ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 370 เต้นให้ข้าดูกันทุกคนเลย

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 370 เต้นให้ข้าดูกันทุกคนเลย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 370 เต้นให้ข้าดูกันทุกคนเลย

ตอนที่ 370 เต้นให้ข้าดูกันทุกคนเลย

ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้คอกม้า เสียงเพลงก็ยิ่งดังขึ้น เมื่อมองทหารที่มาล้อมรวมตัวกันดูความสนุก สีหน้าของซางต๋าก็มืดดำดุจก้นหม้อ

“มาล้อมอยู่ที่นี่ทำบ้าอะไรกัน! จะรอให้ศัตรูมายึดที่ซ่อนของเราไปหรือไร?”

“พลธนูเตรียมตัวให้พร้อม! พวกเจ้าสิบคน ไปตรวจสอบสถานการณ์มาให้ข้า!”

เขาตะโกนเสียงดัง ทำให้ความอยากรู้อยากเห็นของทหารที่ปลุกเร้าด้วยเสียงเพลงต้องหยุดลง ฉากที่นายพลสังหารลูกน้องใต้บังคับบัญชาเมื่อคืนนี้ช่างโหดเหี้ยมมาก พวกเขากลัวเหลือเกิน!

คนทั้งสิบที่ได้รับคำสั่งก็ไปทำตามคำสั่ง เดินไปยังทิศทางของเสียง

เสียงเพลงยังคงดำเนินต่อไป ท่อนหนึ่งเพิ่งจบลง เพลงใหม่ก็ดังขึ้น

“ตัดกาลเวลาท่อนหนึ่งที่ไหลหลั่งช้าๆ”

“ไหลเข้าไปในแสงจันทร์ที่โยนตัวแผ่วเบา”

……

“ฉันเป็นเหมือนปลาตัวหนึ่งในบึงบัวของเธอ”

“เพียงเพื่อเฝ้าดูแลแสงจันทร์นวลร่วมกับเธอ”[1]

เมื่อเทียบกับเพลงสนุกสนานเมื่อครู่ เพลงในตอนนี้ทั้งนุ่มนวลและไพเราะ แม้พวกทหารแคว้นเป่ยจำนวนมากจะปฏิบัติตามคำสั่งของนายพลโดยถืออาวุธไว้ในมือ ระแวดระวังรอบๆ กระนั้นใจได้ล่องลอยไปตามเสียงเพลงแล้ว

ต้องเป็นคนแบบไหนกันถึงทำเพลงเช่นนี้ออกมาได้ ช่างไพเราะน่าฟังนัก !

ซางต๋ายืนเอามือไพล่หลังสีหน้าเคร่งขรึมเต็มเปี่ยม แต่นิ้วก้อยที่ซ่อนอยู่ข้างหลังกลับกระดกขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

เมื่อตระหนักได้ถึงสิ่งนี้ สีหน้าอึมครึ้มของเขาก็ยิ่งมืดมนขึ้น เพลงนี้มีพิษ!

ไม่ได้การแล้ว เขาต้องแน่วแน่มั่นคง ห้ามหลงกลเด็ดขาด!

ทว่าไม่นานนิ้วก้อยของเขาก็กระดกขึ้นมาอีกครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ แม้แต่นิ้วเท้าก็ยังอยากจะทำตาม

คนสิบคนที่ถูกส่งออกไปตรวจสอบรู้สึกหวาดกลัวจนใจเต้นตึกตัก แต่กลับอดฮัมเพลงไปด้วยไม่ได้

ช่วยด้วย! พวกเขาก็ไม่อยากทำนะ แต่เพลงนี้มันเพราะเกินไป!

เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยตรวจพบว่ามีคนออกมาตรวจสอบ ก็รีบเก็บลำโพงวิ่งหนีทันที เมื่อทหารแคว้นเป่ยมาถึง แม้แต่เงาของพวกนางก็ไม่มีใครเห็น

หลังจากค้นหามานาน ทหารแคว้นเป่ยที่ไม่พบร่องรอยน่าสงสัยอะไรก็ทำได้เพียงกลับไปรายงาน

ซางต๋าได้รับข่าวนี้เห็นได้ชัดว่ายังไม่ชะล่าใจ ส่งกองกำลังอีกสองกองไปขยายพื้นที่ค้นหา ทว่าผลลัพธ์ที่ได้ยังเหมือนเดิม

เฉียวเยี่ยนมีอาวุธโกงอย่างระบบตัวน้อย จะให้พวกเขาค้นพบอย่างง่ายดายได้อย่างไร เมื่อรู้สึกว่ามีคนเข้ามาใกล้ ก็รีบเปลี่ยนตำแหน่งทันที ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่แห่งนี้ยิ่งช่วยให้พวกนางหลบหนีได้เต็มที่

แม้ค้นหาไม่สำเร็จ แต่ซางต๋าก็ไม่ยอมให้ทหารกลับค่ายไปพักผ่อน ยังคงให้แต่งกายเต็มยศยืนหยัดป้องกัน ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามกลับมาอีก

เขายังเพิ่มการป้องกันตรงคอกม้าอีกด้วย เนื่องจากรู้สึกว่าการกระทำเช่นนี้ของอีกฝ่ายน่าจะเล็งเป้ามาที่ม้าศึกของพวกเขา

ทหารแคว้นเป่ยเฝ้ายามมาตลอดจนถึงเที่ยงคืน แต่ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย พวกเขาแต่ละคนต่างง่วงนอนจนหาววอดออกมา

ซางต๋ามองดูท้องฟ้า เมื่อเดาว่าอีกฝ่ายคงไม่มาอีกแล้ว จึงสั่งให้กองลาดตระเวนออกลาดตระเวนต่อไป ส่วนคนอื่นๆ กลับไปพักผ่อน

ทหารแคว้นเป่ยที่ตื่นนอนทั้งคืนหาววอดและเดินกลับไปนอนในกระโจม แถมยังคุยกันเสียงเบาเกี่ยวกับเพลงสองสามเพลงที่พวกเขาได้ยินในคืนนี้ด้วย

พูดตามตรง แม้จะรู้ว่าเพลงนี้อาจเป็นกลอุบายที่ศัตรูใช้เพื่อทำให้พวกเขาเคลิบเคลิ้ม กระนั้นพวกเขาก็อยากฟังอีกครั้งจริงๆ !

ในเมื่อทหารแคว้นเป่ยคิดถึงเพลงที่พวกเขาได้ยินในคืนนี้ เฉียวเยี่ยนจึงมามอบความสุขให้พวกเขาอย่างห่วงใย

คาดว่าเมื่อทหารแคว้นเป่ยหลับไปอีกครั้ง เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยก็จะออกเดินทางอีกครั้งและยังคงอยู่ที่เดิม พร้อมกับเสียงเพลงดังสนั่นเหมือนเคย

เพลงที่เล่นในวันนี้ล้วนเป็นรายการเพลงเต้นแอโรบิกของระบบตัวน้อย ซึ่งเด็กน้อยเห็นว่าการเล่นเพลงยังรบกวนผู้คนไม่พอ จึงหยิบไมโครโฟนออกมาและตะโกนใส่ ให้อีกฝ่ายทำตามนาง

“เอฟวรี่บอดี้ พร้อมหรือยัง? ทำตามข้า!”

“ก้าวซ้ายสาม ก้าวขวาสาม โยกๆ คอ ส่ายๆ ก้น…”

เฉียวเยี่ยนมองระบบตัวน้อยที่เล่นจนบ้าไปแล้วก่อนปิดหน้าอย่างจนใจ ท่าทางของเจ้าหมาน้อยตัวนี้ดูไม่ได้จริงๆ !

ทหารแคว้นเป่ยที่เหนื่อยล้าและเพิ่งผล็อยหลับไปต่างง่วงจนลืมตาไม่ขึ้น ทว่าเสียงดนตรีที่ดังสนั่นก็ปลุกให้พวกเขาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

หน่วยลาดตระเวนได้ยินเสียงแล้วต่างก็สะดุ้งใจ พากันลั่นฆ้องปลุกทหารที่กำลังนอนหลับอยู่ให้ตื่นขึ้น และวิ่งตะบึงไปจับคนตามทิศทางของเสียงเพลง

เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยที่ก่อกวนค่ายทหารอีกครั้งรู้สึกพอใจมาก ก่อนดำเนินการตามแผนก่อนหน้านี้ เก็บลำโพงและหนีไป

พวกนางแค่ต้องการรบกวนการนอนหลับของพวกเขา ดึงสติสัมปชัญญะของพวกเขาให้ตกต่ำลง จากนั้นก็จู่โจมพวกเขาเมื่อไม่มีสติดี

ครั้งนี้ซางต๋าไม่กล้าปล่อยให้ทหารกลับไปนอนอีกแล้ว เขาส่งคนจำนวนมากออกไปค้นหา ส่วนที่เหลือให้แต่งตัวเต็มยศตื่นตัวระแวดระวังไว้

ทหารแคว้นเป่ยไม่ได้หลับตาตลอดทั้งคืน วันรุ่งขึ้นแต่ละคนจึงมีตาสีแดงเป็นตากระต่าย ครั้นลมพัดต้องดวงตาที่แห้งผากก็แสบจนน้ำตาไหล

ส่วนเฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยที่รบกวนพวกเขาต่างกินๆ ดื่มๆ สุขสบายอย่างยิ่ง

ตลอดสามคืนต่อมา เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยยังคงไปที่เขตรอบนอกค่ายทหารรบกวนผู้คนในตอนกลางคืนเช่นเดิม กระตุ้นทหารแคว้นเป่ยให้ลุกขึ้นเต้น และเล่นเกมรบกับหน่วยลาดตระเวนของกองทัพแคว้นเป่ย

ในสองคืนแรก ทหารแคว้นเป่ยยังคงเคลื่อนไหวเต็มที่ ทว่าในคืนที่สาม เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอิดโรยอ่อนล้าแล้ว เพราะไม่มีใครอดนอนติดต่อกันหลายวันได้

ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังเมามายไปกับเสียงเพลงอันไพเราะที่ดังในตอนกลางคืน ซึ่งแต่ละเพลงก็แตกต่างกัน ทำให้พวกเขาที่ได้ยินรู้สึกฮึกเหิม อดฮัมเพลงตาม เพลงไหนเร้าใจหน่อยก็อดเต้นตามไม่ได้

เฉียวเยี่ยนพอใจกับสถานการณ์นี้มาก เมื่อความระแวดระวังของพวกเขาผ่อนคลายลง ก็ถึงเวลาที่นางต้องลงมือ

ภายในด่านหลานเยว่ มู่ฉินเจินก็ได้รับข่าวจากสายลับว่ามีเสียงเพลงแปลกๆ ดังในค่ายทหารแคว้นเป่ยมาหลายคืน จึงสงสัยว่าพวกเขาโดนผีหลอก

เมื่อเห็นข่าวนี้ องค์รัชทายาทก็แย้มยิ้มออกมา ‘ผี’ นี้ต้องเป็นภรรยาของเขากับระบบตัวน้อยเป็นแน่ ช่างเป็นตัวตลกสองตัวจริงๆ

เขาถอนหายใจเสร็จ นายพลหนุ่มเฝ้าเมืองก็ส่งกระบอกจดหมายมาอีกครั้ง และยังคงเหมือนกับครั้งที่แล้ว ลูกธนูยิงตรงไปที่ป้อมเมือง พร้อมกับข้อความข้างในที่เขายังไม่เข้าใจ

หลังจากมู่ฉินเจินอ่านจดหมายจบ ในตาก็ฉายแววสนใจออกมา และเริ่มเตรียมตัวทันที

คืนนี้ มีการแสดงเด็ดให้ดู!

เมื่อถึงยามดึกอีกครั้ง เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยมาถึงที่หมายตรงเวลาพร้อมกับลำโพงขนาดใหญ่ ราวกับว่าพวกเขากำลังจะไปเต้นบนลานกว้างอย่างตรงเวลา

ทหารแคว้นเป่ยบางคนรออยู่แล้ว หลายวันมานี้ได้ฟังเพลงทุกคืน จึงเริ่มเสพติดการฟังเพลงมานานแล้ว หากคืนนี้ไม่ได้ฟัง ก็รู้สึกว่านอนไม่หลับเล็กน้อย

เมื่อพร้อมแล้ว ระบบตัวน้อยก็เล่นเพลง ‘ผีเสื้อมึนเมา’ ก่อนเพื่ออุ่นเครื่อง จากนั้นก็เป็นเพลงรีมิกซ์ของดีเจต่างๆ พลางตะโกนใส่ไมค์อย่างมีความสุข

ทหารแคว้นเป่ยบางคนเต้นตามไปแล้ว บรรยากาศมีชีวิตชีวามาก จนนายพลซางต๋าอดออกมาดูไม่ได้

นิ้วเท้าเริ่มกระดิกไหวตามเบาๆ ไหล่ก็ขยับโดยไม่รู้ตัว คนแคว้นเป่ยอย่างพวกเขาถนัดร้องรำทำเพลง และไวต่อดนตรีมาก

เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของทหารแคว้นเป่ยพลุ่งพล่านพอประมาณแล้ว ระบบตัวน้อยจึงเล่นเพลงหลัก ซึ่งเป็นเพลงที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับทหารแคว้นเป่ย

บทสวดแห่งแม่น้ำเทส! (特斯河之赞)

เพลงนี้เคยเป็นที่นิยมใช้ในดนตรีประกอบคลิปสั้นๆ มาก่อนและถูกร้องในภาษาแคว้นเป่ย เพลงนี้มีทำนองทรงพลานุภาพมาก ปลุกเร้าใจผู้คนราวกับม้าที่ควบวิ่งอยู่ในทุ่งหญ้า

แน่นอนว่าทันทีที่เสียงเพลงดังขึ้น ก็เหมือนดีเอ็นเอในร่างกายของทหารแคว้นเป่ยถูกปลุกให้ตื่นขึ้น มือเท้าขยับตามอย่างควบคุมไม่ได้

ดนตรียิ่งไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ และจังหวะน่าประทับใจนั้นเหมือนจะทำให้พวกเขาลอยขึ้นได้

ทันทีที่เนื้อเพลงออกมา พวกเขาทนไม่ได้อีกต่อไป เพลงที่ทรงพลังและมีเนื้อเพลงเรียบง่ายนี้ เขียนมาเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ!

โดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำมาก่อน คนผู้หนึ่งก็เต้นไปตามเสียงเพลง และไม่นาน คนกลุ่มใหญ่ก็เข้าร่วมเต้นด้วย แม้แต่ซางต๋าก็อดเต้นตามไม่ได้

เมื่อมองไปที่ฉากตรงหน้า ริมฝีปากของเฉียวเยี่ยนก็วาดโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มออกมา เต้นเถิด เต้นเถิด พวกเจ้าเต้นกันแล้ว ข้าถึงจะมีโอกาสได้ลงมือ!

ระบบตัวน้อยควบคุมสถานการณ์อยู่ด้านหน้า ส่วนเฉียวเยี่ยนได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นทหารแคว้นเป่ยแล้ว และออกเดินทางตามเส้นทางที่สังเกตมาล่วงหน้า แอบเข้าไปในคอกม้า

ทหารที่ดูแลคอกม้าอดไม่ได้ที่จะเต้นเช่นกัน เฉียวเยี่ยนโผล่ออกมาจากมุมหนึ่ง และยังคงอำพรางตนอย่างมิดชิด

วันนี้อากาศหนาวเกินไป ทหารหลายคนจึงปกปิดใบหน้าครึ่งหนึ่งเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น ดังนั้นชุดของนางจึงไม่ดูโดดเด่นจนเกินไป

นางยังเลียนแบบทหารแคว้นเป่ย ขยับไม้ขยับมือเต้นปะปนไปกับฝูงชน โดยไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่าจู่ๆ นางก็โผล่มา

[1] เพลง 《荷塘月色》 บึงบัวใต้แสงจันทร์

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

เป็นแผนขโมยม้าที่ครึกครื้นจริงๆ เลย ผู้แปลลองฟังเพลง 特斯河之赞 ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมทหารแคว้นเป่ยถึงเต้นกัน จังหวะมันเฮฟวี่เมทัลมากแบบฟังแล้วต้องโยกหัวตามอะค่ะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด