แสงไฟในคลับหมุนวนเปลี่ยนสีสันไปมาอย่างงดงาม รีบไปเถอะน่า อึนฮันนั่งอยู่ที่บาร์ขณะโบกมือให้คริส เมื่อเห็นหน้าอึนฮันแบบนั้น คริสจึงยกมือเป็นสัญญาณชวนให้อึนฮันออกมาด้วยกัน ‘นายจะมีแฟนก็มีไปสิ มันหมายความว่าออกมาเที่ยวไนต์คลับกับลูกพี่คนนี้ไม่ได้ที่ไหนกัน!’ ที่เขาต้องถ่อมาถึงนี่อย่างไม่มีทางเลือกก็เพราะลูกตื๊อของคริสจึงอยากจะส่งอีกฝ่ายออกไปให้เร็วที่สุด อึนฮันยังคงโบกมือให้คริส บอกแค่ว่าไม่ต้องห่วงฉัน รีบไปเถอะน่า ทว่าเขาโบกมือถี่เสียจนแววตาของคริสเป็นประกายด้วยความสงสัย สีหน้าของชายหนุ่มเหมือนจะถามว่านายไม่ได้จะหนีไประหว่างนี้หรอกใช่ไหม อึนฮันยิ้มแหย แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีชายคนหนึ่งเข้ามากอดคริสจากด้านหลังราวกับจะคว้าตัวเขาไว้ ไม่นานทั้งสองคนก็เต้นตัวติดหนึบอยู่ด้วยกัน อึนฮันเห็นแบบนั้นก็ถอนใจอย่างโล่งอก

เพลงแดนซ์ดังก้องพาให้ใจเต้น ดีเจท้าทายบรรดานักท่องราตรีที่กำลังเริงระบำ อึนฮันมองดูโลกที่เริ่มจะห่างไกลจากตัวเขาออกไปทุกทีแล้วก็ได้แต่ยิ้ม เขาว่าจะสั่งมาร์ตินีจากบาร์เทนเดอร์มาดื่มสักแก้วแล้วค่อยกลับ แต่ในขณะที่เขาครุ่นคิดอยู่นั่นเอง

“ว่าไง คนสวย”

เมื่อเขาหันไปมองก็เห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ เป็นชายหนุ่มหุ่นล่ำที่เห็นแล้วพลอยคิดไปว่าคงต้องไปฟิตเนสทุกวันเพื่อรักษาหุ่นแน่ อึนฮันรู้ดีว่าชายคนนี้เป็นใคร เขาคือสุดหล่อประจำไนต์คลับแห่งนี้ ทั้งยังเป็นหนุ่มเป้าตุงที่คริสถึงกับเคยออกปากว่า ‘อยากลองอมดูสักครั้ง’ และเป็นชายหนุ่มซึ่งมักใส่แต่กางเกงยีนรัดเป้าแน่นเปรี๊ยะเดินไปทั่วราวกับต้องการโอ้อวดแก่นกายของตนเอง

“หวัดดี”

คนโคตรหยิ่งอย่างนายทำไมถึงเข้ามาคุยกับฉันที่ไม่ตรงตามมาตรฐานของนายด้วยล่ะ

อึนฮันทักทายพอเป็นพิธีแล้วกวาดตามองชายหนุ่มตั้งแต่หัวจดเท้า อีกฝ่ายเองก็ทำเช่นเดียวกัน การกวาดตามองสำรวจเรือนร่างอีกฝ่ายแล้วให้คะแนนเปรียบประหนึ่งการทักทายกันในไนต์คลับแห่งนี้ ชายหนุ่มยืนพิงบาร์พลางค่อย ๆ คลี่ยิ้มให้อึนฮัน ที่จริงรอยยิ้มนั้นออกจะหวานเลี่ยนไปหน่อย คนเราจะป้อนแต่เนยให้เด็กอย่างเดียวไม่ได้หรอก ถ้าป้อนกิมจิแก้เลี่ยนให้ไม่ได้ก็ควรป้อนอาหารรัสเซียบ้างสิ อึนฮันคิดพลางนึกถึงรอยยิ้มแสนสดชื่นของวาซีลี

“ได้ยินว่านาย…วิเศษไม่ใช่เล่นเลยนี่”

ใครหลายคนที่พูดถึงอึนฮันด้วยคำว่า ‘วิเศษ’ มักจะไม่ระบุให้ชัดเจนว่าอะไรในตัวเขาที่วิเศษ แต่อึนฮันก็เข้าใจดี เพราะทุกคนต่างพูดถึงเรื่องเดียวกันทั้งนั้น นั่นก็คือเซ็กซ์ อึนฮันยิ้ม ในโลกของเกย์นั้น ฝ่ายรับมักมีมากกว่าฝ่ายรุกที่ค่อนข้างขาดแคลน ทว่าอึนฮันไม่เคยต้องลำบากหาคู่นอนเลยสักครั้ง เพราะฝ่ายรุกหลายคนมักได้ยินข่าวลือไร้สาระเกี่ยวกับเรื่องบนเตียงของเขาจนมารุมล้อมรอบตัวเสมอ ซึ่งถ้าเป็นอึนฮันคนเก่าละก็คงนั่งดื่มนั่งคุยกับผู้ชายคนนี้สักแก้วสองแก้ว และจัดการประกบปากประกบตัวพากันไปไหนต่อไหนแล้ว

แต่ตอนนี้เขาทำอย่างนั้นไม่ได้

“อ้อ ขอบใจนะ ถ้าแฟนฉันได้ฟังคงชอบใจน่าดู”

หรือจะเกลียดก็ไม่รู้สิ

อึนฮันไม่ได้คิดจะเล่าเรื่องพวกนี้ให้วาซีลีฟังอยู่แล้ว เขาเพียงแค่บอกปัดอีกฝ่ายไปเท่านั้น ทว่าชายที่เขาคิดว่าน่าจะหลบไปเมื่อได้ยินเช่นนั้นกลับเข้ามานั่งใกล้ยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะพูดอย่างมีลับลมคมใน

“แฟนเหรอ”

อะไรของเขาเนี่ย

อึนฮันนึกสงสัยอยู่ภายใต้ใบหน้าที่ยังเปื้อนยิ้ม เขารู้ดีว่าปกติแล้วอีกฝ่ายไม่ใช่คนแบบนี้ เขาได้ยินว่าคริสพยายามยั่วยวนผู้ชายคนนี้หลายครั้งหลายหนแต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยสนใจเพื่อนเขาเลยสักที ทั้งที่คริสนั้นมีชื่อเสียงมาก ๆ ในแวดวงของเกย์ด้วยเรือนร่างอันสมบูรณ์แบบและความร้อนแรงของเจ้าตัว อึนฮันถึงไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ คนที่เมินคริสไปด้วยเสียงแค่นหัวเราะเพียงครั้งเดียวถึงเข้ามากวนใจเขาเช่นนี้

“ที่เป็นเจ้าของเรือยอชต์ใช่ไหม”

เรือยอชต์เหรอ หมอนี่ไปเห็นเรือยอชต์ของวาซีลีมาตอนไหน อึนฮันคลายคิ้วที่เกือบจะขมวดเข้าหากันก่อนจะตอบกลาง ๆ ไม่ได้ตอบรับทว่าก็ไม่ได้ปฏิเสธ

“อืม”

“แล้วแฟนนาย…ไม่มีเพื่อนบ้างเลยเหรอ”

อ๋อ

ในที่สุดอึนฮันก็พอจะจับทางได้ ใช่สิ ในฐานะคนรักแล้วเขายังไม่ดีพอ แต่มีผู้ชายตามเป็นพรวนขนาดนั้นเลยคิดจะหาเงินเข้ากระเป๋าละสิ อึนฮันตั้งใจจะตอบว่าไม่มี แต่แล้วก็ต้องหลุบตาลง จะว่าไปเขาเองยังไม่เคยเจอเพื่อนของวาซีลีเลยสักครั้ง ถึงจะเคยเจอคนที่เป็นทั้งเพื่อนและลูกน้องแบบเดียวกับนีโคไลมาหลายคน แต่เพื่อนของวาซีลีเองนี่…อึนฮันจิบมาร์ตินีไปอีกอึกหนึ่ง ทั้งที่คบกันมาตั้งสามเดือนแล้วแต่กลับยังไม่เคยเจอเพื่อนของอีกฝ่ายเลยสักครั้ง ไม่สิ หรือเพราะเพิ่งคบกันได้แค่สามเดือนเลยเร็วไปที่จะพาไปเจอเพื่อนกันแน่นะ เขาเองก็เพิ่งเคยมีแฟนเป็นครั้งแรก ไม่มีทางรู้หรอกว่าเวลาแค่ไหนถึงจะเรียกว่าเหมาะสม