ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 366 ระทึกขวัญยามดึก

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 366 ระทึกขวัญยามดึก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 366 ระทึกขวัญยามดึก

ตอนที่ 366 ระทึกขวัญยามดึก

ตอนนี้นางไม่ขาดเงิน แถมคะแนนก็ใกล้จะถึงสิบล้านแล้ว ทว่าจะใช้อย่างมือเติบขนาดนั้นไม่ได้แล้ว นางยังอยากเอาไปซื้อของอย่างอื่นด้วย

เมื่อไม่มีอะไรทำ นางมองไปที่ร้านค้า และค้นหาแต่อาวุธ นอกเหนือจากขีปนาวุธขนาดใหญ่ ระเบิดปรมาณู และระเบิดนิวเคลียร์ ก็ยังมีปืนอีกหลายประเภท แต่น่าเสียดายที่มีราคาแพงเกินไป

ราคาของปืนซุ่มยิงหนึ่งกระบอกนั้นแพงจนเกินไป ต้องใช้เงินครึ่งหนึ่งของมูลค่าสุทธิของนางถึงจะซื้อปืนซุ่มยิงนี้ได้ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงอาวุธระดับสูงอื่นๆ เลย

แต่คิดๆ ดูแล้วคงเป็นเพราะกันไม่ให้ขัดกับโลกยุคโบราณ ระบบจึงตั้งราคาสูงเช่นนี้ หากมีเงินนิดหน่อยก็ซื้ออาวุธขั้นสูงได้ตามใจ เช่นนั้นนางคงได้ปกครองโลกแล้ว

การมองเห็นแต่ไม่สามารถซื้อมาได้ทำให้เฉียวเยี่ยนน้ำลายไหลด้วยความอิจฉา เมื่อมองไปที่รถสุดเท่ในร้านค้า นิ้วของนางก็ขยับอยากลองซื้อสักคัน แต่เมื่อเห็นราคาแล้ว…

ช่างเถิด นางยอมแพ้แล้ว ไปขี่ม้าของตัวเองอย่างเชื่อฟังดีกว่า!

กลางดึก เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยตื่นขึ้นมาทำงาน คืนนี้กองทัพแคว้นเป่ยดื่มเหล้าและนอนดึกมาก ตอนนี้เป็นเวลาที่พวกเขาง่วงนอนพอดี จึงเปิดทางสะดวกให้พวกนางทำงาน

ทั้งสองเคลื่อนไหวอยู่เขตรอบนอกค่าย หน่วยลาดตระเวนไม่มาที่ค่ายอาศัยของทาสบ่อยนัก จึงถูกจับได้ยาก

เฉียวเยี่ยนซื้อลำโพงสเตอริโอสามดีกับระบบมา ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับบลูทูธได้ ก่อนซ่อนลำโพงไว้ในซอกหินที่ซ่อนอยู่ริมแม่น้ำ

ถึงตอนนั้นระบบตัวน้อยเพียงเชื่อมต่อบลูทูธเข้ากับลำโพง ก็สามารถปล่อยเสียงได้แล้ว

นอกจากนี้ เฉียวเยี่ยนยังได้เตรียมลูกโป่งไฮโดรเจนรูปคนไว้สองสามใบ เพียงแค่นางปล่อยลูกโป่งไฮโดรเจนไปตามทิศทางของลม ท่ามกลางท้องฟ้ามืดสลัวที่มีร่างคนลอยอยู่บนท้องฟ้าสองสามคนบวกกับเสียงอันน่ากลัวคงดึงดูดความสนใจของผู้คนได้อย่างแน่นอน

และพวกนางจะใช้โอกาสนี้ปล่อยแกะออกจากคอกไม้ ต้อนฝูงแกะไปทางด่านหลานเยว่

ด่านหลานเยว่อยู่ห่างจากที่นี่เพียงแค่ยี่สิบลี้ แค่หาม้า ควบม้าเร็ว ใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วยามก็กลับมาได้แล้ว

ดึกดื่นค่อนคืนทั้งสองไม่หลับไม่นอน แอบย่องเบาไปจุดต่างๆ หลังจากเตรียมการทุกอย่างเสร็จแล้ว อีกหนึ่งชั่วยามฟ้าก็ใกล้สว่างแล้ว

หน่วยลาดตระเวนเดินตรวจตรากันตลอดทั้งคืน ในตอนที่คิดว่าคืนนี้ปลอดภัยแล้วนั้น กลับไม่คิดเลยว่าอันตรายกำลังก่อตัวขึ้น

เสียงกรีดร้องโหยหวนดังก้องท้องฟ้ายามค่ำคืน ทหารลาดตระเวนที่ง่วงงุนสลึมสลือตัวสั่นเทา และมองไปทางต้นเสียง

ทั่วทุกที่มืดสลัว มองเห็นอะไรได้ไม่ชัดเจน

ทว่าเสียงกรีดร้องยังคงดังอย่างต่อเนื่อง เสียงโหยหวนนั้นน่ากลัวและเย็นเยือกมาก เดี๋ยวก็กรีดร้อง เดี๋ยวก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง แถมยังมีเสียงกัดฟันเหมือนสุนัขแทะกระดูกด้วย

หน่วยลาดตระเวนได้ยินแล้วก็รู้สึกขนลุกตัวชาไปหมด และเริ่มขาอ่อนเปลี้ยไม่มีแรง

ผี! นั่นมันเสียงผีร้อง!

แต่พวกเขาล้วนเป็นชายชาตรี จึงมีความกล้าอยู่บ้าง คิดว่ามีคนแสร้งทำเป็นผี จึงค่อยๆ เดินไปทางต้นเสียงอย่างช้าๆ

แต่ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปใกล้ ก็เห็นอะไรบางอย่างค่อยๆ ลอยขึ้นมาจากพื้น รูปร่างนั้นดูเหมือนคนมาก!

คนผู้นั้นยิ่งลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ และลอยไปทางค่ายตามสายลม ในขณะที่เสียงกรีดร้องยังคงดำเนินต่อไป

“เฮอะ เฮอะ เฮอะ…”

เสียงกรีดร้องเย็นยะเยือกน่าสะพรึงกลัวได้ปลุกผู้คนที่กำลังอยู่ในความฝันให้ตื่นขึ้น อากาศที่หนาวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้พวกเขาตัวสั่นอยู่ในผ้าห่มบางๆ ครั้นได้ยินเสียงนี้อีกก็รู้สึกหนาวเหน็บไปถึงสันหลัง

บางคนสวมเสื้อผ้าวิ่งออกมาดูสถานการณ์ ครั้นดวงตาสะลึมสะลือมองเห็น ‘คน’ ลอยอยู่บนท้องฟ้า ก็ตะโกนอย่างคนเสียสติ “ผี! มีผี!”

เสียงตะโกนนี้ ทำให้หลายคนตกใจตื่นขึ้นมา หน่วยลาดตระเวนก็รู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ปกติ ไม่กล้าเดินไปข้างหน้าต่อ และรีบวิ่งกลับไปที่ค่าย ตีฆ้องปลุกให้คนตื่น

ตำแหน่งคอกแกะอยู่ไม่ไกลจากแม่น้ำ เสียงกรีดร้องโหยหวนจึงชัดเจนเป็นพิเศษ ทหารแคว้นเป่ยที่ตัวสั่นตลอดคืนเพราะต้องลมหนาวแล้วจู่ๆ ได้ยินเสียงกรีดร้อง ก็พากันตัวสั่นเทา

พวกเขาจ้องมอง ‘คน’ ที่ลอยขึ้นจากพื้นอย่างนิ่งค้าง ยิ่งลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ และลอยเข้ามาใกล้พวกเขาเรื่อยๆ จึงจ้องมองของที่อยู่บนท้องฟ้าอย่างกระวนกระวาย พลางถืออาวุธที่อยู่ในมือไว้แน่น

เฉียวเยี่ยนได้เปลี่ยนชุดเป็นชุดของทหารแคว้นเป่ยเรียบร้อยแล้ว และปิดหน้าอย่างแน่นหนา เผยแค่เพียงดวงตาสองดวงเท่านั้น

นางสวมเสื้อผ้าไว้ด้านในค่อนข้างมาก ในเวลานี้สวมชุดเกราะของทหารแคว้นเป่ยไปอีกชั้น จึงทำให้นางดูทรงพลังมาก และมองไม่ออกว่านางเป็นสตรี

นางใช้โอกาสที่ทหารแคว้นเป่ยมองขึ้นไปบนท้องฟ้า แอบเล็ดลอดเข้าไปในหน่วยเฝ้าแกะ และแหงนหน้ามองฟ้าเลียนแบบพวกเขา ไม่มีติดขัดเลยแม้แต่น้อย

ในเวลานี้ทหารแคว้นเป่ยที่หลับไหลได้ตกใจตื่นขึ้นมาหมดแล้ว และวิ่งออกไปดู ‘คน’ ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า พลางตัวสั่นฟังเสียงกรีดร้องของผีท่ามกลางลมหนาว

ระบบตัวน้อยเองก็ปะปนไปกับฝูงชนเช่นกัน และทำหน้าตกใจเลียนแบบพวกเขา แต่ความจริงแล้วโทรศัพท์มือถือที่เล่นเสียงผีร้องโหยหวนได้ซ่อนอยู่ในอ้อมแขนนาง

พวกนายพลของกองทัพแคว้นเป่ยเห็นผู้คนในค่ายกำลังตื่นตระหนก ก็ส่งพลธนูยิงคนที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าให้ตกลงมาทันที

แต่ลูกโป่งไฮโดรเจนลอยอยู่สูงเกินไป พวกเขาไม่อาจยิงโดนได้เลย

ลูกโป่งไฮโดรเจนลอยตามสายลมพัดโชยเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ และโครงร่างของมนุษย์ก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ซึ่งมีหลายคนเชื่อว่ามีผีหลอกแล้ว

เมื่อแม่ทัพเห็นว่ายิงผีไม่ได้ ก็ส่งหน่วยเล็กๆ ไปตรวจสอบที่มาของเสียงร้องผี

ในตอนที่กลุ่มคนกระสับกระส่าย เฉียวเยี่ยนได้แอบเข้าไปใกล้ประตูรั้ว และฉีกแถบผ้าที่ประตูรั้วออก

หลังจากกระทำดังนี้เสร็จ นางก็หยิบไม้เด็ดออกมาจากแขนที่ป่องนูน นั่นคือประทัดม้วนยาวพวงหนึ่ง!

นางแอบยัดประทัดเข้าไปในคอกแกะตรงรั้วไม้ แล้วหยิบตะบันไฟออกมาจุดใส่ประทัด จนเสียงประทัดดังสนั่นไปทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืน

ทันทีที่เสียงประทัดดังขึ้น ความสนใจของทุกคนก็ถูกดึงจาก ‘ผี’ กลับมาที่คอกแกะ

ฝูงแกะตกใจกับเสียงประทัดที่ดังกะทันหันจนส่งเสียงร้องลั่น วิ่งไปชนรั้วด้วยความตกใจกลัว จนทำให้ประตูรั้วคลายออก

พริบตาเดียว แกะทุกตัวก็กรูหนีออกมาจากคอกแกะอย่างรวดเร็ว

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป เสียงกรีดร้องของผียังคงดำเนินต่อไป และเสียงประทัดก็ดังระงมขึ้น พวกทหารแคว้นเป่ยที่ยังคงตกตะลึงอยู่จึงไม่รู้ว่าควรไล่ตามแกะหรือไปหาผีดี

นายพลหนุ่มคนหนึ่งเป็นคนแรกสุดที่ได้สติกลับมา พลางตะโกนด่าเสียงดัง “ไล่ตามแกะไปสิ! เจ้าพวกโง่!”

สิ้นเสียงคำรามนี้ ทหารแคว้นเป่ยที่นิ่งอึ้งก็พลันได้สติจากการถูกมนต์สะกดครอบงำ และไล่ตามแกะด้วยความตื่นตระหนก

ฝูงแกะวิ่งหนีอย่างสะเปะสะปะ เมื่อออกมาจากรั้วไม้แล้วหาแกะจ่าฝูงไม่เจอก็วิ่งไปทั่ว คนที่ไล่ตามแกะก็วิ่งวุ่นไปทั่วเช่นกัน วุ่นวายจนเละเป็นโจ๊ก

เฉียวเยี่ยนที่แสดงเป็นทหารแคว้นเป่ยก็ไล่ตามจับแกะเช่นกัน และถือโอกาสแอบจุดประทัดอีกครั้ง ให้สถานการณ์ที่วุ่นวายอยู่แล้วยิ่งวุ่นวายขึ้นไปอีก

ระบบตัวน้อยวิ่งวุ่นไปรอบๆ และวิ่งไปสถานที่ที่ไปดูกับโฮสต์มาก่อนแล้ว

ถึงอย่างไรนางก็เป็นเด็กน้อยคนหนึ่ง ถึงตอนนี้วิ่งวุ่นไปทั่ว ก็ไม่ถูกจับตาดูอะไร

หลังแกะวิ่งออกจากคอกหมดแล้ว แกะที่วิ่งนำหน้าสุดก็หาแกะจ่าฝูงเจอ ระบบตัวน้อยวิ่งไปประจำที่แล้วผิวปาก จากนั้นสุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดห้าตัวที่อยู่รอบๆ ก็รีบวิ่งเข้าหาฝูงแกะ

สินค้าที่ออกโดยระบบมีคุณภาพยกระดับจริงๆ เยอรมันเชพเพิร์ดห้าตัวนี้ได้รับการฝึกฝนมาอย่างมืออาชีพ เข้าใจคำสั่ง และทักษะการต้อนแกะของพวกมันก็น่าทึ่งยิ่ง

เยอรมันเชพเพิร์ดทั้งห้าอยู่กันคนละทาง ไล่ต้อนฝูงแกะที่บ้าคลั่งกลับไปที่กลุ่มหลัก และวิ่งไปตามทิศทางของแกะจ่าฝูง

เวลาประจวบเหมาะกับที่เฉียวเยี่ยนได้เพ่งเล็งม้าตัวหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลคอกแกะไว้นานแล้ว

ว่ากันว่าม้าตัวนี้เป็นของแม่ทัพสักคนหนึ่ง ล้ำค่าอย่างมาก มักจะไม่ขังไว้รวมกับม้าในกอง มีคนมาดูแลเป็นพิเศษ และม้าตัวนี้ก็ถูกขโมยไปใกล้ๆ ฝูงแกะพอดี

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เป็นแผนที่บ้าบิ่นมาก แต่ก็ทรงประสิทธิภาพมากค่ะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด