ชายาเคียงหทัย 340-1 ไม่พบไม่รู้จัก

Now you are reading ชายาเคียงหทัย Chapter 340-1 ไม่พบไม่รู้จัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อม​อง​ดู​เยี​่​ยอิ​๋ง​จากไป​อย่างไร​้​เยื่อใย​ ​ต่อให้​เยี​่ย​เย​่ว​์​คิด​อยาก​ตาม​ไปรั​้ง​นาง​ไว้​เพียงใด​ ​แต่​ด้วย​บาดแผล​ที่​มีอยู่​ทั่ว​ตัว​ก็​ทำให้​นาง​เจ็บปวด​จน​ไม่​อาจ​ขยับเขยื้อน​ตัว​ได้​อย่างใจ​คิด​ ​ทำได้​เพียง​กอด​บุตรชาย​ที่​สิ้นสติ​ไป​แล้ว​ไว้​ใน​อ้อมแขน​พลาง​ร้องไห้​โฮ​ออกมา​ด้วย​ความเจ็บปวด​ใจ​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​นาง​ไม่ยอม​แพ้​คิด​อยาก​อาศัย​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ให้​ได้​ฐานะ​ที่สูง​ส่ง​ยิ่งขึ้น​กว่า​เดิม​ ​นาง​จะ​มาต​กอยู​่​ใน​สถานการณ์​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​ ​แต่กระนั้น​ต่อให้​นาง​นึก​เสียใจ​มาก​เพียงใด​ก็​ไม่​อาจ​ย้อน​เวลา​กลับ​ไป​ได้​อีกแล้ว

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ​ภายใน​เรือน​ที่​ห่างไกล​ที่สุด​ของ​จวน​เยี​่​ยก​็​เกิด​ไฟ​ลุก​โหมกระหน่ำ​ขึ้น

ที่​เรือน​หน้า​ ​เยี​่ย​เหวิน​หวา​ ​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​และ​เยี​่ย​หวัง​ซื่อ​กำลัง​ยืน​ส่ง​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ที่​หน้า​ประตู​ด้วย​สีหน้า​เกรงอกเกรงใจ​ ​ถึงแม้​ใบหน้า​เยี​่ย​เหวิน​หวา​จะ​ดู​เกรงใจ​ ​แต่​ใน​ใจ​กลับ​อยาก​ให้​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ไม่ต้อง​มาป​รากฏ​ตัว​ที่​นี้​อีก​นับแต่​นี้​เป็นต้นไป​ ​เดิมที​การ​ที่​ม่อ​จิ​่ง​หลีก​ลับ​ไป​แล้ว​ย้อนกลับ​มา​อีก​ ​ทั้ง​ยัง​ต้องการ​ขอ​พบ​เยี​่ย​เย​่ว​์​นั้น​ ​เขา​ไม่เห็น​ดีด​้วย​ ​แต่​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กลับ​ไม่​ยินยอม​ ​จะ​ต้อง​ให้​หลี​อ๋อง​ไป​พบ​หน้า​เยี​่ย​เย​่ว​์​อีกครั้ง​ให้​จง​ได้​ ​ใน​ตอนนั้น​เมื่อ​ได้​เห็น​สีหน้า​บึ้งตึง​ของ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ ​กับ​ท่าทาง​ผิดหวัง​ของ​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​และ​หวัง​ซื่อ​แล้ว​ ​เยี​่ย​เหวิน​หวา​ก็​ไม่รู้​ว่า​ควร​พูด​อัน​ใด​อีก

“​นายท่าน​ ​แย่​แล้ว​ขอรับ​!​ ​ไฟไหม้​ที่​เรือน​หลัง​ขอรับ​!​”​ ​ที่​ด้านหลัง​ ​มีบ​่า​ววิ​่​งก​ระ​หืด​กระ​หอบ​เข้ามา​ร้องเรียก​ด้วย​ความร้อนรน​ ​เยี​่ย​เหวิน​หวา​อึ้ง​งัน​ไป​ ​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​ไฟไหม้​ที่ไหน​”

บ่าว​ตอบ​ว่า​ ​“​ที่​…​เรือน​ที่​เมื่อ​ครู่​หลี​อ๋อง​กับ​พระ​ชายา​เพิ่ง​ไปมา​ขอรับ​”​ ​คำตอบ​เช่นนี้​แปลกประหลาด​มาก​ ​หาก​บอกว่า​เป็น​เรือน​ที่​ขัง​คุณหนู​รอง​อยู่​ ​อาจจะ​ยัง​ไม่มีใคร​คิด​โยง​ไป​ถึง​ตัว​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ ​แต่​คำตอบ​ที่ว่า​ ​เรือน​ที่​หลี​อ๋อง​กับ​พระ​ชายา​เพิ่ง​ไปมา​เช่นนี้​ ​หลี​อ๋อง​ออกจาก​เรือน​ได้​ไม่เท่าไร​ ​ไฟ​ก็​เกิด​ลุกขึ้น​มา​เสีย​แล้ว​ ​ต่อให้​เป็น​คนที​่​ซื่อบื้อ​เพียงใด​ก็​ต้อง​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​หลี​อ๋อง​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย

ทุกคน​หัน​มอง​ไป​ ​แล้วก็​เห็น​ควัน​พวยพุ่ง​ขึ้น​มาจาก​ทางเรือน​หลัง​จริงๆ

หวัง​ซื่อ​กรีดร้อง​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เย​่ว​์​เอ๋อร​์​”

เยี​่ย​เหวิน​หวา​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ว่า​ ​“​ยัง​ไม่​รีบ​ให้​คน​ไป​ดับไฟ​อีก​!​”​ ​พูด​จบ​ก็​ไม่สน​ใจ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ ​หันไป​ประสานมือ​ให้​ม่อ​จิ​่ง​หลี​เร็ว​ๆ​ ​ที​หนึ่ง​แล้ว​หมุนตัว​ออก​ไป​ทางเรือน​หลัง​ทันที​ ​หวัง​ซื่อ​พอ​เรียก​สติก​ลับ​มา​ได้​ ​ก็​วิ่ง​ตาม​เยี​่ย​เหวิน​หวา​ไป​ที่​เรือน​หลัง​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ที่​ยืน​สีหน้า​เคร่งขรึม​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​ ​กวาดตา​มอง​เยี​่​ยอิ​๋ง​ที่อยู่​ข้าง​กาย​ตน​ที​หนึ่ง​ ​แล้ว​พูดเสี​ยง​ขรึม​ขึ้น​ว่า​ ​“​กลับ​โรงพัก​ม้า​”​ ​เยี​่​ยอิ​๋ง​พยักหน้า​อย่างว่า​ง่าย​ ​“​เพ​คะ​ ​ท่าน​อ๋อง​”

ชั่วพริบตา​ ​ตรง​ปาก​ประตู​ที่​เดิม​ยัง​มี​ความคึกคัก​อยู่​บ้าง​พลัน​เงียบเป็นเป่าสาก​ ​เยี​่ยฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ยังคง​ตั้งตัว​ไม่​ถูก​ ​ได้​อย่างไร​…​เป็น​เช่นนี้​ได้​อย่างไร

ข่าว​ที่​จวน​เยี​่ย​ไฟไหม้​แพร่​ไป​ถึง​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เพียงแค่​ยิ้ม​อย่าง​เย็นชา​ ​“​ครานี​้​แน่ใจ​นะ​ว่า​ ​ว่า​ผู้หญิง​คน​นั้น​จะ​ไม่​จัดฉาก​แกล้ง​ตาย​อีก​”

อาจิ​่​นที​่​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​พยักหน้า​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ ​“​ท่าน​อ๋อง​โปรด​วางใจ​ ​อาจิ​่น​ไป​ตรวจสอบ​มาด​้วย​ตนเอง​ ​เป็น​เยี​่ย​เย​่ว​์​แน่นอน​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ยิ้ม​ด้วย​ความพอใจ​ ​“​ดีมาก​ ​เจ้า​เพิ่ง​กลับมา​ก็​ให้​เจ้า​ไป​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​เสีย​แล้ว​ ​ลำบาก​เจ้า​แล้ว​ ​กลับ​ไป​พบ​อาม​่อ​เถิด​”​ ​อาจิ​่​นพ​ยัก​หน้า​ ​แล้ว​หมุนตัว​ไป​โดย​ไม่​ถาม​อะไร​ให้​มากความ​อีก​เลย​ ​แล้ว​ทันใดนั้น​ก็ได้​ยิน​เสียง​ม่อ​ซิว​เหยา​ดัง​ตามหลัง​มา​ว่า​ ​“​เรื่อง​นี้​ไม่ต้อง​ไป​บอก​พระ​ชายา​ล่ะ​”

อาจิ​่น​ชะงัก​ไป​เล็กน้อย​ ​ก่อน​จะ​เดิน​ต่อไป​ ​ท่าน​อ๋อง​คง​คิด​ว่า​เรื่องเล็ก​น้อย​เช่นนี้​ไม่จำเป็น​ต้อง​รายงาน​พระ​ชายา​กระมัง

ภายใน​ห้อง​หนังสือ​มี​เพียง​ความ​เงียบสงัด​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​มอง​จดหมาย​ที่​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​ ​ก่อน​จะ​เผย​รอยยิ้ม​ยินดี​ออกมา​ให้​เห็น

ใน​ยาม​นี้​ที่​เรือน​ของ​เยี​่ย​หลีกำ​ลัง​คึกคัก​อย่างมาก​ ​ไม่​เพียง​คณะ​ของ​สวีฮู​หยิน​รอง​กับ​ฉิน​เจิง​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​มีส​วีฮู​หยิน​ใหญ่​ ฮ​ว่า​ฮองเฮา​ ​และ​สหาย​รัก​ที่​มี​มิตร​ไม่​ตรี​ต่อ​เยี​่ย​หลี​อย่างลึกซึ้ง​อย่าง​พวก​มู่​หรง​ถิ​งก​็​มารว​มกั​นอยู​่​ที่นี่​ด้วย​ ​ทั้ง​ยัง​มี​ม่อ​ตัว​น้อย​ ​เห​ลิ่งจ​วิน​หาน​และ​สวี​จือ​รุ่ย​ที่มา​ร่วม​สนุก​ไป​กับ​เขา​ ​รวมถึง​เด็ก​แฝด​ตัว​น้อย​ที่​เพิ่ง​อายุ​ครบ​เดือน​ได้​ไม่เท่าไร​ก็​มารว​มอยู​่​ที่นี่​ด้วย​เช่นกัน

อีก​สอง​วัน​ก็​จะ​เป็น​วันฉลอง​วันเกิด​ของ​ท่าน​ชิง​อวิ​๋น​ ​ภายใน​เมือง​หลี​สิ่ง​ที่​ควร​จัดเตรียม​ก็​จัดเตรียม​ไว้​อย่าง​พรักพร้อม​แล้ว​ ​เพื่อ​งาน​นี้​ ​คน​ของ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ทั้ง​นาย​และ​บ่าว​ต่าง​ยุ่ง​วุ่นวาย​กัน​อยู่นาน​พอสมควร​ ​แต่​พอ​ถึงคราว​ใกล้​จะ​ถึง​วัน​งาน​ขึ้น​มา​จริงๆ​ ​กลับ​ว่างงาน​ขึ้น​มา​เสีย​อย่างนั้น​ ​คณะ​สตรีทั​้ง​หลาย​จึง​พากั​นมา​รวมตัว​ที่​เรือน​ของ​เยี​่ย​หลี​เพื่อมา​เยี่ยมเยียน​ซาลาเปา​น้อย​สอง​ก้อน​ ​สวีฮู​หยิน​ทั้งสอง​ใน​มือ​ต่าง​อุ้ม​ทารก​อยู่​คนละ​คน​ ​พอ​เห็น​ตุ๊กตา​ตัว​น้อย​ที่​เนื้อ​แน่น​อม​ชมพู​ ​ก็​ยิ่ง​เอ็นดู​เสีย​จน​ไม่​อยาก​วาง​ ​ตระกูล​สวี​รุ่น​นี้​จนถึง​บัดนี้​ยัง​มี​เพียง​สวี​จือ​รุ่ย​ที่​เป็น​เด็กน้อย​เพียง​คนเดียว​ ฮู​หยิน​ทั้งสอง​พอได้​มา​เห็น​ทารก​ตัว​น้อย​จึง​ย่อม​รักใคร่​เอ็นดู​เป็น​ที่​ยิ่ง​ ​หนำซ้ำ​เด็กน้อย​ทั้งสอง​ตั้งแต่​ลืมตา​ดู​โลก​มาก​็​ฉลาดเฉลียว​ว่านอนสอนง่าย​เป็นพิเศษ​ ​คน​หนึ่ง​เห็น​ใคร​เป็น​ต้อง​ยิ้มแย้ม​ ​ส่วน​อีก​คน​ถึงแม้​จะ​นิ่ง​ขรึม​กว่า​ ​แต่กลับ​ว่านอนสอนง่าย​ ​ถึงขั้น​เลี้ยง​ง่าย​กว่า​ตอน​ม่อ​ตัว​น้อย​เล็ก​ๆ​ ​เสียอีก​ ​แม้แต่​ม่อ​ซิว​เหยา​ยัง​จำต้อง​ยอมรับ​ว่า​ ​เด็ก​สอง​คน​นี้​รวมกัน​แล้ว​ ​ยัง​ไม่​ลำบาก​เท่า​ตอน​ม่อ​ตัว​น้อย​เด็ก​ๆ​ ​เลย​ด้วยซ้ำ

“​เด็กดี​…​หลิน​น้อย​ของ​ข้า​ ​หน้าตา​เจ้า​นี่​ช่าง​…​”​ ​สวีฮู​หยิน​ใหญ่​เอ็นดู​เสี่ยว​หลิน​เอ๋อร​์​เป็น​เพิ​เศษ​ ​เมื่อ​ได้​อุ้ม​แล้ว​เป็น​ไม่ยอม​วาง​ทุก​ครา​ไป​ ​ถึงแม้​ยัง​เป็น​เพียง​เด็ก​ตัว​น้อย​ ​แต่กลับ​มองออก​อย่างชัดเจน​ว่า​เสี่ยว​หลิน​เอ๋อร​์​หน้าตา​ค่อน​ไป​ทางบ้าน​ตระกูล​สวี​มากกว่า​อยู่เล็ก​น้อย​ ​สวีฮู​หยิน​ใหญ่​ที่​จนแล้วจนรอด​ก็​ยัง​ไม่ได้​อุ้ม​หลาน​ของ​ตนเอง​เสียที​จึง​ย่อม​เอ็นดู​เด็กน้อย​ผู้​นี้​มาก​เป็นพิเศษ​ ​สวีฮู​หยิน​รอง​ก็​เอ็นดู​เสี่ยว​ซิน​เอ๋อร​์​ที่อยู่​ใน​มือ​ตน​เช่นกัน​ ​ถึงแม้นาง​จะ​มี​หลาน​ให้​อุ้ม​แล้ว​ ​แต่กลับ​ยัง​ไม่มี​หลานสาว​ ​อย่า​ว่าแต่​หลานสาว​เลย​ ​ตระกูล​สวี​ยาม​นี้​ไม่มีใคร​ที่​เป็น​ผู้หญิง​เลย​สัก​คน​ ​เมื่อ​ได้มา​เห็น​เด็กสาว​หน้าตา​จิ้มลิ้ม​ว่าง่าย​เช่นนี้​ ​สวีฮู​หยิน​รอง​จึง​รู้สึก​เอ็นดู​นาง​จับใจ

เยี​่ย​หลี​มอง​เด็กน้อย​ตาโต​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​สวีฮู​หยิน​ทั้งสอง​แล้วจึง​คลี่​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ ​“​ท่าน​ป้า​ทั้งสอง​รัก​เด็ก​ถึง​เพียงนี้​ ​เหตุใด​จึง​ไม่​เร่ง​พี่​สาม​กับ​พี่​สี่​ให้​รีบ​แต่งงาน​เล่า​เจ้า​คะ​”

เมื่อ​พูด​เช่นนี้​ออก​ไป​ ฮ​ว่า​เทียน​เซียง​กับ​ม่อ​อู๋​โย​วที​่​นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ ​พลัน​หน้าแดง​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​ม่อ​อู๋​โยว​หน้าแดง​พลาง​หลบ​หลังฮ​ว่า​ฮองเฮา​ ​ส่วนฮ​ว่า​เทียน​เซียง​กลับ​ไม่มี​ที่​ให้​หลบ​ ​ทำได้​เพียง​ถลึงตา​ใส่​เยี​่ย​หลี​ทั้ง​หน้าแดง​ๆ​ ​ที​หนึ่ง​ ​“​หลี​เอ๋อร​์​ ​เจ้า​…​”​ ​ฉิน​เจิง​ปิดปาก​หัวเราะ​เสียง​เบา​ ​“​หลี​เอ๋อร​์​พูด​ถูก​แล้ว​ ​เทียน​เซียง​ ​ข้า​รอ​เจ้า​แต่ง​เข้า​ตระกูล​สวี​มา​เป็นเพื่อน​ข้า​อยู่​เชียว​นะ​”

มู่​หรง​ถิง​ที่​กอด​บุตรชาย​หัวแก้วหัวแหวน​ของ​ตน​อยู่​ ​พูด​พลาง​ยิ้ม​จน​ตาหยี​ว่า​ ​“​ก็​ใช่​น่ะ​สิ​ ​จนจ​วิน​หาน​ของ​ข้า​ใกล้​จะ​ห้า​ขวบ​เต็มที​แล้ว​นะ​”

“​พวก​เจ้า​…​พวก​เจ้า​ช่าง​หน้าไม่อาย​!​”​ ฮ​ว่า​เทียน​เซียง​เขินอาย​จน​กระทืบเท้า​ ​สวีฮู​หยิน​รอง​พอใจ​กับ​ลูกสะใภ้​ในอนาคต​คน​นี้​มาก​ ​พอ​เห็น​นาง​ขัดเขิน​ก็​รีบ​เอ่ยปาก​ขึ้น​ว่า​ ​“​เอาล่ะ​ ​พวก​เจ้า​ก็​ ​มา​พูด​เรื่อง​พวก​นี้​ต่อหน้า​สตรี​สาว​ได้​อย่างไร​ ​ข้า​ ​ท่าน​ลุง​กับ​ท่าน​ตาของ​เจ้า​พูดคุย​ตกลง​กับ​หยางฮู​หยิน​เรียบร้อย​แล้ว​ กั​๋​วกง​ผู้เฒ่า​สละ​ชีพ​เพื่อ​ชาติ​ ​จึง​ไม่​อาจ​จัดงาน​แต่งงาน​ใน​ช่วง​ไว้ทุกข์​ได้​ ​จึง​ต้อง​เลื่อน​งานแต่งงาน​ออก​ไป​เป็น​ปีหน้า​ ​ถึง​ตอนนั้น​ก็​พอดี​ให้​เทียน​เซียง​กับ​อู๋​โยว​แต่ง​เข้า​ตระกูล​สวี​มา​พร้อมกัน​ ​เป็น​ฤกษ์ดี​พร้อมกัน​ไป​เลย​”​ ​อู๋​โย​วอา​ยุ​ยังน้อย​ ​แต่ฮ​ว่า​เทียน​เซียง​กลับ​อายุ​ไม่น้อย​แล้ว​ ​เดิมที​หากแต่​งงาน​ใน​ช่วง​ไว้ทุกข์​ได้​ก็​จะ​ดี​ ​เพียงแต่​ช่วง​นั้น​สวี​ชิง​เฟิ​งก​็​ออก​ไป​ทำศึก​ที่​ฉู่​จิง​ ​อู๋​โย​วจึง​จำต้อง​รอ​ให้​พ้น​ช่วง​ไว้ทุกข์​หนึ่ง​ปี​ไป​ก่อน​ค่อย​ว่า​กัน​ ​สวีฮู​หยิน​รอง​เดิมที​เพียง​นึก​กังวล​ว่า​จะ​หา​ลูกสะใภ้​ที่​เหมาะสม​ไม่ได้​ ​ยาม​นี้​เมื่อ​ได้ตัว​เลือก​มา​แล้ว​ ​จึง​ไม่​ร้อนใจ​เช่นนั้น​อีก​ ​อีกทั้ง​ไว้​รอ​ให้​งาน​วันเกิด​ของ​ท่าน​ชิง​อวิ​๋น​จัด​เสร็จสิ้น​ดี​แล้ว​ ​ค่อย​เริ่ม​เตรียมงาน​ ​ค่อยๆ​ ​ทำ​ไป​เรื่อยๆ​ ​จนถึง​ปีหน้า​ก็​น่าจะ​ใกล้​เรียบร้อย​พอดี

ฮ​ว่า​ฮองเฮา​มอง​หลานสาว​และ​บุตรสาว​ที่​หน้าแดง​ด้วยค​วา​เอ็นดู​ ​การ​ได้​ดอง​กับ​ตระกูล​เช่น​ตระกูล​สวี​นั้น​ ​สำหรับ​พวก​นาง​แล้ว​ถือเป็น​วาสนา​ที่​หา​ได้​ยาก​ยิ่ง​ ​นาง​จึง​วางใจ​ได้​อย่างเต็มที่​ ​ถึงแม้​ชื่อเสียง​ตระกูลฮ​ว่า​จะ​ยิ่งใหญ่​ ​ชาติตระกูล​ก็​สูงส่ง​ ​แต่​ทุกคน​ต่าง​รู้ดี​ว่า​หลังจาก​สิ้นฮ​ว่ากั​๋​วกง​ ​ตระกูลฮ​ว่า​ก็​ถือว่า​ตกต่ำ​แล้ว​ ​ต่อให้​มี​หลาน​ที่​ได้เรื่องได้ราว​ ​แต่​ภายใน​สิบ​หรือ​ยี่สิบ​ปีก​็​เกรง​ว่า​คงจะ​ยัง​กลับมา​ยิ่งใหญ่​ไม่ได้​ ​ตระกูล​สวี​คน​ไม่​มาก​ ​ทั้ง​ยัง​ไม่ได้​ให้ความสำคัญ​กับ​เรื่อง​ชาติตระกูล​นัก​ ฮ​ว่า​เทียน​เซียง​กับ​อู๋​โยว​แต่ง​เข้ามา​จึง​ย่อม​ไม่​ถูก​รัง​เก​แต่อย่างใด

ฮ​ว่า​เทียน​เซียง​ยังดี​หน่อย​ ​นาง​กับ​สวี​ชิง​เฟิง​ต่าง​ถูกใจ​กันและกัน​จึง​ถือว่า​ใจตรงกัน​ทั้งคู่​ ​ส่วน​ม่อ​อู๋​โย​วกั​บส​วี​ชิงปั​๋ว​เกิดขึ้น​ด้วย​น้ำพักน้ำแรง​ของ​สวีฮู​หยิน​ใหญ่​เสียมา​กก​ว่า​ ​หนำซ้ำ​สวี​ชิงปั​๋ว​ยัง​ไม่​เหมือนกับ​สวี​ชิง​เฟิง​ที่​ไม่ว่า​จะ​โกรธ​หรือ​ยินดี​ล้วน​แสดงออก​ทาง​สีหน้า​ ​หาก​คิด​จะ​อ่านใจ​เขา​ให้​ออก​ก็​ถือว่า​ยาก​พอสมควร​ ​ม่อ​อู๋​โย​วอา​ยุ​ยัง​ไม่​ถือว่า​มาก​ ​ต่อให้​เป็น​แรก​ริ​รัก​ ​แต่​อย่างไร​ก็​มีใจ​ให้​สวี​ชิงปั​๋​วอ​ยู่​บ้าง​ ​จึง​ถูก​สอง​ตระกูล​จับ​ให้​หมั้น​หมาย​กัน​ไป​แบบ​งง​ๆ​ ​ใช่​ว่า​ถึงขั้น​ไม่​ยินดี​ ​แค่​เพียง​ยาก​ที่จะ​ไม่รู้​สึก​ทำตัว​ไม่​ถูก​และ​งุนงง​ไป​บ้าง​ก็​เท่านั้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด