ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 320 ยังไม่ได้อยู่ดี

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 320 ยังไม่ได้อยู่ดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 320 ยังไม่ได้อยู่ดี

ตอนที่ 320 ยังไม่ได้อยู่ดี

แต่ดูเหมือนท่านอ๋องรุ่ยจะไม่สนใจเรื่องนอนร่วมเตียงเลย พวกเขาแต่งงานกันมานาน หลับนอนร่วมกันจนนับนิ้วได้ อยากจะตั้งท้องสักหนนับว่าไม่ง่ายเลย!

นางมองใบหน้าที่อุดมสมบูรณ์มีเลือดฝาดจากการถูกเลี้ยงดูอย่างดีของเฉียวเยี่ยน ก็อดคิดถึงชายร่างกำยำคนนั้นไม่ได้ หากนางแต่งงานกับเขาในตอนนั้น นางคงจะตั้งครรภ์ลูกของพวกเขาแล้วใช่หรือไม่?

เฉียวเยี่ยนสังเกตเห็นดวงตามืดมนของอี้จื่อจิ้น ในใจรู้สึกมืดมนลงเล็กน้อย นางกำลังคิดแผนชั่วอะไรอยู่อีก?

ขณะฮองเฮากำลังสนทนากับฮูหยินตราตั้งทั้งหลายอยู่ ขันทีผู้น้อยก็แจ้งว่าลูกทั้งสี่มาถึงแล้ว

สองสามวันมานี้เฉียวเยี่ยนอยู่ในวัง เด็กๆ ทั้งสี่เลิกเรียนแล้วก็มาหานาง และพักอยู่ในวังกับนางด้วย

ครั้นฮองเฮาได้ยินว่าหลานๆ น่ารักของนางมาแล้ว ก็มีสีพระพักตร์ปิติยินดี เมื่อเพ่งมองดีๆ จะมีความภูมิใจเล็กน้อยอยู่ด้วย

ในบรรดาผู้คนที่นี่ ไม่มีเด็กคนใดเก่งเท่าหลานๆ ของนางแล้ว หลานๆ ของนางนั้นไม่เหมือนใคร!

เด็กทั้งสี่เข้าไปในห้องโถงใหญ่ เห็นผู้คนแล้วก็ไม่มีกลัวเลย พากันคำนับฮองเฮาอย่างพร้อมเพรียงกัน จากนั้นก็นั่งลงข้างมารดา ไม่ดื้อไม่ซน ไม่เอะอะใดๆ และป้อนองุ่นให้มารดา

อันซีโหวฮูหยินเห็นเด็กทั้งสี่ก็อิจฉาตาร้อนไม่ไหว ลูกสะใภ้นางให้กำเนิดหลานชายมาสองคน ทว่านางอิจฉาหลานสาวนุ่มนิ่มเชื่อฟังของคนอื่นมาก

ตอนนี้ได้แต่ฝากความหวังไว้กับลูกสาวตัวเองแล้ว หวังว่านางจะให้หลานสาวตัวน้อยกับตัวเอง

เมื่อเด็กๆ เข้ามา เหล่าฮูหยินตราตั้งก็หลีกเลี่ยงเอ่ยคำพูดสวยหรูไม่ได้ และชมเด็กๆ จนจะกลายเป็นดอกไม้ช่อหนึ่งแล้ว

ฮองเฮารู้สึกสุขกายสบายใจมาก และก็ไม่ถ่อมตัว เด็กๆ ของนางเยี่ยมที่สุดอยู่แล้ว!

อี้จื่อจิ้นได้ยินคำเยินยอของคนอื่น ก็รู้สึกไม่พอใจมาก

แค่เด็กเหลือขอสี่คน มีอะไรให้เอ่ยเยินยอกัน ลูกแท้ๆ สองคนยังพอให้พูดชื่นชมได้อยู่บ้าง ทว่าอีกสองคนที่เหลือไม่รู้ว่าไปเก็บมาจากไหน!

ในอนาคตหากนางมีลูก จะสอนให้กลายเป็นมังกรหงส์ท่ามกลางฝูงชน จะไม่เลี้ยงดูเหมือนเฉียวเยี่ยนที่สอนแบบไม่มีมารยาท!

……

เหล่าฮูหยินตราตั้งที่มาเยี่ยมเยือน ต่างได้รับรางวัลจากฮองเฮาเมื่อพวกนางจากตำหนักคุนหนิง และกลับบ้านไปอย่างมีความสุข มีเพียงภริยาท่านอัครเสนาบดีกับอี้จื่อจิ้น เท่านั้นที่เต็มไปด้วยความโกรธ

ตอนที่ยังไม่ได้มีความสัมพันธ์กับท่านอ๋องรุ่ย เห็นมู่ฉินเจิน กับเฉียวเยี่ยนใช้ชีวิตอย่างราบรื่น แม้ในใจจะโกรธ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกไม่เท่าเทียมขนาดนี้

ตอนนี้เมื่อรู้ว่ากำลังจะชิงบัลลังก์กับมู่ฉินเจิน เมื่อเห็นท่าทางดีใจออกหน้าออกตาของพวกเขาแล้ว หัวใจพลันรู้สึกเปรี้ยวราวกับกินมะนาวเข้าไป

ระหว่างทางกลับบ้าน สองแม่ลูกนั่งอยู่ในรถม้า หลู่ซื่อฮูหยินท่านอัครเสนาบดีมีสีหน้าบึ้งตึง และบ่นกับลูกสาว

“ไฉนท้องของเจ้าไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยเล่า? เวลาไม่เคยคอยใคร หากลูกคนนี้ของเฉียวเยี่ยนเป็นชายอีก ตำแหน่งองค์รัชทายาทของมู่ฉินเจินก็ยิ่งมั่นคงขึ้น!”

ไม่มีใครสนับสนุนฮ่องเต้ที่ไร้ทายาท ยิ่งมีทายาทมาก บ้านเมืองก็จะยิ่งมั่นคง

อีกทั้งสุขภาพของท่านอ๋องรุ่ยก็ทรุดโทรมลงทุกวัน หากยังไม่ตั้งท้องอีก ในอนาคตคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว

ในใจอี้จื่อจิ้นรู้สึกเสียใจอยู่แล้ว ตอนนี้ได้ยินคำบ่นของมารดาอีก ก็ยิ่งเศร้าใจมากขึ้น

เรื่องหลับนอนระหว่างนางกับท่านอ๋องรุ่ยนั้นน้อยครั้งนัก อีกทั้งทุกครั้งใช้เวลาประมาณหนึ่งเค่อ หากอยากตั้งท้อง อาศัยแค่ความพยายามของนางเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ!

ทว่าคำพูดเหล่านี้นางไม่กล้าเอ่ยกับหลู่ซื่อ นางเป็นคนหยิ่งยโส แม้แต่ต่อหน้าแม่ของตัวเองก็เสียหน้าไม่ได้

ต่อหน้าคนอื่นนางคือรุ่ยหวางเฟยที่ได้รับการสรรเสริญ จะให้คนอื่นรู้ไม่ได้ว่านางใช้ชีวิตยากลำบาก!

ยามดึก ตำหนักอ๋องรุ่ย

มู่เจ๋อจิ่นถูกสาวใช้เชิญเข้าไปในเรือนของอี้จื่อจิ้น นัยน์ตาเคลือบไปด้วยแววเยือกเย็น

หากไม่ใช่เพราะอยากตีสนิทท่านอัครเสนาบดี เขาก็ไม่อยากเสียเวลาไปกับสตรีเพียงคนเดียวหรอก

เขาผลักประตูเดินเข้าไปในห้อง สิ่งที่ต้อนรับเขาคือกลิ่นหอมอบอุ่น ห้องถูกคลุมด้วยผ้าโปร่งสีแดง และแสงเทียนสลัวๆ ทำให้บรรยากาศคลุมเครือในห้องเด่นขึ้น

บนเตียง มีผ้าม่านโปร่งแสงกั้นไว้ สามารถเห็นร่างด้านในนั้นได้อย่างเลือนราง

อี้จื่อจิ้นหันหลังให้มู่เจ๋อจิ่น สวมเพียงเสื้อชั้นใน*กับกางเกงชั้นในสั้นๆ สีแดง กำลังคุกเข่าอยู่บนเตียงอย่างอายๆ

(*肚兜 ตู้โตว (เสื้อชั้นใน) มีลัษณะเป็นผืนผ้าคล้ายผ้ากันเปื้อน สำหรับคาดรอบอก และมีสายผูกที่คอกับเอว)

นางคิดเรื่องนี้แล้ว ในเมื่อท่านอ๋องรุ่ยไม่เป็นฝ่ายรุกมาห้องของนาง เช่นนั้นนางจะเป็นฝ่ายเริ่มเอง!

เมื่อมู่เจ๋อจิ่นเห็นสถานการณ์ในห้อง ก็รู้แล้วว่าอี้จื่อจิ้นกำลังคิดทำอะไร

เขายิ้มอย่างเย้ยหยัน เดินเข้าไปที่เตียงอย่างช้าๆ พลางเปิดม่านเตียงออก เอื้อมมือไปลูบไล้แผ่นหลังเนียนนวลของนาง จากนั้นดึงปมมัดเส้นเล็กสีแดงที่พันรอบเอวนางออก

คุณหนูสูงศักดิ์ที่อ้างตัวว่าสูงส่ง วิสัยทัศน์ล้ำเลิศ กลับเรียนรู้ท่าทางน่ารังเกียจของหญิงคณิกา เขาอยากเห็นนักว่านางจะน่ารังเกียจได้อีกเท่าใด!

อี้จื่อจิ้นเห็นเขาไม่จากไป นางก็ดีใจ รู้ว่าตนมีเสน่ห์ ไม่มีชายใดปฏิเสธนางได้!

นางหันกลับม สวมกอดมู่เจ๋อจิ่นอย่างกระตือรือร้น สองมือเคลื่อนไปทั่วกายเขา และจูบไปทั่วร่างกายเขาอย่างเร่าร้อน

มู่เจ๋อจิ่นเอนกายนอนลงบนเตียง ปล่อยให้นางเป็นฝ่ายเริ่ม ในตาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย

อี้จื่อจิ้นคิดว่าความกระตือรือร้นของนางในคืนนี้น่าจะกระตุ้นความต้องการของมู่เจ๋อจิ่นได้ และมีเวลาอยู่นานกว่านี้อีกหน่อย ทว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดคือทุกอย่างจบลงที่หนึ่งเค่อเช่นเคย มู่เจ๋อจิ่นผลักนางออก ลุกขึ้นแต่งตัว และออกจากห้องของนางไป

อี้จื่อจิ้นฟังเสียงฝีเท้าของชายผู้จากไป น้ำตาแห่งความอัปยศอดสูพลันไหลลงมา นางทำถึงขนาดนี้แล้ว เหตุใดเขาก็ยังทำไม่ได้!

ส่วนมู่เจ๋อจิ่นที่จากไปสีหน้าก็ดูไม่ค่อยดีนัก เหตุที่เขาจิตใจสะอาดผ่องใส หนึ่งเป็นเพราะเขาสุขภาพไม่ดี ไม่สามารถใช้แรงและพลังทั้งหมดไปกับเรื่องอย่างว่าระหว่างชายหญิงได้ สองคือ…

เมื่อนึกถึงเหตุผลนี้ สีหน้าเขาก็หม่นหมองเป็นพิเศษ แม้ไม่อยากยอมรับ ทว่าเวลาของเขาดูจะสั้นแล้วจริงๆ

ทว่า เขาคือฮ่องเต้ในอนาคต จะดื่มด่ำไปกับความรักระหว่างชายหญิงพวกนี้ได้อย่างไร

……

…..

มู่เจ๋อจิ่นจะทำได้หรือไม่ได้เฉียวเยี่ยนก็ไม่สนใจ สิ่งที่นางสนใจตอนนี้คือลูกในท้องของนาง

ตอนนี้เข้าสู่ปลายเดือนสิบแล้ว เด็กครบกำหนดคลอดแล้ว และนางอาจคลอดได้ทุกเมื่อ

วันที่ยี่สิบสี่เดือนสิบสอง เป็นวันเกิดครบแปดขวบของเสี่ยวฉวนเอ๋อร์กับเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์

เด็กสองคนที่มีอายุแปดขวบ มีรูปร่างสูงกว่าสหายวัยเดียวกันอยู่มาก ความวัยเยาว์บนใบหน้าก็ลดลงไปเล็กน้อย ยิ่งเสี่ยวฉวนเอ๋อร์โตยิ่งเหมือนมู่ฉินเจินขึ้นเรื่อยๆ กลิ่นอายเย็นชาหยิ่งยโสบนตัวก็ปรากฏออกมาเหมือนกันทุกประการ

เมื่อสองพ่อลูกเดินออกไปด้วยกัน ไม่มีใครตาบอดถามว่าพวกเขาเป็นพ่อลูกกันหรือเปล่าอย่างแน่นอน

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ก็ไม่อ้วนเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ร่างกายเริ่มเพรียวบาง ใบหน้าขาวอมชมพู ดวงตากลมโตหยาดน้ำเหมือนจะบอกว่า ทั่วทั้งเมืองหลวงหาเด็กที่งดงามเยี่ยงนี้ไม่ได้อีกแล้ว

และสามารถจินตนาการได้ว่า ในอนาคตเด็กน้อยคนนี้อาจจะงามกว่าเฉียวเยี่ยนยอดหญิงงามอันดับหนึ่งในเมืองหลวงหลายเท่า

แต่อย่ามองว่าเด็กน้อยมีรูปร่างหน้าตาไม่มีพิษมีภัย อยู่ในสำนักศึกษานับได้ว่าเก่งกาจยิ่งนัก มีลูกน้องมากมายติดตามเป็นกลุ่มก้อน

ริอาจรังแกนางหรือพี่น้องของนาง? กำปั้นเล็กๆ จะทำให้เจ้าร้องไห้ก่อน แล้วค่อยพูดจาเหตุผลกับเจ้า!

ปีนี้ยังเป็นเหมือนเคย มีการจัดงานเลี้ยงวันเกิดคึกคักให้กับลูกทั้งสองในตำหนัก ครอบครัวญาติและสหายต่างมอบของขวัญ และอวยพรให้เด็กทั้งสองมีอายุยืนยาว

เสี่ยวอันอันกับระบบตัวน้อยก็สูงขึ้นไม่น้อย เสี่ยวอันอันมีนิสัยอ่อนโยนสมกุลสตรี ทั้งยังรูปร่างท่าทางสง่างาม หลังจากเลี้ยงนางมาสองปี นางก็กลายเป็นเด็กน้อยขาวอ้วน ดูไม่ออกเลยว่าเคยผอมซูบโทรมมาก่อนหน้านี้

และตั้งแต่ที่ระบบตัวน้อยกลายเป็นมนุษย์ ก็ดูเหมือนจะปรับตัวเข้ากับกฎการเจริญเติบโตของมนุษย์ได้ รูปร่างจึงเริ่มสูงขึ้น ไม่เหมือนตอนอยู่ในทะเลแห่งจิตสำนึกที่หนึ่งร้อยปีจะโตขึ้นเพียงปีเดียว

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

กรรมของคุณหนูอี้จริงๆ อยากจะมีลูกแต่ท่านอ๋องรุ่ยก็ไม่ให้ความร่วมมือเลย

เด็กๆ โตแล้ว อยากรู้หน้าตาในอนาคตตอนเป็นหนุ่มสาวเลย

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด