ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 44 เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ผู้เศร้าสร้อย (รีไรท์)

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 44 เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ผู้เศร้าสร้อย (รีไรท์) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 44 เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ผู้เศร้าสร้อย (รีไรท์)

ตอนที่ 44 เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ผู้เศร้าสร้อย (รีไรท์)

มู่ฉินเจินรับรู้ถึงความคับข้องใจของนาง เขารู้แต่ไม่พูดสิ่งใดออกไป รอนางปรับอารมณ์กลับมาอย่างเงียบ ๆ

ระบบตัวน้อยที่เห็นโฮสต์ตัวเองพิงไหล่พี่มู่คนหล่อเมื่อครู่ก็ชะงักอยู่ในท่าเคี้ยวมันทอดแผ่น ด้วยกลัวว่าจะรบกวนพวกเขา

ดวงตากลมโตคลอหยาดน้ำคู่นั้นจ้องทั้งสองอย่างไม่กะพริบตา แม้แต่วิดีโอก็ไม่ไถดูแล้ว

เมื่อไม่เห็นร่างของพวกลูก ๆ แล้ว มู่ฉินเจินและเฉียวเยี่ยนจึงออกจากกั๋วจื่อเจี้ยน ขณะที่เฟิงหยางอยู่ที่นั่น รอเจ้านายน้อยทั้งสองเลิกเรียน

ในชั้นเตรียมอนุบาลตอนนี้เป็นเวลาพักระหว่างเรียน เจ้าหัวไชเท้าตัวน้อยแต่ละคนส่งเสียงดังโหวกเหวกโวยวาย ครั้นเห็นอาจารย์จูงมือเด็กน้อยสองคนเข้ามาก็พลันเงียบลงทันที

อาจารย์แนะนำเสี่ยวฉวนเอ๋อร์และเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ให้กับเด็กนักเรียน และพวกเขาต่างก็ตะลึงค้าง ไม่คิดเลยว่าจะได้เรียนกับน้องชายน้องสาวที่ยังเยาว์วัยเพียงนี้

แต่ด้วยท่าทางน่ารักของเด็กทั้งสอง ไม่นานก็ได้รับความชอบจากกลุ่มบรรดาพี่ชายพี่สาว เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ผู้ไม่กลัวสิ่งใดได้พูดคุยกับสหายร่วมชั้นแล้ว และไม่นานก็มีสหายใหม่เพิ่มอีกหลายคน

เนื่องจากเด็กทั้งสองอายุน้อยที่สุด อาจารย์จึงจัดให้พวกเขาอยู่ที่โต๊ะแรก เด็กทั้งสองที่มีความรู้สึกแปลกใหม่กับการเข้าเรียนจึงนั่งนิ่งอย่างเชื่อฟัง หยิบกระดาษกับพู่กันที่มารดาเตรียมให้จากกระเป๋าหนังสือออกมารออาจารย์เข้าสอน

ในชั้นเรียนแรกมีอาจารย์ชราคนหนึ่งมาบรรยายเกี่ยวกับศาสตร์การศึกษาต่าง ๆ เสี่ยวฉวนเอ๋อร์ยืดตัวตรงฟังอย่างตั้งใจ อาจารย์ถามคำถามสองสามข้อ ในบรรดาเด็กทั้งหมดก็มีแต่เขาคนเดียวที่ตอบได้ จนอาจารย์เอ่ยชมเสียยกใหญ่ และชอบเด็กน้อยคนนี้มาก

ส่วนเด็กเรียนไม่เก่งอย่างเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เมื่อความสดใหม่หมดไปในตอนเริ่มต้น นางก็รู้สึกว่าชั้นเรียนที่อาจารย์ปู่สอนเป็นเหมือนเพลงกล่อมเด็ก ไม่นานนางก็ฟุบหลับไปบนโต๊ะ และเกือบกรนออกมา

อาจารย์ชราเป่าเคราถลึงตาปลุกคนตัวเล็กให้ตื่น ทว่าเด็กน้อยที่กำลังสะลึมสะลือได้ช้อนดวงตากลมโตคลอหยาดน้ำขึ้นมองด้วยท่าทางน่ารักน่าสงสาร ทำให้ชายชราใจอ่อนลงไปในพริบตา

ทำบาปทำกรรมอะไรไว้หนอ ถึงส่งเด็กเล็กเพียงนี้มาเข้าเรียน นอน ๆ ไปเถิด เรายังเด็ก ค่อย ๆ เรียนไป

ด้วยเหตุนี้ เจ้าปลาอ้วนจึงนอนหลับในชั้นเรียนได้อย่างเปิดเผย ยิ่งอาจารย์อธิบายด้วยความตื่นเต้น นางก็ยิ่งหลับสนิท จนเด็กนักเรียนที่อยู่ด้านหลังอิจฉายิ่งยวด

เสี่ยวฉวนเอ๋อร์รู้สึกจนใจยามเห็นน้องสาวตัวเองหลับใหล และหยิบถุงมืออันเล็กจากกระเป๋าหนังสือออกมาสวมให้น้อง ถึงอย่างไรก็มิควรปล่อยให้มือเย็นจนแข็ง

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ใช้เวลาช่วงเช้าผ่านไปอย่างน่าเบื่อ ถ้าไม่นอนหลับ ก็ขีดเขียนวาดรูปด้วยพู่กัน ครั้นถูกอาจารย์จับได้ คนตัวเล็กก็กะพริบตาโตแสร้งทำเป็นน่าสงสาร อาจารย์ก็ใจอ่อนลงทันที และยังชมเชยนางว่ามีพรสวรรค์ในด้านการวาดภาพด้วย

ในที่สุดชั้นเรียนตอนเช้าก็จบลง เฟิงหยางถือกล่องข้าวนำมาให้เจ้านายทั้งสอง ครั้นเห็นเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ที่ยู่ปากกับท่าทางปลิ้นปล้อนของเสี่ยวฉวนเอ๋อร์ ก็รู้สึกว่าน่ารักอย่างมาก

เจ้าตัวอ้วนรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก พี่ชายบอกว่าชั้นเรียนสนุกมาก แต่นางถูกกล่อมไปหลายครั้งในเวลาเพียงครึ่งเช้า และไม่อนุญาตให้พูดคุยกันในชั้นเรียนอีก ไม่สนุกเลยสักนิด

เฟิงหยางกลัวว่าคนตัวเล็กจะอารมณ์เสีย จึงรีบหยิบกล่องอาหารเล็กที่หวางเฟยเหนียงเหนียงเตรียมไว้ให้พวกเขาออกมา

กล่องอาหารเล็กสีฟ้าและสีชมพูสองกล่อง บรรจุข้าวหนึ่งก้อนและผักสามอย่าง ซี่โครงเล็กตุ๋น ไข่ม้วน แล้วก็ผัดผักอยู่ในนั้น และยังมีนมร้อนคนละหนึ่งขวด

ก่อนออกเดินทางในตอนเช้า เฉียวเยี่ยนได้สั่งไว้แล้วว่า หากอาหารเย็นก็ให้ไปหาหม้ออุ่นในห้องเครื่องของสำนักศึกษากั๋วจื่อเจี้ยน ส่วนนมก็เอาใส่ในน้ำที่ตั้งร้อน เพิ่มความร้อนจนนมอุ่นก็เป็นอันใช้ได้

เมื่อเห็นอาหารอร่อย อารมณ์เศร้าซึมของเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ก็ดีขึ้นมาไม่น้อย พลางเปลี่ยนความเศร้าความขุ่นเคืองเป็นความอยากอาหาร และกินเข้าไปอย่างเต็มปากเต็มคำ

เสี่ยวฉวนเอ๋อร์หยิบเอี๊ยมน้อยที่มารดาเตรียมไว้ให้ออกมาจากกระเป๋าหนังสือ ใส่ให้น้องสาวและตัวเองก่อนจะเริ่มกิน

เฟิงหยางมองดูเจ้านายทั้งสองกินข้าวก็รู้สึกพอใจมาก ในตอนแรกที่เขาได้รับหน้าที่นี้ เขายังคิดว่ามันไม่สนุกเลยสักนิด ทว่าต่อมาถึงได้พบว่าหวางเฟยไม่เพียงเตรียมอาหารให้เจ้านายทั้งสองเท่านั้น แต่ยังมีส่วนของเขาอีกด้วย

งานที่ได้กินทั้งของอร่อย ได้ดูแลเด็ก ๆ จะหางานแบบนี้ได้จากที่ไหนอีก? เหล่าพี่น้องคงอิจฉาเขาแย่เลย!

ทันทีที่กล่องข้าวเล็กของเด็กน้อยทั้งสองปรากฏออกมา ก็ดึงดูดความสนใจจากเหล่าสหายน้อยได้มากมาย

สุดยอดไปเลย อาหารของพวกเขาดูน่ารับประทานมาก!

เจ้าหัวไชเท้าน้อยกลุ่มหนึ่งมองอาหารธรรมดาในกล่องอาหารของตัวเอง พลันรู้สึกว่ามันไม่อร่อยทันใด ได้แต่มองเสี่ยวฉวนเอ๋อร์และเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์กินข้าวตาปริบ ๆ

……

ตั้งแต่ลูกทั้งสองเข้าเรียน เฉียวเยี่ยนก็จดจ่ออยู่กับกิจการปลูกผักในเรือนกระจกของตัวเอง เฝ้าดูต้นกล้าของนางเติบโตขึ้นมาทีละน้อย ประหนึ่งมองแท่งเงินโบกมือให้ตัวเอง

หลังจากสร้างเรือนกระจกมาแล้วห้าหลัง และสั่งซื้อถาดเพาะกล้ากับเครื่องมืออื่น ๆ มาจำนวนมาก เฉียวเยี่ยนได้ใช้เงินเร็วเหมือนน้ำไหลหลาก และต้องรออีกสองเดือนถึงจะกลับมาเหมือนเดิม ยามมองถุงเงินที่ร่อยหรอว่างเปล่าลงทุกวันก็รู้สึกปวดใจจนเลือดไหลซิบ

จะว่าไปแล้วก็แปลก มู่ฉินเจินให้นางเป็นคนดูแลทรัพย์สินทั้งหมดในตำหนัก ทว่าเงินส่วนนี้กลับไม่ถูกระบบบันทึกไว้ในทรัพย์สินส่วนตัวของนาง มีเพียงเงินที่นางหามาอย่างยากลำบากเท่านั้นถึงจะสามารถรับคะแนนได้

และจิตสำนึกนางเองก็ไม่ยอมใช้เงินของมู่ฉินเจิน นางเป็นผู้หญิงอิสระคนหนึ่ง ไม่พึ่งพาผู้ชายในการดำรงชีวิต นางสนุกกับตัวเองที่ไม่มีสิ่งใดจนไปถึงมีทุกอย่าง และค่อย ๆ เพิ่มเงินในกระเป๋าเอวของนาง

คะแนนของนางถูกใช้จนหมดแล้ว และในไม่ช้าก็จะได้ใช้ชีวิตยากลำบากแล้ว

ระบบตัวน้อยถือเครื่องคิดเลขคำนวณบัญชีด้วยความเจ็บปวด และคร่ำครวญเงินอันน้อยนิดที่นางสูญเสียไป

[ท่านโฮสต์ จนถึงตอนนี้ ท่านใช้เงินไปแล้วหนึ่งหมื่นสี่ร้อยยี่สิบตำลึง เงินที่เหลือมีไม่ถึงเจ็ดพันตำลึง ท่านต้องรีบหาเงินแล้ว!]

เมื่อเฉียวเยี่ยนได้ยินค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลก็รู้สึกเป็นทุกข์เช่นกัน นางหน้านิ่วคิ้วขมวดเขียนลงในบัญชี

สองสามวันมานี้มู่ฉินเจินสังเกตเห็นท่าทางหน้านิ่วคิ้วขมวดของเฉียวเยี่ยน ก็ส่งนักสืบตัวเล็กสองคนเข้าไปสืบข่าว ครั้นรู้ว่านางกังวลเรื่องเงิน เขาก็ไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี

เขาดูเหมือนคนขาดแคลนเงินรึ?

เขารู้ว่าตอนนี้นางยังคงรู้สึกเหินห่างกับเขาเล็กน้อย ไม่ยอมใช้เงินของเขา แต่เขาได้ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับนางตั้งแต่วันที่เขาไปรับนางกลับมาเมืองหลวงแล้ว ดังนั้นเงินของเขาก็เป็นเงินของนางเช่นกัน

ในตอนแรก เขายอมรับนางเพราะลูก และลูก ๆ ก็ต้องการแม่ ทว่าต่อมาเขาพบว่าทุกการเคลื่อนไหว ทุกท่วงท่าของนางล้วนดึงดูดเขา และเขาชอบที่จะอยู่ด้วยกันกับนาง จนถึงขั้นละโมบหวังว่านางจะมีแต่เขาอยู่ในสายตาเหมือนเคย

ดูเหมือนว่าหญิงทึ่มผู้นี้จะแข็งแกร่งขึ้น แต่ความฉลาดทางอารมณ์กลับแทบไม่มี ทุกวันคิดแต่เรื่องจะทำสวนหาเงินอย่างไร ทำอาหารอะไรเลี้ยงลูก ๆ

เขามีหน้าที่เป็นเพียงพ่อที่เด็ก ๆ ต้องการเท่านั้น ถึงได้เป็นข้อยกเว้นของนาง

เฮ้อ! เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว ไยจึงรู้สึกหนาวเหน็บนัก?

ท่านอ๋องทอดถอนใจขณะด่าเฉียวเยี่ยนหญิงทึ่มผู้นี้ พลางครุ่นคิดว่าจะส่งเงินให้เฉียวเยี่ยนอย่างไรดี

เช้าวันหนึ่ง มู่ฉินเจินนำพระราชโองการกลับมาให้เฉียวเยี่ยน เนื้อหาเกี่ยวกับรางวัลที่นางค้นพบมันเทศ เป็นเงินสามหมื่นตำลึงและโฉนดที่ดินหนึ่งพันหมู่

เฉียวเยี่ยนถือพระราชโองการทองคำไว้ และยิ้มให้กับกล่องเงินขนาดใหญ่จนตาหยีแทบปิด

สิ่งนี้ช่วยแก้ปัญหาความจำเป็นเร่งด่วนของนางได้จริง ๆ!

มู่ฉินเจินมองท่าทางเห็นแก่เงินของนางก็ลอบยิ้มเงียบ ๆ ในแววตาเปี่ยมล้นไปด้วยความหลงใหล

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ที่หยุดพักอยู่ที่บ้านเห็นกล่องเงินขนาดใหญ่ก็คลานตรงเข้าไปปีนกล่อง และเอนตัวนอนอยู่บนกองสมบัติ พลางยิ้มตาหยีด้วยความเพลิดเพลิน

ฮ้า ให้นางเอนนอนอยู่เช่นนี้เถิด กลิ่นเงินทองมันช่างหอมหวานจริง ๆ

ท่าทางละโมบของเด็กน้อยดูเหมือนกับเฉียวเยี่ยนทุกประการ เฉียวเยี่ยนให้รางวัลลูกสาวด้วยเงินหนึ่งก้อนอย่างใจกว้าง เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์รีบขยับเข้าไปใกล้แท่งเงินของนางแล้วนำไปใส่ในคลังเก็บสมบัติน้อยทันที

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

น้องปลาน้อยเศร้าแล้ว หลอกหนูมาเรียนที่น่าเบื่อแบบนี้ทำไม

จงโบ้วนไปค่ะท่านอ๋อง โบ้วนไป โบร๋ววววว คนอย่างท่านมีคุณค่าแค่เป็นพ่อของลูกในสายตาเฉียวเยี่ยนคนนี้เท่านั้นแหละ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *