ชายาเคียงหทัย 360-1 เหรินฉีหนิงตกหลุมพรำง กองทัพเป่ยจิ้ง แปรพักตร์
“เจ้าคือพระชายาติ้งอ๋อง!” เสียงแหลมสูงของใคร คนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังสนมอวิ๋น
ทุกคนล้วนตกตะลึงไปทันใด แม้ว่าพวกนางล้วน เป็นสตรีที่อยู่แต่ในห้อง แต่ทุกคนก็เคยได้ยินนามของ พระชายาติ้งอ๋องมาก่อน หลายต่อหลายครั้ง ทั้งพ่อและพี่ น้องในครอบครัวต่างพร่ าบ่นว่าอยากให้ลูกสาวตนเป็น เหมือนพระชายาติ้งอ๋อง และได้แต่งงานเหมือนกับพระ ชายาติ้งอ๋อง ขนาดเหรินฉีหนิง สามีของพวกนางเป็น ถึงเป่ยจิ้งอ๋อง ก็ยังเอ่ยถึงพระชายาติ้งอ๋องด้วยถ้อยค า ชมเชยทุกคราไป ท าให้หญิงสาวที่ถูกเลี้ยงดูอยู่แต่ในห้อง เหล่านี้ทั้งอิจฉาและริษยา
เมื่อมีคนรู้ตัวตนที่แท้จริงเข้า เยี่ยหลีกลับไม่ได้รู้สึก แปลกใจ เพียงเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองไปยังผู้หญิงที่
书 呆子
อยู่ข้างหลังสนมอวิ๋น ที่แท้ นางก็เป็นคนที่คุ้นเคย เยี่ยหลี ยิ้มบางๆ “ที่แท้ก็คือคุณหนูมู่หรงนี่เอง เหตุใดคุณหนูมู่ หรงถึงมาอยู่ที่นี่เล่า” เมื่อพูดดังนี้ก็เท่ากับเยี่ยหลียอมรับ ตัวตนของนางแล้ว
“เจ้าคือพระชายาติ้งอ๋อง?” สนมอวิ๋นตะลึงไปครู่ หนึ่ง นางเคยเห็นพระชายาติ้งอ๋องหลายครั้ง แม้ว่า ใบหน้าของนางจะไม่เหมือนกับก่อนหน้าที่นางเคยเห็น เท่าไรนัก แต่ท่าทางที่เรียบเฉยและสง่างามนั่นกลับท าให้ ผู้คนรู้สึกว่าต้องเงยหน้าขึ้นมามอง หากไม่ใช่พระชายาติ้ง อ๋องแล้วจะเป็นใครเล่า
“เหตุใดพระชายาติ้งอ๋องถึงมาอยู่ที่นี่ได้” หลังจาก สนมอวิ๋นอึ้งไปครู่หนึ่ง นางก็ได้สติกลับมาทันที แล้วจ้อง ไปที่ราชินีเห่อหลันด้วยความตกใจ “เป็นเจ้า…เจ้าสมรู้ ร่วมคิดกับพระชายาติ้งอ๋อง…” ราชินีเห่อหลันพูดด้วย ความเคืองโกรธ “อย่าพูดจาไม่น่าฟังแบบนั้นสิ พวกเรา
书 呆子
ชาวเป่ยจิ้งก็แค่ร่วมมือกับต าหนักติ้งอ๋องเพื่อเอาของของ พวกเรากลับคืนมาก็เท่านั้น มีอันใดไม่ถูกต้องงั้นหรือ แล้วการที่พวกเจ้าอ้างตัวว่าเป็นผู้ปกครองโดยชอบธรรม ในจงหยวน ก็ไม่ใช่ว่าไปสมรู้ร่วมคิดกับคนเป่ยหรงมาบุก ตีจงหยวนเองหรอกหรือ อย่าพูดให้ภาพลักษณ์ตัวเองดู ยิ่งใหญ่มากนักเลย”
แม้ว่าสนมอวิ๋นจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการเมือง แต่ นางก็ไม่ใช่หญิงสาวโง่เขลาที่ไร้เดียงสา จึงย่อมเข้าใจดีว่า ถ้าราชินีเห่อหลันร่วมมือกับต าหนักติ้งอ๋อง จุดจบของ พวกตนคงน่าเป็นห่วงเสียแล้ว “เห่อหลัน ท่านอ๋องปฏิบัติ ต่อเจ้ามิได้ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย เหตุใดเจ้าถึงสมรู้ ร่วมคิดกับคนนอกเพื่อก่อกบฏ…เจ้าอย่าลืมสิ ราชินีองค์ ก่อนก็สิ้นพระชนม์ด้วยน้ ามือของต าหนักติ้งอ๋อง”
ราชินีเห่อหลันแสยะยิ้มด้วยความเหยียดหยาม “ปฏิบัติต่อข้ามิได้ขาดตกบกพร่อง? เหรินฉีหนิงแทบ
书 呆子
อยากจะฆ่าชาวเป่ยจิ้งอย่างพวกเราทิ้งให้หมดเร็วๆ จะได้ เปลี่ยนชื่อแคว้นและฟื้นฟูแคว้นตัวเองขึ้นมามากกว่า กระมัง ส่วนญาติผู้พี่ข้า หากไม่ใช่เหรินฉีหนิงที่ก่อปัญหา กับจวนติ้งอ๋อง พี่ข้าจะพบกับหายนะอันน่าเศร้าเช่นนั้น หรือ ถ้าแค้นครั้งนี้ข้าไม่ช าระกับเหรินฉีหนิงแล้วจะไป ช าระกับใครเล่า”
“เจ้า…เจ้าพูดจาไร้สาระ!” สนมอวิ๋นหน้าแดงก่ า ด้วยความโกรธ แต่กลับไม่มีอะไรจะพูด
ราชินีเห่อหลันโบกมือและกล่าวว่า “ข้าไม่รังแก สตรีที่ท าอันใดก็ไม่เป็นหรอก พวกเจ้าแต่ละคนกลับไปอยู่ เฉยๆ แต่โดยดีเถิด ข้าจะไม่ท าให้พวกเจ้าล าบากจนกว่า เหรินฉีหนิงจะกลับมา หากไม่เชื่อฟัง…” ราชินีเห่อหลัน ยิ้มเยาะ ริมฝีปากของนางเชิดขึ้นอย่างเยือกเย็น “พวก เจ้าก็ลองดูว่าข้าจะกล้าสังหารคนหรือไม่”
书 呆子
คนทั้งหมดในที่นี้ล้วนเป็นสตรีสาวอ่อนแอและถูก เลี้ยงดูอยู่แต่ในห้องส่วนตัว ไม่เคยพบเห็นโลกภายนอก มาก่อน ไหนเลยจะกล้าต่อต้านต่อราชินีเห่อหลันที่น่า กลัวเช่นนี้ จึงพากันยอมแพ้ไป สนมอวิ๋นก็ไม่ได้เก่งไปกว่า ใคร ได้แต่กัดริมฝีปากและมองดูราชินีเห่อหลันอย่างดุ ร้ายแวบหนึ่ง ก่อนจะหันตัวและเดินออกไป
“เยี่ยหลี จงเอาชีวิตของเจ้ามา!” ข้างสนมอวิ๋น มู่ หรงหมิงเหยียนค ารามด้วยความโมโห ในมือมีประกาย เย็นปรากฏขึ้น และพุ่งเข้ามาหาเยี่ยหลีทันที แต่แล้วก็มี เงาด าแวบผ่านไป มู่หรงหมิงเหยียนยังไม่ทันถึงตัวเยี่ยหลี ก็ถูกคนผลักจนชนเข้ากับเสาด้านข้าง และกระอัก เลือดออกมา
จั๋วจิ้งยืนอยู่ข้างหน้าเยี่ยหลี พูดด้วยเสียงขรึมว่า “พระชายา?” จั๋วจิ้งไม่รู้จักมู่หรงหมิงเหยียน เห็นแต่ เพียงความเกลียดชังภายในดวงตาของนาง ก็คิดว่าผู้หญิง
书 呆子
คนนี้น่าจะเป็นคนที่มีความแค้นฝังลึกกับพระชายา เขา ติดตามเยี่ยหลีมาถึงสิบปี แต่กลับไม่เคยเห็นเยี่ยหลี อาฆาตแค้นผู้หญิงคนนี้ ทว่า หลังจากจั๋วจิ้งคิดตรองครู่ หนึ่งก็เข้าใจสถานะของผู้หญิงคนนี้ทันใด “ผู้เหลือรอด ของตระกูลมู่หรงหรือขอรับ พระชายา แต่ข้าน้อย…” ส าหรับคนประเภทนี้ องครักษ์ลับรู้แต่เพียงว่าต้องถอน รากถอนโคนให้สิ้น
เยี่ยหลีจ้องมองมู่หรงหมิงเหยียนที่แทบอยากจะกิน ตัวเองอยู่เบื้องหน้า ก็เหมือนคิดอะไรได้ มู่หรงหมิงเห ยียนฝืนลุกขึ้น มือเช็ดเลือดที่ริมฝีปาก “เยี่ยหลี ไม่อยาก เชื่อเลยว่าเจ้าจะยังไม่ตาย!”
เยี่ยหลีพูดอย่างเรียบเฉย “เจ้าไม่ได้รู้มานานแล้ว หรือว่าข้ายังไม่ตาย แม่นางมู่หรง ข้าลองถามตัวเองว่า ได้ สร้างเรื่องอันใดที่ถึงขั้นไม่อาจยกโทษได้ไว้กับท่านหรือไม่ ความเกลียดชังมากมายเช่นนี้ของเจ้ามาแต่ที่ใดกัน” ทั้ง
书 呆子
ดวงตาของมู่หรงหมิงเหยียนเผยให้เห็นแต่ความเกลียดชัง “ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเจ้า…ถ้าไม่ใช่พวกเจ้า เหตุใด ตระกูลมู่หรงของข้าถึง…เหตุใดท่านปู่ของข้าจึงต้องตาย นั่นก็ล้วนเป็นเพราะเจ้าเป็นคนก่อทั้งสิ้นอย่างไร!”
“ตัวเองละโมบไม่รู้จักพอ แล้วยังกล้าตีวัวกระทบ คราด ถ้าไม่ใช่เพราะมู่หรงสยงต้องการใช้ความสามารถ ในการสู้รบอันเก่งกาจของตัวเองควบคุมคนให้อยู่ในก า มือเพื่อจะได้ปกครองแผ่นดิน แล้วครอบครัวมู่หรงจะเกิด เรื่องขึ้นได้อย่างไร น่าเสียดาย…ความงามของตระกูลมู่ หรงไม่น่าดึงดูดพอ หวังจะหาโอกาส แต่ก็ท าได้แค่คว้าน้ า เหลว” จั๋วจิ้งพูดเสียดสีอย่างไม่เกรงใจ แม้ว่าในตอนนั้น เขาจะไม่ได้ตามไปที่ซีหลิง แต่ก็พอจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นใน ซีหลิงอยู่บ้าง ถ้อยค าที่เขาเสียดสีมู่หรงหมิงเหยียนนั่น เป็นเรื่องที่แทงใจนางได้อย่างเจ็บปวดที่สุด
书 呆子
มู่หรงหมิงเยียนกัดฟัน ดวงตาของนางเกือบจะแดง ไปทั้งหมดด้วยความโกรธ ราวกับก าลังรอคอยที่จะฉีกเขา เป็นชิ้นๆ
เยี่ยหลีหันศีรษะไปพูดกับราชินีเห่อหลัน “ราชินี เชิญให้คนอื่นๆ กลับไปก่อนเถิด ข้ามีเรื่องบางอย่างที่ อยากจะคุยกับแม่นางมู่หรง” ราชินีเห่อหลันพยักหน้า แล้วพูดกับสนมอวิ๋นและคนอื่นๆ ว่า “พวกเจ้ากลับไป เถิด ส่วนมู่หรง เจ้าอยู่ก่อน”
สนมอวิ๋นและคนอื่นๆ ต่างรู้ว่าพวกนางไม่สามารถ หาเรื่องราชินีเห่อหลันได้ จึงพากันหันตัวจากไป
มู่หรงหมิงเหยียนเหลืออยู่คนเดียว หากแต่ไม่ได้ หวาดกลัวแม้แต่น้อย ในปีที่นางติดตามเหรินฉีหนิง กลับเป่ยจิ้งนั้น เหรินฉีหนิงก็รับปากว่าจะช่วยนางล้าง แค้น แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นางเริ่มรู้สึกว่าความหวัง ในการแก้แค้นของนางนั้นเหินห่างออกไปเรื่อยๆ หาก
书 呆子
ไม่ใช่เพราะตอนที่ม่อซิวเหยาก่อเหตุนองเลือดในวังหลัง ของเหรินฉีหนิง นางยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง เกรงว่านางคง ไม่เหลือชีวิตรอดแล้ว นางใช้ทุกอย่างของตนเองกับ ตระกูลมู่หรง แลกกับต าแหน่งเจาหรงถือว่าไม่สูงไม่ต่ านี้ แล้วจะไม่ท าให้มู่หรงหมิงเหยียนรู้สึกเกลียดชังได้อย่างไร
“เจ้าต้องการจะพูดอะไร ต้องการจะฆ่า ต้องการ จะฟัน ก็แล้วแต่เจ้าเลย” มู่หรงหมิงเหยียนจ้องมองเยี่ย หลีอย่างระวังตัว และกล่าวอย่างยโส
เยี่ยหลีพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ ว่า “แม่นางมู่หรงไม่ ต้องตื่นกลัวไป ข้าจะไม่ท าอะไรเจ้าแน่นอน” จ าต้องบอก ก่อนว่า แม้เยี่ยหลีกับม่อซิวเหยาจะมีชื่อเสียงเกือบเท่าๆ กัน แต่ชื่อเสียงของพวกเขากลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง …แม้ว่าม่อซิวเหยาจะมีชื่อเสียงมาจากต าหนักติ้งอ๋อง หลายสมัย แต่รัศมีการสังหารของเขานั้นรุนแรงเกินไป เพียงแค่เอ่ยถึงคนของติ้งอ๋องก็ชวนให้คิดถึงสงครามที่เต็ม
书 呆子
ไปด้วยไอสังหารและกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งแล้ว แต่ ส าหรับเยี่ยหลี พระชายาติ้งอ๋องท่านนี้ ต่อให้หลายคนจะ มองว่าเป็นศัตรู แต่ก็เป็นเรื่องง่ายดายนักที่จะท าให้คน เผอเรอกับความอันตรายของนาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ เผชิญหน้ากับรูปลักษณ์ที่อ่อนโยนและสง่างามของเยี่ย หลีที่เหมือนกับคุณหนูทั่วไป ท าให้คนผ่อนคลายความ ระแวดระวังลงได้โดยง่าย
มู่หรงหมิงเหยียนพ่นลมเบาๆ อย่างไม่พอใจ แม้ว่า นางจะไม่ได้ลดความระวังตัวลง แต่การแสดงออกของ นางก็ผ่อนคลายลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ เยี่ยหลีอมยิ้มพูดว่า “แม่นางมู่หรงเองก็ควรเข้าใจว่า ในตอนแรกที่ตระกูลมู่ หรงล่มสลาย จะโทษต าหนักติ้งอ๋องของข้าไม่ได้ ครานั้น แค่เพราะโอกาสพอเหมาะพอเจาะ จะไม่ท าเช่นนั้นไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเทียบกับต าหนักติ้งอ๋องของข้าแล้ว ผู้ใด
书 呆子
กันแน่ที่เล่นงานตระกูลมู่หรงมากกว่า แม่นางมู่หรงน่าจะ พอรู้ดีแก่ใจ”
มู่หรงหมิงเหยียนครุ่นคิด เรื่องในตอนแรกเกิดอัน ใดขึ้นบ้าง นางย่อมรู้ดี หากไม่ใช่เป็นนางที่ดื้อรั้นจะหา เรื่อง…ไม่แน่ว่าปัญหาจะไม่ก่อไปถึงต าหนักติ๋งอ๋องเลยก็ เป็นได้ แต่มู่หรงหมิงเหยียนกลับเชื่ออย่างหัวชนฝามา เสมอว่า เพราะม่อซิวเหยาปรากฏตัวขึ้น จึงท าให้เกิดจุด จบแห่งความล่มสลายของตระกูลมู่หรง ดังนั้น การที่นาง เกลียดชังต าหนักติ้งอ๋องจึงเป็นเรื่องธรรมดา
“เจ้าต้องการอะไร” มู่หรงหมิงเหยียนพูดพลางจับ จ้องไปที่เยี่ยหลี
Comments