ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 84 ในที่สุดเจ้าท่อนไม้ก็มีเขาอยู่ในใจแล้ว

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 84 ในที่สุดเจ้าท่อนไม้ก็มีเขาอยู่ในใจแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 84 ในที่สุดเจ้าท่อนไม้ก็มีเขาอยู่ในใจแล้ว

ตอนที่ 84 ในที่สุดเจ้าท่อนไม้ก็มีเขาอยู่ในใจแล้ว

หลังจากต่อสู้กันมาครึ่งชั่วยาม เฉียวเยี่ยนก็หยุดมือ บนหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ นานมากแล้วที่ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย วันนี้พอได้ต่อสู้ก็รู้สึกว่าไม่เลวเลย

มู่ฉินเจินเองก็ไม่ได้เจอคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจมาหลายปีแล้วเหมือนกัน การต่อสู้ในวันนี้ ทำให้เขายิ่งเข้าใจเฉียวเยี่ยนได้ลึกมากขึ้น และความรู้สึกที่มีต่อนางก็ร้อนแรงขึ้นเช่นกัน

ในที่สุดพวกทหารก็รู้แล้วว่าเหตุใดท่านอ๋องถึงยอมเป็นคนติดเมีย ภรรยาที่ทั้งงดงามทั้งมีความสามารถ แถมยังต่อสู้ได้เช่นนี้ จะไม่เชื่อฟังได้อย่างไร!

ช่างอิจฉาเขายิ่งนัก!

……

ระยะหนึ่งต่อมา ความรู้สึกของเฉียวเยี่ยนกับมู่ฉินเจินก็พัฒนาขึ้นมากอย่างชัดเจน เฉียวเยี่ยนดูเป็นห่วงเขามากกว่าเมื่อก่อน ส่วนท่านอ๋องเจอเรื่องน่ายินดีก็มีความสุขตาม ไปทำงานอย่างอารมณ์ดีทุกวัน พอถึงเวลาก็เลิกงานทันที บางครั้งถึงขั้นกลับเร็ว ยั่วยุจนฮ่องเต้เฒ่ากลอกพระเนตรใส่ไปหลายครั้ง

ย่างเข้าเดือนหก ฝนก็ตกมากขึ้น บางครั้งตกติดต่อกันถึงครึ่งเดือน ผู้คนต่างพึ่งฟ้ามาเติมเต็มท้อง* เมื่อฝนตกหนักจนทำให้พืชผลเอนพับลง พวกเขาก็จำต้องฝ่าสายฝนเข้าไปประคับประคอง

(*看天吃饭 พึ่งฟ้ามาเติมเต็มท้อง อาศัยดูสภาพอากาศในการคาดเดาการเก็บเกี่ยวพืชผล ถ้าสภาพอากาศดีก็เก็บเกี่ยวได้มาก ก็จะอิ่มท้อง แต่ถ้าสภาพอากาศไม่ดี การเก็บเกี่ยวก็จะไม่ดีด้วย)

เรือนกระจกของเฉียวเยี่ยนเองก็ได้รับการทดสอบในช่วงนี้เช่นกัน แน่นอนว่าหลังคาที่ทำด้วยผ้าขาวมีคุณสมบัติกันฝนได้ไม่ดีเท่าพลาสติก พอฝนเทหนักเข้า ชั้นหลังคาก็เริ่มมีหลายจุดรั่วซึม ทว่าโชคดีที่เสียหายไม่หนักมากนัก

กล้าผักต้นน้อยจำนวนมากที่งอกออกมาใหม่ในพระราชวังถูกน้ำฝนสาดกระหน่ำใส่จนใบลู่แนบไปกับดิน บางใบก็ถูกหยาดฝนกระทบจนขาดวิ่น

ฮ่องเต้กับฮองเฮามองผักต่าง ๆ ที่พวกเขาเพาะปลูกมาอย่างยากลำบากถูกฝนทำลายก็ปวดใจยิ่ง และมองแปลงผักอย่างทอดถอนใจทุกวัน

ฝนในปีนี้มีมากกว่าเมื่อก่อนมาก พื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรจำนวนมากเกิดน้ำท่วมจากแม่น้ำที่ล้นตลิ่ง จนฝ่าบาทกับขุนนางเฒ่าในราชสำนักบางคนต่างกังวลว่าจะเกิดน้ำท่วม

