนถนน มู่ฉินเจินเคยส่งคนไป ‘ปลอบขวัญ’ ถึงจวน ตอนนี้ยามเห็นเฉียวเยี่ยน นางก็เอาแต่หลบสายตา

ในบรรดาผู้มาเยือนเหล่านี้ เฉียวเยี่ยนสามารถพูดคุยกับอันซีโหวฮูหยินได้เพียงคนเดียว เมื่อฮองเฮาพูดคุยกับฮูหยินคนอื่นๆ นางจะนั่งกินอาหารอยู่ข้างๆ อย่างเชื่อฟัง

เขตซีอวี้นำองุ่นเข้ามาเป็นบรรณาการไม่น้อย ทั้งลูกใหญ่ทั้งหวาน ระยะนี้นางชอบกินมันมากเป็นพิเศษ

นับตั้งแต่อี้จื่อจิ้นเข้าสู่ตำหนักคุนหนิง นางมักจะมองไปที่ท้องของเฉียวเยี่ยนเป็นครั้งคราว ในแววตาปรากฏร่องรอยของความริษยาชิงชังออกมา

เหตุใดหญิงคนนี้จึงท้องอีกแล้ว!

เกิดได้เกิดดี เป็นแม่หมูหรือ?

นางลูบท้องตัวเองอย่างลืมตัว นางแต่งงานมาแล้วหนึ่งปี แต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เลย

พ่อของนางได้บอกแผนการยึดบัลลังก์ของท่านอ๋องรุ่ยให้นางฟังแล้ว และให้นางรีบตั้งครรภ์ทายาทโดยเร็วที่สุด หากเป็นแบบนี้ ในภายภาคหน้านางจะเป็นสตรีที่มีเกียรติและอำนาจคับฟ้าที่สุดในราชวงศ์เทียนลี่!

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

อดทนไว้นะเฉียวเยี่ยน เดี๋ยวคลอดลูกเมื่อไหร่ก็ได้ทำในสิ่งที่อยากทำแล้ว

สามีตัวเองจะมีน้ำยาเหรอคุณหนูอี้ สภาพร่างกายแบบนั้นไม่ใช่ว่านกกระจอกยัง

ไม่ทันกินน้ำก็เฉาแล้วนะ?

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด