ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 373 อยากไปจัดการเรื่องราว

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 373 อยากไปจัดการเรื่องราว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 373 อยากไปจัดการเรื่องราว

ตอนที่ 373 อยากไปจัดการเรื่องราว

แสงเทียนในกระโจมสลัว เฉียวเยี่ยนลุกขึ้นจากเตียงอย่างงัวเงีย นางไม่ได้นอนบนเตียงมาหลายวันแล้ว เมื่อได้นอนร่างกายก็อ่อนปวกเปียก ซึ่งแน่นอนว่า มันเป็นผลมาจากชายบางคนที่ทรมานนาง

เมื่อนางตื่นมา มู่ฉินเจินก็ยกน้ำอุ่นมาให้นาง อุณหภูมิของน้ำกำลังพอดี หลังจากดื่มเข้าไปก็รู้สึกสบายขึ้นมาทันใด และความง่วงงุนก็หายไป

นางบิดขี้เกียจ ไม่สนใจท่าทางเอาใจเล็กน้อยของเขา ก่อนตะโกนอย่างแง่งอน “ข้าหิวแล้ว!”

ตอนนี้มารู้จักเอาอกเอาใจนางแล้ว ทีตอนขอร้องให้เขาปล่อยตัวเองไปก่อนหน้านี้ เหตุใดเขาจึงไม่หยุด!

หลังจากคนขี้งอนแซ่เฉียวล้างหน้าบ้วนปากเสร็จสรรพก็ไปนั่งที่โต๊ะ รอองค์รัชทายาทมาคอยปรนนิบัติ

แต่องค์รัชทายาทไม่อารมณ์เสียเลยแม้แต่น้อย เขาให้ทหารที่อยู่นอกกระโจมยกอาหารที่เตรียมไว้นานแล้วเข้ามา แถมยังตักอาหารให้นางอย่างใส่ใจด้วย

อาหารจานหลักของวันนี้คือซี่โครงแกะตุ๋น หั่นซี่โครงเป็นชิ้นยาวเท่าฝ่ามือ ตุ๋นกับน้ำแดงและกรอบ กัดไปทีหนึ่งน้ำไหลซึมออกมาไม่หยุด รสชาติอร่อยมาก

มู่ฉินเจินเห็นนางรับประทานอย่างมีความสุข ก็มีรอยยิ้มเปื้อนหน้าขึ้นมา ก่อนเอ่ยเสียงเบา “แกะนี้เป็นแกะชุดนั้นที่เจ้าไล่ต้อนมาที่นี่ ตอนนี้ในเมืองมีเสบียงเพียงพอ และขวัญกำลังใจของพวกทหารก็เพิ่มสูงขึ้นมาก”

เฉียวเยี่ยนแทะซี่โครงแกะอย่างมีความสุข เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด ก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น นางยืดอกเล็กน้อย และเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ “มันแน่นอนอยู่แล้ว ข้ากับระบบตัวน้อยออกโรงด้วยกัน ดีกว่าทำคนเดียวแน่นอน!”

มู่ฉินเจินชอบท่าทางอวดเก่งของนางมาก จึงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “อืม เจ้าสองคนเก่งกันมาก”

ไม่ใช่แค่ดีกว่าทำคนเดียวได้ แต่ดีกว่าคนทั้งกองทัพเสียอีก!

ต่อให้กองทัพหนึ่งพันนายจะถูกส่งไปลงมือพร้อมกัน ก็ไม่สามารถทำสิ่งที่พวกนางทำ ได้ ไม่มีทหารบาดเจ็บแม้แต่คนเดียวแถมยังทำให้ศัตรูกระอักเลือดออกมาได้

เมื่อเอ่ยถึงระบบตัวน้อย หัวเล็กๆ ก็โผล่เข้ามาในกระโจม ยิ้มกว้างเห็นฟันขาว เพียงเห็นก็รู้แล้วว่าได้เล่นอย่างมีความสุขมาก

เด็กน้อยเล่นสนุกในค่ายทหารตลอดทั้งบ่าย สุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดตัวใหญ่ห้าตัวที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ล้วนได้รับการดูแลเป็นพิเศษ วันนี้นางเล่นกับสุนัขตัวใหญ่ทั้งห้าตัว และสาธิตการฝึกสุนัขให้พวกทหารดู

สุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มงวด เชื่อฟังคำสั่ง และทำตามคำสั่งสำเร็จไปทีละคำสั่ง เกทับพวกทหารกลุ่มที่ไม่เคยเห็นโลกจนนิ่งอึ้งไป

หรือสุนัขเหล่านี้จะเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ และเกรงว่าพวกมันน่าจะฉลาดกว่าพวกเขามาก!

ระบบตัวน้อยนำกองทัพสุนัขแสดงฝีมืออย่างสง่างามให้กลุ่มทหารได้เปิดหูเปิดตา หลังจากเล่นกับน้องหมามากพอแล้ว ก็ไปหาเจ้าเฮยเสวียนเฟิง

เฮยเสวียนเฟิงถือว่าเด็กน้อยเป็นเจ้านายน้อยของมันแล้ว เมื่อใดที่นางปรากฏตัว ดวงตาดำขลับขนาดใหญ่นั้นก็มีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ เตรียมพร้อมที่จะถูกป้อนอาหารแล้ว

เมื่อระบบตัวน้อยเห็นว่าในที่สุดโฮสต์ก็ตื่นแล้ว ก็วิ่งดุ๊กดิ๊กเข้าไปในกระโจมและหาที่นั่งลง ฟุบหน้าลงบนโต๊ะ ดวงตากลมโตจ้องมองนางโดยไม่กระพริบ

เฉียวเยี่ยนถูกนางจ้องจนรู้สึกขนลุกเล็กน้อย เด็กน้อยเงียบนิ่ง ต้องไปก่อเรื่องอะไรมาเป็นแน่ ด้วยนิสัยขี้อ้อนของเด็กน้อย ต้องพูดอะไรที่น่าทึ่งออกมาแน่

ตามคาด นางยังไม่ทันได้เอ่ยถาม เด็กน้อยก็แสดงความคิดของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา

“ท่านโฮสต์ กองทัพลูกน้อยของเราจะมีสมาชิกหมายเลขหกเพิ่มมาแล้วใช่หรือไม่?”

เด็กน้อยไม่คุ้นกับการเรียกเฉียวเยี่ยนว่าแม่ เมื่อไม่มีคนภายนอก นางยังคงเรียกว่าท่านโฮสต์เหมือนเคย

ข้าวขาวในปากเฉียวเยี่ยนแทบพุ่งออกมา หนังหน้าแก่ๆ เผยสีหน้าเขินอายเล็กน้อย

ปัญญาของเด็กน้อยคนนี้เหนือกว่าเด็กทั่วไปมาก รู้ว่าวันนี้นางกับมู่ฉินเจินทำเรื่องอะไรกันในกระโจมวันนี้ แต่ใบหน้าไร้เดียงสาน่ารักของนางกลับถามคำถามนี้ออกมาด้วยสีหน้าใสซื่อ แถมยังทำให้คนรู้สึกอับอายด้วย

นางกระแอมไออย่างเขินอายสองครั้ง ก่อนเอ่ยอย่างจริงจัง “เด็กน้อยยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่ให้น้อยหน่อย เดี๋ยวก็ไม่ได้โตหรอก!”

ระบบตัวน้อยเบือนศีรษะ เหลือศีรษะกลมๆ ด้านหลังไว้ให้โฮสต์ตัวเอง แล้วส่งเสียง ‘ฮึ่ม’ แบบเด็กๆ ออกมา

อย่าคิดว่านางเป็นเด็กแล้วหลอกง่ายนะ นางเป็นระบบที่เฉลียวฉลาดเชียวนะ!

คนโตกับคนเล็กปะทะฝีปากกัน มู่ฉินเจินนั่งยิ้มบางมองดูอยู้ข้างๆ และนึกถึงคำพูดของระบบตัวน้อยเมื่อครู่

ลูกหมายเลขหก?

น่าจะไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว ตั้งแต่คลอดอวี่เป่าออกมาพวกเขาก็ใช้มาตรการป้องกันแล้ว

ทุกครั้งที่เขาใช้ถุงยางวิเศษนั้น เขาเป็นต้องทึ่งกับความอัศจรรย์ของเจ้าสิ่งนั้นในโลกเดิมของอาเยี่ยนจริงๆ ของเล็กๆ นั้นใช้งานง่าย และไม่จำเป็นต้องใช้ยาที่ทำร้ายร่างกาย

อะแฮ่ม แถมไม่ส่งผลต่อความรู้สึกด้วย…

……

เช้าตรู่วันที่สอง มู่ฉินเจินได้รับข่าวกองทัพแคว้นเป่ยย้ายที่ตั้งค่ายแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในการคาดเดาของเขา ทางนั้นสูญเสียเสบียงกับม้าไปหมดแล้ว พวกเขาคงไม่เป็นฝ่ายเริ่มยั่วยุก่อนภายในช่วงระยะเวลานี้แน่

ตอนนี้แค่พวกเขาเคลื่อนพลเข้าจู่โจม การยึดเมืองกลับมาก็จะอยู่ใกล้แค่เอื้อม

แต่ตอนนี้เขายังรอโอกาสหนึ่งอยู่ คือช่วยเหลือตัวประกันในเมืองหานกวนทั้งหมดออกมาก่อน เขาถึงจะไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง

หน่วยสอดแนมของเขาแอบเข้าไปในเมืองหานกวนแล้ว รอเวลาเหมาะที่จะช่วยเหลือตัวประกันออกมา พวกเขาจะร่วมมือกันทั้งภายในและภายนอก สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับแคว้นเป่ย

แผนเดิมของเฉียวเยี่ยนคือพาระบบตัวน้อยไปที่เมืองหานกวน แต่ตอนนี้ถูกจับได้แล้ว อย่าเอ่ยถึงเรื่องไปเมืองหานกวนเลย แม้แต่จะออกไปนอกด่านหลานเยว่ องค์รัชทายาทของนางก็ไม่ให้ไป

นางอยู่ในด่านหลานเยว่มาสองวันแล้ว ถูกองค์รัชทายาทพามาอยู่ข้างกายทุกวัน และแทบอยากมัดนางไว้ด้วยเชือก กุมนางไว้ในมือของเขา

แม้นางจะเข้าใจว่าเขากลัวนางได้รับบาดเจ็บ แต่นางอยากไปมากจริงๆ !

นางอยากไปจัดการเรื่องบางอย่าง!

ระบบตัวน้อยเองก็มีความคิดเหมือนเดียวกัน หลังจากเล่นกับม้าสีดำตัวใหญ่กับสุนัขตัวใหญ่ในค่ายทหารมาสองวัน นางก็รู้สึกเบื่อแล้ว และยังคิดถึงวันที่ไปจัดการเรื่องต่างๆ ร่วมกับโฮสต์

โดยเฉพาะการสอนเต้นบนลานกว้างให้กับกองทัพแคว้นเป่ย ทั้งตื่นเต้นทั้งสนุก!

ในตอนกลางคืน

เฉียวเยี่ยนนอนอยู่บนร่างมู่ฉินเจิน ถูไถไปมาเหมือนหนอนตัวหนึ่ง พึมพำง้องแง้งไปมา

“ท่านให้ข้าไปนะ ข้าจะระวังตัวให้มากแน่นอน”

“อีกอย่างข้าเก่งขนาดนี้ แถมยังมีระบบช่วยเหลือ คนธรรมดาทำร้ายข้าไม่ได้หรอก”

มู่ฉินเจินกอดหญิงตัวเล็กๆ ที่ดิ้นอยู่ในอ้อมแขนของเขาก่อนรู้สึกจนใจ เขาย่อมรู้อยู่แล้วว่านางเก่งมาก และเขาภูมิใจในตัวนางเช่นกัน แต่เขาไม่อยากให้นางไปเสี่ยงอันตราย

“คนดี เรื่องสงครามให้เป็นหน้าที่ข้า เจ้าอยู่ช่วยข้าในค่ายตกลงไหม?”

เขาลูบหัวนางเบาๆ น้ำเสียงของเขาเหมือนกำลังเกลี้ยกล่อมเด็ก

เฉียวเยี่ยนรู้ว่านี่เป็นการกระทำที่เหมือนเด็กและดูง้องแง้งมาก จึงกลิ้งออกมาจากตัวเขา หันหลังให้เขา ไม่พูดอะไร

มู่ฉินเจินพลิกตัวกอดนางไว้ในอ้อมแขน และลูบหลังนางครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่พูดอะไรสักคำ

หลังจากนั้นไม่นาน เฉียวเยี่ยนทนไม่ไหวก่อน ลุกขึ้นนั่งบนเตียง ดึงชายเสื้อของมู่ฉินเจิน ด้วยท่าทางโกรธและน้อยใจ “ไป ข้าจะพาท่านไปดูสมบัติ”

ถึงอย่างไรก็โกรธจนนอนไม่หลับแล้ว มิสู้ทำอะไรบางอย่างดีกว่า

ทั้งสองแต่งตัวเต็มยศ และไปที่สนามฝึกยิงเป้าของพวกทหาร

สนามฝึกยิงเป้ามีทหารเฝ้าอยู่ เฉียวเยี่ยนโบกมือ ให้พวกเขาไปยืนเฝ้าที่อื่น หากไม่ได้สั่งไม่ต้องกลับมา

พวกทหารมองมือที่องค์รัชทายาทกับไท่จื่อเฟยจับไว้ด้วยกัน พลันเผยสีหน้า ‘ข้าเข้าใจ’ออกมาทันที

ว่ากันว่าองค์รัชทายาทกับไท่จื่อเฟยรักกันอย่างลึกซึ้งมาก คู่รักสองคนไม่ได้เจอกันมานาน คงต้องการแสวงหาความตื่นเต้นเป็นแน่

ฉากที่มีแต่ท้องฟ้ากับผืนดินนี้ หากมา…

อะแฮ่ม ไม่คิดแล้ว ไม่คิดแล้ว พวกเขาต้องเป็นคนจริงจัง!

เฉียวเยี่ยนมองหน่วยสนับสนุนนั้นออกไปด้วยความงุนงง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แปลกๆ บนใบหน้าของพวกเขานั้นมันหมายความว่าอย่างไรกัน?

นางมองไปทางมู่ฉินเจิน เห็นเขามีสีหน้าสงสัยเช่นกัน จึงพับเรื่องนี้ทิ้งไปก่อน

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ไม่ได้ออกไปผจญภัยแล้วมันจะเฉาตายสินะสองแม่ลูกคู่นี้ อะดรีนาลีนในร่างกายต้องการการปลดปล่อย

แน้ พวกเจ้านี่ คิดอะไรซุกซนกันอยู่ องค์รัชทายาทจะทำแบบนั้นได้ยังไง

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด