ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 383 เป็นทาสภรรยาระยะสุดท้าย

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 383 เป็นทาสภรรยาระยะสุดท้าย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 383 เป็นทาสภรรยาระยะสุดท้าย

ตอนที่ 383 เป็นทาสภรรยาระยะสุดท้าย

พวกเด็กๆ เล่นกันอย่างอิสระอยู่บนทุ่งหญ้า เฉียวเยี่ยนเองก็ไม่ว่าง เริ่มเปิดช่องทางกิจการใหม่อีกแล้ว

ตอนนี้แคว้นเป่ยได้เป็นรัฐบริวารของเทียนลี่ไปเรียบร้อย เส้นทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศก็เปิดแล้วเช่นกัน นางซื้อร้านค้าในแคว้นเป่ยไปไม่น้อยเพื่อขายสินค้าของโรงงานเฉียวจี้

นอกจากเปิดร้านค้า นางยังรับซื้อขนแกะจำนวนมาก นำขนแกะไปล้างให้สะอาดและแปรรูปเป็นด้ายขนสัตว์

ด้ายขนสัตว์มีประโยชน์ใช้สอยมากมาย สามารถนำมาถักเสื้อไหมพรม ถุงเท้า หมวก และทำรองเท้าไหมพรมได้ สรุปคือมีประโยชน์มากมายหลากหลาย

ตอนอยู่ในสมัยปัจจุบัน แม่ของเฉียวเยี่ยนชอบถักไหมพรมเป็นของกระจุ๋มกระจิ๋มเล็กๆ มาก เฉียวเยี่ยนจึงได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่ได้เห็นและได้ยินอยู่เป็นประจำ แม้ฝีมือจะไม่ดีมาก แต่ก็ยังพอทำเป็นอยู่บ้าง

อันดับแรกนำขนแกะที่รับซื้อมาล้างให้สะอาดด้วยสารซักฟอกก่อน จากนั้นต้มลงน้ำเดือดในหม้อ เพื่อขจัดไขมันในขนออก

หลังจากจัดการขนแกะเสร็จ ก็ใช้สีย้อมมาย้อม จากนั้นก็ใช้เครื่องปั่นด้ายปั่นเป็นเส้นด้ายออกมา

ฝูงแกะที่เลี้ยงปล่อยในแคว้นเป่ยมีจำนวนมหาศาล แต่คนเลี้ยงปศุสัตว์ส่วนใหญ่ฆ่าแกะเพื่อถลกหนังและกินเนื้อเท่านั้น ส่วนการนำขนแกะมาแปรรูปยังไม่เคยเห็นมาก่อน

เฉียวเยี่ยนหาคนเลี้ยงสัตว์ท้องถิ่นหลายคนมาช่วย เมื่อพวกเขาเห็นขนแกะสกปรกถูกซักล้างจนสะอาด แล้วย้อมเป็นสีสันต่างๆ ก่อนปั่นเป็นก้อนไหมพรม ทั้งหมดต่างประหลาดใจเป็นอย่างมาก

ขนแกะเอามาเล่นแบบนี้ได้ด้วย? แต่ด้ายพวกนี้มันหนาเกินไปหน่อยหรือเปล่า นำมาทอเสื้อผ้าคงไม่ได้หรอก?

ยังไม่ทันให้พวกเขาได้เข้าใจ ก็เห็นเฉียวเยี่ยนหยิบไม้เรียวยาวสองอัน และพันด้ายรอบแท่งไม้ แทงตรงนั้นทีตรงนี้ที แล้วก็ออกมาเป็นผ้าผืนหนึ่งได้จริงๆ !

คนเลี้ยงสัตว์ที่มาทำงานพวกนี้ต่างล้อมรอบเฉียวเยี่ยน เห็นมือนางขยับไปมา ไม่นานก็ถักออกมาเป็นผ้าผืนยาว

เฉียวเยี่ยนถักเป็นผ้าพันคอผืนหนึ่ง ฝีมือนางมีจำกัด จึงถักได้เพียงแค่รูปแบบธรรมดาเท่านั้น หากต้องถักซับซ้อนหน่อยนางก็ทำไม่ได้แล้ว

นางวางแผนจะผลิตไหมพรมขนสัตว์มาชุดหนึ่งก่อน จากนั้นหาหญิงฝีมือดีรู้จักตัวอักษรมา แล้วสอนทักษะการถักนิตติ้งขั้นพื้นฐานสุดให้พวกนาง

ส่วนวิธีลึกล้ำกว่านั้นก็คือ นางชื้อวิธีการถักนิตติ้งกับระบบตัวน้อยมาสองเล่ม คัดลอกออกมา แล้วให้พวกนางไปศึกษากันเอง

นางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับงานเย็บปักถักร้อยมากนัก ที่ถักผ้าพันคอได้นั้นเพราะนางดูมามาก จึงจำได้เล็กน้อย ส่วนรูปแบบการถักนิตติ้งที่ซับซ้อนเหล่านั้น นางไม่มีความประทับใจเลยแม้แต่น้อย

ภูมิปัญญาของคนมีฝีมือนั้นยอดเยี่ยมเสมอ หญิงที่มีทักษะเหล่านี้เพียงได้เรียนวิธีการถักนิตติ้งขั้นพื้นฐานสุดก็พัฒนาวิธีการถักแบบอื่นๆ ได้อีกมากมาย แม้แต่เฉียวเยี่ยนที่เป็นคนสมัยใหม่ได้เห็นก็ยังชื่นชม

นอกจากการถักนิตติ้งแล้ว นางยังสอนหญิงเก่งพวกนี้ถักโครเชต์อีกด้วย แต่เหมือนเคย นางรู้แค่วิธีถักที่ง่ายที่สุดเท่านั้น ที่เหลือรอให้พวกนางเรียนรู้กันเอง

แคว้นเป่ยมีพื้นที่กว้างใหญ่ มีประชากรเบาบาง เฉียวเยี่ยนได้ซื้อลานขนาดใหญ่ที่ตลาดหลังหนึ่ง ร้านค้าที่หันหน้าไปทางถนนถูกนำมาใช้ทำกิจการ และลานด้านหลังจะถูกดัดแปลงเป็นโรงงานแปรรูปไหมพรม

เมื่อพวกคนเลี้ยงสัตว์ได้ยินว่ามีคนรับซื้อขนแกะ ก็ตัดขนบนแกะของตัวเอง นำออกไปขายเป็นกระสอบใหญ่

โรงงานผลิตไหมพรมยังไม่เปิดกิจการ คนงานที่เฉียวเยี่ยนจ้างจึงต้องรีบทำงานให้ทันเวลา พวกหญิงที่มีฝีมือต้องถักสินค้าเล็กน้อย หนึ่งคือนำมาดึงดูดลูกค้า อีกอย่างหนึ่งคือนำมาจำหน่าย

ภายในเวลาครึ่งเดือน คนงานหญิงสิบคนก็ถักของออกมาได้ไม่น้อย ผ้าพันคอ หมวก ถุงมือ รองเท้า และยังมีตุ๊กตาตัวน้อยของเล่นของพวกเด็กๆ วางไว้อย่างเป็นระเบียบอยู่บนชั้นวาง ดูแล้วเจริญตานัก

สีของไหมพรมก็มีมากมายหลายเฉด มีทั้งเข้มไปจนถึงอ่อน มีครบทุกอย่าง

ในบ้านมีเด็กอยู่ห้าคน เฉียวเยี่ยนจึงตั้งใจย้อมผ้าให้เป็นสีสันสดใสแบบมาการอง และให้พวกคนงานหญิงถักเสื้อผ้าให้พวกเด็กๆ

ของสาวน้อยทั้งสามเป็นกระโปรงตัวเล็กทำด้วยไหมพรมขนสัตว์สีชมพูอบอุ่น สีเหลืองขนห่าน และสีม่วงอ่อน พวกนางสวมใส่วิ่งเล่นไปบนทุ่งหญ้า เหมือนกับดอกไม้น่ารักสามดอก

ของเสี่ยวฉวนเอ๋อร์กับเสี่ยวอวี่เป่าเป็นเสื้อยืดชั้นในสีชมพูกับน้ำเงินพร้อมลายการ์ตูนตรงหน้าอก ของเสี่ยวฉวนเอ๋อร์เป็นเรือลำเล็กลำหนึ่ง ส่วนของเสี่ยวอวี้เป่าเป็นเกาะเล็กๆ เกาะหนึ่ง

เด็กทั้งห้าคนต่างเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าใหม่ออกไปขี่ม้าเดินเล่นรับลม มาแคว้นเป่ยได้ไม่กี่เดือน พวกเขาก็ได้รู้จักสหายใหม่ไม่น้อย

เหล่าสหายตัวน้อยเห็นเด็กทั้งห้าสวมเสื้อผ้าชุดใหม่แสนสวย ก็น้ำลายไหลด้วยความอิจฉา

เสี่ยวฉวนเอ๋อร์วัยสิบสองปีมองภาพเรือแบบเด็กเล็กตรงหน้าอกแล้วรู้สึกแปลกเล็กน้อย แต่กระนั้นก็ยังชอบมาก นี่คือของขวัญที่ท่านแม่มอบให้ ถึงดูปัญญาอ่อนไปหน่อยก็ช่างเถิด ใครใช้ให้เขาเป็นแค่เด็กคนหนึ่งในสายตาท่านแม่กัน

ส่วนเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ที่มีอายุสิบสองปีเหมือนกันสวมกระโปรงสีชมพูอ่อน และไม่รู้สึกว่าปัญญาอ่อนเลยแม้แต่น้อย นางนั่งอยู่บนหลังม้า กระโปรงพริ้วไหวไปตามสายลม แกว่งแส้ไปมาอย่างคล่องแคล่วสง่างาม

พวกตัวแสบที่เคยถูกเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์จัดการเห็นลูกพี่อวี๋สวมชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน ก็หลบตัวสั่นอยู่ตรงมุม

ยิ่งนางแต่งสีชมพูมากเท่าใด ยิ่งทุบตีคนได้ดุดันเท่านั้น ฮึกฮือ

ในเมื่อเด็กทั้งห้าได้รับเสื้อผ้าใหม่หมด มู่ฉินเจินพ่อของเด็กเหล่านี้ก็ย่อมได้เช่นกัน อีกทั้งเฉียวเยี่ยนยังเป็นคนทำให้เองด้วย

เนื่องจากรู้ในฝีมือของตัวเอง เฉียวเยี่ยนจึงไม่ได้ทำเสื้อคลุมตัวนอก แต่ถักเสื้อกันหนาวให้มู่ฉินเจินสวมด้านในเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น

สีเป็นสีเทาเรียบง่ายไร้การตกแต่ง และไม่มีลวดลายใดๆ แม้นางจะอยากให้มี นางก็ถักออกมาไม่ได้

ทั้งชุดมองแล้วถือว่าใช้ได้ แต่เมื่อเพ่งมองดีๆ ก็จะพบว่ามีปัญหาทุกจุด แขนยาวสั้นไม่เท่ากัน ชายเสื้อเบี้ยว…

แม้เสื้อผ้าชุดนี้จะดูขี้ริ้วขี้เหร่ แต่องค์รัชทายาทก็ยังคงใส่อย่างมีความสุข

นี่เป็นครั้งแรกที่ภรรยาทำเสื้อผ้าให้เขา แม้แต่ลูกๆ ก็ยังไม่ได้แบบนี้เลย

ในค่ายทหาร

พวกนายพลที่ปกติทำงานกับองค์รัชทายาทพบว่าวันนี้เจ้านายไม่ปกติ ไม่ปกติเอามากๆ !

คนที่มักจะไม่พิถีพิถันในเสื้อผ้าการแต่งกาย วันนี้กลับดึงปกคอเสื้อของตัวเองเป็นครั้งคราว ราวกับคันเนื้อคันตัวก็ไม่ปาน

พวกคนกลุ่มหนึ่งเป็นคนตรงๆ เห็นองค์รัชทายาทรู้สึกไม่สบายตัวเช่นนี้ จึงรีบเอ่ยแนะนำทันที “ฝ่าบาท ไม่เช่นนั้นเชิญแพทย์ทหารมาจับชีพจรเถิดพะย่ะค่ะ? พระองค์เอาแต่คันคะเยอเช่นนี้มันไม่ใช่เรื่องปกติเลย!”

มู่ฉินเจินที่ยังดึงปกคอเสื้ออยู่ “…”

คันบ้าคันบออะไร!

เกาจัวหยวนติดตามอยู่ข้างกายองค์รัชทายาทมาตลอด ย่อมรู้ว่าเจ้านายคนนี้ดึงปกคอเสื้อตลอดด้วยเหตุอันใด

เมื่อได้ยินนายพลแนะนำให้เชิญแพทย์ทหารมา เขาก็ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างทนไม่ไหว เจ้านายเขาจะเชิญแพทย์ทหารมาทำไมกัน เขาแค่อยากจะอวดก็เท่านั้น

ตั้งแต่เมื่อวานมา ฝ่าบาทก็มักจะออกมาอวดเสื้อผ้าที่ไท่จื่อเฟยเหนียงเหนียงทำให้พระองค์ต่อหน้าเขา ทุกครั้งที่ได้ยินคำชมของเขา หางนั่นก็จะกระดิกจนแทบลอยขึ้นฟ้า

ตอนนี้เขาเรียนรู้เคล็ดลับการประจบสอพลออย่างช่ำชองแล้ว จึงรู้จักการไว้หน้าเจ้านายตัวเอง

ดวงตาเขาเป็นประกาย จ้องมองปกคอเสื้อขององค์รัชทายาท ก่อนเอ่ยชมผืนผ้าไหมพรมสีเทาที่ดูไม่สวยผืนนั้น “โอ้ว ฝ่าบาท พระองค์ทรงฉลองพระองค์ใหม่ ฉลององค์ชุดนี้ไม่เหมือนใครยิ่งนัก เหมาะกับพระองค์มาก แค่เห็นก็รู้แล้วว่าไท่จื่อเฟยเป็นคนทำให้พระองค์…”

แม้คำเยินยอนี้จะดูปลอมเสียส่วนใหญ่ กระนั้นก็ใช้ได้ผลกับองค์รัชทายาทมาก พระพักตร์เรียบเฉยไม่แยแสนั้นเชิดขึ้นเล็กน้อย สีหน้าเย่อหยิ่ง พลางพยักหน้าเบาๆ ซึ่งถือว่าเป็นการยอมรับต่อคำพูดของเกาจัวหยวน

บรรยากาศพลันเงียบสงัด พวกนายพลที่ร้อนรนเชิญแพทย์ทหารให้องค์รัชทายาทเมื่อครู่ในตอนนี้ยิ่งร้อนรนเข้าไปใหญ่

ฝ่าบาทกำลังป่วย! เป็นทาสภรรยาระยะสุดท้าย เกรงว่าคงรักษาไม่ได้แล้ว!

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ขำกับความอวดเสื้อผ้าเมียทำให้ขององค์รัชทายาทจังเลยค่ะ คลั่งรักไม่แผ่วเลยน้า

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด