ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว 47
ขอแค่อึนฮันมีแรง เขาจะคืนเสื้อให้วาซีลีเดี๋ยวนี้เลย แต่ในเมื่อไม่มีจึงได้แต่สวมเสื้อผ้าต่อไปอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว วาซีลีเหลือบมองมาขณะอึนฮันแต่งตัวก่อนจะเดินออกจากห้องทั้งที่ยังใส่กางเกงแค่ตัวเดียวอยู่เช่นเดิม ประตูคู่บานใหญ่เปิดออกกว้าง อึนฮันจึงต้องรีบแต่งตัวให้เร็วขึ้นตามไปด้วย หลังจากแต่งตัวเรียบร้อย เขาถึงได้มีโอกาสหันมองไปรอบ ๆ ห้องแล้วคิดว่าเขาน่าจะเพิ่งเคยเห็นห้องนี้เป็นครั้งแรก อึนฮันตั้งข้อสงสัยกับตัวเองขณะเดินออกมานอกห้อง อย่าบอกนะว่า…
“ยุน ทางนี้”
ที่นี่คือสวนเขตร้อนขนาดใหญ่ นะ…นี่มันอะไรกันเนี่ย วาซีลีร้องเรียกมาจากอีกทางเมื่อเห็นว่าอึนฮันเอาแต่กะพริบตาปริบ ๆ อย่างงุนงง อึนฮันเดินไปหาตามเสียงเรียก ขณะเดียวกันก็มองสำรวจสวนไปด้วย เขาจำได้ว่าโรงแรมตอนนั้นไม่มีสถานที่เช่นนี้ บรรยากาศของโรงแรมไม่ใช่สไตล์ที่จะมีสวนเขตร้อนแบบนี้อยู่แน่นอน เพราะห้องสวีตของโรงแรม ไม่สิ เพนต์เฮาส์นั่นเป็นสไตล์โมเดิร์น วาซีลีเดินย้อนมาหาอึนฮันเมื่อเขาเอาแต่มองจนเดินช้ายืดยาด
“หลงทางไม่ได้นะ ที่นี่วางกับระเบิดไว้นิดหน่อยน่ะ”
วางอะไรนะ!
อึนฮันเงยขึ้นมองวาซีลีหน้าซีดเผือด นี่ปล่อยให้เขาผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่มาอยู่ในสวนที่ติดตั้งระเบิดไว้เนี่ยนะ! ไอ้หมอนี่มันเลว โคตรเลว สารเลวที่สุด! อึนฮันก่นด่าวาซีลีในใจอย่างเอาเป็นเอาตาย ถึงกระนั้นวาซีลียังคงมองหน้าเขาพลางยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะโน้มศีรษะอึนฮันไปกอดไว้
“มีระเบิดอยู่แค่ไม่กี่จุดหรอกน่า อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ”
เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองทำหน้าแบบไหนวาซีลีจึงได้พูดเช่นนั้นอย่างไรก็ตามอึนฮันก็ยอมเดินต่ออย่างระมัดระวังโดยปล่อยให้วาซีลีโอบเขาไว้ กับระเบิดอย่างนั้นรึ เขาไม่อยากแม้แต่จะคิดถึงมันด้วยซ้ำ
อาคารหลักซึ่งใหญ่พอจะทำให้อึนฮันรู้ว่าอาคารที่พวกเขาอยู่ตอนนี้เป็นเพียงส่วนต่อขยายปรากฏขึ้นตรงหน้า อาคารหลังนั้นสวยงาม หลังคาค่อนข้างสูง
“เป็นแบบนี้อีกแล้ว”
วาซีลีเดาะลิ้นแล้วพูดขึ้นเมื่ออึนฮันเอาแต่หันมองไปรอบ ๆ แล้วดึงชายหนุ่มให้เดินตามมาด้วยกัน อึนฮันเอาแต่หันมองตรงนั้นทีตรงนี้ทีอยู่ในล็อบบี้ อาคารหลังนี้ใหญ่ราวกับจะยัดบ้านของเขาไว้ได้สองหลัง ไม่ใช่เขาไม่เคยคิดว่าวาซีลีไม่มีบ้านในไมแอมี เพราะอีกฝ่ายมาที่นี่เป็นประจำ ทั้งยังเป็นพ่อค้าอาวุธ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมีโกดังอยู่แล้ว แล้วไหนจะรถยนต์อีก แต่เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะใหญ่โตโอ่อ่าขนาดนี้
“วาซยา ในที่สุดก็ออกมาแล้วเหรอ”
“อือ ๆ”
วาซีลีตอบคำทักทายของเซียร์เกย์อย่างไม่จริงใจนัก เซียร์เกย์จึงหันมามองอึนฮันที่ยืนอยู่ข้างนายตัวเองแทนก่อนจะขมวดคิ้ว
“ทำไมสภาพเลดี้เป็นอย่างนั้นล่ะ”
“อย่างนั้นน่ะอย่างไหน”
วาซีลีนิ่วหน้าแล้วกวาดตามองอึนฮันตั้งแต่หัวจดเท้าเพราะเข้าใจว่าชุดที่ตนซื้อให้ไม่เหมาะกับอึนฮัน แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไรนี่ก็ดูดีกว่าเสื้อผ้าเด็กประถมที่อึนฮันมักจะใส่ไปไหนมาไหนอยู่มากโข วาซีลีจึงกลับไปมองเซียร์เกย์ด้วยสงสัยว่าลูกน้องตนต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ และไม่ใช่แค่วาซีลีเท่านั้น อึนฮันเองก็มองหากระจกอย่างสงสัยใคร่รู้เช่นกัน
“กลายร่างเป็นคนไข้โรคติดต่อไปเสียแล้ว เดี๋ยวชาวบ้านได้เข้าใจผิดกันพอดี”
นีโคไลเดินทำหน้านิ่วคิ้วขมวดออกมาจากห้องหนึ่ง คำพูดนั้นของเขาทำเอาอึนฮันหน้าแดงขึ้นมาทันที ชายหนุ่มก้มหน้างุด น้ำเสียงราบเรียบของวาซีลีดังแว่วมาเข้าหู
“เข้าใจผิดไปนั่นละดี ผู้ชายเข้ามาตอมเยอะไปแล้ว”
“ดูไม่น่าเป็นอย่างนั้นเลยนะ เป็นคาสโนวาหรอกเหรอเนี่ย”
เซียร์เกย์ถาม อึนฮันไม่ได้ตอบอะไร ขณะที่วาซีลีก็ลูบไหล่เขาเบา ๆ อยู่อย่างนั้น
“ดอกไม้ยิ่งหอมหวานก็ยิ่งมีผึ้งมาตอมเป็นธรรมดานี่ มีผึ้งมายุ่งวุ่นวายมันใช่ความผิดของดอกไม้ที่ไหนล่ะ ไม่เหมือนพวกคาสโนวาสักหน่อย”
นีโคไลพึมพำเสียงทุ้ม เขาเปรียบเปรยได้ดีทีเดียว
“ยังไงก็เถอะ ต่อจากนี้คงไม่มีใครมาตอมแล้วละ”
เซียร์เกย์พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของวาซีลี
“แน่สิ คงไม่มีไอ้บ้าหน้าไหนกล้ามาไล่ตามคนรักของวาซีลี คามินสกีหรอก”
“ต่อให้มี ฆ่าทิ้งซะก็หมดเรื่อง”
ตอนเชื้อพระวงศ์องค์หนึ่งพูดว่า ไม่มีขนมปังก็กินเค้กแทนสิ ก็คงพูดออกมาอย่างง่าย ๆ แบบนี้เหมือนกันสินะ สมควรแล้วที่บรรดาไพร่ฟ้าหน้าใสพากันโกรธแค้น ว่าแต่เราไม่ใช่คนรักกันเสียหน่อย เป็นบอสกับเด็กในสต๊อกต่างหากล่ะ อึนฮันได้แต่ห่อไหล่อยู่ในอ้อมแขนของวาซีลี คนรักอย่างนั้นเหรอ คนรักกันไม่ใช่แบบนี้เสียหน่อย คนรักน่ะคือคนที่เป็นความสงบสุขให้กันและกันต่างหาก ต้องอ่อนโยนและนุ่มนวล…คือคนที่มีอยู่เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจสิ อึนฮันหลุบตาลงต่ำและเดินตามวาซีลีไป ขณะเดียวกันก็คิดถึงคนรักในอุดมคติของเขาไปด้วย สำหรับอึนฮันแล้วคนคนนั้นไม่จำเป็นต้องหล่อ รวย เก่ง หรือหนุ่มแน่น เขาแค่ต้องการคนที่คอยเป็นกำลังใจให้กันและมีเขาเป็นกำลังใจของอีกฝ่ายด้วยเท่านั้นก็พอแล้ว
Comments