ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 391 (ตอนพิเศษ) เสี่ยวฉวนเอ๋อร์ 3

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 391 (ตอนพิเศษ) เสี่ยวฉวนเอ๋อร์ 3 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 391 (ตอนพิเศษ) เสี่ยวฉวนเอ๋อร์ 3

ตอนที่ 391 (ตอนพิเศษ) เสี่ยวฉวนเอ๋อร์ 3

แม่สื่อถูกทุบตีจนกรีดร้องออกมา ปากก็เอาแต่พร่ำสาปแช่ง “นังคนหยาบช้า! เป็นแค่นังตัวซวยที่ไม่มีพ่อมีแม่คนหนึ่ง มีคนมาเลือกเจ้าก็ดีแล้ว ยังกล้าเลือกมากอีก!”

“ข้าขอสาปแช่งเจ้าให้ขึ้นคาน ต่อให้แต่งออกไปก็ไปเป็นเมียน้อยของชายแก่ ให้กำเนิดลูกชายเกเร…”

นางยังสาปแช่งหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ แต่แม่นางน้อยตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวแล้ว ฟาดไม้นวดแป้งลงบนศีรษะนาง ทำให้ศีรษะแตกเลือดไหล และคำพูดสกปรกก็หยุดลงในที่สุด

ข้าชมเจียวเจียวน้อยว่าเยี่ยมมาก ทว่าผู้ชมที่มองอยู่รอบๆ กลับชี้มือชี้ไม้ใส่นาง ขณะที่แม่นางเหมือนสัตว์ตัวน้อยที่ได้รับบาดเจ็บ ถือไม้นวดแป้งจ้องคนที่ด่านางอย่างดุดัน

ข้ารู้ว่าแม่นางเก่งกาจมาก ขี้น้อยใจมาก ทว่านางกลับไม่ขี้ขลาด กระทั่งยังสามารถทะเลาะกับคนเหล่านั้นได้

หลังจากพูดคุยติดต่อกันมายาวนาน ข้าคิดมาตลอดว่าแม่นางเป็นเหมือนกระต่ายขาวตัวน้อย อ่อนนุ่มนิ่ม แต่วันนี้เพิ่งได้รู้ว่า นางก็กัดคนได้อย่างดุร้ายเช่นกัน

แต่นางที่เป็นเช่นนี้กลับทำให้ข้าปวดใจอย่างมาก ข้าเข้าไปกอดนางไว้ ไม่สนสายตาตกตะลึงของผู้คน กอดนางไว้ในอ้อมแขนให้นางได้พักพิง

ข้ามองผู้คนที่ยังด่าสาปแช่งอยู่ด้วยสายตาเย็นชา

ข้าไม่ชอบด่าคนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ยามมีเรื่องอะไรก็ลงมือทำเลย ทว่าวันนั้นข้าด่าออกมา แถมยังด่าออกมามากมาย สุดท้ายคนที่ด่าเจียวเจียวของข้าก็ถูกข้าส่งเข้าไปที่ว่าการอำเภอ

หลังจากผู้คนแยกย้ายจากไป ภายในร้านจึงเหลือเพียงข้ากับเจียวเจียวสองคน ฉืออีที่ตามหลังข้ามาก็หลบไปอย่างรู้งาน แถมยังปิดประตูร้านให้พวกเราอย่างใส่ใจด้วย

นั่นเป็นครั้งแรกที่ข้ากอดเจียวเจียว แม่นางอ่อนนุ่มนิ่มพิงอยู่ในอ้อมแขนข้า ทำให้หัวใจที่ยากจะสงบของข้าเต้นตึกตักขึ้นมาอีกครา

นางอ่อนโยนมากจริงๆ เหมือนกับที่ข้าเดาไว้ปกติ อีกทั้งตัวนางก็หอมมากด้วย กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของหญิงสาวโชยมาแตะที่ปลายจมูกข้า

เจียวเจียวร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนข้า น่าจะเสียใจมานานแล้ว เมื่อหาคนที่ระบายความในใจได้ นางก็ร้องไห้ปานจะขาดใจ และจริงจังมาก

ไม่รู้ว่าใช้คำ ‘จริงจัง’มาบรรยายแม่นางร้องไห้จะเหมาะสมหรือไม่ ทว่าตอนนั้นในหัวข้ามีแค่คำนี้ผุดขึ้นมาจริงๆ

เจียวเจียวน้อยน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ทำให้อกเสื้อข้าเปียกชุ่ม แล้วซึมไปจนถึงผิวข้า ร้อนจนร่างกายข้าสั่นเทา

นางร้องไห้เสียงเบามาก ไม่ได้ระเบิดอารมณ์ออกมา มีเพียงสะอื้นออกมาบางครั้งเท่านั้น ท่าทางเสียใจและน่าสงสารนั้นทำให้ข้าอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดในโลกแก่นาง

สุดท้าย นางก็หยุดร้องไห้ ดวงตาคู่นั้นคลอหน่วยไปด้วยน้ำตาและแดงก่ำ ดูน่ารักระคนน่าสงสารนัก

บางทีเวลานี้นางอาจจะรู้ตัวว่ากำลังร้องไห้ในอ้อมกอดบุรุษ จึงรู้สึกเขินอาย ดวงหน้าจึงแดงปลั่งออกมา อายจนร้องไห้ระคนหัวเราะ

นางเอ่ยอ้อมแอ้มขอโทษกับข้า ลนลานจะผลักข้าออก แต่ข้าไม่อยากปล่อยมือ

ข้ากักขังนางไว้ในอ้อมแขน ไม่ยอมให้นางออกห่างง่ายๆ ก่อนปลุกความกล้าขึ้นมา เอ่ยคำพูดที่ข้าอยากเอ่ยมานานออกไป

“เจียวเจียว ข้าชอบเจ้า ข้าอยากแต่งงานกับเจ้า เจ้าแต่งงานกับข้านะ?”

หลังจากพูดประโยคนี้ออกไป ข้ารู้สึกใจวูบโหวงอยู่เนิ่นนาน เคยเผชิญหน้ากับพวกจิ้งจอกเฒ่าในราชสำนัก รบราฆ่าฟันกับคนที่มาล้อมปราบก็ไม่น้อย แต่ไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นเช่นนี้มาก่อนเลย

ข้ากลัวเจียวเจียวจะปฏิเสธข้า ข้ากลัวว่าสิ่งที่คิดว่าเรารักกันจะเป็นเพียงรักข้างเดียว

แม่นางตกใจไปกับคำพูดของข้าแล้ว ดวงตากลมโตคู่นั้นถลึงเบิกกว้าง ราวกับไม่อยากจะเชื่อ

ข้ารอนางตอบอย่างตื่นเต้น เดิมทีคิดว่าแม่นางนุ่มนิ่มคนนี้จะหลบเพราะอาย หรือไม่สนใจข้า ทว่านางกลับพยักหน้าอย่างมีความสุข

ภาพในตอนนั้นหยุดอยู่ในความทรงจำข้ามาตลอดชีวิต แม่นางทั้งร้องไห้ทั้งยิ้ม พยักหน้าไม่หยุด เด๋อด๋าจนดูน่ารัก

ข้าเองก็มีท่าทางโง่งมเช่นกัน ในอกเต็มไปดวยความปิติยินที่แม่นางตอบตกลงข้า ข้ากอดนางไว้ในอ้อมแขนแน่น เราทั้งสองกอดกันด้วยรอยยิ้ม

ยามนี้เมื่อนึกถึงขึ้นมา การที่แม่นางตอบตกลงง่ายๆ เช่นนี้ถือว่าใจกล้ามากทีเดียว เพราะแม้แต่ตัวตนข้าคือใคร บ้านอยู่ที่ใด มีคนในครอบครัวกี่คนยังไม่รู้เลย

แต่แม่นางที่เป็นเช่นนี้กลับทำให้ข้าปวดใจเป็นพิเศษ นางเชื่อมั่นในตัวข้าอย่างไร้เงื่อนไข ไม่ว่าข้าจะเป็นใคร นางเพียงแต่รู้ว่าข้าเป็นพี่โจวโจวของนาง

ข้าจึงอยู่ด้วยกันกับแม่นางแบบนั้น คดีทุจริตจบลงแล้ว ทว่าข้ากลับพักอยู่ตำบลเล็กๆ นี้อย่างยาวนาน

ทุกวันตอนเช้าตรู่ ข้าจะไปรายงานตัวในร้านแม่นาง ขลุกตัวอยู่ในครัวหลังกับนาง เป็นผู้ช่วยนาง แค่ครู่เดียวก็หมดวันแล้ว

ข้ายังจำท่าทางตะลึงงันที่แม่นางเห็นข้าทำอาหารเป็นได้ นางบอกว่า คนที่เหมือนอย่างข้าจะจับแค่พู่กันเป็นอย่างเดียวเสียอีก

ข้ารู้สึกพอใจมาก โชคดีที่พระเจ้าไม่ให้ข้ามีฝีมือทำอาหารย่ำแย่เหมือนท่านพ่อที่เป็นมาตลอด

นอกจากกลางคืน พวกเราก็ไม่แยกจากกัน ดูแลร้านอาหารเล็กๆ ด้วยกัน ไปท่องเที่ยวทุกที่ด้วยกัน และคนในตำบลเล็กๆ นี้ก็ค่อยๆ รู้ว่าพวกเราเป็นคู่รักกัน หญิงชราใจดีเหล่านั้นสามารถพูดภาษาท้องถิ่นได้ และให้ข้าดูแลแม่นางดีๆ

ความรู้สึกของข้ากับเจียวเจียวไม่รีบร้อน ธรรมดาอบอุ่นเหมือนสามีภรรยา นางต้อนรับลูกค้า ข้าเป็นพ่อครัวอยู่ครัวหลัง นางไปตลาดซื้อของ ข้าถือของตามนางอยู่ข้างหลัง…

ข้าชอบชีวิตแบบนี้อย่างมาก ชอบถึงขั้นอยากแต่งนางเข้าบ้านไปเร็วๆ แต่น่าเสียดายที่ข้ายังอายุไม่ถึงยี่สิบปี

ในที่สุดก็รู้แล้วว่าเหตุใดต่อหน้าผู้คนนับหมื่นนับพันบิดาถึงดุดัน แต่พออยู่ต่อหน้ามารดากลับขลาดกลัวไม่ไหว

มันเป็นเพราะชอบ เป็นเพราะรัก

ยามนี้มาถึงตาข้าแล้ว ข้าก็เหมือนบิดา อยากจะออดอ้อน หลงใหลเจียวเจียวน้อยของข้า

ข้าไม่ค่อยกล้าบอกฐานะของข้าให้เจียวเจียวรู้ ด้วยกลัวว่าจะทำให้นางตกใจ แม่นางที่เหมือนนกกระทาคนนี้ หากรู้ว่าข้าเป็นองค์รัชทายาท เกรงว่าคงจะหลบหน้าไม่สนใจข้าแน่

แต่ข้าไม่อยากโกหกนาง หลังจากมั่นใจในความสัมพันธ์หนึ่งเดือนของเรา ข้าจึงเปิดใจกับนาง บอกฐานะของข้าให้นางฟังอย่างชัดเจน

ยังจำได้ว่าตอนนั้นบรรยากาศดูขบขันเล็กน้อย เจียวเจียวคิดว่าข้าล้อนางเล่น จึงตีหน้าขรึมตำหนิข้าห้ามพูดเหลวไหล แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของข้า นางขอบตาแดงก่ำขึ้นมาทันใด

จากนั้นก็เหมือนที่คาดการณ์ไว้ นางหลบหน้าไม่สนใจข้าเหมือนนกกระทาตัวน้อย

คืนนั้น ข้ากินเสร็จก็ปิดประตูไม่รับแขก เจียวเจียวน้อยไม่สนใจข้าแล้ว ปิดประตูใส่ข้า ปล่อยให้ข้าอยู่ข้างนอก

ข้ารออยู่หน้าประตูของแม่นางทั้งคืน อยากให้แม่นางเปิดร้านในวันรุ่งขึ้นเห็นข้า

แต่ที่ไม่คาดคิดคือ แม่นางใจกล้าคนนี้กลับเก็บสัมภาระ เตรียมหนีไปกลางดึก

นางแบกสัมภาระ แอบเปิดประตูเหมือนลูกแมวน้อยที่ทำความผิด ย่องเบาเตรียมแอบหนีไป แต่เมื่อเปิดประตูออกมาก็เห็นข้า ก็เปลี่ยนเป็นเด็กโง่ที่ถูกจับได้ทันที

ข้ารู้สึกโกรธเล็กน้อย โกรธที่นางอยากจะจากข้าไป

ข้าเดินเข้าไปหา อุ้มนางเข้าห้องอย่างไม่ฟังคำอธิบาย ในใจเต็มไปด้วยความโกรธ คิดแค่อยากจะลงโทษนกกระทาน้อยที่ดื้อรั้นอย่างรุนแรง

คืนนั้น ข้าจูบนาง จูบอย่างดุดันมาก กัดจนทำให้ริมฝีปากของนางแตก แม้ก่อนหน้านี้จะเคยจูบมาแล้ว แต่แค่ฉาบฉวย แตะเพียงครู่เดียวก็ผละออกห่างเท่านั้น

ครานี้ ข้าเปิดปากนาง สอดลิ้นเข้าไปโรมรันอย่างบ้าคลั่ง จูบจนแม่นางกลายเป็นเส้นแป้งอ่อนระทวย อิงแอบอยู่ในอ้อมกอดข้าอย่างอ่อนแรง

คืนนั้นข้าคุยกับนางนานมาก กว่าจะทำให้นางยอมรับฐานะองค์รัชทายาทของข้าได้

ครั้งแรกที่ถูกรังเกียจเพราะตัวเองเป็นองค์รัชทายาท เป็นความรู้สึกที่พูดออกมาได้ยากมาก

ทว่าข้าก็ค้นพบวิธีสั่งสอนแม่นาง หากไม่ฟัง ก็จูบอย่างดุเดือด เพราะเมื่อแม่นางถูกจูบก็จะอ่อนระทวย สูญเสียการขัดขืนไป

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

พี่ฉวนเอ๋อร์ได้ความดุดันมาจากท่านพ่อเหรอเนี่ย เบาได้เบาค่ะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด