ชายาเคียงหทัย 338-2 จุดประสงค์ของพระชายาเห่อหลัน

Now you are reading ชายาเคียงหทัย Chapter 338-2 จุดประสงค์ของพระชายาเห่อหลัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ม่อ​ซิว​เหยา​กับ​เยี​่ย​หลี​แน่นอน​ว่าย​่​อม​ไม่ต้อง​ต่อ​แถว​ ​ต่อให้​พวกเขา​ยินดี​ที่จะ​ต่อ​แถว​ ​แต่​แขก​ที่อยู่​ข้างหน้า​ก็​คง​ให้​เขา​ก่อน​ในทันที​อยู่ดี​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ยิ้มน้อย​ๆ​ ​เอ่ย​ว่า​ ​“​ถูกต้อง​แล้ว​ ​อา​หลีก​็​ชอบ​มาก​เช่นกัน​ ​หาก​พระ​ชายา​ชื่นชอบ​ก็​เชิญ​ชิม​ได้​ตามสบาย​”

​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​ก็​ไม่​เกรงใจ​ ​ยิ้ม​กว้าง​พลาง​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ขอบคุณ​ท่าน​อ๋อง​มาก​แล้ว​ ​ติ้ง​อ๋อง​เป็น​คนดี​จริงๆ​ ​เสียด​้วย​”

​ผู้​ที่นั่ง​อยู่​ต่าง​อด​มุม​ปาก​กระตุก​ขึ้น​มา​ไม่ได้​ ​หาก​ติ้ง​อ๋อง​เป็น​คนดี​…​ใน​ใต้​หล้า​นี้​จะ​ยัง​มี​คน​ไม่ดี​อยู่​สัก​กี่​คน​กัน​ ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​ประหนึ่ง​ไม่​สังเกตเห็น​ถึง​สายตา​ของ​ผู้อื่น​ ​หยิบ​ขนม​ขึ้น​มากิน​ด้วย​สีหน้า​เปี่ยมสุข​ ​และ​แน่นอน​ว่านาง​ไม่ลืม​ที่จะ​แบ่ง​ขนม​ครึ่งหนึ่ง​ให้​กับ​ผู้​เป็นเจ้าของ​ขนม​กล่อง​นี้​ด้วย

​“​แค่​ชั่วเวลา​เพียง​ไม่​กี่​ปี​ ​เมือง​หลีก​็​รุ่งเรือง​ถึง​เพียงนี้​แล้ว​ ​ติ้ง​อ๋อง​กับ​พระ​ชายา​ช่าง​ปกครอง​ได้ดี​จริงๆ​”​ ​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่ย​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ ​งาน​อายุ​ครบ​ขวบ​ปี​ของ​ม่อ​ตัว​น้อย​ใน​ครั้งนั้น​ ​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่​ยก​็​ได้มา​ร่วมงาน​ด้วย​ ​แน่นอน​ว่าย​่​อม​เห็น​ความเปลี่ยนแปลง​ของ​เมือง​หลี​ใน​ช่วง​หลาย​ปีนี​้​อย่างชัดเจน​ ​เมือง​หลี​ใน​ยาม​นี้​สามารถ​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​เมือง​ที่​รุ่งเรือง​ที่สุด​ใน​ใต้​หน้า​แล้วก็​ว่า​ได้​ ​เป่ย​หรง​ยากจน​ข้นแค้น​ ​คน​เป่ย​หรง​ล้วน​อาศัย​อยู่​ตาม​ทุ่งหญ้า​ริมแม่น้ำ​ ​แม้​จะ​มีตัว​เมือง​อยู่​บ้าง​แต่​ขนาด​ก็​ไม่​ใหญ่​นัก​ ​เมือง​เป่ย​หร​งอ​๋​อง​ที่​รุ่งเรือง​ที่สุด​ของ​เป่ย​หร​งก​็​ไม่แน่​ว่า​จะ​สู้​เมือง​รอง​ของ​จง​หยวน​ได้​ ​ดังนั้น​ความเจริญรุ่งเรือง​ของ​จง​หยวน​จึง​ทำให้​คน​เป่ย​หรง​เกิด​ความอิจฉา​ริษยา​เหลือประมาณ​ ​ถึงแม้​ทุกวันนี้​เป่ย​หรง​จะ​มี​เมือง​ของ​ต้า​ฉู่​ที่​บุก​ยึด​มา​ได้​อยู่​ใน​มือ​ ​แต่กระนั้น​คน​เป่ย​หรง​ที่ทำการ​ทำศึก​ได้​องอาจ​ห้าวหาญ​ไม่มี​ผู้ใด​เทียม​ ​เรื่อง​การปกครอง​บ้านเมือง​กลับ​อาศัย​เพียง​ความสามารถ​ใน​การทำศึก​ไม่ได้​ ​เมือง​ที่​แต่เดิม​ก็​ถือว่า​ไม่เลว​นัก​ ​พอ​ไป​อยู่​ใน​มือ​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่​ยก​็​กลับ​ถดถอย​ลง​ ​และ​ค่อยๆ​ ​เสื่อมถอย​ไปรา​วกับ​พระอาทิตย์ตกดิน

​ม่อ​ซิว​เหยา​เอ่ย​เรียบๆ​ ​ว่า​ ​“​องค์​ชาย​เจ็ด​กล่าว​ชม​ผิด​ไป​แล้ว​ ​หาก​เทียบ​กับ​ต้า​ฉู่​หรือ​เจียง​หนาน​ ​ซี​เป่ย​ยัง​ถือว่า​ข้นแค้น​อยู่​มาก​ ​ข้า​ก็​เพียง​ทำ​สุด​ความสามารถ​เท่านั้น​”

​บุรุษ​ทั้งสอง​ต่าง​ไม่เห็นด้วย​กับ​ถ้อยคำ​ถ่อมตน​ของ​เขา​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ตั้งมั่น​อยู่​ที่​เจียง​หนาน​ ​ต่อให้​มั่งคั่ง​รุ่งเรือง​เพียงใด​ ​แต่​ของ​ที่​ตก​อยู่​ใน​ภาวะ​อันตราย​อย่างไร​ก็​ไม่​อาจ​ถือว่า​มีอยู่​ได้​ ​ไม่​เหมือนกับ​ม่อ​ซิว​เหยา​ ​อย่างน้อย​ใน​ชั่ว​ระยะเวลา​อัน​สั้น​ ​ก็​ไม่มีใคร​กล้า​แย่ง​ของ​ที่อยู่​ใน​มือ​เขา​ไป​ ​ถึงแม้​หลาย​วันนี้​ชนชั้นสูง​และ​ผู้มีอิทธิพล​จาก​แต่ละ​แคว้น​จะ​ไม่​ค่อย​ไปหา​มาสู่​กัน​เพื่อ​หลีกเลี่ยง​เรื่อง​วุ่นวาย​และ​เป็นการ​ให้เกียรติ​แก่​เจ้าบ้าน​ ​แต่​ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​ก็​มี​แหล่งข่าว​เป็น​ของ​ตนเอง​ ​อย่างน้อย​ๆ​ ​ใน​ตอนนี้​ซี​หลิง​ที่​ถึงแม้​จะ​สูญเสีย​พื้นที่​ขนาดใหญ่​ไป​ ​แต่​ก็​ยึด​พื้นที่​จาก​ต้า​ฉู่​กลับมา​ชดเชย​ได้​บางส่วน​และ​ยังคง​แข็งแกร่ง​ห้าวหาญ​ ​แต่กระนั้น​ก็​ยัง​ไม่มี​ทีท่า​ว่า​จะ​ยั่วยุ​ม่อ​ซิว​เหยา​ใน​ตอนนี้​ ​เหลย​เจิ​้น​ถิง​เบน​เป้าหมาย​ไป​ยัง​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ที่​ยึดครอง​เจียง​หนา​นอยู​่​แทน​ ​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​แล้ว​ ​หาก​พวกเขา​คิด​จะ​วัด​กำลัง​กับ​ม่อ​ซิว​เหยา​ก็​ยิ่ง​ต้อง​ไตร่ตรอง​ให้​ดี​ ​ยัง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ว่า​จะ​รบ​ชนะ​ได้​หรือไม่​ ​แต่​หาก​กลายเป็น​ไป​สร้าง​ประโยชน์​ให้​ผู้อื่น​ ​เช่นนั้น​ก็​คงจะ​ได้​ไม่​คุ้ม​เสีย

​ส่วน​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่​ยก​็​ยัง​ไม่​คิด​จะ​เปิดศึก​กับ​ม่อ​ซิว​เหยา​ใน​ตอนนี้​ ​ใน​แคว้น​เป่ย​หรง​เอง​มี​ข่าวคราว​ความเคลื่อนไหว​ของ​พี่ชาย​รัชทายาท​ของ​เขา​ออกมา​เป็นระยะๆ​ ​กอปร​กับ​ช่วงนี้​การศึก​กับ​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​ก็​กำลัง​อยู่​ใน​ช่วง​ตึงเครียด​ ​ซึ่ง​เรื่อง​นี้​ทำให้​ใน​หัว​เขา​ก่อนหน้านี้​ที่​ถูก​ชัยชนะ​กล่อม​จน​มึนงง​ไป​หมด​ ​ได้​มีสติ​ชัดเจน​ ​เข้าใจ​อะไร​กระจ่างแจ้ง​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​หาก​ภายใน​แคว้น​ถูก​พี่ชาย​รัชทายาท​ของ​เขา​ครองอำนาจ​ไป​ได้​แล้ว​ ​การ​ที่​เขา​อยู่​แนวหน้า​แล้ว​รบ​ชนะ​ม่อ​ซิว​เหยา​ได้​ครั้ง​หรือ​สองครั​้ง​นั้น​ก็​หา​ได้​มีประโยชน์​อัน​ใด​ไม่​ ​นอก​เสีย​จาก​ว่า​เขา​สามารถ​กำจัด​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​จน​สิ้นซาก​ได้​ ​มิเช่นนั้น​แล้วก็​มี​แต่​จะ​เสียกำลัง​ของ​ตนเอง​ไป​โดย​เปล่าประโยชน์​ ​ยิ่ง​เมื่อ​คิดถึง​ความปรองดอง​ของ​เยีย​หลี​่ว​์​หงกับ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ที่​ดีกว่า​ตน​อยู่​มาก​แล้ว​ ​ใน​ใจ​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่​ยก​็​พลัน​สั่น​ไหว​ ​สายตา​ที่​มอง​ม่อ​ซิว​เหยา​จึง​ดูกระ​จ่าง​แจ้ง​และ​ล้ำลึก​ขึ้น​หลาย​ส่วน​ ​“​ติ้ง​อ๋อง​ ​ข้ามี​เรื่อง​อยาก​เจรจา​กับ​ติ้ง​อ๋อง​สักหน่อย​ ​ท่าน​คิดเห็น​เช่นไร​”

​“​เจรจา​หรือ​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ประหนึ่ง​ได้ยิน​เรื่อง​น่าขัน​ ​“​องค์​ชาย​เจ็ด​ ​ทัพ​ใหญ่​หลาย​แสนนาย​ของ​ท่าน​ยัง​จับจ้อง​ตาเป็นมัน​อยู่​ที่​ชายแดน​อยู่​เลย​ ​ท่าน​บอกว่า​จะ​เจรจา​กับ​ข้า​อย่างนั้น​หรือ​”

​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่ย​เอ่ย​กลั้ว​หัวเราะ​อย่าง​ไม่ถือสา​ว่า​ ​“​พวก​เจ้า​จง​หยวน​มีคำ​พูด​ประโยค​หนึ่ง​ที่ว่า​ ​ไม่มี​มิตรแท้​ที่​จีรัง​ ​ผลประโยชน์​เท่านั้น​ถึง​ยั่งยืน​ ​เช่นเดียวกัน​ ​ก็​ไม่มี​ศัตรู​ที่​ถาวร​เช่นกัน​มิใช่​หรือ​”

​ม่อ​ซิว​เหยา​เลิก​คิ้ว​ ​“​ก็​ฟัง​ดู​มีเหตุผล​ ​องค์​ชาย​เจ็ด​เชิญ​พูด​มา​ได้​เลย​”​ ​เห​ริน​ฉี​หนิง​ที่นั่ง​อยู่​ตรงข้าม​พอ​เห็น​ว่า​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่ย​ถึงขั้น​บอกว่า​ต้องการ​เจร​จร​กับ​ม่อ​ซิว​เหยา​ต่อหน้า​ตน​ ​สีหน้า​พลัน​ย่ำแย่​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​ถึงอย่างไร​เป่ย​จิ้ง​กับ​เป่ย​หรง​ต่างหาก​ที่​เป็น​พันธมิตร​กัน​ ​แน่นอน​ว่า​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่​ยก​็​ย่อม​ไม่ต้องการ​ทำให้​เห​ริน​ฉี​หนิง​ไม่พอใจ​ ​จึง​อมยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ ​“​อันที่จริง​เรื่อง​นี้​ล้วน​มี​ข้อดี​สำหรับ​ทุกท่าน​ ​ไม่รู้​ว่า​เป่ย​จิ้ง​อ๋อง​สนใจ​หรือไม่​”

​เห​ริน​ฉี​หนิง​เอ่ย​เรียบๆ​ ​ว่า​ ​“​รับฟัง​ด้วย​ความเคารพ​”

​ที่​ข้าง​กาย​เขา​ ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​บุรุษ​อย่าง​พวก​ท่าน​นี่​อย่างไร​กัน​นะ​ ​ไม่ได้​บอกว่า​ออกมา​เที่ยวเล่น​หรอก​หรือ​ ​พอ​มานั​่​งอยู​่​ด้วยกัน​ก็​เอ่ย​เรื่อง​น่าเบื่อหน่าย​เช่นนี้​ขึ้น​มา​อีกแล้ว​ ​ข้า​ไม่​อยาก​ฟัง​พวก​ท่าน​คุย​เรื่องไร้สาระ​พวก​นี้​กัน​หรอก​นะ​”​ ​ได้ยิน​อย่างนั้น​ ​เห​ริน​ฉี​หนิง​ก็​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​ด้วย​ความไม่พอใจ​ว่า​ ​“​ถ้าเช่นนั้น​ ​พระ​ชายา​ก็​เชิญ​กลับ​โรงพัก​ม้า​ไป​ก่อน​เถิด​”

​“​กลับ​อัน​ใด​กัน​ ​ข้า​ยัง​เที่ยวเล่น​ไม่​หนำใจ​เลย​”​ ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​เอ่ย​ขัด​เขา​อย่าง​ไม่​เกรงใจ​สักนิด​ ​และ​ทำให้​สีหน้า​เห​ริน​ฉี​หนิง​ย่ำแย่​ลง​ได้​สำเร็จ​ ​เยี​่ย​หลี​ลุก​ยืน​พลาง​ยิ้มน้อย​ๆ​ ​เอ่ย​ว่า​ ​“​ถ้าเช่นนั้น​ ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​ออก​ไป​เดินเล่น​กับ​ข้า​ดี​หรือไม่​ ​ข้า​จะ​ได้​ทำหน้าที่​เจ้าบ้าน​ที่​ดีด​้วย​”​ ​ดวงตา​ของ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​พลัน​เป็นประกาย​ ​เข้าไป​จับ​แขน​เยี​่ย​หลี​ด้วยความยินดี​ ​“​พระ​ชายา​จะ​พา​ข้า​ไป​เดินเล่น​ที่ไหน​หรือ​ ​ใน​เมือง​หลี​มี​คน​อยู่​มากมาย​ ​มีสิ​่ง​ของ​ที่​น่าสนใจ​อยู่​ไม่น้อย​ ​ข้า​อยาก​ซื้อ​กลับ​ไป​สักหน่อย​”​ ​เยี​่ย​หลี​ยิ้มน้อย​ๆ​ ​เอ่ย​ว่า​ ​“​ไว้​คราว​พระ​ชายา​จะ​กลับ​ ​ท่าน​ชอบ​สิ่งใด​ ​ข้า​จะ​ให้​คน​นำ​ไป​ให้ท่าน​ดี​หรือไม่​”

​“​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​ท่าน​ช่าง​เป็น​คนดี​จริงๆ​ ​พวกเรา​รีบ​ไป​กัน​เถิด​!​ ​พูด​จบ​ก็​ไม่สน​ใจ​ปฏิกิริยา​ของ​คนอื่นๆ​ ​อีก​ ​จูง​เยี​่ย​หลี​ลง​ไป​ข้างล่าง​ด้วย​ความตื่นเต้น​ทันที​ ​เยี​่ย​หลี​หันไป​โบกมือ​ให้​ม่อ​ซิว​เหยา​เป็น​สัญญาณ​ว่า​ไม่เป็นไร​ ​แล้วจึง​ตาม​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​เดินลง​ไป​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​มองดู​จาก​หน้าต่าง​จน​เห็น​ว่า​องครักษ์​ที่อยู่​ด้านล่าง​โรงน้ำชา​ติดตาม​พวก​นาง​ไป​แล้ว​ถึง​ได้​นั่งลง​ด้วย​ความ​วางใจ

​“​ความรัก​ลึกซึ้ง​ที่​ท่าน​อ๋อง​มีต​่​อร​พะ​ชายา​ช่าง​น่าอิจฉา​ยิ่งนัก​”​ ​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​จ้องหน้า​ม่อ​ซิว​เหยา​ ​พูด​ขึ้น​พลาง​กัดฟัน​กรอด​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ม่อ​ซิว​เหยา​ยังคง​หล่อเหลา​ใน​เส้น​ผม​สีขาว​และ​มีสง่าราศี​อย่างยิ่งยวด​ ​ใน​ใจ​หลิ่ว​กุ้ย​เฟ​ยก​็​โกรธ​เกลียด​เจ็บปวดรวดร้าว​ราวกับ​มี​งูพิษ​เข้ามา​ฉก​กัด​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​อายุ​มากกว่า​นาง​อยู่​ปี​หรือ​สอง​ปี​ ​หาก​เมื่อ​สอง​ปีก่อน​ทั้งสอง​ยัง​ดู​อายุ​ต่างกัน​ไม่​มาก​แล้ว​ ​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​ใน​ยาม​นี้​หาก​ดึง​ผ้า​ปิดหน้า​ออก​ ​ถึงแม้​ความงดงาม​ยังคง​มีอยู่​ ​แต่​หากว่า​ด้วย​เรื่อง​อายุ​แล้ว​ ​คงจะ​ดู​มากกว่า​ม่อ​ซิว​เหยา​อยู่​หลาย​ปี​ทีเดียว

​ม่อ​ซิว​เหยา​ทำ​ประหนึ่ง​ไม่ได้​ยิน​ ​ก้มหน้า​ลง​จิบ​ชาก​่อน​เอ่ย​กับ​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี่ยว​่า​ ​“​ต้องการ​เจรจา​สิ่งใด​ ​องค์​ชาย​เยีย​หลี​่ว​์​เชิญ​กล่าว​มา​ได้​เลย​”

​สตรีที​่​ถูก​เมินเฉย​ ​ใบหน้า​งดงาม​ที่อยู่​ภายใต้​ผ้า​ปิดหน้า​พลัน​เปลี่ยนเป็น​บิดเบี้ยว​และ​ดุดัน

​ร้าน​ขาย​เครื่องประดับ​ชื่อ​ร้าน​เฟิง​หวา​ใน​เมือง​ซึ่ง​อยู่​ห่าง​จาก​โรงน้ำชา​ไป​ไม่​ไกล​ ​ภายใน​ห้องส่วนตัว​บน​ชั้นสอง​ที่​เงียบสงบ​ ​เยี​่ย​หลีกับ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​นั่ง​อยู่​ตรงข้าม​กัน​ ​เยี​่ย​หลี​ชิม​ชา​ใหม่​ที่​หลง​จู๊​เพิ่ง​นำเข้า​มา​ให้​ด้วย​ท่าที​สบาย​ๆ​ ​พลาง​อมยิ้ม​มอง​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​หยิบ​เครื่องประดับ​หลากหลาย​ประเภท​บน​โต๊ะ​ขึ้น​มาดู​เล่น​ด้วย​ความสนใจ​ ​พักใหญ่​ ​เยี​่ย​หลี​ถึง​ได้​เอ่ย​ถาม​ขึ้น​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​มีสิ​่ง​ใด​ที่​ต้องการ​พูด​กับ​ข้า​หรือไม่​”

​ได้ยิน​อย่างนั้น​ ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​ถึง​ได้​วาง​เครื่องประดับ​ใน​มือ​ลง​แล้ว​เงยหน้า​ขึ้น​ ​รอยยิ้ม​ด้วย​ความใคร่​รู้ที​่​เดิมที​ประดับ​อยู่​บน​ใบหน้า​ค่อยๆ​ ​มลาย​หาย​ไป​ ​สิ่ง​ที่​เข้ามา​แทนที่​คือ​ความ​แหลมคม​และ​เยือกเย็น​ของ​สตรี​เป่ย​จิ้ง​ ​และ​ความเด็ดเดี่ยว​แน่วแน่​อย่างที่​น้อย​นัก​จะ​พบเห็น​ใน​สตรี​จง​หยวน​ ​ความเปลี่ยนแปลง​ที่เกิด​ขึ้น​อย่างกะทันหัน​นี้​ ​ทำให้​สตรี​สาว​ที่​เดิมที​ดู​เย่อหยิ่ง​จองหอง​ ​พลัน​มีสง่าราศี​มากขึ้น​หลาย​ส่วน​ ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​ยิ้ม​พร้อม​พยักหน้า​ ​“​ข้า​รู้อยู่​แล้ว​เชียว​ว่า​คง​ปิด​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​ไม่ได้​”

​เยี​่ย​หลี​ยิ้มน้อย​ๆ​ ​เอ่ย​ว่า​ ​“​ตั้งแต่​วัน​แรก​ที่มา​ถึง​ท่าน​ก็​แสดงท่าที​เป็นมิตร​ต่อ​ข้า​ ​หาก​ข้าม​อง​ไม่​ออกจะ​ไม่​ทำให้​พระ​ชายา​ผิดหวัง​หรอก​หรือ​ ​เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​พระ​ชายา​มีเรื่อง​อัน​ใด​ที่​จำต้อง​หลบ​เป่ย​จิ้ง​อ๋อง​ออกมา​พูดคุย​กัน​เป็นการ​ส่วนตัว​เช่นนี้​”​ ​พระ​ชายา​เห่อ​หลัน​มอง​ลึก​เข้าไป​ใน​แววตา​ของ​เยี​่ย​หลี​ ​ก่อน​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ว่า​ ​“​ข้า​ต้องการ​ร่วมมือ​กับ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ ​ไม่​สิ​ ​ควรจะ​กล่าวว่า​…​คน​ของ​เป่ย​จิ้ง​เรา​ต้องการ​ร่วมมือ​กับ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด