ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 362 แอบตามไปด้วย

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 362 แอบตามไปด้วย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 362 แอบตามไปด้วย

ตอนที่ 362 แอบตามไปด้วย

หลังกองทัพใหญ่ออกไปได้สองวัน ภายนอกของเฉียวเยี่ยนก็ดูไม่ต่างอะไรจากปกติ ควรดูแลลูกก็ดูแล ควรหาเงินก็หาเงิน

แต่ลับหลังนางกลับเตรียมสัมภาระเดินทางไปทางเหนือกับระบบตัวน้อย

เรื่องออกเดินทางไปสนามรบห้ามให้พวกเด็กๆ รู้เด็ดขาด โดยเฉพาะเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ ตอนนี้ดูเหมือนเด็กน้อยจะกลายเป็นแม่ทัพหญิงไปแล้ว และฝันอยากจะไปสู้รบกับศัตรู

หากไม่ใช่เพราะครั้งนี้มู่ฉินเจินบิดานางปฏิเสธอย่างแน่วแน่ คาดว่านางคงออกเดินทางตามทัพใหญ่ไปแล้ว

ในวันที่ห้าหลังทัพใหญ่จากไป เฉียวเยี่ยนได้พาเด็กๆ ไปที่จวนสกุลเฉียว โกหกไปว่าสวนป่าท้อเกิดปัญหาเล็กน้อย ต้องออกไปจัดการหลายวัน

จึงพาเด็กๆ มาให้มารดาตัวเองดูแล พวกเด็กๆ ต่างอยู่กับท่านยายอย่างเชื่อฟัง เล่นกับน้องสาวของครอบครัวท่านลุง ไม่รู้เลยว่านี่เป็นข้ออ้างของมารดาในการจะจากไป

หลังจากจัดการพวกเด็กๆ เสร็จ เฉียวเยี่ยนก็พาระบบตัวน้อยออกเดินทาง อันดับแรกแสร้งทำเป็นเดินทางไปยังสวนป่าท้อก่อน ระหว่างทางก็เปลี่ยนเส้นทาง ควบม้าเร็วจากไปทันที

ระบบตัวน้อยเป็นเด็กซนที่ชอบความสนุกสนาน ไม่เพียงไม่กลัวสงครามแล้ว แต่ยังตั้งตารอคอยอีกด้วย

ไปจัดการเรื่องบางอย่างกับโฮสต์ของนาง ต้องสนุกมากแน่ๆ !

เฉียวเยี่ยนขี่ม้าพร้อมกับเด็กน้อย เห็นเด็กน้อยดีดขาสั้นๆ อย่างปิติยินดี บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา

“มีความสุขนาดนั้นเลย? ไม่กลัวข้าเอาเจ้าไปขายแล้วเจ้าก็นับเงินให้ข้าเหรอ?”

ระบบตัวน้อยส่ายหน้าอย่างมั่นใจ พลางเอ่ยอย่างอวดเบ่ง “ระบบไม่กลัวหรอก ข้าคือระบบผู้น่ารักและฉลาดที่สุด!”

ทั้งสองควบม้าเร็วเดินทางอยู่สามวัน เมื่อม้าใกล้จะไล่ตามไปถึงกองทัพใหญ่ เฉียวเยี่ยนก็เปลี่ยนเส้นทาง

นางไม่คิดจะไล่ตามกองทัพใหญ่ให้ทัน เพราะหากเปิดเผยตัวตอนนี้ องค์รัชทายาทของนางต้องส่งนางกลับไปแน่

นางวางแผนจะเดินทางไปลำพัง เดินทางไปยังด่านเฟิงหยาที่อยู่ห่างจากด่านหลานเยว่ไม่ไกลนัก

ด่านเฟิงหยาคือป้อมปราการสำคัญของเทียนลี่ ซึ่งอยู่ติดกับแคว้นเป่ยโดยตรง เมื่อผ่านด่านเฟิงหยาไปก็จะเป็นเขตแดนของแคว้นเป่ยแล้ว

เมื่อมาถึงด่านเฟิงหยา นางก็เดินทางอ้อมไปยังด่านหลานเยว่อีกครั้ง แบบนี้ต่อให้องค์รัชทายาทของนางจับนางได้ ก็ไม่มีทางส่งนางกลับไปแน่นอน

เฉียนเยี่ยนกับระบบตัวน้อยออกเดินทางแบบหยุดๆ เดินๆ ใช้เวลาไปครึ่งเดือนก็มาถึงด่านเฟิงหยา

คาดว่ากองทัพใหญ่น่าจะใช้เวลาราวๆ ห้าวันจึงจะไปถึงด่านหลานเยว่ นางจึงวางแผนพักผ่อนอยู่ที่ด่านเฟิงหยาไปก่อนสักพัก

เนื่องจากเป็นสงครามคับขัน ทหารเฝ้าประตูเมืองจึงตรวจเข้มงวดมาก จะเข้าเมืองต้องมีป้ายแสดงฐานะกับหนังสือเดินทาง เรื่องพวกนี้เฉียวเยี่ยนได้เตรียมไว้ก่อนออกเดินทางเรียบร้อยแล้ว ด้วยอำนาจของนาง การสร้างป้ายแสดงฐานะปลอมกับแต่งหนังสือเดินทางขึ้นมาจึงเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากเย็นอะไร ทำให้เข้าเมืองมาได้อย่างราบรื่น

เมื่อเข้าไปภายในตัวเมือง เฉียวเยี่ยนก็หาโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งพักกับระบบตัวน้อยหไปก่อน ออกเดินทางติดต่อกันมาหลายวัน ทั้งสองทั้งเหนื่อยทั้งหิว จึงสั่งอาหารท้องถิ่นมาโต๊ะหนึ่ง และกินอิ่มไปหนึ่งมื้อ

ด่านเฟิงหยาอยู่ติดกับแคว้นเป่ย พวกอาหารเครื่องดื่มจึงได้รับอิทธิพลจากแคว้นเป่ยมาเสียส่วนใหญ่ ซึ่งมีเนื้อเป็นอาหารหลัก โดยเฉพาะเนื้อแกะ ในอาหารสิบอย่างมีเนื้อแกะไปแล้วแปดอย่าง

มู่ฉินเจินกับกองทัพใหญ่กำลังอยู่ระหว่างเดินทางไปยังด่านหลานเยว่ เขาที่คิดถึงภรรยากับลูกๆ ไม่รู้เลยว่าภรรยาผู้น่าเอ็นดูของเขาได้เดินทางมาทางเหนือแล้ว

เดิมทีเฉียวเยี่ยนตั้งใจจะพักผ่อนอยู่ที่ด่านเฟิงหยาสักสองวันแล้วค่อยออกเดินทางไปสมทบกับมู่ฉินเจินที่ด่านหลานเยว่ ทว่าพระเจ้าไม่ให้นางได้สมใจหวัง

คืนแรกที่พวกนางเข้าเมืองมา ดึกดื่นครึ่งค่อนคืนก็เกิดความโกลาหลขึ้นในเมือง

แคว้นเป่ยโจมตีด่านเฟิงหยากะทันหัน!

ทหารเฝ้าเมืองพ่ายแพ้ ข้าศึกรุกล้ำเข้ามา ยึดด่านเฟิงหยาไว้ได้อย่างรวดเร็ว

ภายในเมืองเกิดความโกลาหลวุ่นวาย พวกชาวบ้านวิ่งไปคนละทิศละทาง ลากครอบครัวพากันหลบหนี เฉียวเยี่ยนเองก็พาระบบตัวน้อยหลบเลี่ยงศัตรูเช่นกัน ระหว่างทางนางกลับพบเหตุการณประหลาดมากอย่างหนึ่ง

ทหารเฝ้าเมืองของด่านเฟิงหยาส่วนหนึ่งดูเหมือนจะต่อสู้กับศัตรูจนตัวตาย ทว่าตอนลงมือกลับดูเหมือนเล่นก็ไม่ปาน และถูกศัตรูจับเอาได้ง่ายๆ และทหารที่ถูกจับได้เหล่านั้นก็เปลี่ยนหน้าไปเป็นทหารของแคว้นเป่ย จัดการกวาดล้างในเมืองร่วมกันกับศัตรู

เมื่อเห็นเช่นนี้ เฉียวเยี่ยนจะไม่รู้ได้อย่างไร ในบรรดาทหารเฝ้าเมืองมีไส้ศึกแฝงตัวอยู่ในนั้น!

ไม่อย่างนั้นแคว้นเป่ยไม่มีทางโจมตีเมืองได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ เกรงว่าอีกสองเมืองที่ถูกโจมตีก่อนหน้านี้ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน

ยามนี้ภายในด่านเฟิงหยาก็วุ่นวายขึ้น เสียงสู้รบ เสียงกรีดร้องระงมไปทั่ว มีชาวบ้านบางคนถือโอกาสในตอนที่ประตูเมืองยังเปิดอยู่หลบหนีออกจากเมือง แต่ก็หนีไม่พ้น และส่วนใหญ่ก็ถูกทหารศัตรูจับไปเป็นตัวประกัน

เฉียวเยี่ยนพาระบบตัวน้อยฝ่าออกจากวงล้อม และหนีออกมาจากด่านเฟิงหยาได้ ทว่าพวกนางหนีไปทางตรงข้ามกับผู้อพยพ

พวกอพยพวิ่งหนีไปเมืองใกล้ๆ กับเทียนลี่ แต่เฉียวเยี่ยนกลับพาระบบตัวน้อยหนีไปถึงแคว้นเป่ย

ทั้งสองหลบหนีมาตลอดทาง ระบบตัวน้อยใช้ข้อได้เปรียบของตัวเองอย่างเต็มที่ พาเฉียวเยี่ยนหลบเลี่ยงทหารศัตรู

ทั้งสองวิ่งมาตลอดทาง วิ่งมาจนถึงเขตป่ารกร้าง ทุ่งหญ้ากว้างขวางไร้ผู้คน บางครั้งยังได้เสียงเสียงหมาป่าหอนแว่วเป็นระยะ

เฉียวเยี่ยนหาสถานที่หนึ่งนั่งพักกับระบบตัวน้อย และถือน้ำแร่คนละขวด ดื่มอย่างหิวกระหาย

ขณะดื่มอยู่นั้น เฉียวเยี่ยนก็ยิ้มออกมา และเอ่ยกับระบบตัวน้อยอย่างจนใจ “เจ้าว่าดวงของพวกเราเป็นอะไรกัน พอถึงที่หมาย ก็ไม่มีเมืองอยู่แล้ว”

นางล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อบนหน้าผากให้เด็กน้อย แล้วถามเสียงเบา “กลัวหรือเปล่า?”

สิ่งที่ตอบนางกลับมาเป็นสายตาแวววาวของระบบตัวน้อย นี่มันใช่ท่าทางหวาดกลัวเสียที่ไหนกัน เกรงว่าเด็กน้อยยังรู้สึกว่าตื่นเต้นเร้าใจด้วยซ้ำ

ระบบตัวน้อยไม่กลัวจริงๆ นางคิดว่าการหนีตายในคืนนี้เหมือนเกมสู้ชีวิต ตื่นเต้นเร้าใจเป็นอย่างมาก!

หลังจากเสียเมืองไปแบบไม่คาดคิด แผนที่เฉียวเยี่ยนคิดไว้ก่อนหน้านี้ก็เป็นอันล้มพับไป ตอนนี้นางยังไปที่ด่านหลานเยว่ไม่ได้ อีกทั้งทหารเฝ้าเมืองของเทียนลี่มีไส้ศึก นางจำต้องหาวิธีจัดการเรื่องนี้อยู่ที่แคว้นเป่ย

ทั้งสองพักอยู่ในป่ารกร้างคืนหนึ่ง วันรุ่งขึ้น หลังจากผลัดอาภรณ์เสร็จ รูปลักษณ์ของทั้งสองก็เปลี่ยนไปมาก

พวกนางเปลี่ยนมาใส่เครื่องแต่งกายของคนแคว้นเป่ย ในระบบแปลภาษาของระบบตัวน้อยมีภาษาของแคว้นเป่ยอยู่ สามารถสื่อสารกับคนแคว้นเป่ยได้ ส่วนเฉียวเยี่ยนก็แสร้งเป็นใบ้ เรื่องสื่อสารทั้งหมดจึงส่งมอบให้กับระบบตัวน้อย

เพื่อไม่ให้ถูกเปิดเผยตัวตน เฉียวเยี่ยนจึงเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้ดูน่าเกลียด ซื้อหมึกดำกันน้ำมาวาดปานสีดำบนใบหน้า

ปานดำจะช่วยปกปิดรูปโฉมเอาไว้ ดวงหน้าที่งดงามในตอนแรกจึงเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดไปชั่วพริบตา

วาดแค่ปานอย่างเดียวยังไม่พอ นางยังติดไฝใหญ่ๆ ให้ตัวเองด้วย เมื่อมีไฝติดอยู่บนหน้า นางก็เปลี่ยนไปเป็นอัปลักษณ์ทันที

ดวงหน้านุ่มนิ่มของระบบตัวน้อยก็ถูกนางวาดมั่วๆ ด้วยเช่นกัน วาดปานอย่างเดียวกัน และยังแต้มจุดดำเล็กๆ บนใบหน้า ซึ่งตอนนี้สถานะของพวกนางได้เปลี่ยนเป็นสตรีอัปลักษณ์สองนางแล้ว

สภาพภายในแคว้นเป่ยนั้นไม่ต่างอะไรกับเทียนลี่มากนัก มีทุ่งหญ้ากว้างขวาง มีฝูงวัวฝูงแกะ และมีบ้านกระโจมที่สามารถแยกส่วนและพกพาไปได้เป็นหลังๆ

พวกนางเดินไปยังทิศทางของด่านหลายเยว่ ว่ากันว่ากำลังหลักของแคว้นเป่ยกำลังตั้งค่ายอยู่นอกด่านหลานเยว่ พวกนางจึงคิดไปตายเอาดาบหน้า ดูว่าจะสามารถปะปนเข้าไปในกองทหารได้หรือไม่

เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยที่แต่งเป็นสองแม่ลูกน่าเกลียดหลอกทหารลาดตระเวนได้สำเร็จ เมื่อมีคนถามสถานะขึ้นมา เฉียวเยี่ยนก็แสร้งทำเป็นใบ้ ส่วนระบบตัวน้อยก็เอ่ยประสบการณ์ชีวิตอันน่าสังเวช

เมื่อระบบตัวน้อยเผชิญหน้ากับทหารร่างบึกบึน ก็เงยหน้าขึ้นบีบน้ำตา เล่าเรื่องราวของตัวเองอย่างน่าสงสาร

พวกเรามาจากชนเผ่าxxx แต่คนในชนเผ่ารังเกียจที่เราหน้าตาอัปลักษณ์ คิดว่าพวกเราทำลายภาพลักษณ์ของชนเผ่า จึงไล่พวกเราออกจากเผ่า

นี่คือเคล็ดลับออดอ้อนทำตัวน่าสงสารที่ใช้บ่อยๆ ของระบบตัวน้อย ปกติใบหน้าน่ารักของนางนั้นจะนุ่มนิ่มน่าเอ็นดูเมื่อแสดงออกเช่นนี้

ทว่ายามนี้บนใบหน้าที่มีปานกับจุดดำเล็กๆ ต่อให้ทำแบบนี้มากแค่ไหน ก็ดูไม่น่ามองจริงๆ

ทหารลาดตระเวนต่างคิดว่าตัวเองต้องไปล้างตาสักหน่อย มิน่าเล่าถึงได้ถูกไล่ออกมาจากเผ่า สองแม่ลูกคู่นี้มีหน้าตาน่าเกลียดเกินไปหน่อยแล้ว

แต่เมื่อเห็นว่าระบบตัวน้อยพูดภาษาแคว้นเป่ยได้อย่างชัดเจนมาก พวกทหารจึงไม่เกิดความสงสัย ปล่อยให้พวกนางผ่านเข้าไป

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เจ้าท่อนไม้ตัวดื้อออกมากับระบบสูตรโกงแล้วนะองค์รัชทายาท อะไรก็ขวางนางไม่ได้เลยจริงๆ

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด