ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว 19
ตอนแรกวาซีลีมอบหมายให้ยุนฟอกเงินให้เพื่อดึงอีกฝ่ายมาลงเรือลำเดียวกันเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นว่าก้อนหินที่เขาแค่หยิบมาเฉย ๆ ก้อนนี้แท้จริงแล้วคือนักฟอกเงินมือฉมังที่เก่งเสียจนเขารู้สึกเหมือนยุนไม่ใช่ก้อนหิน แต่เป็นเพชรแท้ที่ยังไม่ได้เจียระไนต่างหาก สิ่งที่ทำให้เขากลับมามองยุนอีกครั้งก็เป็นเพราะความสามารถของเจ้าตัวเองนั่นละ
ทว่าถึงแม้ยุนจะเก่งกาจเพียงใดก็ตาม อารมณ์ขุ่นเคืองตามธรรมดาของมนุษย์เราก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อยู่ดี วาซีลีหงุดหงิดที่อีกฝ่ายตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าจนเหมือนจะหายใจไม่ทันอยู่รอมร่อทุกครั้งที่เห็นเขา
ธุรกิจนี้ล้วนดีกับทั้งสองฝ่าย ดีกับวาซีลีในแง่ที่ได้คนมาร่วมลงเรือลำเดียวกัน ทั้งยังสามารถฟอกเงินได้อย่างสมบูรณ์แบบ และดีกับยุนในแง่ที่ได้รับค่าตอบแทนจำนวนมหาศาล แถมยังรักษาชีวิตไว้ได้อีกด้วย ในเมื่อถือเป็นเรื่องที่ดีต่อทั้งคู่ พวกเขาก็ควรได้ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุขด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสิ ทว่านั่นดูจะเป็นไปไม่ได้เพราะความผิดพลาดของชายหนุ่มนามว่ายุนอึนฮัน ถึงกระนั้นวาซีลีก็ยังต้องหงุดหงิดทุกครั้งที่เจอหน้ายุนซึ่งเอาแต่มองเขาด้วยสายตาหวาดกลัวเหมือนมองปีศาจอยู่ร่ำไป เขาจึงเริ่มคิดว่าจะค่อย ๆ เปลี่ยนให้ยุนติดต่อผ่านลูกน้องแทน หากวันนั้นเขาไม่ได้เจอยุนอีกครั้ง คนที่ยุนจะได้เจอตั้งแต่ครั้งหน้าเป็นต้นไปอาจกลายเป็นนีโคไล ไม่ใช่วาซีลีอีกแล้ว
วันนั้นวาซีลีนำเรือยอชต์เข้ามาจอดเทียบท่าไมแอมีทั้งที่ปกติแล้วมักจะไม่ทำ แต่วันนั้นตัวเขาจะขึ้นฝั่งจึงต้องนำเรือไปเทียบท่า วาซีลีขึ้นจากเรือพร้อมบรรดาลูกน้องและได้ประจันหน้ากับรถยนต์สะกดรอยซึ่งเขาสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นตำรวจ เขากลับลงเรือไปพร้อมยุนที่ตั้งใจจะกลับบ้านท่าเดียว จนแล้วจนรอดสุดท้ายวันนั้นเขาก็ต้องหงุดหงิดเพราะยุนเอาแต่ตัวสั่นเทาอีกตามเคย
“เดี๋ยวฉันมา”
เขาหงุดหงิดเพราะยุน แต่อีกใจก็รู้สึกว่าดีแล้วที่ได้เจอกับตำรวจนั่นเข้า ถึงอย่างไรหนึ่งในบรรดาเหยื่อที่น่าสนุกก็คือตำรวจนี่ละ กล้าดียังไงมาสะกดรอยตามกันอย่างเปิดเผยแบบนี้ วาซีลียิ้มเหี้ยม
“จะไปเองเลยหรือครับ” พวกลูกน้องรอบตัวพากันเอ่ยถาม ชายหนุ่มเพียงพยักหน้าน้อย ๆ ก่อนจะได้ยินใครคนหนึ่งโทรหาคนทำความสะอาดให้มาเก็บกวาดศพและลบร่องรอยของพวกเขา วาซีลีเดินไปขึ้นรถอย่างเบาใจ แต่จู่ ๆ ก็มีคนมาจับแขนเอาไว้ ยุนที่ยังตระหนกตกใจกำลังเกาะแขนเขาอยู่ แม้จะแตะแค่เพียงปลายนิ้วก็เถอะ
“มะ…ไม่ใช่นะครับ ขะ…เขาไม่ได้สะกดรอยตามคุณคามินสกีมาแน่นอนครับ!”
คำพูดของยุนอึนฮันทำให้วาซีลีเลิกคิ้ว เขาประหลาดใจที่มีตำรวจมาสะกดรอยตามตัวเองอย่างเปิดเผยก็จริงอยู่ แต่ที่ประหลาดใจยิ่งกว่าคือยุนอึนฮันเป็นฝ่ายมาเกาะแขนเขานี่สิ พอวาซีลีรอเฉย ๆ เหมือนจะบอกให้พูดต่อ ยุนอึนฮันก็ร่ายยาวออกมาอย่างไม่มีสติทันที
“ผม…รู้จักตำรวจคนนั้นครับ ขะ…เขาไม่ใช่คนที่จะมาสะกดรอยตาม คะ…คุณคามินสกี แบบนี้แน่นอนครับ เด็กใหม่ เขาเป็นเด็กใหม่ครับ จะ…จะมีตำรวจ คะ…คนไหน หะ…ให้เด็กใหม่มาตามดู คะ…คุณคามินสกีล่ะครับ!”
ที่อึนฮันพูดมาก็ไม่ผิด
วาซีลียืนคิดว่าจะทำอย่างไรดีทั้งที่ยังมียุนเกาะแขนอยู่แบบนั้น ไม่ว่าจะสะกดรอยตามฉันรึเปล่า แต่ถ้าทำให้ฉันเข้าใจผิดก็ต้องตายเท่านั้น แค่ฆ่าทิ้งไปก็จบแล้วนี่ ไม่เห็นต้องมานั่งคิดว่ามันตั้งใจจะตามฉันหรือตามใครเลย
แต่ที่ยุนพูดก็ตรงประเด็นมากทีเดียว ถ้าตำรวจนั่นเป็นเด็กใหม่จริง ๆ คงไม่ได้มาตามเขาแน่ และก็น่าจะเป็นเด็กใหม่จริง ๆ นั่นละ เพราะรถสะกดรอยที่ดูออกอย่างชัดเจนแบบนั้นคงไม่ใช่ตำรวจที่มีชั่วโมงบินสูงแน่นอน ขณะที่วาซีลีพึมพำในลำคออยู่นั้น ชายคนหนึ่งก็เดินควงสาวออกมาจากเรือข้าง ๆ แล้วไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ จากนั้นเขาก็ได้เห็น ‘รถสะกดรอยที่เห็นได้ชัด’ คันนั้นค่อย ๆ ไล่ตามรถของชายคนนั้นไปช้า ๆ เต็มสองตา
ไม่ใช่ฉันจริง ๆ ด้วยสิ
วาซีลีมองลงไปอย่างประหลาดใจ เพราะเพิ่งเคยเห็นตำรวจที่ตามคนอื่นไปทั้งที่มีปลาตัวใหญ่อย่างเขาอยู่ตรงหน้าแบบนี้ ชายหนุ่มหันกลับไปมองอึนฮันอีกครั้ง ยุนมาเกาะแขนเขาทั้งที่ตัวเองก็กลัวเขาสุดชีวิต หน้าซีดเผือดเพราะกลัวว่าคนบริสุทธิ์จะต้องตายจนยอมเกาะแขนเขาทั้งที่เกลียดเข้าไส้ วาซีลีรู้ดีว่ายุนขี้กลัวขนาดไหน ดังนั้นเขาย่อมรู้เช่นกันว่ายุนต้องใช้ความกล้ามากเพียงใดถึงจะทำอย่างนี้ได้ เขาจึงไม่ได้ผลักยุนออกไปแบบส่งเดช เขาแค่รออยู่เฉย ๆ จนกว่ายุนจะได้สติเอง ไม่นานยุนก็สูดหายใจเฮือกเหมือนได้สติแล้วผละจากไปทันที วาซีลีมองอีกฝ่ายที่ตัวสั่นไม่หยุดแล้วพูดขึ้น
Comments