ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 92 ร้านเปิดใหม่เป็นไปได้สวย

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 92 ร้านเปิดใหม่เป็นไปได้สวย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 92 ร้านเปิดใหม่เป็นไปได้สวย

ตอนที่ 92 ร้านเปิดใหม่เป็นไปได้สวย

สำหรับขุนนางที่อยู่ในลำดับแนวหน้าของเมืองหลวง เฉียวเยี่ยนล้วนสั่งให้คนไปมอบของให้หมด ยกเว้นที่จวนอัครเสนาบดีกับตำหนักองค์ชายใหญ่

องค์ชายใหญ่ทำร้ายมู่ฉินเจินจนเกือบถึงชีวิต นางไม่เอาชีวิตเขาก็นับว่าดีแล้ว จะยังส่งของไปให้เขาทำไม?

ส่วนจวนอัครเสนาบดี อี้จื่อจิ้นกับนางไม่ถูกกัน อีกทั้งอัครเสนาบดีเฒ่าก็เป็นศัตรูกับมู่ฉินเจิน นางจึงคร้านจะประจบสอพลอพวกเขา ถึงขาดพวกเขาไปนางก็ไม่ขาดลูกค้าหรอก

อี้จื่อจิ้นได้ยินว่าเฉียวเยี่ยนมอบของกำนัลให้ทุกจวนทั่วเมืองหลวง ยกเว้นจวนอัครเสนาบดีของพวกเขาที่นางไม่ส่งมาให้ ก็โกรธจนปากเบี้ยว!

ไม่ให้ก็ไม่ต้องให้ ถือเสียว่านางเป็นของหายาก! ก็แค่พวกขาเปื้อนโคลนคนหนึ่ง จะทำเครื่องประทินโฉมดีๆ อะไรออกมาได้กัน!

แต่เมื่อเห็นพวกพี่น้องมารวมตัวกัน และเห็นว่าในมือพวกนางมีของที่เรียกว่าไขทามือคนละกระปุก นางก็ยิ่งโมโหและไม่รู้สึกอยากอาหารไปหลายวัน

ในที่สุดก็ถึงวันที่เก้าต้นเดือนเก้าที่เป็นวันเปิดกิจการของร้านอวิ๋นเหยียน เฉียวเยี่ยนตื่นนอนตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง นางสวมชุดกระโปรงตัวใหม่ และแต่งหน้าแต่งตาเสียจนงามพริ้ง คิ้วใบหลิวถูกเขียนจนงามขำ ดวงตาเมล็ดชิ่งสดใสเป็นประกาย ขอบหางตาเขียนด้วยดินสอสีแดงแลมีเสน่ห์ ริมฝีปากสีอิงเถาจิ้มลิ้มก็ทาด้วยลิปสติกสีแดง ดูงดงามมีพลังยิ่ง

ในวันมงคลเปิดร้าน นางตั้งใจสวมชุดสีแดงโดยเฉพาะเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ ดูน่าดึงดูดเป็นพิเศษ

หลังจากเก็บทุกอย่างเสร็จ ฟ้าก็เพิ่งสว่าง มู่ฉินเจินยังนอนอยู่บนเตียง เขาอยากลุกขึ้นไปเป็นเพื่อนเฉียวเยี่ยน ทว่าเจ้าปลาอ้วนกลับปีนขึ้นมาหลับบนตัวเขา พอเขาขยับ นางก็ครางออกมาอย่างไม่พอใจ

เฉียวเยี่ยนเดินมาข้างเตียงบอกลาสามพ่อลูก ท่านอ๋องมองนางอย่างคับข้องใจ ประหนึ่งภรรยาตัวน้อยที่ไม่พอใจยามสามีไปทำงานในตอนเช้า

เด็กคนหนึ่งนอนอยู่ข้างมือมู่ฉินเจิน อีกคนปีนอยู่บนตัวเขา ช่างเป็นภาพที่น่ารักยิ่ง เฉียวเยี่ยนก้มตัวไปหอมลูกทั้งสองคนละฟอด และลูบศีรษะท่านอ๋องราวกับกล่อมเด็กน้อย ก่อนเอ่ยเสียงเบา “เด็กดี ท่านนอนอยู่บ้านเป็นเพื่อนกับลูกๆ เถิด เช้านี้เป็นวันเปิดกิจการ ข้าจำต้องไปเช้าหน่อย”

นับตั้งแต่มู่ฉินเจินเข้ามาในห้องเฉียวเยี่ยน ภาพลักษณ์ทั้งหมดก็ล้วนไม่จำเป็นอีกต่อไป ตอนนี้เขาแลเหมือนหมาตัวโตขี้น้อยใจตัวหนึ่งกำลังถูไถศีรษะเข้ากับมือของเฉียวเยี่ยน

เขายกมือขึ้นชี้หน้าตัวเอง พลางมองนางอย่างไม่พอใจ ลูกๆ ได้หอมเขาก็ต้องได้ด้วย และต้องได้มากกว่านี้!

เฉียวเยี่ยนจนปัญญากับเขา จึงหอมแก้มเขาแบบเน้นๆ และประทับรอยลิปสติกสีแดงไว้บนแก้ม

” เด็กดี ข้าไปแล้วนะ ”

มู่ฉินเจินมองเฉียวเยี่ยนจากห้องไปจนลับสายตา ก่อนยกมือขึ้นรูปแก้มแล้วแย้มยิ้ม เขารู้สึกว่าชีวิตในตอนนี้เหมือนกับความฝัน ได้โอบกอดภรรยาอยู่ในอ้อมแขน มีลูกๆ หลับอยู่ด้านข้าง แถมภรรยายังรักเขาเป็นพิเศษ เขาน่าจะเป็นบุรุษที่โชคดีที่สุดในใต้หล้าแล้ว

ในขณะที่ท่านอ๋องคิดถึงเฉียวเยี่ยน เขาก็เผยรอยยิ้มโง่เขลาที่ไม่เหมาะกับใบหน้าอันหล่อเหลาออกมา เขาตระหนักได้ถึงความเอาใจใส่ของเจ้าท่อนไม้ที่มีต่อเขามาก ทำให้ในใจหวานล้ำเหมือนแช่อยู่ในน้ำผึ้งทุกวัน ทว่าเหลือเพียงสิ่งเดียวที่ยังไม่พอคือการยังไม่ได้สัมผัสริมฝีปากนาง ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงค่ำคืนอันลึกซึ้ง

เจ้าท่อนไม้บอกว่าพวกเขาในตอนนี้ยังเรียกว่าช่วงเวลามีความรัก ก็คือช่วงเวลาที่พิจารณาว่าอีกฝ่ายเหมาะสมกับตัวเองจริงๆหรือไม่ ซึ่งช่วงเวลานี้สามารถหอมแก้มและจับมือกันได้ แต่เรื่องที่ยิ่งสนิทสนมอย่างอื่นต้องรอไปอีกขั้นหนึ่ง

แต่กระนั้นเขาก็พอใจมากแล้ว ขอแค่มั่นใจว่าในใจนางมีเขา เขาสามารถรอทั้งชีวิตได้ รอจนถึงเวลาที่นางยอมรับตัวเองอย่างเต็มใจ

ในตอนที่เฉียวเยี่ยนไปถึงร้านอวิ๋นเหยียน พระอาทิตย์ได้โผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาแล้ว และยังเหลือเวลาอีกครึ่งกว่าชั่วยามก่อนจะเปิดกิจการ พวกคนงานภายในร้านต่างเตรียมพร้อมเรียบร้อย คนงานหญิงหกคนสวมชุดทำงานเหมือนเดียวกัน พวกนางแต่งหน้ากันอย่างงดงาม และยืนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่ด้วยกัน ซึ่งเห็นแล้วดูสบายตามาก

เฉียวเยี่ยนลูบใบหน้าพวกนางอย่างพึงพอใจราวนักเลงเจ้าชู้ก็ไม่ปาน หยอกเย้าจนสาวใช้ทั้งหกคนแก้มแดงปลั่ง

ครั้นระบบตัวน้อยเห็นท่าทางนักเลงเจ้าชู้ของโฮสต์ นางก็นึกอยากแจ้งให้มู่ฉินเจินมาจับนักเลงเจ้าชู้คนนี้เสียเดี๋ยวนี้

หลังจากตรวจสอบภายในร้านอย่างละเอียดแล้ว และมั่นใจว่าไม่มีปัญหาอะไร เฉียวเยี่ยนก็รอเวลาเปิดกิจการอย่างเงียบๆ

แต่ยังไม่ถึงเวลาเปิดร้านก็มีคนทยอยกันมาอย่างไม่ขาดสายแล้ว พวกเขารุมล้อมอยู่หน้าประตูร้าน และกระซิบกระซาบพูดคุยกันอยู่ เฉียวเยี่ยนพึงพอใจกับผลลัพธ์เช่นนี้มาก ดูท่ากิจการในวันนี้คงไม่แย่แน่แล้ว

เมื่อถึงเวลา ประตูร้านก็เปิดออก เฉียวเยี่ยนพาคนงานหญิงทั้งหกเดินออกมายืนอยู่หน้าประตูร้าน แล้วเฉียวเยี่ยนก็กล่าวคำเปิดงาน จากนั้นก็สั่งให้คนจุดประทัด

ท่ามกลางเสียงประทัดครึกโครม ผู้คนต่างหลั่งไหลเข้ามาภายในร้าน ผู้มาเยือนส่วนใหญ่ล้วนเป็นลูกค้าสตรี บ้างก็มีฮูหยินที่มาพร้อมกับสามี

ทันทีที่เหล่าฮูหยินคุณหนูเข้าไปในร้าน พวกนางต่างรู้สึกละลานตา บ้างก็มีคนอุทานติดต่อกันอย่างทนไม่ไหว

สินค้ามากมายหลากหลายเหล่านั้นพวกนางล้วนไม่รู้จักกันทั้งสิ้น ทว่าทุกชิ้นล้วนงดงามมาก เห็นแล้วก็รู้สึกคันยุบยิบอยู่ในใจ

สาวใช้ทั้งหกถูกอบรมมาอย่างดี พวกนางแนะนำสินค้าให้พวกฮูหยินคุณหนูอย่างใจเย็น หรือหยิบตัวอย่างมาให้พวกนางได้ทดลองใช้

ยามเห็นคนมากมายเช่นนี้ตั้งแต่เริ่มเปิดร้าน พวกนางก็ยังรู้สึกลนลานเล็กน้อย ทว่าไม่นานก็ปรับตัวได้และยิ้มอย่างเป็นมิตร ตอบคำถามพวกลูกค้าด้วยน้ำเสียงไม่รีบร้อน

กลุ่มฮูหยินคุณหนูได้ยินเช่นนี้ก็ยิ่งสนใจเพิ่มสูงขึ้น และจ้องสินค้าทุกชนิดตาเป็นมัน

ฮูหยินที่มีอายุมากหลายคนมีปัญหาฝ้ากระบนใบหน้า ครั้นได้ยินว่ามีเซรั่มลดฝ้ากระ ก็ล้วงเงินออกมาซื้อทันทีโดยไม่รอให้แนะนำจบ

ว่ากันว่าเมื่อความสวยโรยราความรักก็จางหาย ตอนนี้พวกนางมีจุดด่างดำบนใบหน้า ผิวพรรณซีดเหลือง ทำให้สามีเอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้องของอนุเหล่านั้นทุกวัน ไม่แม้แต่จะชายตาแลมองพวกนาง รอพวกนางดูแลผิวพรรณได้ดีเมื่อใด นังอนุที่อาศัยว่าตัวเองอายุน้อยบังอาจอวดเก่งจะต้องคลั่งจนตายแน่!

เฉียวเยี่ยนตั้งราคาเครื่องสำอางไว้ค่อนข้างสูง ถึงอย่างไรราคาที่นางซื้อออกมาจากระบบก็ไม่ถูกเลย แต่กระนั้นไม่ว่าราคาจะสูงเพียงใดก็มิอาจขวางกั้นความกระตือรือร้นในความงามของสตรีได้

ผู้ที่มาร้านอวิ๋นเหยียนได้ล้วนเป็นคนไม่ขาดแคลนเงิน พวกฮูหยินคุณหนูเหล่านี้แทบอยากกว้านซื้อสินค้าทั้งหมดในร้านไม่ไหว

วันนี้เฉียวเยี่ยนรับหน้าที่เป็นนักบัญชี นั่งเก็บเงินอยู่โต๊ะเก็บเงินที่หน้าประตู มองเงินตำลึงแต่ละอันกับตั๋วเงินแต่ละแผ่นเข้ามาในกระเป๋าข้างเอวนางอย่างมีความสุขจนยิ้มมุมปากไม่หุบ

ระบบตัวน้อยก็มีความสุขเช่นกัน และมองคะแนนที่เพิ่มขึ้นอย่างพุ่งพรวด จึงลากรถเข็นซื้อสินค้าจนหมดอีกครั้งอย่างดีใจ พลางคิดว่านางน่าจะเป็นระบบตัวน้อยที่โชคดีที่สุดในโลกระบบแล้ว

เปิดร้านวันแรกก็เป็นไปได้สวย เฉียวเยี่ยนหาเงินได้แทบจะหมื่นตำลึงแล้ว ทว่ายิ่งหาเงินได้มาก คนก็เหนื่อยมากจริงๆ หลังจากวุ่นอยู่ในร้านมาหนึ่งวัน เมื่อกลับถึงบ้านฟ้าก็ใกล้มืดแล้ว

นางรับประทานข้าวได้สองคำก็นอนนิ่งอยู่บนเตียงไม่ยอมขยับ โดยมีมู่ฉินเจินกับเด็กทั้งสองนั่งอยู่ข้างๆ ทุบขานวดไหล่ให้นาง

เฉียวเยี่ยนหรี่ตาปรืออย่างสบายตัว และซึมซับการบริการของสามพ่อลูก มู่ฉินเจินนวดไหล่ให้นาง พลางเอ่ยอย่างปวดใจและจนใจ “พวกเราไม่ขาดเงินเสียหน่อย ใยต้องมองแต่เงินจนเหมือนคนเห็นแก่เงินด้วยล่ะ ดูสิเจ้าเหนื่อย…”

ท่านอ๋องพึมพำบ่นเฉียวเยี่ยน เฉียวเยี่ยนก็ยิ้มตาหยีฟัง ไม่ได้ตอบโต้อะไร

นางมีเงินใช้จ่ายไม่ขาดก็จริง แต่ระบบน่ะสิที่ขาดเงิน นางรับปากว่าจะให้ระบบตัวน้อยออกมาแล้ว ก็ต้องทำอย่างที่พูดให้ได้

นางหาเงินมาได้มากมายก็จริง แต่ระบบตัวน้อยเพิ่งเพิ่มระดับขึ้นมาได้สองระดับเอง ซึ่งน่าจะต้องสู้รบปรบมือกันอีกนานสินะ

ลูกทั้งสองประหนึ่งแรงงานตัวน้อยนั่งอยู่ข้างขามารดา และใช้กำปั้นน้อยของพวกเขาทุบขาให้ผู้เป็นแม่

เจ้าปลาอ้วนรู้ว่าตัวเองมีกำลังมาก กลัวว่าจะทุบท่านแม่จนเจ็บ จึงตีหน้าขรึมอย่างจริงจัง และทุบอย่างระมัดอย่างระวัง

เฉียวเยี่ยนประทับใจลูกทั้งสองจนรู้สึกอบอุ่นในใจจึงพลิกตัวดึงพวกเขาเข้ามาในอ้อมกอดและหอมอย่างแรง หอมจนเด็กน้อยทั้งสองหัวเราะคิกคัก มู่ฉินเจินมองสามแม่ลูกหยอกล้อกัน พลางยิ้มบางเบาขึ้นมา

มีนาง มีลูก ชีวิตนี้ช่างดีจริงๆ

………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

โบ้ไปยาวๆ เถอะท่านอ๋อง วิญญาณเฉียวเยี่ยนคนเก่าจ้องจะเล่นคุณอยู่

ก็เฉียวเยี่ยนชอบหยอกเย้าสาวๆ อย่างนี้ไง จะไม่ให้เผลอคิดได้เหรอว่าสักวันหนึ่งจะหันมาทำสวนลิลลี่หรือเปล่า

น้องระบบเพิ่มขึ้นมาสองระดับแล้วเหรอ ถือว่าเริ่มต้นได้ดีนะคะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *