ชายาเคียงหทัย 353-3 เคล็ดลับควำมล้มเหลวประจ ำตระกูล
สวีชิงเฉินยังไม่ทันพูดอะไร แต่สวีฮูหยินใหญ่กลับ ไม่ยอมอีกแล้ว นางกวาดสายตาไปมองตงฟางฮุ่ยด้วย ความไม่พอใจ สีหน้าเคร่งเครียด ท าอะไรตงฟางโยว หมายความว่าอย่างไรกัน ลูกชายนางจะท าอะไรตงฟาง โยวได้ นางเกรงว่าตงฟางโยวจะท าอุบายอะไรใส่ชิง เฉินน่ะสิไม่ว่า นางก้าวเข้ามาพินิจมองสวีชิงเฉินขึ้นลง รอบหนึ่ง แล้วสวีฮูหยินถึงได้เอ่ยว่า “ชิงเฉิน แม่นางตง ฟางเคยมาที่นี่หรือ”
สวีชิงเฉินชะงักไปครู่หนึ่ง พยักหน้าเอ่ย “แม่นาง ตงฟางมาเมื่อครึ่งชั่วยามก่อนขอรับ”
สวีฮูหยินใหญ่พลันใจหายวาบ ดึงตัวสวีชิงเฉินมา เอ่ยถามว่า “เจ้าได้ท าอะไรหรือไม่”
ครั้งนี้กลับเป็นตงฟางฮุ่ยที่ไม่พอใจบ้าง แม้ว่าเดิมที ตงฟางฮุ่ยคิดอยากใช้อุบายกับสวีชิงเฉิน แต่เมื่อได้ยิน
书呆子
ค าพูดของสวีฮูหยินใหญ่กลับรู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก เมื่อ ครู่นางเพิ่งรู้ถึงแผนการของตงฟางโยว จึงเป็นครั้งแรกใน ชีวิตของตงฟางฮุ่ยแทบอยากจะบีบคอลูกศิษย์ที่เลี้ยงดูมา ให้ตายคามือ ตงฟางฮุ่ยเองก็ไม่ช านาญเรื่องมนตร์เสน่ห์ แม้ว่ามนตราแห่งเสน่ห์นี้จะเป็นวิชาลับพิเศษของภูเขา ซางหมาง ทว่าตงฟางฮุ่ยเองก็ไม่เห็นคุณค่าของ ความสามารถนี้ เมื่อวัยเยาว์จึงศึกษาเพียงแค่ผิวเผิน เท่านั้น หลังจากนั้นก็ไม่ได้สนใจอีก เงื่อนไขเบื้องต้นใน การใช้มนต์เสน่ห์นี้ให้ส าเร็จคือจิตใจที่ไม่มั่นคงของฝ่าย ชาย เช่นนี้แล้วตงฟางฮุ่ยจะสนใจคนที่มีจิตใจไม่มั่นคงได้ อย่างไร แล้วจะให้ใช้อุบายแห่งความอับอายมายั่วยวนอีก ฝ่ายน่ะหรือ ดังนั้นของเช่นนี้ส าหรับตงฟางฮุ่ยแล้ว จึง เป็นเพียงโครงไก่ที่ไร้ค่าเท่านั้น
ตอนที่รู้ว่าตงฟางโยวตั้งใจที่จะใช้มนตร์เสน่ห์ จัดการสวีชิงเฉิน ตงฟางฮุ่ยอยากที่จะเปิดสมองของตง
书呆子
ฟางโยวออกมาดูว่าใส่อะไรไว้ในนั้น คนอย่างสวีชิงเฉิน จะถูกมนตร์เสน่ห์ควบคุมได้อย่างไร สวีชิงเฉินม่ที่ดู เหมือนจะอ่อนโยนแต่เนื้อแท้ในจิตใจช่างเย็นชา ตงฟาง ฮุ่ยเชื่อว่าม่อซิวเหยาอาจถูกมนตร์เสน่ห์ควบคุมได้ แต่ไม่ เชื่อว่าสวีชิงเฉินจะถูกควบคุมได้เป็นแน่ ด้วยเพราะตง ฟางฮุ่ยเกรงว่าตงฟางโยวจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น นางจึงวาง ธุระในมือลงแล้วรีบมาในทันที นางเพิ่งรู้ว่าตงฟางโยวมา ได้ครึ่งชั่วยามแล้ว แต่กลับยังไม่ออกมา ในเวลานี้ตงฟาง ฮุ่ยจึงไม่รู้จริงๆ ว่าสรุปแล้วสวีชิงเฉินต้องมนต์แล้วหรือไม่ ดังนั้นจึงลองเอ่ยปากพูดหยั่งเชิงสวีชิงเฉินไป แต่กลับ ถูกสวีฮูหยินใหญ่ขวางไว้เสียก่อนแล้ว
“คุณชายสวีใหญ่ ลูกศิษย์ข้ามาเยี่ยมเยือนคุณชาย นานแล้วยังไม่กลับออกมาเสียที ไม่ทราบว่าคุณชายรู้ หรือไม่ว่านางอยู่ที่ใด” ตงฟางฮุ่ยถามด้วยน้ าเสียง เคร่งเครียด
书呆子
“เรื่องนี้…” คุณชายสวีชิงเฉินบ่นพึมพ าสักพัก มอง คนสามคนที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างลังเล
สวีฮูหยินใหญ่เห็นท่าทีที่ล าบากใจของเขา พลัน เกิดความเครียดขึ้นในใจ ด้วยเกรงว่าบุตรชายจะตก หลุมพรางของตงฟางโยวเข้าจริงๆ สวีหงอวี่ก็ขมวดคิ้ว น้อยๆ เอ่ยถาม “แม่นางตงฟางออกไปแล้ว ออกไป เมื่อใดหรือ นางมาหาเจ้าด้วยเรื่องอันใด แล้วเหตุใดถึงไม่ เห็นแม่นางตงฟางที่หน้าประตูเล่า” ต่อให้สวีหงอวี่เป็นผู้ มีความรู้มากคุณธรรมสูงส่ง แต่อย่างไรก็ยังล าเอียง เข้าข้างครอบครัวตนเอง เขาไม่อยากให้ลูกชายของตน แต่งงานกับสตรีเยี่ยงตงฟางโยว เพียงเอ่ยปากก็ถามทันที ว่า เหตุใดตงฟางโยวเข้ามาเยี่ยมเยือนแต่กลับไม่เข้าออก ทางประตูหลัก เมื่อมีประเด็นข้อนี้แล้ว ต่อให้สวีชิงเฉิน กับตงฟางโยวมีอะไรกันจริงๆ ตระกูลสวีก็สามารถปฏิเสธ การแต่งงานกับตงฟางโยวได้ สตรีที่มาหาชายแปลกหน้า
书呆子
โดยไม่เข้าตามตรอก ไม่ออกตามประตู ผู้ใดจะอยาก แต่งงานด้วยเล่า
ได้ยินค าพูดของสวีหงอวี่ สีหน้าตงฟางฮุ่ยก็เริ่ม เคร่งเครียด น่าเสียดายที่ในที่แห่งนี้ตนเองเป็นฝ่าย เสียเปรียบ จึงไม่มีอะไรจะพูดมากนัก
สวีชิงเฉินมองดูทั้งสามที่มีท่าทีแตกต่างกัน ก่อนจะ เอ่ยเสียงเรียบ “แม่นางตงฟางมาหาข้าจริง แต่ดู เหมือนว่านางจะเจ็บปวดและไม่สบายกะทันหัน เมื่อครู่ ข้าเลยให้คนส่งนางออกไปแล้ว”
“ตั้งแต่เมื่อไรกัน!” ตงฟางฮุ่ยถามด้วยความร้อน ใจ
สวีชิงเฉินไตร่ตรอง “ประมาน…เวลาธูปสองดอกได้ กระมัง”
书呆子
“นางเป็นอะไร” ในใจตงฟางฮุ่ยร้องว่าแย่แล้ว ออกมา สวีชิงเฉินเอ่ยต่อ “เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่ค่อยเข้าใจ มากนัก จู่ๆ แม่นางตงฟางก็อาเจียนออกมาเป็นเลือด สี หน้าไม่สู้ดีนัก ข้าเดาว่าอาจเพราะตอนนางกระโดดลงมา จากก าแพงแล้วเกิดบาดเจ็บภายใน”
ตงฟางฮุ่ยลอบกัดฟัน ด้วยวรยุทธ์ของตงฟางโยว ไม่ต้องพูดถึงกระโดดก าแพง แม้แต่กระโดดจากหน้าผาก็ อาจจะไม่ได้รับบาดเจ็บด้วยซ้ า “พวกนางไปทางไหนหรือ เหตุใดนอกด้านจึงไม่มีใครเห็นเล่า” สวีชิงเฉินเอ่ยอย่าง ตรงไปตรงมา “เพราะว่าแม่นางตงฟางข้ามก าแพงเข้ามา องครักษ์จึงคิดว่าแม่นางตงฟางน่าจะไม่อยากให้ใครรู้ถึง การมาของนาง นางจึงกลับออกไปทางก าแพงเช่นเดิม”
“คุณชาย” ใครคนหนึ่งที่ลงมาจากก าแพง เป็น องครักษ์ชุดด าที่เมื่อครู่เพิ่งจะหิ้วตงฟางโยวออกไปพอดี องครักษ์ไร้เดียงสาผู้ไม่ค่อยพูดค่อยจา มีสีหน้าแดงก่ า
书呆子
เล็กน้อย หลังจากที่ถูกใครบางคนลวนลามไป พอเห็น ลานเรือนที่จู่ๆ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเพิ่มเข้ามา จึงผงะอย่างอด ไม่ได้ “นายท่านใหญ่ ฮูหยินใหญ่”
“โยวเอ๋อร์อยู่ที่ใด” ตงฟางฮุ่ยแผดเสียง
องครักษ์อึ้งไป พอได้สติถึงได้ตอบกลับ “ข้าน้อย พาแม่นางตงฟางกลับไปแล้วขอรับ”
“ไปส่งถึงโรงพักม้าได้เร็วเพียงนี้เชียวหรือ” หากไม่ ใช้วิชาตัวเบา จะไปกลับจวนสวีและจวนตงฟางได้รวดเร็ว เช่นนี้ได้อย่างไร แต่ในเวลากลางวันเช่นนี้จะไม่มีผู้ใดที่ใช้ วิชาตัวเบาน าตัวสตรีออกไปข้างนอกกัน องครักษ์ส่าย หน้าก่อนจะเอ่ย “ข้าน้อยบังเอิญเจอหลีอ๋องที่ด้านนอก หลีอ๋องบอกว่าต้องการไปเยี่ยมฮูหยินที่จวนตงฟางพอดี จึงพาแม่นางตงฟางกลับไปด้วยขอรับ”
“เจ้าส่งตัวโยวเอ๋อร์ให้ม่อจิ่งหลีหรือ” ตงฟางฮุ่ย ตะคอกเสียงเข้ม
书呆子
องครักษ์ชุดด าล าบากใจเล็กน้อย “แม่นางตงฟาง เป็นคนยินดีให้หลีอ๋องไปส่งเองขอรับ” หรือว่าแม่นางตง ฟางที่บุกเข้ามาในจวนพวกเขาเอง พวกเขายังต้องน าตัว กลับไปส่งให้อย่างนั้นหรือ ต่อให้เขาส่งกลับไปแล้วก็ คลาดกับตงฟางฮูหยินอยู่ดี กว่าฮูหยินจะกลับไปถึง ก็คิด หาวิธีช่วยแม่นางตงฟางไม่ทันอยู่ดี
สวีฮูหยินใหญ่ไม่สนว่าตงฟางโยวจะเป็นเช่นไรกัน แน่ ขอแค่บุตรชายของนางไม่เป็นอันใดก็เพียงพอแล้ว นางยังยืนยันค าเดิม นางยอมที่จะให้สวีชิงเฉินไม่แต่งงาน ไปตลอดชีวิต เสียยังดีกว่าให้เขาแต่งงานกับตงฟางโยว! สวีฮูหยินใหญ่ยิ้มตาหยีพลางยกมือจัดเสื้อลูกชาย พร้อม กล่าววาจาเหน็บแนมเล็กน้อยว่า “เจ้านี่ก็ช่างกระไร มี แขกมาเหตุใดไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าสักหน่อยแล้วค่อยออกมา เล่า”
书呆子
“ลูกผิดไปแล้ว” สวีชิงเฉินไม่ได้โต้งแย้ง เพียงยิ้ม ตอบน้อยๆ
ตงฟางโยวไม่มีแก่ใจจะมาดูความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง ของพวกเขาสองแม่ลูก นางโบกมือพลางมองสวีหงอวี่ อย่างเย็นชา “พี่ใหญ่สวี ขอตัว!”
สวีหงอวี่พยักหน้าเอ่ย “ไม่ส่ง”
เมื่อส่งตงฟางฮุ่ยออกไปแล้ว สวีหงอวี่ก็หันมา พินิจสวีชิงเฉินอย่างใคร่ครวญ ก่อนเอ่ยถาม “ม่อจิ่งหลี บังเอิญพบกับตงฟางโยว หรือเป็นตงฟางโยวที่บังเอิญ เจอม่อจิ่งหลีกันแน่นเพราะ่”
สวีชิงเฉินยิ้มด้วยสีหน้าประหนึ่งฟ้าหลังฝน “ท่าน พ่อ มีอะไรต่างกันอย่างนั้นหรือ”
สวีหงอวี่คิด ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “มีความ แตกต่างอยู่ในนั้น เจ้าไม่เข้าใจหรือ ตงฟางโยว…” สวีชิง
เฉินยิ้มพลางเอ่ย “ตงฟางโยวมิได้สติฟั่นเฟือน ต่อให้เกิด เรื่องอะไรขึ้นจริงๆ ก็ไม่เกี่ยวกับตระกูลสวีและต าหนักติ้ง อ๋องแน่ขอรับ” เมื่อเห็นท่าทีไม่ใส่ใจของลูกชาย สวีหงอวี่ ก็พยักหน้าอย่างพอใจและเอ่ย “ท าได้ดีมาก” ตงฟางโย วกล้าใช้อุบายกับตระกูลสวี มีจุดจบเช่นไรก็ถือว่าสมควร ทั้งสิ้น คนตระกูลสวีไม่เคยมีคนดีที่ใช้ไม่ได้ ผู้ถือคติมี เมตตา พึงชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ
Comments