ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว 32
“เลดี้ เป็นคนโกหกได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยนะเรา”
นีโคไลพูดว่าออกจะเหลือเชื่อที่ได้เห็นเขาโกหกแบบนี้ น้ำเสียงของอีกฝ่ายฟังดูชื่นชมมากกว่าจะต่อว่าต่อขาน แต่อึนฮันกลับเงยหน้าขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ ถึงเขาไม่ทำ บอสของเจ้าพวกนี้ก็ทำอยู่ดีนี่! บอสพวกเขานั่นละทำตัวอย่างกับนักบวชคาทอลิก! ทุกอย่างที่หมอนั่นทำมันออกจะ…
อึนฮันตัวแข็งเป็นหิน เพราะตอนนี้นีโคไลเงยหน้าพยักพเยิดไปทางด้านหลังเขา
“นั่นสิ”
เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง เสียงทุ้มนั้นดูจะต่ำกว่าปกติเล็กน้อย เสียงฝีเท้าที่เดินใกล้เข้ามาช้า ๆ ฟังดูน่ากลัวจนอึนฮันไม่ยอมหันไป เพราะเขาไม่อยากหันกลับไปมองตัวตนที่แท้จริงของความสยองขวัญนั้นด้วยตาตัวเอง
“ทิ้งคนอื่นไปด้วยวิธีแบบนี้มันเกินไปหน่อยนะ”
วาซีลีจับกรอบประตูที่อึนฮันยืนอยู่ไว้แน่น ก่อนจะเกยคางกับหัวไหล่ของเขา
“นี่นายชอบไอ้หนูของฉันมากกว่าฉันอีกเหรอ ได้ไงกัน”
อึนฮันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอีกฝ่ายถึงต้องพูดคำธรรมดา ๆ ให้มันฟังดูไม่ธรรมดาด้วย เขากลั้นหายใจพลางมองตาวาซีลี
“ชอบไหมล่ะ”
นีโคไลมองหน้าอึนฮันกับวาซีลีสลับกันพลางยิ้มล้อ ๆ ทันใดนั้นวาซีลีก็ดึงอึนฮันเข้ามาด้านในประตูพร้อมรอยยิ้มและไม่พูดอะไรอีก ในที่สุดอึนฮันก็ต้องตามชายหนุ่มกลับเข้าห้องอีกครั้ง วาซีลีลากเขาเข้ามาขณะที่เขาพยายามซ่อนสีหน้าผิดหวังไว้ อยากทำอีกหรือไงนะ อึนฮันร้อนใจ ตัวเขาเองไม่ได้อยากทำสักนิด แต่หากวาซีลีบอก เขาก็ต้องทำ ตอนนี้อีกฝ่ายรู้แล้วว่าเขาเป็นเกย์ ดังนั้นเขาหนีไม่พ้นอีกแล้ว
แต่สถานที่ที่วาซีลีพาอึนฮันไปนั้นกลับเป็นห้องอาหาร ที่นี่เรียกว่าห้องพักโรงแรมก็จริง แต่ด้วยความที่เป็นเพนต์เฮาส์จึงดูเหมือนจะมีห้องอาหารด้วย โต๊ะอาหารสำหรับแปดคนดูใหญ่โตโอ่อ่า วาซีลีเข้ามากอดอึนฮันและจับเขานั่งลงที่โต๊ะ
“ฉันไม่คิดว่านายจะไป แต่จะไปจริง ๆ ด้วยสินะ”
วาซีลีพูดพร้อมรอยยิ้ม
แน่นอน ตอนที่อึนฮันหนีออกจากอ้อมแขนเขานั้น วาซีลีตื่นอยู่ก่อนแล้ว วาซีลีไม่เคยหลับลึก เช่นเดียวกับพวกคนทำอาชีพที่ต้องคอยกลัวว่าตัวเองจะถูกคนอื่นยิง เขาตื่นพร้อมกับที่อึนฮันลืมตา แต่ก็ตั้งใจแกล้งทำเป็นหลับ เพราะเกิดสงสัยว่าอึนฮันจะอายเพียงใดเวลาอยู่ในอ้อมแขนเขา ทั้งยังอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะทำตัวอย่างไรหากเขาไม่มองอีกด้วย
อึนฮันหาเสื้อผ้ามาสวมด้วยสีหน้าที่เหมือนโลกจะแตก เขาดูเหมือนกำลังตำหนิตัวเองและดูจะเสียใจกับเซ็กซ์ชั่วข้ามคืนอยู่มากทีเดียว อา…ถ้างั้นก็ยากแล้วสิ วาซีลีไม่ได้แสดงออก แต่เขาคิดว่าตัวเองควรเอ่ยเตือนอึนฮันอย่างจริงจังสักที ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เขาเอือมระอากับสภาพกลัวหัวหดและสายตาหวาดหวั่นของอึนฮันเต็มทนแล้ว
“ฉันขอเตือนนายไว้หน่อย”
แต่หากจำเป็นเขาก็อยากจะเห็นสีหน้านั้นอีกครั้ง วาซีลีจับไหล่ทั้งสองของอึนฮันเบา ๆ ทั้งรอยยิ้ม แค่เพิ่มแรงที่มือเข้าไปนิดหน่อย อึนฮันก็นิ่วหน้าแล้ว
“อยู่ให้เป็น เข้าใจไหม”
เขาคิดว่าอึนฮันไม่น่าจำได้ว่าเขาพูดถึงอะไร แต่อึนฮันกลับพยักหน้ารับอย่างรวดเร็วราวกับจำได้ทุกอย่าง วาซีลียิ้มออกมาอย่างพอใจ
อึนฮันห่อไหล่ทันทีที่วาซีลีปล่อยมือ อีกฝ่ายเหมือนตั้งใจจะหักไหล่เขาจริง ๆ เจ็บขนาดนี้คงไม่แคล้วต้องมีรอยมือขึ้นที่ไหล่แน่ อยู่ให้เป็นงั้นเหรอ บ้าไปแล้วหรือไง อึนฮันก่นด่าอีกฝ่ายได้เพียงในใจ ผมอายุตั้งเท่าไรแล้ว แค่จะช่วยตัวเองก็ช่วยไม่ได้ ต้องรอให้คุณที่มาแค่สองเดือนครั้งมาทำให้เนี่ยนะ นี่ผมถูกหมายหัวเข้าแล้วรึไง!
ถึงอย่างนั้นอึนฮันก็ทำได้แค่หลุบตาลงต่ำและหวังให้วาซีลีปล่อยเขาไปโดยเร็วที่สุด เพราะเขาไม่อาจพูดจาแบบนั้นต่อหน้าผู้ชายที่สามารถยิงหัวเขาโดยไม่รู้สึกรู้สาอย่างวาซีลีได้
“กินก่อนสิแล้วค่อยไป มีเรื่องอะไรเร่งด่วนนัก นายถึงรีบร้อนจะไปให้ได้แบบนี้”
“ผมทิ้งพี่ชายเอาไว้ทั้งอย่างนั้นก็เลยเป็นห่วงน่ะครับ…”
ยุนซ็องฮัน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่นายมีประโยชน์ในฐานะลูกพี่ลูกน้องฉัน ไม่สิ ที่ต้องมาลงเอยในสภาพนี้ก็เป็นเพราะเจ้าบ้านั่น ไม่รู้เหมือนกันว่าผีสางนางไม้ทั้งหลายมัวทำอะไรอยู่ ถึงได้ไม่ยอมลากเจ้านั่นไปด้วย! อึนฮันเอ่ยตอบอย่างสุภาพ แม้ในใจจะไม่อาจเก็บกลั้นความโกรธเอาไว้ได้ก็ตาม วาซีลียิ้มให้กับคำพูดของเขา
“แค่มองก็รู้ว่าไม่ใช่พี่ที่ดีแน่ อะไรกัน”
ซ็องฮันร้อนใจที่กดหัวอึนฮันไว้ไม่ได้ ในขณะที่อึนฮันก็ดูรำคาญอย่างเห็นได้ชัด วาซีลีมองออกอย่างทะลุปรุโปร่งว่าความสัมพันธ์ของลูกพี่ลูกน้องคู่นี้ไม่ได้ดีถึงขนาดจะเป็นห่วงเป็นใยกันหากคนหนึ่งถูกทิ้งไว้คนเดียว ดังนั้นเขาจึงไม่แม้แต่จะทำเป็นรับฟังหรือเข้าใจ เห็นแบบนั้นอึนฮันจึงเสริมว่า
“ผะ…ผมมีงานต้องทำด้วยครับ”
เขากระสับกระส่ายเพราะสัมผัสได้ว่าวาซีลีจ้องมองมา ผ่านไปไม่นานชายหนุ่มถึงพูดต่อ
“ถ้าเป็นเรื่องงานก็ช่วยไม่ได้ละนะ”
Comments