เมื่อเกิดน้ำท่วม สถานการณ์บ้านเมืองจะต้องวุ่นวายอลหม่าน และอาจจะเกิดโรคระบาดด้วย

ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ทั่วทั้งเมืองเสริมความแข็งแกร่งให้กับคันกั้นน้ำริมตลิ่ง เมื่อเกิดภัยพิบัติก็จะส่งข้าหลวงใหญ่ผู้แทนพระองค์ไปจัดการทันที ช่วงนี้มู่ฉินเจินเองก็ถูกฮ่องเต้มอบหมายหน้าที่ให้ไม่น้อย วุ่นจนเท้าไม่ติดที่

แต่ยังไม่ทันที่ภัยพิบัติน้ำท่วมอันน่ากังวลใจจะเกิดขึ้น ก็ได้เกิดแผ่นดินไหวที่มณฑลหนึ่งในรัฐฉู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ขึ้นเสียก่อน นอกจากแผ่นดินไหวแล้วยังมีดินถล่มด้วย สถานที่ประสบภัยนั้นเสียหายร้ายแรงมาก!

การติดต่อในสมัยโบราณนั้นไม่สะดวก พอจือโจว*ประจำพื้นที่ประสบเหตุส่งม้าเร็วมาถึงเมืองหลวง เรื่องก็ผ่านมาสี่วันแล้ว และในระยะเวลาสี่วันนี้ก็ไม่รู้ว่าพื้นที่ประสบภัยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นหรือไม่

(*知州 จือโจว ตำแหน่งขุนนางในรัชสมัยซ่ง เทียบเท่านายกเทศมนตรี)

ฮ่องเต้เฒ่ามีเรื่องหนักอกหนักใจ ปวดหัวกับการเลือกคนไปสงเคราะห์ผู้ประสบภัยที่รัฐฉู่ พอเลือกไปเลือกมา สุดท้ายก็ยังเลือกมู่ฉินเจิน

พื้นที่ประสบภัยเสียหายหนัก ส่งคนอื่นไปเขาไม่ค่อยสบายใจนัก อาจเป็นเพราะพระโอรสตัวเองทำงานได้เป็นเรื่องเป็นราวเหมาะสมที่สุด ทว่าการไปครานี้อันตรายยิ่งนัก เขาก็กังวลว่าจะเกิดเรื่องอะไรไม่ดีกับพระโอรสอีก

ครั้นฮองเฮาได้ยินว่าฝ่าบาทจะส่งพระโอรสไปสงเคราะห์ผู้ประสบภัย พระนางก็กริ้วจนไม่สนพระทัยเขาถึงสองวัน

ความจริงพระนางก็รู้ว่าเรื่องของบ้านเมืองนั้นสำคัญ และยามนี้ก็ไม่มีใครเหมาะสมมากไปกว่าโอรสของตัวเองแล้ว แต่พระนางรู้สึกไม่สบายพระทัยเอาเสียเลย พระนางมีโอรสเพียงคนเดียว หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นจะทำอย่างไร แล้วเด็กน้อยทั้งสองกับเสี่ยวเยี่ยนจะทำอย่างไร!

เฉียวเยี่ยนรู้เรื่องที่มู่ฉินเจินถูกฝ่าบาทส่งไปสงเคราะห์ผู้ประสบภัยหลังจากที่เขากลับมาจากการว่าราชกิจแล้ว และเมื่อเก็บสัมภาระอะไรเสร็จก็จะออกเดินทางทันที จะช้าไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว

นางบอกไม่ถูกว่าตนรู้สึกเช่นไร แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สบายใจมาก แล้วยังรู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย หลังจากเรียบเรียงคำพูดมาครึ่งค่อนวัน สุดท้ายก็พูดอะไรไม่ออก จึงหมุนตัวกลับเข้าห้องไปเตรียมของให้เขา

แผ่นดินไหวอันตรายมากเลยนะ ขนาดสมัยใหม่ที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้ายังมิอาจคุมภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงยุคโบราณแบบนี้ แผ่นดินไหวผนวกกับดินถล่ม แถมยังมีแผ่นดินไหวขนาดย่อมตามมาอีก บอกได้เลยว่าภารกิจในครานี้ของท่านอ๋องอันตรายอย่างยิ่ง

หลังจากเฉียวเยี่ยนเข้าไปในห้อง ก็รีบซื้อยาสามัญประจำบ้านบางตัวและอาหารแห้งกับระบบตัวน้อยทันที

ยาแก้หวัดแก้ไข้ ยาทาแผลภายนอกอะไรนางเตรียมไว้หมด ส่วนของกินก็ซื้อบิสกิตอัดแข็ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่าง ๆ

นางหาถุงผ้าใบใหญ่มาใบหนึ่งแล้วยัดของใส่ในนั้น ก่อนหิ้วของไปหามู่ฉินเจินที่ห้อง

เนื่องจากเป็นเรื่องด่วน นางจึงไม่สนจะเคาะประตู ปรี่เข้าไปในห้องทันที และนำของที่หิ้วมาอย่างพะรุงพะรังมาวางไว้บนโต๊ะเขา

“ข้าได้เตรียมอาหารกับยาไว้ให้ท่านแล้ว ท่านแค่ต้องจำคำพูดของข้าเอาไว้ อย่างอื่นไม่ต้องถาม”

นางรู้ว่าเมื่อของพวกนี้ปรากฏต่อสายตาเขาแล้วเขาต้องสงสัยแน่ ทว่าตอนนี้นางไม่มีเวลามาสนใจอะไรมากแล้ว

นางบอกวิธีใช้กับปริมาณยาทั้งหมดให้เขาฟัง รวมถึงวิธีการรับประทานบิสกิตอัดแข็งกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วย

ในขณะที่มู่ฉินเจินฟังอย่างตั้งใจ เขาก็จำทุกคำพูดของนางไว้ ในเมื่อนางบอกว่าไม่ต้องถาม เช่นนั้นเขาก็จะไม่ถาม ขอแค่รู้ว่านางดีต่อเขาก็เพียงพอแล้ว

เฉียวเยี่ยนในเวลานี้พร่ำบ่นจนเหมือนภรรยาขี้บน ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ทันทีที่ตัวเองนึกออกก็ถ่ายทอดออกมา

ห้ามดื่มน้ำที่ยังไม่ได้ต้ม แหล่งน้ำเหล่านั้นมาจากตรงไหนก็มิอาจรู้ได้หลังจากแผ่นดินไหว ซึ่งมันจะทำให้ป่วยได้ง่าย

ต้องระวังแผ่นดินไหวระลอกเล็กตามมา โดยเฉพาะตอนผ่านตีนเขาต้องระวังดินถล่มกับโคลนถล่ม

หากที่ประจำการเกิดแผ่นดินไหว ให้พยายามซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะ…

มู่ฉินเจินฟังนางพูดร่ำไรแล้วก็เหมือนทั้งหัวใจถูกไฟแผดเผา ทั้งร้อนรุ่ม ทั้งอ่อนระทวย

เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงยื่นมือออกไปดึงเจ้าท่อนไม้เข้ามาในอ้อมกอดตัวเอง พลางกอดนางไว้แนบแน่น และเอ่ยปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คนดี ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าไม่มีทางเป็นอะไรแน่นอน ข้าจะกลับมาอย่างปลอดภัย มาอยู่ด้วยกันกับเจ้าและลูก ๆ ”

เฉียวเยี่ยนไม่ได้ผลักเขาออกแต่อย่างใด วินาทีที่ถูกเขากอดเอาไว้ ขอบตาก็ร้อนผ่าวเล็กน้อย ที่จริงนางก็มีช่วงเวลาอ่อนไหวเช่นนี้เหมือนกันสินะ

นางกอดตอบเขา เพื่อสกัดกั้นเสียงสะอึกสะอื้นของตัวเอง จะกล่าวข่มขู่ก็ฟังดูราวกับเสียงอ้อนวอน “เช่นนั้นท่านต้องกลับมาครบทั้งอาการสามสิบสอง หากบนกายมีแผลแม้แต่หนึ่งรอย ข้าจะจัดการท่าน! ”

คำพูดอันนุ่มนวลและออดอ้อนเหล่านั้นทำให้ริมฝีปากของมู่ฉินเจินยกขึ้น รู้สึกหวานซึ้งอยู่ในใจ เขาเอาคางเกยไว้บนศีรษะเฉียวเยี่ยน พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำ “อืม ข้าฟังเจ้า”

มู่ฉินเจินอาลัยอาวรณ์กับความอ่อนโยนนี้ เขารู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย ในที่สุดเจ้าท่อนไม้ก็มีเขาอยู่ในใจแล้ว!

เกาจัวหยวนกับองครักษ์อีกสี่คนร่วมเดินทางไปรัฐฉู่กับมู่ฉินเจินในครั้งนี้ด้วย เมื่อพวกเขาเก็บสัมภาระต่าง ๆ เสร็จแล้วก็มาหาท่านอ๋องที่เรือนจิ่งเสวียน

“ท่านอ๋อง ของเตรียมพร้อมแล้ว สามารถออกเดินทางได้ขอรับ”

มู่ฉินเจินยังกอดเฉียวเยี่ยนอยู่ ครั้นได้ยินเสียงเกาจัวหยวน ก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ยิ่งกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นให้นางแนบชิดกับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะได้กอดภรรยา ท่านอ๋องในเวลานี้แทบอยากสิงเข้าไปในร่างนางแล้ว

เฉียวเยี่ยนเองก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์เช่นกัน แต่ก็รู้ว่านี่เป็นเรื่องด่วน จึงยกมือขึ้นผลักอกเขาออก “ออกเดินทางเถิด ถึงแล้วอย่าลืมส่งจดหมายมาด้วย”

มู่ฉินเจินพยักหน้า แล้วสวมผ้าคลุมสีดำ หิ้วของที่เฉียวเยี่ยนเตรียมไว้ให้ออกไปจากห้อง เฉียวเยี่ยนตามหลังไปติด ๆ ครั้นเห็นถุงกระเป๋าใส่น้ำที่ผูกอยู่ข้าวเอวพวกเกาจัวหยวนก็ตระหนักได้ว่าต้องเตรียมขวดเก็บความร้อนให้มู่ฉินเจินด้วย

นางรีบวิ่งเข้าไปข้างในอีกครั้ง แล้วซื้อขวดเก็บความร้อนสีดำออกมาอีกหนึ่งอัน ด้านนอกมีปลอกผ้าหุ้มกับสายสะพาย สามารถสะพายไว้กับตัวได้

“เอาอันนี้ไปด้วย ด้านในใส่น้ำร้อนเอาไว้”

มู่ฉินเจินรับมาสะพายไว้บนตัว โดยไม่ถามอะไรมากมาย เพียงแค่เอ่ยว่า “รอข้ากลับมานะ”

ท้องฟ้ายังมีเม็ดฝนโปรยปราย มู่ฉินเจินสวมหมวกไม้ไผ่ สวมผ้าคลุม พลิกตัวควบม้าทะยานออกไป เฉียวเยี่ยนยืนมองแผ่นหลังที่ค่อย ๆ หายไปท่ามกลางม่านฝนอยู่หน้าประตูตำหนัก เนิ่นนานก็ยังไม่ได้สติกลับมา

“ระบบ เขาจะกลับมาอย่างปลอดภัยใช่ไหม?”

ระบบตัวน้อยเองก็เสียใจไปกับบบรรยากาศจากลา แม้แต่ความสุขของคู่ชิปก็หายไปแล้ว ครั้นได้ยินโฮสต์ถามเช่นนี้ นางก็พยักใบหน้าเล็กอย่างมั่นใจมาก

[แน่นอน!]

คู่ชิปของนางจะต้องอยู่ด้วยกันอย่างหวานซึ้ง! ห้ามจบไม่สวยเด็ดขาด!

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ยินดีกับความสำเร็จอีกขั้นนะท่านอ๋องที่ได้เข้าไปเป็นคนสำคัญในใจของเจ้าท่อนไม้ได้แล้ว หวังว่าท่านจะจดจำความรู้สึกของการได้เป็นคนสำคัญนี้ไว้และไม่ทำตัวแย่เหมือนที่ผ่านมานะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *