ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 376 ขายโร่วเจียโ 376 ขายโร่วเจียโหมวหมว

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 376 ขายโร่วเจียโ376 ขายโร่วเจียโหมวหมว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 376 ขายโร่วเจียโหมว

ตอนที่ 376 ขายโร่วเจียโหมว

วางแผ่นแป้งที่รีดเสร็จแล้วไว้บนตะแกรง ค่อยๆ ย่างจนแป้งทั้งสองด้านสุกเป็นเหลืองทอง รอจนแป้งสุกจะเห็นชั้นแป้งกรอบเรียงชั้นกันอย่างชัดเจน เมื่อใช้มือบีบแผ่นแป้ง มันก็กรอบจนแหลกเป็นชิ้นๆ

ครอบครัวสามคนย่างแผ่นแป้งกันตลอดทั้งบ่าย เมื่อย่างเสร็จแล้วก็ได้แผ่นแป้งย่างประมาณสามร้อยกว่าชิ้น

เนื้อแกะในหม้อยังตุ๋นไม่ทันเสร็จก็ส่งกลิ่นโชยไปทั่ว ผู้คนที่เดินผ่านประตูลานบ้านต่างหันมาดู สูดกลิ่นและพากันคาดเดาว่าครอบครัวนี้กำลังทำอาหารอร่อยๆอะไรอยู่

หลังจากพักผ่อนแล้วหนึ่งคืน ในเช้าวันรุ่งขึ้นครอบครัวสามคนก็ออกเดินทางไปยังสถานที่ก่อสร้าง

ท่ามกลางลมเหนือพัดกรรโชก ครอบครัวสามคนต่างหุ้มห่อร่างกายด้วยเสื้อผ้าหนาหนา เฉียวเยี่ยนยังติดแผ่นให้ความร้อนแก่มู่ฉินเจินและระบบตัวน้อย

นี่เป็นครั้งแรกที่มู่ฉินเจินใช้แผ่นแปะให้ความร้อน เขาต้องตกใจอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงความร้อนสม่ำเสมอในเสื้อผ้า

ท้องฟ้าสว่างเพียงเล็กน้อย แต่บนท้องถนนก็มีคนเริ่มทำงาน และตัวประกันในสถานที่ก่อสร้างก็ถูกผู้คุมระดมไปทำงานแล้ว

อีกไม่กี่วันหิมะก็น่าจะตก ถึงตอนนั้นก็ไม่สามารถทำงานได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องรีบเร่งให้ตัวประกันพวกนี้สร้างกำแพงเมืองให้เสร็จ

เหล่าตัวประกันแต่ละคนต่างสวมเสื้อผ้าบางมาก จนร่างกายสั่นระริกเพราะลมหนาว ใบหน้าของพวกเขาซีดเซียว บางคนไม่มีแม้แต่รองเท้าใส่ อีกทั้งบนเท้าของพวกเขาก็มีรอยฟกช้ำ

พวกเฉียวเยี่ยนได้มาถึงบริเวณรอบนอกของสถานที่ก่อสร้างแล้ว เมื่อเห็นตัวประกันที่ถูกทรมานอย่างน่าสังเวชก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ก่อนมองไปทางทหารแคว้นเป่ยที่ยืนอวดเบ่งตะโกนใส่ตัวประกันไปมา มองแล้วจนอยากจะปรี่เข้าไปเด็ดหัวเสียให้รู้แล้วรู้รอด

แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา พวกเขาทำได้เพียงระงับโทสะในใจไว้เท่านั้น

บริเวณนี้มีเจ้าของแผงลอยขายอาหารอยู่ เฉียวเยี่ยนรีบยกหม้อและตะแกรงขึ้นตั้งและจุดไฟทันที

เตาอันเรียบง่ายที่ซื้อมาจากระบบถูกวางไว้บนเกวียนวัว มันทำจากแผ่นเหล็กทั่วไปที่ใช้ในยุคสมัยนี้ จึงไม่สะดุดตานัก เมื่อถูกผู้อื่นถามพวกเขาก็เพียงบอกว่าเตานี้พวกเขาหาช่างตีเหล็กมาทำมันโดยเฉพาะก็เพียงพอแล้ว

หม้อเหล็กขนาดใหญ่วางอยู่บนเตาธรรมดาๆ หลังจากจุดไฟติด กลิ่นหอมของเนื้อแกะที่ตุ๋นไว้ในหม้อเมื่อคืนก็ค่อยๆ โชยออกมา และเมื่อน้ำแกงเดือด กลิ่นหอมก็โชยไปทั่วทิศ

เผาตะแกรงให้ร้อนระอุ จากนั้นนำแผ่นแป้งที่ย่างเสร็จเมื่อวานขึ้นอุ่น อุ่นแป้งย่างเสร็จแล้วก็ใช้มีดผ่าตรงกลาง ตักเนื้อแกะตุ๋นออกจากหม้อ หั่นเป็นชิ้น แล้ววางตรงกลางของขนมปัง หากว่าชอบกินเผ็ดก็ยังใส่พริกน้ำมันที่นางทำเองได้

พวกเขาทั้งสามรีบออกมาตั้งแต่เช้าตรู่ จึงไม่ทันได้กินอาหารเช้า เฉียวเยี่ยนจึงทำโร่วเจียโหมวให้กินรองท้องกันคนละชิ้น

เจ้าของแผงลอยที่อยู่รอบ ๆ ได้กลิ่นหอมนี้แล้ว ซ้ำเห็นครอบครัวสามคนกำลังกินอยู่ ทำให้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย

มีบางคนทนไม่ไหวเดินเข้ามาถามว่า “พวกเจ้าขายอะไรกัน ทำไมถึงหอมเช่นนี้!”

เฉียวเยี่ยนไม่รู้ภาษาแคว้นเป่ย จึงแสร้งยิ้มโง่เขลา มู่ฉินเจินเป็นคนพูดน้อย ดังนั้นเรื่องวาทะศิลป์ในการค้าขายจึงมอบให้ระบบตัวน้อยเป็นคนรับผิดชอบ

ระบบตัวน้อยคล้อยตามน้ำ ยื่นโร่วเจียโหมวที่เหลืออยู่ในมือครึ่งหนึ่งพลางพูดอธิบาย “สิ่งนี้เรียกว่าโร่วเจียโหมว ข้างในนี้สอดไส้ด้วยเนื้อแกะตุ๋น นี่เป็นสูตรลับที่แม่ข้าเรียนรู้มาจากที่อื่น”

เจ้าตัวน้อยสาธยายอย่างฉะฉานถึงรสชาติของโร่วเจียโหมว ทำให้แขกรอบด้านที่ได้ยินยิ่งน้ำลายไหลมากขึ้น

เหล่าชายร่างใหญ่ที่แผงขายของตรงข้ามตะโกนถามเฉียวเยี่ยน “แล้วโร่วเจียโหมวของเจ้าขายยังไง?”

เนื้อแกะตุ๋นในหม้อหอมฟุ้งดูน่าอร่อยยิ่ง ถ้าราคาไม่แพงมาก เขาจะซื้อมาลองชิมสักสองอัน

ระบบตัวน้อยแบมือออกพลางยิ้มหวาน “อันละห้าเหวิน”

คนรอบข้างได้ยินราคาแล้ว หลายคนก็พากันส่ายหัว มันหอมน่ากินก็จริง แต่ราคาก็แพงเหลือเกิน แป้งหนึ่งชิ้นราคาตั้งห้าเหวิน พวกเขาต้องขายอาหารสองชุดถึงจะหาเงินนั้นได้

ชายร่างใหญ่รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย “ลดราคาได้ไหม? ห้าเหวินแพงเกินไป”

ระบบตัวน้อยส่ายหัว กัดกินโร่วเจียโหมวหนึ่งคำ จนแก้มเล็กๆ พองป่อง แสดงท่าทางตามความเป็นจริงเพื่อให้เห็นว่าโร่วเจียโหมวร้านของพวกเขาอร่อยเพียงใด

ชายร่างใหญ่เมื่อเห็นท่าทางแบบนี้ก็ไม่ได้ต่อรองราคาต่อ เขาลังเลอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็ซื้อขนมปังให้ตัวเองชิ้นหนึ่ง

ช่วยไม่ได้ มันหอมน่ากินเกินไป ถึงจะแพงไปหน่อย แต่ก็ถือเป็นการให้รางวัลตัวเองได้ลิ้มรส

เขาควักเงินออกมาห้าเหวินยื่นให้กับมู่ฉินเจิน เฉียวเยี่ยนยิ้มพลางรีบทำโร่วเจียโหมวให้เขา

ชางร่างใหญ่รับขนมปังไปแล้วก็ยังคงไม่ไปไหน ยืนอยู่หน้าร้านแล้วกัดกินคำใหญ่

โร่วเจียโหมวยังคงร้อนจนควันฉุย แต่เขาก็กัดเข้าคำใหญ่ มันจึงลวกปากจนต้องพ่นลมออกมา แต่กลับทำใจที่จะคายออกมาไม่ได้

แผ่นแป้งกรอบมาก เพียงแค่กัดลงไปก็แหลกเป็นเศษเล็กเศษน้อย ในขณะที่เนื้อแกะตุ๋นส่งกลิ่นหอมกรุ่น เนื้อสัมผัสนุ่มมากและฉ่ำน้ำ กินเพียงคำเดียวก็ทำให้เหงื่อออก

เขาไม่จำเป็นเอ่ยปากอธิบาย ผู้คนรอบด้านก็รู้ได้ว่ามันอร่อยมาก แผ่นแป้งกรุบกรอบนั้นเพียงกัดลงไปก็มีเสียงกรอบแกรบดังขึ้น ยากที่พวกเขาจะไม่สังเกตเห็น

เมื่อมีหนูทดลองคนแรก คนที่เหลือก็ลังเลใจน้อยลง อย่างไรเสียพวกเขาก็เกรงว่าห้าเหวินที่จะเสียไปนั้นจะเสียไปอย่างไม่คุ้มค่า

มีการต่อแถวเล็กๆ ด้านหน้าแผงขาย มู่ฉินเจินรับผิดชอบในส่วนเก็นเงินและย่างแผ่นแป้ง ระบบตัวน้อยรับผิดชอบเรียกแขก เฉียวเยี่ยนเป็นคนใส่ไส้เนื้อ ทั้งสามแบ่งงานอย่างชัดเจนอย่างเป็นระบบ

เมื่อลูกค้าที่ได้รับโร่วเจียโหมวได้ลองชิมคำแรก ในดวงตาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ยกนิ้วโป่งให้เฉียวเยี่ยนและมองมาทางมู่ฉินเจินด้วยความอิจฉา

“สหาย ภรรยาของเจ้าเก่งยิ่งนัก”

เพิ่งเปิดแผงขายได้ไม่นาน มู่ฉินเจินก็ได้รับคำชมเชิงอิจฉาอย่างนับไม่ถ้วน เขารู้สึกพึงพอใจไม่น้อย แน่นอนอยู่แล้ว เป็นไปได้เยี่ยงไรที่ภรรยาตนจะไม่เก่งกาจ!

ท้องฟ้าสว่างสดใสขึ้น ฝูงชนก็คึกคักมากขึ้น ธุรกิจแผงขายอาหารเล็กๆ ของเฉียวเยี่ยนก็ไม่มีเวลาได้หยุดพักเลย

เมื่อแสงตะวันฉายผ่านขอบฟ้า ทหารแคว้นเป่ยก็เดินออกจากสถานที่ก่อสร้างมาซื้ออาหารกิน

ทหารยศน้อยที่คอยเฝ้าสถานที่ก่อสร้างอย่างพวกเขาไม่ถูกคุมเข้มเหมือนตัวประกันในค่าย สามารถออกมาเดินเล่นซื้อของได้ ขอเพียงคุมตัวประกันให้ดีก็พอ

คนครัวในค่ายทหารทำอาหารไม่อร่อย ช่วงที่ไม่มีอะไรจะกิน พวกเขามักจะออกไปซื้ออาหารและของขบเคี้ยว

ทันทีที่ออกจากสถานที่ก่อสร้าง พวกเขาได้กลิ่นเนื้อหอมฟุ้ง หลังตามกลิ่นของเนื้อมาก็เห็นแผงขายเล็ก ๆ รายล้อมไปด้วยลูกค้า

พวกเขาเดินไปที่แผงขายอาหารด้วยความประหลาดใจ ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เท่าใดกลิ่นก็หอมแรงยิ่งขึ้น

เมื่อเห็นว่ามีทหารแคว้นเป่ยเดินเข้ามาแต่ไกล ดวงตาของเฉียวเยี่ยนก็เป็นประกาย หลังรอตั้งแต่เช้า ในที่สุดปลาก็ติดเบ็ด

ระบบตัวน้อยรวบรวมสติ ต้องต้อนรับเจ้าแกะอ้วนพวกนี้อย่างดี

นางหยิบโร่วเจียโหมวขึ้นมาอีกอันเดินไปตรงหน้าเหล่าทหารแคว้นเป่ย ขายโร่วเจียโหมวให้พวกเขาอย่างกระตือรือร้น

ทหารแคว้นเป่ยมองปีศาจตัวน้อยที่อยู่ตรงหน้าแล้วก็รู้สึกขบขันยิ่ง จงใจขู่ว่า “ในเมื่อเจ้าบอกว่ามันอร่อยมาก งั้นพวกข้าจะซื้อมาลองชิมอันหนึ่ง ถ้าไม่อร่อย ข้าจะทุบแผงขายของเจ้า!”

ทหารแคว้นเป่ยที่พูดอยู่มีใบหน้าดุร้ายเต็มไปด้วยหนวดเครา ดูดุร้ายกว่ามู่ฉินเจินที่ติดหนวดเคราเสียอีก โหนกแก้มด้านขวามีรอยแผลเป็นยาว มองแล้วน่ากลัวยิ่ง

ระบบตัวน้อยแสร้งทำเป็นตกใจกลัว แล้วเข้าไปหลบด้านหลังของมู่ฉินเจิน โผล่แค่ศีรษะออกมาจ้องมองดู

เหล่าทหารแคว้นเป่ยเห็นเจ้าตัวเล็กตกใจกลัวก็หัวเราะลั่น ระบบตัวน้อยถือโอกาสตอนพวกเขาไม่เห็นกลอกตามองบน

คนพวกนี้ช่างน่าเบื่อยิ่ง เห็นว่าหยอกเด็กให้ตกใจได้เป็นเรื่องตลกหรือไง!

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เมนูชวนหิวมาอีกแล้ว แล้วก็ตกคนให้มาติดได้เสียด้วย

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด