ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 330 การเก็บเกี่ยวที่ดี

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 330 การเก็บเกี่ยวที่ดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 330 การเก็บเกี่ยวที่ดี

ตอนที่ 330 การเก็บเกี่ยวที่ดี

เมล็ดพืชที่เฉียวเยี่ยนเก็บไว้และส่งไปยังสถานีเมล็ดพันธุ์ในสถานที่ต่างๆ ล้วนถูกซื้อไปจนหมดเกลี้ยง

ภายใต้การแนะนำของเจ้าหน้าที่สถานีเมล็ดพันธุ์ พวกชาวบ้านได้เรียนรู้วิธีการปลูกข้าวพันธุ์ผสม และปีแรกก็เก็บเกี่ยวได้มาก ผลผลิตเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่า

พวกชาวบ้านที่ได้เห็นเมล็ดข้าวระหว่างเก็บเกี่ยวมากมายเช่นนี้เป็นครั้งแรกล้วนปีติยินดีอย่างยิ่ง มุมปากเอาแต่ยกยิ้มไม่หุบ

ทุกวันก่อนรุ่งสางก็ไปเก็บเกี่ยวข้าวในนาแล้ว ข้าวปริมาณมหาศาลเป็นกระสอบๆ ถูกแบกกลับบ้าน รู้สึกแค่ว่าสบายใจอย่างมาก

หลังจากจ่ายภาษีให้ทางราชสำนักแล้ว แต่ละครัวเรือนเหลือเสบียงอยู่ไม่น้อย ซึ่งมากพอให้พวกเขาได้กินอิ่มดื่มพอตลอดปีหน้า พริบตาเดียวก็แก้ปัญหาเรื่องปากท้องของหลายคนไปได้

โดยเฉพาะชาวบ้านในหมู่บ้านที่ลุ่มเหล่านั้น พวกเขามีที่นามากจึงปลูกข้าวได้มาก ข้าวที่เก็บเกี่ยวมาได้แล้วรับประทานไม่หมดก็ถูกนำไปขายให้ร้านขายข้าวในเมือง เป็นการสร้างรายได้ในอีกทางหนึ่ง

ราชสำนักยังมีคำสั่งรวบรวมเสบียงไปตามสถานที่ต่างๆ ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล เสบียงส่วนที่เหลือของสามัญชนจะถูกรวบรวมเข้าคลังเพื่อใช้เป็นเสบียงของทหารหรือเสบียงบรรเทาทุกข์

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบางแห่งยังเลือกข้าวที่มีคุณภาพดีเยี่ยมส่งไปเป็นบรรณาการให้ราชสำนัก ฮ่องเต้เฒ่าได้เสวยข้าวขาวอ่อนนุ่มเช่นนี้ ก็ยิ่งอารมณ์ดีขึ้น

เมื่ออารมณ์ดี ก็ยกย่องพระโอรสและพระสุณิสาตัวเองในท้องพระโรงยกใหญ่ ยกย่องให้พวกเขาเป็นตัวอย่างในการเดินทางลงเจียงหนานเพื่อเผยแพร่การปลูกข้าวพันธุ์ผสม ซึ่งช่วยแก้ปัญหาปากท้องของคนส่วนใหญ่ได้

คำชมเชยเหล่านั้นถูกพ่นออกมาอย่างต่อเนื่องราวกับไม่มีราคา แถมยังมีการเขียนพระราชโองการชมเชยอีกสองฉบับ และพระราชทานรางวัลแก่คู่รักเฉียวเยี่ยนไปไม่น้อย

เป็นครั้งแรกที่มู่ฉินเจินไม่ถูกชายชราเหน็บแนม แถมยังอาศัยบารมีภรรยาได้รับรางวัลมาด้วย

การแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนมาก พวกขุนนางชราอวดดีบางคนได้เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเฉียวเยี่ยนไปไม่น้อยเพราะเรื่องนี้

แม้ไท่จื่อเฟยองค์นี้จะแหวกขนบไปหน่อย บอกจะไถที่ในตำหนักอ๋องในพระราชวังก็ไถ บอกจะทุบตีคนก็ลงมือทันที ไม่มีความเป็นกุลสตรีสักนิด ทว่านางล้วนพูดจริงทำจริงทั้งสิ้น

อย่างน้อยในเรื่องการเกษตร ก็ไม่มีใครเอาชนะนางได้

ครั้งที่แล้ว นางค้นพบสิ่งที่เรียกว่ามันเทศ ซึ่งทำให้คนส่วนหนึ่งได้อิ่มท้องไปบ้างแล้ว และยังแก้ปัญหาการขาดแคลนเสบียงของทหาร ครั้งนี้ค้นพบข้าวพันธุ์ผสมที่ให้ผลผลิตมากจนน่าตกใจนี้อีก ช่างเป็นโชคดีของพวกชาวบ้านไม่น้อย

เรื่องเหล่านี้พวกเขาต่างยอมรับ ทว่ามีเรื่องหนึ่งที่พวกเขายังไม่ยอม!

นั่นคือนางพยายามจะสร้างโรงเรียนอาชีวะอะไรนั่น แถมยังรับสมัครเด็กผู้หญิงเข้าโรงเรียนด้วย สตรีไร้พรสวรรค์ยิ่งมีคุณธรรม ช่างไม่รักษาหลักสามเชื่อฟังสี่จรรยา ซ้ำยังละเลยคำสั่งสอนของปราชญ์แห่งแผ่นดินด้วย!

ในตอนที่ดื่มกินด้วยกันเป็นการส่วนตัว ชายชราขี้โมโหกลุ่มนี้ก็ได้เอ่ยถึงเฉียวเยี่ยนแบบทั้งชื่นชมทั้งชิงชัง

และไม่รู้ว่านางไปหาคนที่ไหน ถึงยุยงภรรยาและสตรีทุกคนในบ้านของพวกเขาได้

เดี๋ยวนี้กลับบ้านไป พวกภรรยาน้อยใหญ่ต่างดูอารมณ์ไม่ดีแบบจมูกไม่ใช่จมูกตาไม่ใช่ตา อีกไม่นานเกรงว่าพวกนางคงไล่พวกเขาออกจากบ้าน!

พวกเขาก็คลุ้มคลั่งเหมือนกันนะ ตัวก็ฝังดินกันครึ่งหนึ่งไปแล้ว ใครกลัวใครกัน?

ในคำพูดของพวกเขา ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องตาย มิสู้ลองเสี่ยงต่อสู้กับโชคชะตา หลังจากอัดอั้นตันใจมาทั้งชีวิต ใครไม่อยากมีชีวิตอยู่สองปีอย่างมีความสุขบ้าง

ด้วยเหตุนี้ พวกชายชราที่ใช้เวลากว่าครึ่งชีวิตในเรือนหลังกลุ่มนี้ก็ถูกเหล่าภรรยาผู้อัดอั้นถลึงตากดดันใส่เป็นนิจ

ทั้งๆ ที่ครองคู่กันมาหลายสิบปี บอกจะจัดการพวกนาง ทว่าก็ยังลังเลตัดใจไม่ได้ จึงทำได้เพียงกล้ำกลืนความโกรธเอาไว้

ส่วนคนที่มีแม่เสือแก่อยู่ในบ้านยิ่งน่าสงสารเข้าไปใหญ่ ทุกคนต่างก็เป็นคนรุ่นปู่แล้ว กลับบ้านไปยังถูกภรรยาจัดการด้วยไม้เท้าจนพวกเขาเงยหน้าขึ้นไม่ได้

ฮึ! พวกเขาจะคอยดู! คอยดูว่าสำนักศึกษาที่เรียกว่าโรงเรียนอาชีวะของไท่จื่อเฟยจะสามารถก่อคลื่นอะไรออกมาได้?

ถึงตอนนั้นหากไปยั่วยุจนประชาชนเกิดความไม่พอใจขึ้นมา คอยดูว่าพวกเขาจะขึ้นศาลเล่นงานนางหรือไม่!

พวกชายชราคิดในใจอย่างมีความสุขมาก แต่กลับไม่คิดเลยว่าแค่ระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่เดือนตัวเองก็ถูกตบหน้าไปแล้ว!

เฉียวเยี่ยนวางแผนจะเริ่มรับสมัครนักเรียนในเดือนสาม เวลากระชั้นชิดงานก็หนัก จำต้องตกแต่งโรงเรียนให้แล้วเสร็จทันที

ทีมคณาจารย์ก็เตรียมพร้อมแล้ว และเริ่มงานได้ทุกเมื่อ ตอนนี้บางคนได้ลากครอบครัวมาอาศัยในหอพักพนักงานที่โรงเรียนจัดสรรให้แล้ว

ในบรรดาอาจารย์ที่เฉียวเยี่ยนหามา มีเจ้าขุนมูลนายเฉกเช่นเฉียวจิ่น และช่างฝีมือบางส่วนจากในตลาดด้วย

เช่น ช่างไม้เก๋ออายุสามสิบกว่า ช่างตีเหล็กหวางอายุสี่สิบกว่า แล้วก็พวกช่างปักเย็บ ช่างตัดเสื้อที่จ้างมาจากห้องเย็บปักถักร้อย

อาจารย์ช่างฝีมือที่เฉียวเยี่ยนหามาล้วนต้องรู้จักตัวอักษร พวกเขาไม่จำเป็นต้องสามารถท่องบทกวีได้ แต่อย่างน้อยอ่านตัวอักษรเข้าใจได้

คนเหล่านี้ได้รับโอกาสในตอนเด็ก ได้เรียนรู้อักษรมาบ้าง แม้ไม่มีความรู้อะไรมาก ทว่าก็ยังรู้หนังสือ

ทั้งชีวิตนี้ของพวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าคนธรรมดาอย่างพวกเขาจะถูกเชิญมาเป็นอาจารย์ สิ่งสำคัญคือไม่ได้สอนเรื่องการอ่านเขียน แต่เป็นงานฝีมือของพวกเขา

สอนทักษะฝีมือ งานนี้พวกเขาถนัดนัก!

พวกเขามีลูกศิษย์จำนวนมากอยู่ในมือ แม้จะบอกว่าสอนศิษย์จนอาจารย์อดตาย ทว่าพวกเขายังสามารถเก็บค่าเล่าเรียนบางส่วนได้

แต่ตอนนี้ไท่จื่อเฟยเชิญพวกเขาไปเป็นอาจารย์ในโรงเรียน ไม่เพียงจ่ายเงินเดือนให้พวกเขาเดือนละสามตำลึงเท่านั้น แต่ยังจัดหาที่พักให้พวกเขาด้วย

ด้วยกลัวว่าพวกเขาจะไม่วางใจ ไท่จื่อเฟยจึงพาพวกเขาไปดูบ้าน บ้านไม่ใหญ่มาก แต่เป็นอิสระ มีสามห้องและลานเล็กๆ พวกเขาสามารถพาครอบครัวไปอาศัยอยู่ที่นั่นได้

คนวัยอย่างพวกเขาล้วนกังวลอยู่อย่างหนึ่งว่าจะไม่มีพื้นที่ในบ้านเพียงพออาศัยยามลูกชายต้องแต่งงาน

แต่ตอนนี้นับว่าดีแล้ว พวกเขาสามารถพาภรรยามาอาศัยอยู่ในโรงเรียน ปล่อยให้ลูกชายกับลูกสะใภ้อยู่ในบ้านนั้นไป เมื่อพวกเขาเลิกเป็นอาจารย์แล้ว เงินค่าจ้างที่เก็บไว้ก็สามารถนำไปใช้สร้างบ้านใหม่ได้

ไม่ว่าจะคิดอย่างไรนี่เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก!

แต่พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่า หากอยากเป็นอาจารย์อย่างแท้จริง ยังต้องผ่านขั้นตอนที่เรียกว่า ‘การอบรม’ อะไรนั้นก่อน

พูดง่ายๆ คือไท่จื่อเฟยหาคนมาสอนกฎให้พวกเขา และประเมินความสามารถของพวกเขา ใครมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดถึงสามารถอยู่รับหน้าที่ได้

และมีคนไม่น้อยที่ลงสมัครตำแหน่งเดียวกับพวกเขา จึงต้องทำให้ดีที่สุด แสดงทุกด้านออกมาให้โดดเด่นที่สุด ถึงสามารถอยู่ต่อได้

สรุปแล้ว ขั้นตอนการคัดเลือกของเฉียวเยี่ยนค่อนข้างเข้มงวด ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างหนักหน่วงและเหลืออยู่เป็นคนสุดท้าย เมื่อมองย้อนกลับไปกลับรู้สึกเหมือนได้รอดพ้นจากหายนะ

แต่สิ่งที่ต้อนรับพวกเขาคืออนาคตอันสดใส เพียงแค่คิดถึงมัน ตกดึกฝันก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มได้

วันนี้ช่างไม้เก๋อ เก๋อต้าโหยวพาภรรยาย้ายเข้าไปในหอพักของโรงเรียน หลิวซื่อ ภรรยาของเขาไม่เคยมาโรงเรียนมาก่อน ได้ยินจากสามีเพียงว่าลานบ้านเล็กๆ ที่จัดสรรให้นั้นดีขนาดไหน

เมื่อได้มาเห็นในตอนนี้ นางก็แทบจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ

นี่มันดีที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่ามันดีมากๆ ดีสุดๆ ไปเลย!

ลานบ้านเก่าถูกทิ้งไว้ให้ลูกชายกับลูกสะใภ้อาศัย ตอนนี้สามีได้ลานบ้านเล็กๆ มาหลังหนึ่ง สามห้องนับว่ามากพอสำหรับพักสองคน แถมยังมีลานเล็กๆ ด้วย ถึงตอนนั้นจัดการเพิ่มเติมเล็กน้อย ปลูกผัก เลี้ยงไก่ หรือทำอะไรซักอย่าง ชีวิตความเป็นอยู่ต้องดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน

ในระหว่างที่คิดเช่นนี้ พลันสีหน้าของนางก็จริงจังขึ้นอีกครั้ง ไม่รู้ว่าการเลี้ยงไก่ในโรงเรียนจะส่งผลกระทบต่อการเรียนหนังสือของนักเรียนหรือไม่ ไม่ได้ๆ รอถึงตอนนั้นก่อนค่อยว่ากัน ปลูกผักไปก่อนดีกว่า

พวกอาจารย์เหล่านี้ต่างเริ่มทยอยกันย้ายบ้านมา เมื่อมาถึงที่หมาย พวกเขาก็ไปเยี่ยมหรือให้อาหารกัน เพียงครู่เดียวก็คึกคักขึ้นมา

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้ว ต่อให้ทั้งอาณาจักรจะเปลี่ยนไปไม่มากแต่ก็เห็นได้ชัดว่าเมืองหลวงพัฒนาขึ้นเยอะจากฝีมือของเฉียวเยี่ยน

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด