ชายาเคียงหทัย 326-2 สงครามนองเลือดในฉู่จิง ฝ่าวงล้อม

Now you are reading ชายาเคียงหทัย Chapter 326-2 สงครามนองเลือดในฉู่จิง ฝ่าวงล้อม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

​ ​“​ไอ้​ม่อ​ซิว​เหยา​!​ ​ข้า​จะ​ดู​สิว​่า​เจ้า​จะ​เก่งกาจ​สัก​เพียงใด​!​”​ ​เห​ริน​ฉี​หนิง​ส่งเสียง​เฮอะ​อย่าง​เย็นชา​ ​แล้วจึง​กัดฟัน​กล่าว

​ ​สงคราม​ภายใน​เมือง​ดำเนิน​ไป​ตั้งแต่​ทิวา​ไป​จนถึง​ราตรี​ ​เมืองหลวง​ที่​ควรจะ​เงียบสงบ​เหมือน​ที่ผ่านมา​ยังคง​มีเสียง​เข่นฆ่า​สนั่น​ฟ้า​ไป​ทั่ว​ ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​กับ​อวิ​๋น​ถิง​ต่าง​เตรียมพร้อม​แล้ว​ ณ​ ​ประตู​ตะวันตก​ ​อวิ​๋น​ถิ​งม​อง​เปลวไฟ​ภายใน​เมือง​อัน​ห่างไกล​แล้ว​ขมวดคิ้ว​กล่าวว่า​ ​“​หาก​ทัพ​ใหญ่​มา​ไม่ทัน​ ​เกรง​ว่า​จะ​รับมือ​ต่อไป​ไม่ไหว​แล้ว​”​ ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​ท่าน​อ๋อง​บอกว่า​ทัน​คง​ไม่มีปัญหา​ใด​หรอก​ ​ขอ​เพียง​ประตู​ตะวันตก​ไม่​ไป​อยู่​ใน​มือ​เป่ย​จิ้ง​ ​พอท​หาร​ตระกูล​ม่อ​เข้า​เมือง​มาทุ​กอย​่า​งก​็​จะ​ได้รับ​การ​แก้ไข​”​ ​แม้​จะ​กล่าว​เช่นนี้​แต่​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​กลับ​รู้​ถึง​ความลำบาก​นี้​ดี​ ​ตลอดทาง​มานี​้​ทัพ​ของ​เขา​เจอ​การ​โจมตี​ขัดขวาง​จาก​กองทัพ​ใหญ่​ของ​เป่ย​หร​งอย​่า​งดุ​เดือด​บ้าคลั่ง​ ​สามารถ​มาถึง​ฉู่​จิง​ทัน​ก็​นับว่า​ไม่​ง่าย​แล้ว​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ความเร็ว​ของ​หน่วย​เฮ​ยอ​วิ​๋น​ฉี​ห่าง​จาก​ทหาร​เดินเท้า​หลาย​ต่อ​หลายเท่า​ ​จึง​ยาก​เสีย​ยิ่งกว่า​ยาก​ที่​กองทัพ​ใหญ่​จะ​ตามมา​ให้​ทัน​ได้​ภายใน​สอง​ชั่ว​ยาม

​ ​อวิ​๋น​ถิ​งมิ​ใช่​คน​ตี​ตน​ไป​ก่อน​ไข้​เช่นนั้น​ ​จึง​ถอนใจ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​กล่าว​ได้​ถูกต้อง​ ​ไม่ว่า​จะ​พูด​อย่างไร​ ​พวกเรา​ปกป้อง​ประตู​ตะวันตก​ไว้​ก็​พอแล้ว​!​”

​ ​“​เฟิ​่ง​ซาน​!​”​ ​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​ที่อยู่​ไม่​ไกล​ฝ่า​เข้ามา​ทั้ง​เลือด​ท่วม​ตัว​ ​บาดแผล​บน​ตัว​กลับ​มีมาก​กว่า​ก่อนหน้านี้​อยู่​มาก​ ​“​กองทัพ​ใหญ่​จะ​มาถึง​ได้​เมื่อใด​!​?​”​ ​พอ​เจอ​หน้า​กัน​เห​ลิ่ง​เฮา​อวี​่​ก็​ถาม​ขึ้น​อย่าง​โมโห​ ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​กรอก​ตา​แต่​ก็​ยัง​ยื่นมือ​ไป​พยุง​เขา​ไว้​แล้ว​บอกว่า​ ​“​เมื่อใด​ก็​เมื่อนั้น​แหละ​ ​เจ้า​นึก​ว่า​ทาง​ที่​เรา​มามัน​จะ​ง่ายดาย​เช่นนั้น​หรือ​ ​ไอ้บ้า​เยีย​หลีว​์​เหยี​่ย​ระดม​กองกำลัง​ใหญ่​เป่ย​หรง​แทบ​ทั้งหมด​ใน​ดินแดน​ต้า​ฉู่​มาส​กัด​ทัพ​เรา​ไว้​”

​ ​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​สูด​หายใจเข้า​พิง​กำแพง​แล้ว​กล่าว​อย่าง​จนใจ​ว่า​ ​“​หาก​ท่าน​อ๋อง​ยัง​ไม่​มา​เรา​คงจะ​ไม่ไหว​แน่​แล้ว​”

​ ​“​ข้า​รู้​”​ ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​เอ่ย​ตอบ​ ​หาก​ยืดเวลา​ต่อไป​อีก​ ​อย่า​ว่าแต่​ทหาร​รักษาการณ์​ใน​เมือง​เลย​ที่จะ​ไม่ไหว​ ​พวกเขา​เอง​ก็​จะ​ไม่ไหว​อยู่​แล้ว​เช่นกัน​ ​แม้​ทหาร​เป่ย​จิ้ง​จะ​หวาดกลัว​เขต​ระเบิด​ที่​กลุ่ม​กิเลน​ได้​วาง​ไว้​บน​ถนน​ ​แต่​ก็​มี​หลาย​คนที​่​ตั้งใจ​ฝ่า​เข้ามา​ ​แม้​จะ​ถูก​พวกเขา​ตีกลับ​ไป​ ​แต่​หาก​มากั​นอี​กค​ราล​่ะ​ก็​เกรง​ว่า​คง​ต้องตา​ต่อตา​ฟัน​ต่อ​ฟัน​กัน​แล้ว​ ​พอ​พวก​กิเลน​ใช้​ระเบิด​จน​หมด​ก็​เปลี่ยนไป​ไล่​เข่นฆ่า​กันที่​อื่น​ต่อ

​ ​อวิ​๋น​ถิ​งก​ล่า​วว​่า​ ​“​พี่ใหญ่​เห​ลิ่ง​ ​เจ้า​พัก​ที่นี่​สักครู่​เถิด​ ​ข้า​จะ​ลง​ไป​เอง​”​ ​กล่าว​พลาง​หยิบ​หอก​ยาว​จะ​เดินลง​ไป​ด้านล่าง​ ​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​ดึง​เขา​ไว้​แล้ว​บอกว่า​ ​“​ไม่ต้อง​ไป​หรอก​ ​เจ้า​ต้อง​เฝ้า​ประตูเมือง​ไว้​กับ​เฟิ​่ง​ซ่าน​ ​ส่วน​ข้า​ต้อง​ไป​ตามหา​คน​อีก​”​ ​ยาม​นี้​ทั่วทั้ง​เมือง​ล้วน​มี​แต่​การเข่นฆ่า​วุ่นวาย​ไป​หมด​ ​เห​ลิ่ง​หวาย​กับ​พรรคพวก​ได้​แตก​ซ่าน​แยกกัน​ไป​คนละทิศคนละทาง​นาน​แล้ว​ ​ฉู่​จิง​มิใช่​ที่​แคบ​ๆ​ ​สถานการณ์​เช่นนี้​หาก​อยาก​จะ​หา​คน​สัก​คน​กลับ​ยากเย็น​แสนเข็ญ​นัก​ ​ทว่า​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​ก็​จำต้อง​ไป

​ ​“​แต่ว่า​…​”​ ​อวิ​๋น​ถิ​งม​อง​บาดแผล​บน​ร่าง​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​อย่าง​กังวล​ ​เห​ลิ่ง​เฮ่า​อวี​่​ตบ​บ่า​เขา​แล้ว​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​บาดแผล​ภายนอก​เท่านั้น​ ​ไม่ต้อง​กังวล​ ​ข้า​ไป​แล้ว​นะ​…​”

​ ​“​ช้าก่อน​!​”​ ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​ขวาง​เขา​ไว้​ ​สีหน้า​ประดับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ยินดี​อย่าง​สุด​แสน​ ​“​ทัพ​ใหญ่​มา​แล้ว​!​”

​ ​ทุกคน​ต่าง​พากัน​หันไป​ดูก​็​เห็น​แสงไฟ​กำลัง​โบยบิน​เคลื่อนไหว​มาทาง​นี้​อยู่​ไกลๆ​ ​แรกเริ่ม​เห็น​เป็น​ประ​กาบ​แวบ​ๆ​ ​เดี๋ยว​มี​เดี๋ยว​ไม่มี​ ​ไม่นาน​ก็​เห็นได้ชัด​เจน​ขึ้น​มามาก​ ​ไม่ต้อง​กล่าวถึง​เสียง​ควบ​ม้า​ที่​ค่อยๆ​ ​แว่ว​เข้ามา​ใกล้​เรื่อยๆ​ ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​ตะโกน​ก้อง​ว่า​ ​“​ทัพ​ใหญ่​มาถึง​แล้ว​ ​เปิด​ประตูเมือง​!​”​ ​เสียง​โห่ร้อง​ยินดี​พลัน​ดัง​ขึ้น​จาก​ป้อมปราการ

​หน่วย​เฮ​ยอ​วิ​๋น​ฉี​เปิดทาง​นำมา​ถึง​ก่อน​เป็น​กลุ่ม​แรก​ท่ามกลาง​ราตรี​อัน​มืดมิด​ ​ทหาร​ชุด​ดำ​ต่าง​โผ​ทะยาน​เข้า​ประตูเมือง​กัน​มาด​้าน​ใน​ของ​เมือง​อย่างไม่ขาดสาย​ ​จากนั้น​ก็​ตรง​เข้า​จัดการ​กับ​ทหาร​เป่ย​จิ้ง​ ​ไม่นาน​คน​บน​ป้อมปราการ​ก็​เห็น​บุรุษ​ที่​เกศา​และ​อาภรณ์​เป็น​สีขาว​อย่าง​ม่อ​ซิว​เหยา​ควบ​ม้า​ตรง​เข้ามา​ ​“​ท่าน​อ๋อง​มา​แล้ว​!​ ​ท่าน​อ๋อง​มา​แล้ว​!​”​ ​เปลวไฟ​สี​เพลิง​เปล่งประกาย​บน​ฟากฟ้า​อีก​ขึ้น​ ​ฉู่​จิง​ที่​มี​การเข่นฆ่า​และ​การนองเลือด​ก็​พลัน​มีเสียง​โห่ร้อง​ยินดี​และ​เสียงหัวเราะ​ดัง​ขึ้น

​ ณ​ ​ที่หนึ่ง​ทาง​ตะวันออก​ของ​เมือง​ ​เว​่​ยลิ​่​นที​่​พาท​หาร​สอง​สาม​นาย​มาด​้ว​ยกำ​ลัง​ถูก​ทหาร​เป่ย​จิ้ง​ล้อม​เอาไว้​ ​รอบด้าน​มี​แต่​ศพ​ของ​ศัตรู​กอง​อยู่​เกลื่อน​กราด​ ​ทว่า​ศัตรู​ที่​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​กลับมา​กยิ​่​งก​ว่า​ ​เลือด​สดๆ​ ​ยังคง​เปรอะเปื้อน​อาภรณ์​ดำ​ ​เพียงแต่​ภายใต้​ท้องฟ้า​ยาม​ราตรี​เช่นนี้​จึง​ทำให้​มองไม่เห็น​ ​ดวงตา​เคร่งขรึม​มอง​เหล่า​ทหาร​เป่ย​จิ้ง​อย่าง​โหดเหี้ยม​ครา​หนึ่ง​แล้ว​หัวเราะ​เสียงเย็น​ชา​ ​ดาบ​ยาว​ใน​มือ​ยกขึ้น​เป็นประกาย​เย็นเยียบ​ขณะเดียวกัน​ก็​แฝง​ไอ​สังหาร​ไว้​ด้วย

​ ​ต่อสู้​มา​อย่าง​ไม่หยุดหย่อน​ตลอดทั้ง​วัน​ ​แม้​จะ​เป็น​เว​่​ยลิ​่น​แต่​ก็​เหน็ดเหนื่อย​ได้​เช่นกัน​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ทหาร​ธรรมดาๆ​ ​ข้าง​กาย​เหล่านั้น​ ​ไม่นาน​ทหาร​ข้าง​กาย​ของ​เขา​ก็​ล้ม​ลง​กัน​หมด​ ​เขา​โบก​กระบี่​โผ​ทะยาน​เข่นฆ่า​อยู่​ท่ามกลาง​ทัพ​ของ​ศัตรู​ด้วย​แววตา​ดุดัน​แข็งกร้าว​ ​ขณะที่​พวก​เป่ย​จิ้ง​กำลัง​ยินดี​ที่​ในที่สุด​จะ​ได้​กำจัด​ยอด​ฝีมือ​คน​นี้​ไป​ได้เสีย​ที​อยู่​นั้น​เอง​ ​ทหาร​ที่​แต่งกาย​ไม่​เหมือนกับ​คน​ฉู่​จิง​และ​เป่ย​จิ้ง​ก็​บุก​มาทาง​นี้​ ​คน​นำหน้า​รูปร่าง​สูงใหญ่​ ​หน้าตา​หล่อเหลา​เงียบขรึม​ ​กระบี่​ชิง​ซวง​ใน​มือ​เป็นประกาย​วาบ​ ​ไม่ว่า​เขา​ผู้​นั้น​จะ​ไป​ที่ใด​เหล่า​ทหาร​เป่ย​จิ้ง​ก็​หลบเลี่ยง​มิได้​จน​ต้อง​สังเวย​ร่าง​ใต้​คมกระ​บี่​นี้

​ ​มี​กำลัง​เสริม​เพิ่มขึ้น​เช่นนี้​ ​สถานการณ์​ใน​สนามรบ​จึง​พลิกผัน​ไป

​ ​“​เจ้า​เป็น​ผู้ใด​กัน​!​”​ ​ก่อน​จะ​ตาย​ทหาร​เป่ย​จิ้ง​อด​จะ​ตะโกน​ถาม​ขึ้น​ด้วย​ความโมโห​มิได้

​ ​คน​ผู้​นั้น​พลัน​กวาดสายตา​มอง​มา​อย่าง​หยิ่ง​ทระนง​แล้ว​โบก​กระบี่​เข้าใส่​อย่าง​ไม่​ลังเล​ ​“​ข้า​คือ​แม่ทัพ​เหอ​ซู่​!​”

​ ​“​พี่ใหญ่​…​”​ ​เว​่​ยลิ​่​นม​อง​บุรุษ​ใน​เครื่องแบบ​ทหาร​ตรงหน้า​ด้วย​ความตกใจ​ ​นั่น​ไม่ใช่​องครักษ์​ลับ​หนึ่ง​ที่​ไม่ได้​พบกัน​มา​หลาย​ปี​แล้ว​หรอก​หรือ​ ​องครักษ์​ลับ​หนึ่ง​หรือ​เหอ​ซู่​ก้าว​เข้าไป​พยุง​เว​่​ยลิ​่น​เอาไว้​แล้ว​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ ​“​น้อง​สี่​ ​ไม่ได้​พบกัน​นาน​ทีเดียว​ ​พวก​เจ้า​สบายดี​หรือ​”​ ​เว​่​ยลิ​่​นพ​ยัก​หน้า​ตอบ​ว่า​ ​“​พวกเรา​สบายดี​ ​เพียงแต่​พี่ใหญ่​ถูก​พระ​ชายา​ส่ง​ไป​ทำ​ภารกิจ​มิได้​กลับมา​เลย​…​”​ ​แม้​พวกเขา​จะ​รู้ดี​ว่า​อั้น​อี​ถูก​พระ​ชายา​ส่ง​ไป​ทำ​ภารกิจ​ ​แต่​ก็​ไม่รู้​ว่า​ภารกิจ​นั้น​คือ​อัน​ใด​ ​หลาย​ปี​มานี​้​เขา​จึง​แอบ​เป็นกังวล​อย่างมาก​ ​แต่​นึกไม่ถึง​ว่าการ​กลับมา​พบกัน​ครานี​้​ ​เขา​จะ​ได้​เป็น​ถึง​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​แล้ว

​ ​เหอ​ซู่​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​ปีนั​้​นพระ​ชายา​บอก​ข้าว​่า​ข้า​เหมาะ​ที่จะ​เป็น​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ ​ดังนั้น​จึง​ให้​ข้า​ปกปิด​ตัวตน​ไป​เป็น​ทหาร​ผู้น้อย​ใน​บัญชีรายชื่อ​ทหาร​ของ​มู่​หรง​ ​ต่อมา​ได้​ไป​ที่นั่น​ที่นี่​มากมาย​ ​หลาย​ปี​มานี​้​ก็​นับว่า​ไม่​ทำให้​พระ​ชายา​ต้อง​ผิดหวัง​แล้ว​”

​ ​“​ยินดี​กับ​พี่ใหญ่​ด้วย​”​ ​ใน​ฐานะ​พี่น้อง​ที่​เป็น​องค์​รักษ์​ลับ​ประจำตัว​ของ​พระ​ชายา​เช่นเดียวกัน​ ​เว​่​ยลิ​่น​ย่อม​ยินดี​กับ​ความสำเร็จ​ของ​เหอ​ซู่​จาก​ใจจริง

​ ​เหอ​ซู่​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​พวก​เจ้า​ก็​ไม่เลว​นี่​ ​ท่าน​อ๋อง​พาก​อง​ทัพ​ใหญ่​เข้า​เมือง​มา​แล้ว​ ​เจ้า​บาดเจ็บ​ไม่น้อย​ ​ไป​พัก​ด้าน​ตะวันตก​ของ​เมือง​เสียหน่อย​เถิด​”​ ​แม้ว่า​เว​่​ยลิ​่น​จะ​สวม​อาภรณ์​ดำ​ทั้งตัว​จึง​มองไม่เห็น​บาดแผล​ ​แต่​เหอ​ซู่​กลับ​มิใช่​คนธรรมดา​ ​เขา​ย่อม​มอง​สีหน้า​ไม่น่า​ดู​นั้น​ของ​เว​่​ยลิ​่​นอ​อก​ ​เกรง​ว่า​จะ​บาดเจ็บสาหัส​เอา​ได้​จึง​เรียก​ทหาร​ให้​ไป​ส่ง​เว​่​ยลิ​่​นที​่​ด้าน​ตะวันตก​ ​ส่วน​เหอ​ซู่​พาท​หาร​ของ​ตน​เข้าไป​ปราบปราม​กองทัพ​เป่ย​จิ้ง​ที่อยู่​ใน​เมือง​ต่อ

​ ​จนกระทั่ง​ฟ้า​สว่าง​ ​การเข่นฆ่า​ภายใน​เมือง​จึง​ค่อยๆ​ ​สงบ​ลง​ ​ทว่า​ก็​มีบาง​ที่​ที่​ยังคง​รบรา​กัน​อย่างต่อเนื่อง​ ​ทหาร​ตระกูล​ม่อ​ก็​ยังคง​บุกเข้าไป​ทั่วทุก​มุม​เมือง​เพื่อ​เสาะหา​ชาว​ฉู่​จิง​ที่​บาดเจ็บ​และ​ดู​ว่ายั​งมี​ทหาร​เป่ย​จิ้ง​หลงเหลือ​อยู่​หรือไม่

​ ​พอ​ฟ้า​เริ่ม​มืด​ลง​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ก็​พา​เหล่า​ทหาร​ไป​ยืน​อยู่​บน​ป้อมปราการ​ ​มอง​ลง​ไป​ยัง​ค่ายทหาร​ใหญ่​ของ​ทัพ​เป่ย​จิ้ง​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​ ​แม้ว่า​นอกเมือง​จะ​ยัง​มีท​หาร​ของ​เป่ย​จิ้ง​อยู่​อีก​นับ​แสน​ ​แต่กลับ​ไม่อยู่​ใน​สายตา​ของ​ทหาร​ตระกูล​ม่อ​แม้แต่น้อย​ ​หลังจาก​การต่อสู้​ครานี​้​ทหาร​เป่ย​จิ้ง​ไม่เพียงแต่​ยึด​เอา​ฉู่​จิง​มามิ​ได้​ ​ซ้ำ​ยัง​สูญเสีย​กองกำลัง​ไป​นับไม่ถ้วน​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​กำลัง​ของ​ทหาร​ใดๆ​ ​ขนาด​ขวัญ​กำลังใจ​ก็​ต่าง​หดหาย​ลง​ไป​ไม่น้อย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด