ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 368 ภรรยาตัวน้อยผู้ไร้กังวล

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 368 ภรรยาตัวน้อยผู้ไร้กังวล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 368 ภรรยาตัวน้อยผู้ไร้กังวล

ตอนที่ 368 ภรรยาตัวน้อยผู้ไร้กังวล

นายพลหนุ่มคิดว่าศัตรูลงมือโจมตีใส่ จึงนึกสะดุ้งตกใจขึ้นมา แต่แล้วก็เห็นว่ามีกระบอกไม้ไผ่เล็กๆ ติดอยู่บนลูกธนู

เขาดึงลูกธนูออกแล้วหยิบกระดาษข้อความข้างในออกมาตรวจสอบ พบว่าบนนั้นเป็นสัญลักษณ์แปลกๆ ซึ่งเขาไม่เข้าใจ

เฉียวเยี่ยนใช้วิธีการเขียนแบบคำอ่านพินอินในภาษาจีน เนื่องด้วยไม่แน่ใจว่าผู้รับสารจะมาดีหรือมาร้าย นางจึงเขียนด้วยตัวอักษรที่มีแต่นางและองค์รัชทายาทของนางเท่านั้นที่เข้าใจ

ตอนที่สอนให้เด็กๆ อ่านคำ นางใช้วิธีสอนคำอ่านแบบพินอินให้พวกเขาเพื่อให้พวกเขาจำเสียงง่ายขึ้น ซึ่งคนเป็นพ่อก็เรียนรู้จากการฟังไปด้วย

เรื่องนี้หนักหนาเกินไป องครักษ์หนุ่มที่ไม่สามารถตัดสินใจได้จึงถือกระดาษข้อความเล็กๆ นั่นไว้ในมือ และรีบนำไปถวายแก่องค์รัชทายาท

ในเวลานี้เอง มู่ฉินเจินและแม่ทัพอีกหลายคนที่ได้ยินรายงานจากทหารก็รีบวิ่งไปที่หอคอย

เมื่อนายพลหนุ่มเห็นมู่ฉินเจิน เขาก็ยื่นกระดาษข้อความในมือให้ด้วยความเคารพ

มู่ฉินเจินเห็นอักขระพิเศษและรูปการ์ตูนหัวมนุษย์ตัวน้อยน่ารักที่ส่วนท้ายของข้อความ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที

ภาพแบบนี้ เขาจำไม่ผิดแน่ เวลาภรรยาเขียนจดหมายถึงเขาคราวใดนางจะวาดรูปเล็กๆ แบบนี้ไว้เสมอ

เขาเดินไปที่หอคอยอย่างรวดเร็วและมองไปรอบ ๆ แต่เห็นเพียงเห็นฝูงแกะวิ่งเข้ามาในเมือง ไม่เห็นร่างที่เขากังวล

เมื่อคืนที่ผ่านมาเขาเพิ่งได้รับจดหมายลับจากชายชรา มีใจความว่าภรรยาของเขาแอบมาที่แนวหน้ากับระบบตัวน้อย!

เรื่องนี้ทำให้เขาเป็นห่วงอย่างยิ่ง!

เมื่อคืนนี้เขานอนไม่หลับทั้งคืน เอาแต่คิดว่านางจะไปที่ไหน แต่ไม่คาดคิดเลยว่าวันนี้นางจะมาทำให้เขาหมดห่วง

เขาถือจดหมายไว้ในมือ ในใจผ่อนคลายเล็กน้อย โชคดีที่ตอนนี้นางปลอดภัยแล้ว

จดหมายนี้ระบุถึงที่มาของฝูงแกะเพียงสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงเปี่ยมอารมณ์ขัน แต่เขากลับรู้สึกหวาดกลัวเมื่อเห็นมัน

เป็นไปได้ไหมที่นางจะเข้าไปในค่ายของศัตรู? นางถึงกับกล้าพอที่จะพาระบบตัวน้อยไปขโมยแกะ! ที่สำคัญคือพวกนางยังทำสำเร็จอีกด้วย!

ในใจของเขาตอนนี้ร้อนดังไฟสุม ทั้งกังวล หวาดกลัว และภาคภูมิใจ

ภรรยาของเขาทำสำเร็จอย่างน่าตกใจ!

นอกจากที่มาของแกะแล้ว เฉียวเยี่ยนยังเล่าถึงวีรกรรมของนางภายในค่ายทหารของแคว้นเป่ยโดยสังเขป อย่างเช่นเรื่องผีในค่ายของทหาร และการจุดไฟเผาเสบียง

เมื่อเห็นการแสดงออกที่คาดเดาไม่ได้ของเขา เหล่านายพลที่ติดตามพระองค์ก็ใจเต้นรัว

พระองค์เจอเรื่องลำบากพระทัยเข้าแล้วใช่หรือไม่? มิเช่นนั้นเหตุใดองค์รัชทายาทผู้สงบนิ่งและสุขุมอยู่เสมอจึงแสดงสีหน้าเช่นนี้!

มู่ฉินเจินถอนหายใจยาว จะมีเรื่องยุ่งยากใจใดอีกเล่า? นอกจากเรื่องที่ภรรยาผู้ไร้กังวลของเขาไม่ปรากฏตัว เขาจะทำอะไรกับนางได้บ้าง

ไม่ได้การ หากจับนางได้เมื่อใด คงต้องสั่งสอนนางให้ดีเสียแล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงจะเหิมเกริมอย่างฉุดรั้งไม่อยู่!

เขาอ่านข้อความซ้ำแล้วซ้ำอีก จากนั้นค่อยๆ ม้วนแล้วยัดเข้าไปในแขนเสื้อของเขา และพูดกับนายพลหนุ่มที่ปกป้องเมืองด้วยเสียงทุ้ม “เปิดประตูเมืองและปล่อยให้แกะเข้ามา แล้วจงปฏิบัติต่อสุนัขที่ไล่ต้อนแกะให้ดี พวกมันเป็นวีรชนผู้ยิ่งใหญ่”

“นอกจากนี้ก็ส่งกองกำลังเล็กๆ ไปพร้อมเกวียน ไปเก็บเกี่ยวอาหารและหญ้าทางทิศอาคเนย์ห่างจากประตูเมือง 5 ลี้”

หลังสั่งการเสร็จ เขาก็หันหลังกลับและลงไปจากหอคอยด้วยรอยยิ้มประดับบนใบหน้าอย่างไม่รู้ตัว ดูอารมณ์ดีสุดขีด

นายพลหนุ่มรู้สึกสับสน แต่เขาก็ยังทำตามคำสั่ง นี่อาจเป็นแผนลับของผู้นำทัพก็เป็นได้

นายพลสองสามคนที่ตามมาก็ตกตะลึงเช่นกัน องค์รัชทายาท พระองค์กำลังเล่นปริศนาอะไรอยู่พะยะค่ะ?

เหตุใดพระองค์จึงเปิดประตูเมืองอย่างง่ายดาย หากนี่เป็นอุบายของศัตรูล่ะ?

แล้วจะไปเก็บเกี่ยวอาหารนอกเมืองด้วยเหตุใด เสบียงปันส่วนชุดสุดท้ายมาถึงเมื่อวานนี้ไม่ใช่หรือ?

พวกเขาติดตามมู่ฉินเจินไปเป็นพรวน ด้วยต้องการคำอธิบายที่สมเหตุสมผลอย่างเร่งด่วน

ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ถาม องค์รัชทายาทก็ทรงปิดกั้นคำพูดของพวกเขา “กลับไปที่กระโจม มีเรื่องสำคัญต้องปรึกษากัน”

คนกลุ่มหนึ่งวิ่งตามพวกเขาไป นั่งอยู่ในค่ายอย่างเชื่อฟังเหมือนเด็กประถมเพื่อรอตอบคำถามของพวกเขา

สองเค่อต่อมา

นายพลทุกคนอ้าปากค้างเล็กน้อย ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง เห็นได้ชัดว่าพวกเขายังไม่ทันได้ย่อยประเด็นร้อนที่เพิ่งเกิดขึ้น

สรุปเนื้อหาการประชุมเมื่อครู่นี้ก็คือ…

หนึ่ง ฝูงแกะเป็นอาหารของกองทัพแคว้นเป่ย ซึ่งไท่จื่อเฟยของพระองค์ขโมยพวกมันทั้งเป็นมาจากค่ายของทหารแคว้นเป่ยด้วยฝีมือของพระนางและลูก!

สอง ไท่จื่อเฟยยังจุดไฟเผาเสบียงและหญ้าอาหารสัตว์ส่วนใหญ่ในค่ายทหารแคว้นเป่ย ไม่เพียงแต่เผาเท่านั้น นางยังขโมยเสบียงจากพวกเขาไปเกือบร้อยตันด้วย!

ในใจพวกเขาเวลานี้มีเพียงสองคำ…เก่งโคตร!

นี่มันเก่งคนแม่กับเก่งคนลูกชัดๆ เก่งกันทั้งตระกูลเลย!

ในฐานะทหารผ่านศึกของราชสำนัก นายพลอวิ๋นนับว่ามีความเก่งกาจรองมาจากมู่ฉินเจิน แต่ตอนนี้ดวงตาคมกริบของเขากลับแข็งทื่อไป ก่อนจะได้สติกลับมาและรู้สึกไม่อยากเชื่อ

“ที่พระองค์ตรัสเมื่อกี้เป็นความจริงหรือพะยะค่ะ พระองค์ไม่ได้ล้อคนชราอย่างพวกเราเล่นใช่ไหม?”

มุมปากของมู่ฉินเจินยกขึ้นเล็กน้อยอย่างเย่อหยิ่ง “ภรรยาของเปิ่นกงเป็นเช่นนี้เสมอมาล่ะ นางเก่งกาจเพียงแต่ไม่ค่อยแสดงออกเท่านั้น จึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเจ้าจะรับไม่ได้ชั่วขณะ”

นายพลทั้งหมด: “…”

นี่มันเรื่องล้อเล่นอะไรกันนี่?

ต่อให้พวกเขาจะไม่อยากยอมรับ แต่พวกเขาก็อยากมีภรรยาที่น่าทึ่งเหมือนกัน!

หลังวางท่าข่มผู้ใต้บังคับบัญชาแล้ว มู่ฉินเจินก็พูดคุยเรื่องจริงจังกับพวกเขา

ตอนนี้กองทัพแคว้นเป่ยประสบกับการสูญเสียเสบียงและหญ้าอย่างหนัก อีกทั้งอากาศก็เย็นลง เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดหาเสบียงให้เพียงพอในระยะเวลาอันสั้น

ในขณะที่เสบียงของพวกเขากำลังหมดลงอย่างช้าๆ ก็ใช้โอกาสนี้โจมตีกองทัพของพวกเขาได้

แต่เขาไม่ต้องการทำอย่างนั้น เขาต้องการใช้โอกาสนี้ค้นหาที่อยู่ของตัวประกันหลังจากที่ช่วยเหลือตัวประกันได้แล้ว กองทัพแคว้นเป่ยก็จะอ่อนแอ

ในตอนนั้นเขาก็นำกองกำลังมุ่งหน้าจากเหนือไปใต้ ในขณะที่อันซีโหวนำทัพมาตีเมืองหลวงของแคว้นเป่ยจากทางเหนือโดยผ่านแคว้นเจียง แล้วตีกระหนาบพร้อมกัน จัดการกองทัพแคว้นเป่ยให้ราบในตาเดียว

ภรรยาของเขาบอกว่านางอยู่ในแคว้นเป่ยเพื่อทำหน้าที่เป็นจารชน แม้เขาจะเป็นกังวลเพียงใด แต่เขาก็รู้จักนางดี และรู้ว่าต่อให้เอาวัวสิบตัวมาลากก็ไม่อาจเปลี่ยนการตัดสินใจของนางได้

สิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้คือร่วมมือกับนางและสนับสนุนนาง

……

แกะหลายพันตัวมาถึงเมืองในตอนเช้า ทำให้ทหารในด่านหลานเยว่ต่างมีความสุข โดยมู่ฉินเจินประกาศต่อคนภายนอกว่าเป็นแกะที่ซื้อมา และเป็นที่รู้กันในวงในคนสนิทไม่กี่คนเท่านั้นว่าภรรยาของเขาขโมยมา

เนื่องจากตอนนี้ยังมีทหารรักษาเมืองหลายคนในด่านหลานเยว่ที่มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นไส้ศึก

ทันทีที่ฝูงแกะเข้ามาในเมือง มู่ฉินเจินก็จัดให้ผู้คนลงไปย้ายฝูงแกะและเชือดแกะจำนวนหนึ่งมาต้มทำน้ำแกง

ลมหนาวพัดมาหลายวันแล้ว และเหล่าทหารก็หนาวจนเป็นหวัดคัดจมูก ในเวลานี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้กินน้ำแกงแกะร้อนๆ โรยพริกไทยเพื่อเพิ่มความอบอุ่นอีกแล้ว

ส่วนสุนัขต้อนแกะพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดทั้งห้าก็ได้รับการปฏิบัติอย่างดีราวกับแขกพิเศษจากเหล่าทหาร ทันทีที่เนื้อแกะสุก พวกมันก็ได้กินกระดูกติดเนื้อกันทุกตัว

องค์รัชทายาทตรัสไว้ว่าหากไม่ใช่เพราะสุนัขเหล่านี้ พวกเขาก็คงจะไม่มีเนื้อแกะกินกัน

ภายในด่านหลานเยว่เต็มไปด้วยความสุข แต่ทางฝั่งค่ายทหารแคว้นเป่ยกลับซบเซาไร้ชีวิตชีวา

แกะเพิ่งมาถึงเพียงหนึ่งวัน! หลังกินอาหารไปได้มื้อหนึ่ง พวกมันก็ถูกขโมยไป ทำให้ตอนนี้หัวใจของพวกเขาขมปร่ายิ่งกว่าดื่มน้ำหวงเหลียน

ใครกันที่มีวีรกรรมน่าทึ่งเพียงนี้! เผาเสบียงของพวกเขาก่อน จากนั้นค่อยขโมยแกะของพวกเขา และเหลือไว้ให้เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น! ช่างไร้สำนึกสิ้นดี!

โดยไม่รู้เลยว่าขณะนี้เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยได้ขนถ่ายเสบียงไว้ในทุ่งโล่งทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประตูเมือง เมื่อระบบตัวน้อยพบว่ากองกำลังเคลื่อนย้ายเสบียงกำลังจะมาถึง พวกนางก็หลบหนีไป

เฉียวเยี่ยนยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะกลับไปที่ค่ายทหารแคว้นเป่ยหรือจะไปที่อื่น

นางต้องการไปที่รอบนอกของค่ายเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ก่อน หากทหาร แคว้นเป่ยไม่ได้ตรวจสอบเข้มงวด พวกนางจะแอบย่องกลับมาสร้างปัญหา แต่ถ้ามีการตรวจสอบเข้มงวดก็ค่อยหาวิธีอื่นต่อไป

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เป็นห่วงแทนอาเยี่ยนเลย แต่นางมีระบบอยู่กับตัว น่าจะตัวช่วยเยอะแหละ

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด