ชายาเคียงหทัย 338-1 จุดประสงค์ของพระชายาเห่อหลัน

Now you are reading ชายาเคียงหทัย Chapter 338-1 จุดประสงค์ของพระชายาเห่อหลัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

​เรื่อง​วัย​เป็น​ข้อห้าม​ที่​ไม่​ควร​แตะต้อง​มาก​ที่สุด​สำหรับ​สตรีทุ​กคน​ ​กับ​สตรี​ผู้​เลอ​โฉม​ที่​อายุ​อานาม​ไม่น้อย​แล้ว​นั้น​ยิ่ง​แล้ว​ใหญ่​ ​หญิง​งาม​ไม้ใกล้ฝั่ง​ ​แม่ทัพ​ผมหงอก​ขาว​ ​อย่างไร​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​ทำให้​ผู้คน​จนปัญญา​ที่สุด​ของ​ใต้​หล้า​แห่ง​นี้​แล้ว​ ​ดังนั้น​ต่อให้​เป็น​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​ที่​หยิ่งผยอง​ไม่ยอม​ทำตัว​เช่น​สตรี​ต่างถิ่น​อย่าง​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​ ​ก็​ยังคง​ถูก​ยั่ว​ให้​โกรธ​อยู่ดี

​“​สารเลว​ ​เจ้า​พูด​อะไร​น่ะ​!​”​ ​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​ถูก​ยั่วโมโห​จน​ตัวสั่น​ไป​หมด​ ​ถลึงตา​พลาง​ตะคอก​เสียง​เข้ม​ใส่​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน

​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​ปีนี​้​เพิ่ง​อายุ​ได้​สิบ​หกสิบ​เจ็ด​ปี​ ​กำลัง​อยู่​ใน​วัย​แรก​แย้ม​ ​แม้น​จะ​ไม่ได้​มี​ผิวพรรณ​ขาวผ่อง​เนียน​นุ่ม​เหมือน​สตรี​จง​หยวน​ ​แต่กระนั้น​ผิวพรรณ​ของ​วัยสาว​เมื่อมา​อยู่​ใต้​แสงอาทิตย์​ก็​ให้​ดู​แข็งแรง​และ​เนียน​ละเอียด​อย่างที่​คน​ต้อง​หัน​มอง​ ​ซึ่ง​นี่​เป็น​ส่วน​ที่​ขาดหาย​ไป​ของ​คนใน​วัย​อย่าง​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​ ​ไม่ว่า​นาง​จะ​ผัด​หน้า​อย่างประณีต​บรรจง​เพียงใด​ ​นาง​ที่​อายุ​กว่า​สามสิบ​ปี​ต่อให้​พยายาม​บำรุง​อย่างไร​ก็​ไม่มีทาง​มี​ผิวพรรณ​ที่​ชุ่มฉ่ำ​อย่าง​สตรี​วัยสาว​อีก​ ​หนำซ้ำ​ใน​ช่วง​สอง​ปี​แรก​ ​ก็​มี​ช่วง​สั้น​ๆ​ ​ที่นาง​ต้อง​อยู่​อย่างลำบาก​ยาก​เข็น​จน​แทบจะ​ทำให้​ความพยายาม​ใน​การ​บำรุงบำเรอ​ตลอด​ช่วง​หลาย​ปีก่อน​หน้า​หาย​ไป​จน​สิ้น​ ​สอง​ปีนี​้​ถึงแม้นาง​จะ​พยายาม​บำรุง​ตนเอง​อย่างเต็มที่​ ​แต่​ความงาม​ของ​นาง​ก็​กลับ​ไป​สู้​ช่วง​สะพรั่ง​ที่สุด​ไม่ได้​อีกแล้ว​ ​คำพูด​ของ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​จึง​ราวกับ​เป็นการ​สาด​เกลือ​เข้าใส่​แผล​ของ​นาง​อย่างไร​้​ปราณี

​“​บังอาจ​!​”​ ​สีหน้า​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​พลัน​บึ้งตึง​ลง​ ​เชิด​คาง​ขึ้น​มอง​หลิ่ว​กุ้ย​เฟ​ยอย​่าง​ถือดี​ ​“​เห็นแก่​ที่​เจ้า​เป็น​สตรี​ของ​องค์​ชาย​เยีย​หลี​่ว​์​ ​ข้า​เลย​ยอม​ลง​ให้​หลาย​ส่วน​ ​แต่​เชื่อ​หรือไม่​ว่า​ข้า​สามารถ​ตบหน้า​เจ้า​ให้​เละ​คามือ​ได้​ ​เจ้า​ยัง​ไม่ใช่​พระ​ชายา​ของ​องค์​ชาย​เป่ย​หร​งด​้วย​ซ้ำ​ ​ข้า​ไม่เชื่อ​หรอก​ว่า​เป่ย​หร​งอ​๋​อง​จะ​หาเรื่อง​ข้า​เพื่อ​คน​อย่าง​เจ้า​!​”​ ​สายตา​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​ที่​ถลึง​มอง​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​ราวกับ​อาบ​ฉ่ำ​ไป​ด้วย​ยาพิษ​ ​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่ย​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ว่า​ ​“​เอาล่ะ​ ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​ ​ชิง​อีน​่า​ใช้​คำพูด​ไม่เหมาะสม​ ​ขอ​ท่าน​ได้​โปรด​อภัย​ด้วย​ ​ทว่า​ท่าน​เอง​ก็​เป็น​ฝ่าย​เสียมารยาท​ก่อน​ ​เช่นนั้น​ปล่อย​ให้​เรื่อง​นี้​ผ่าน​ไป​ดี​หรือไม่​”​ ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​เหลือบมอง​เห​ริน​ฉี​หนิง​ที่​ดู​ไม่มี​ทีท่า​ว่า​จะ​ออกหน้า​ช่วย​ตน​ ​จึง​ส่งเสียง​หึ​เบา​ๆ​ ​ก่อน​เมินหน้า​หนี​ไป​ไม่​พูด​อะไร​อีก

​เดิมที​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​ยังคง​ไม่พอใจ​อยู่​ ​แต่​เมื่อ​ได้รับ​สายตา​ตักเตือน​จาก​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่ย​จึง​ต้อง​ยอม​ลด​ธง​ถอยกลับ​ไป

​“​เอ๊ะ​ ​นั่น​ไม่ใช่​ติ้ง​อ๋อง​กับ​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​หรอก​หรือ​”​ ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​ผิน​หน้า​มองออก​ไปนอก​หน้าต่าง​ ​จึง​พอดี​เห็น​ม่อ​ซิว​เหยา​กับ​เยี​่ย​หลี​ที่​เดินทอดน่อง​จับมือ​กัน​อยู่​ท่ามกลาง​ฝูงชน​ ​ใน​หมู่​ฝูงชน​ที่​มี​เส้น​ผม​ดำขลับ​ ​เส้น​ผม​สีขาว​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ย่อม​สะดุดตา​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​ได้ยิน​อย่างนั้น​ ​คนอื่นๆ​ ​ก็​พากัน​หัน​มองตาม​ไป​ ​จึง​เห็น​คู่​ชาย​หญิง​ที่​เดิน​เคียง​กัน​อย่าง​โดดเด่น​อยู่​ท่ามกลาง​ผู้คน​จริงๆ​ ​ทั้งสอง​จับมือ​กัน​เดิน​เรื่อยๆ​ ​พลาง​พูดคุย​หยอกล้อ​กัน​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​อยู่​ใน​ชุด​สีฟ้า​อ่อน​ปัก​ลวดลาย​ด้วย​เส้นด้าย​สีเงิน​ ​มี​เข็มขัด​หยก​คาด​อยู่​ที่​เอว​ ​เส้น​ผม​ที่​เป็น​เงิน​วาว​ปล่อยทิ้ง​ตัว​สบาย​ๆ​ ​อยู่​ด้านหลัง​ ​เขา​ก้มหน้า​ลง​ไป​มอง​สตรี​เส้น​ผม​ดำขลับ​ข้าง​กาย​ ​พูดคุย​หยอกล้อ​เจือ​รอยยิ้ม​น้อย​ๆ​ ​แตกต่าง​จาก​ท่าที​เย็นชา​ตามปกติ​อย่างเห็นได้ชัด

​สตรีที​่​ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​เขา​ ​เส้น​ผม​ดำขลับ​พลิ้วไหว​ราวกับ​ก้อน​เมฆ​ ​รวบ​ผม​เอียง​ข้าง​หลวม​ๆ​ ​เสียบ​แซม​ปิ่นปักผม​ทรง​ดอกฝู​หรง​ที่​แต่ง​แต้ม​ด้วย​เกสร​สีขาว​ ​ต่างหู​เงิน​อัน​แสน​ประณีต​แกว่ง​ไกง​เบา​ๆ​ ​อยู่​ที่​ติ่งหู​ ​ ​ยิ่ง​รวม​กับ​ใบหน้า​งดงาม​จึง​ยิ่ง​ขับ​ให้​ดู​สง่างาม​สบาย​ตามาก​ขึ้น​ ​ทำให้​ผู้คน​ไม่​อยาก​ละสายตา​ไป​จาก​นาง​ ​เยี​่ย​หลี​อยู่​ใน​อาภรณ์​สีขาว​ปัก​ดิ้น​เงิน​เรียบง่าย​ ​ตรง​สาย​คาด​เอว​สีเงิน​ผูก​เครื่องประดับ​หยก​สีม่วง​อ่อน​เอาไว้​ชิ้น​หนึ่ง​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ทั้งสอง​ไม่ได้​แต่งกาย​อย่างเป็นทางการ​ ​แต่​ยาม​เดิน​อยู่​ท่ามกลาง​ผู้คน​กลับ​ยังคง​ทำให้​ทุก​สายตา​เคลื่อน​ตาม​พวกเขา​โดยไม่รู้ตัว

​ไม่รู้​ม่อ​ซิว​เหยา​พูด​อัน​ใด​กับ​นาง​ ​เยี​่ย​หลี​จึง​หันไป​ถลึงตา​โกรธ​ๆ​ ​ใส่​เขา​ที​หนึ่ง​ ​ยกมือ​ขึ้น​หมาย​จะ​แย่ง​สิ่งของ​จาก​มือ​เขา​ไป​ ​แต่กลับ​ถูก​ม่อ​ซิว​เหยา​ขยับ​หนี​ด้วย​สีหน้า​เปื้อน​ยิ้ม​ ​มือ​ข้าง​หนึ่ง​ประคอง​เอว​นาง​ไว้​ ​ส่วน​มือ​อีก​ข้าง​ยื่น​สิ่งของ​ใน​มือ​ไป​ที่​ปากของ​นาง​ ​เช่นนั้น​ทุกคน​ถึง​ได้​มองเห็น​ว่า​สิ่งของ​ใน​มือ​ที่​ม่อ​ซิว​เหยา​ถือ​อยู่​นั้น​คือ​ผลไม้​เคลือบ​น้ำตาล​ไม้​หนึ่ง​ ​เห​ริน​ฉี​หนิง​และ​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่​ยพา​กัน​กระตุก​มุม​ปาก​โดยไม่รู้ตัว​ ​ด้วย​ฐานะ​อย่าง​พวกเขา​ไม่ว่า​จะ​โปรดปราน​สตรี​สัก​นาง​เพียงใด​ ​ก็​ไม่มีทาง​แสดง​กิริยา​เช่นนี้​ออกมา​เด็ดขาด​ ​แต่​เมื่อ​เห็นท่า​ทาง​ที่​ม่อ​ซิว​เหยา​แสดงออก​มา​แล้ว​ ​กลับ​ดู​เป็นธรรมชาติ​สบาย​ๆ​ ​ไม่มี​การเสแสร้ง​แต่อย่างใด​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​กำลัง​มีความสุข​อยู่​มาก​จริงๆ

​“​ได้ยิน​มานาน​แล้ว​ว่า​ติ้ง​อ๋อง​กับ​พระ​ชายา​รักใคร่​กัน​อย่างลึกซึ้ง​ ​พอได้​มา​เห็น​ใน​วันนี้​ถึง​ได้​รู้​ว่า​เป็น​ดั่ง​ที่​เล่าลือ​กัน​จริงๆ​”​ ​สนม​อวิ​๋น​เอ่ย​ทอดถอนใจ​อย่าง​สบาย​ๆ​ ​ใน​น้ำเสียง​เจือ​แวว​อิจฉา​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​อย่าง​ปิดไม่มิด

​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​เอง​ก็​นานๆ​ ​ที​จะ​กล่าว​เห็นด้วย​กับ​สนม​อวิ​๋​นว​่า​ ​“​ติ้ง​อ๋อง​เป็น​บุรุษ​ที่​เก่งกาจ​มาก​จริงๆ​”

​มุม​ปาก​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่​ยก​ระ​ตุก​ขึ้น​ ​มาตรฐาน​ของ​บุรุษ​ที่​ดี​คือ​การ​ซื้อ​ผลไม้​เคลือบ​น้ำตาล​ตาม​ท้องถนน​หรอก​หรือ​นี่​ ​เมื่อ​เห็นท่า​ทาง​ไม่เห็นด้วย​ของ​เขา​ ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​ก็​กล่าว​ด้วย​ความไม่พอใจ​ว่า​ ​“​องค์​ชาย​เจ็ด​ ​ท่าน​ยินดี​ถือ​ผลไม้​เคลือบ​น้ำตาล​เดิน​ไป​ตาม​ถนน​เพื่อ​สตรี​นาง​ใด​หรือไม่​เล่า​”

​เยี​่ย​หลี​่ว​์​เหยี​่ย​เบ้​ปาก​ด้วย​ความ​ดูแคลน​ ​เขา​เป็น​ถึง​องค์​ชาย​ ​จะ​ทำ​เรื่อง​ที่​เสื่อมเสีย​ต่อ​ฐานะ​เช่นนั้น​เพื่อ​สตรี​นาง​หนึ่ง​ได้​อย่างไร​ ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​ยิ่ง​ดูแคลน​เขา​ขึ้นไป​อีก​ ​“​เดิม​ยัง​คิด​ว่า​มี​เพียง​บุรุษ​จง​หยวน​ที่​เป็นห่วง​หน้าตา​จอมปลอม​พวก​นี้​ ​ไม่​คิด​ว่า​คน​เป่ย​หร​งอย​่าง​พวก​ท่าน​ก็​ไม่​ต่างกัน​เท่าไร​ ​บุรุษ​เป่ย​จิ้ง​ของ​พวกเรา​ไม่​จอมปลอม​เช่น​พวก​ท่าน​หรอก​นะ​ ​บุรุษ​ทุกคน​ล้วน​ดีงาม​เช่นเดียวกับ​ติ้ง​อ๋อง​ทั้งสิ้น​”

​เมื่อ​เห็น​ว่า​ม่อ​ซิว​เหยา​กับ​เยี​่ย​หลีกำ​ลัง​จะ​เดินผ่าน​ร้าน​ที่​พวกเขา​อยู่​ไป​แล้ว​ ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​ก็​ลุกขึ้น​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​ยิ้มแย้ม​ลง​ไป​ทาง​ด้านล่าง​ว่า​ ​“​ติ้ง​อ๋อง​ ​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​…​”

​ที่​ด้านล่าง​ ​พอ​เยี​่ย​หลีกั​บม​่อ​ซิว​เหยา​เงยหน้า​ขึ้น​ก็​เห็น​หน้าตายิ​้ม​แย้ม​ของ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​ที่​โบกมือ​เรียก​พวกเขา​อยู่​ ​แน่นอน​ว่ายั​งมี​สีหน้า​ที่​ไม่​สู้​ดีนัก​ของ​เห​ริน​ฉี​หนิง​และ​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่​ยด​้วย​ ​ก่อนหน้านี้​เห​ริน​ฉี​หนิง​ร่วม​เป็น​พันธมิตร​กับ​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่ย​ใน​การ​เป็นปฏิปักษ์​กับ​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​ ​เมื่อยา​มนี​้​ทั้งสอง​มาป​รากฏ​ตัว​อยู่​ด้วยกัน​ใน​โรงน้ำชา​จึง​ไม่​ทำให้​รู้สึก​แปลกใจ​นัก​ ​แต่​การ​ที่​พวกเขา​มา​พบ​เจอกัน​ใน​เมือง​หลี​ที่อยู่​ภายใต้​สายตา​ของกอง​ทัพ​ตระกูล​ม่อ​เช่นนี้​ ​ก็​ออกจาก​ไม่เห็น​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​อยู่​ใน​สายตา​อยู่​บ้าง

​มุม​ปาก​เยี​่ย​หลี​ยก​ยิ้ม​เป็น​รอยยิ้ม​บาง​ๆ​ ​พยักหน้า​พลาง​เอ่ย​กับ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​ด้วย​สีหน้า​ยิ้มแย้ม​ว่า​ ​“​พระ​ชายา​ก็​อยู่​ที่นี่​ด้วย​หรือ​ ​ช่าง​บังเอิญ​เสีย​จริง​”​ ​ราชี​นี​เห่อ​หลัน​โน้มตัว​พิง​หน้าต่าง​พลาง​เอ่ย​กลั้ว​หัวเราะ​ว่า​ ​“​ติ้ง​อ๋อง​กับ​พระ​ชายา​ออกมา​เดินเล่น​หรือ​ ​ขึ้น​มานั​่ง​เล่น​ด้วยกัน​ดี​หรือไม่​”

​“​น้อม​รับ​ด้วยความยินดี​”​ ​เยี​่ย​หลี​อมยิ้ม​พลาง​ตอบรับ​ ​จูง​ม่อ​ซิว​เหยา​ให้​เดิน​เข้าไป​ใน​โรงน้ำชา

​ทั้งสอง​เพิ่ง​ก้าว​เข้ามา​ใน​ร้าน​ ​หลง​จู๊​ของ​โรงน้ำชา​ก็​ออกมา​ต้อนรับ​ด้วย​ความตื่นเต้น​ยินดี​ ​ถึงแม้​ติ้ง​อ๋อง​กับ​พระ​ชายา​จะ​อยู่​ใน​เมือง​หลี​ ​แต่​ตามปกติ​แล้ว​ทั้งสอง​ท่าน​นี้​ไม่​ค่อย​ออก​ไป​ไหน​มา​ไหน​สัก​เท่าไร​ ​วันนี้​เมื่อ​ทั้งสอง​มา​เป็นเกียรติ​ใน​โรงน้ำชา​เล็ก​ๆ​ ​แห่ง​นี้​ ​ก็​ไม่​แปลกที่​หลง​จู๊​จะ​รู้สึก​ตื่นเต้น​เป็น​ที่​ยิ่ง​ ​เมื่อ​เห็นท่า​ทาง​ตื่นเต้น​ทำตัว​ไม่​ถูก​ของ​หลง​จู๊​แล้ว​ ​เยี​่ย​หลีก​็​อมยิ้ม​ ​พยักหน้า​ให้​พลาง​พูดว่า​ ​“​หลง​จู๊​ไม่ต้อง​สนใจ​พวกเรา​หรอก​ ​พวกเรา​ขึ้นไป​กันเอง​ได้​”​ ​หลง​จู๊​ย่อม​พยักหน้า​หงึกหงัก​ ​พลาง​เหลือบมอง​ติ้ง​อ๋อง​ที่​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​พระ​ชายา​ด้วย​ความระมัดระวัง​ ​การ​ที่​ท่าน​อ๋อง​ถือ​ผลไม้​เคลือบ​น้ำตาล​อยู่​ใน​มือ​อะไร​นั่น​ ​ช่าง​เกินขอบเขต​ที่​ชาวบ้าน​ร้าน​ตลาด​จะ​รับ​ไหว​จริงๆ​ ​เขา​จึง​ไม่กล้า​เข้าไป​ทักทาย​ ​ได้​แต่​ยืน​มอง​เยี​่ย​หลี​จูง​ม่อ​ซิว​เหยา​เดิน​ขึ้น​ชั้นบน​ไป

​คณะ​ของ​เห​ริน​ฉี​หนิง​ไม่ได้​นั่ง​อยู่​ภายใน​ห้องส่วนตัว​ ​แต่​หลง​จู๊​ที่​รู้​ถึง​ฐานะ​ที่​ไม่ธรรมดา​ของ​พวกเขา​ ​จุด​ที่​พวกเขา​นั่ง​อยู่​จึง​เป็น​ส่วน​ที่​ทัศนวิสัย​ดีที​่​สุด​และ​เงียบสงบ​ที่สุด​ใน​โรงน้ำชา​ ​เมื่อมี​ฉาก​บานพับ​ลาย​ภูเขา​และ​สายน้ำ​มากา​งกั​้น​ ​จึง​ยิ่ง​ทำให้​ดูป​ระ​หนึ่ง​แยก​ท้องฟ้า​และ​ผืนดิน​ออกจาก​กัน​ ​ดู​มี​ความเงียบสงบ​ท่ามกลาง​ความวุ่นวาย​ ​เมื่อ​เห็น​ทั้งสอง​คน​เดิน​จับ​จูง​กัน​เข้ามา​ ​สายตา​ของ​เห​ริน​ฉี​หนิง​กับ​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่​ยก​็​มอง​ไป​ที่​มือ​อีก​ข้าง​หนึ่ง​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​โดยไม่รู้ตัว​ ​ถึงแม้​ผลไม้​เคลือบ​น้ำตาล​เมื่อ​ครู่​จะ​ไม่อยู่​ใน​มือ​แล้ว​ ​แต่กระนั้น​ติ้ง​อ๋อง​ที่​ถือ​กล่อง​ขนม​อยู่​ใน​มือ​ ​ก็​ทำให้​รู้สึก​รับ​ไม่ได้​อยู่ดี​ ​ความรู้สึก​นี้​ประหนึ่ง​เทพ​เซียน​ทั้ง​เก้า​ที่​ผู้คน​กราบ​ไว้​บูชา​ ​ออกมา​บอก​ประกาศ​ว่า​ผู้​เป็น​เทพ​ก็​กิน​ดื่ม​ขับถ่าย​เฉกเช่น​ปุถุชน​กระนั้น

​เมื่อ​ต้อง​เผชิญ​กับ​สายตา​แปลกประหลาด​ของ​เห​ริน​ฉี​หนิง​กับ​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่ย​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​กลับ​ไม่เห็น​สายตา​พวกเขา​เป็น​สาระ​ ​เขา​วาง​ขนม​นั้น​ลง​บน​โต๊ะ​ ​ทุกคน​ถึง​ได้​เห็น​ว่า​บน​กล่อง​ยัง​ประทับตรา​ร้านผิ​่น​เหลียน​ไจ​เอาไว้​อีกด้วย​ ​นี่​เป็น​ขนม​ที่​ขึ้นชื่อ​ที่สุด​ของ​เมือง​หลี​ ​ดวงตา​ของ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​เป็นประกาย​ขึ้น​ทันที​ ​“​นี่​เป็น​ขนม​ของ​ร้านผิ​่น​เหลียน​ไจ​หรือ​ ​ขนม​ร้าน​นี้​รสชาติ​ดีมาก​ทีเดียว​ ​ข้า​ไปมา​สองครั​้ง​ยัง​ต้อง​ต่อ​แถว​ยาว​มาก​”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด