ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว 56
เราจับเขาไม่ได้เพราะว่าไม่มีข้อมูล ไม่ใช่เพราะกลัวหรอกนะ คริสบุ้ยปากเพราะรู้สึกว่าช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย ทางด้านซ็องฮันก็ถามต่อ สีหน้าเริ่มกังวลเมื่อได้ฟังสิ่งที่คริสพูด
“ขะ…เขาทำงานอะไรเหรอ”
คริสขมวดคิ้วพลางหันกลับมามองอึนฮันเป็นเชิงถามว่าจะบอกเรื่องพวกนี้กับอีกฝ่ายซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของอึนฮันได้หรือไม่ อึนฮันยกยิ้ม เพื่อนของเขายังคงอ่อนโยนเสมอ คริสระมัดระวัง กลัวว่าเขาอาจจะยังมีเยื่อใยให้คนในครอบครัว ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงใครจะกล้าไปอยู่กับอาชญากรชื่อดังคนนั้นล่ะ อึนฮันจึงเอ่ยตอบแทนคริส
“เขามีงานตั้งมากตั้งมาย เป็นทั้งพ่อค้าอาวุธ ประธานบริษัททหารรับจ้าง…แล้วก็”
“หัวหน้าของพวกเรดมาเฟีย”
คริสยังพูดจากระทบกระแทกว่านั่นคืออาชีพหลักของมาเฟียหนุ่มเพิ่มไปอีกด้วย
“เรดมาเฟียเหรอ อะไรเนี่ย มาเฟียนี่มันมีแบ่งสีเรด แบล็ก พิงก์ เยลโลว์ บลูด้วยหรือไง”
ซ็องฮันถาม มาเฟียหรือขบวนการห้าสีเนี่ย มีพิงก์มาเฟียด้วยงั้นเรอะ!
“ฉันหมายถึงมาเฟียรัสเซียต่างหากล่ะ”
“มาเฟียรัสเซีย! นายบ้าไปแล้วหรือไง ยุนอึนฮัน!”
ซ็องฮันตะโกนโวยวายดังลั่น เฮ้อ น่ารำคาญจริง อึนฮันทำหน้าบึ้งพลางมองเมินไปทางอื่น คนที่รู้ช้าที่สุดมักจะพูดมากที่สุดเสมอ กฎนี้ไม่เคยเกินจริงเลย ที่ร้องตะโกนก็เพราะไม่รู้ เพราะถ้ารู้คงส่งเสียงอะไรไม่ออกแม้จะพยายามเค้นเพียงใดก็ตาม
“ฉันไม่ได้บ้า นายไม่รู้เหรอ ฉันน่ะเป็นคนอันตรายนะ”
“เลิกล้อเล่นได้แล้วน่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่ นี่นายกำลังทำอะไรอยู่!”
ซ็องฮันผลักคริสออกแล้วเข้าไปจับไหล่ทั้งสองของอึนฮันไว้แน่น ฮึกใบหน้าอึนฮันเริ่มบิดเบี้ยว ไหล่ที่โดนวาซีลีขบกัดจนทั่วนั้นเจ็บปวดราวกับจะตาย แต่อึนฮันไม่มีทางพูดถึงเรื่องนั้นเด็ดขาด
“ไอ้บ้านั่นคือคนที่ทำให้ร่างกายนายเป็นแบบนี้งั้นเหรอ”
“นั่นมันเรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับนาย”
“นายบ้าไปแล้วเหรอ ถึงขนาดต้องไปนอนกับมาเฟียเนี่ยนะ! แล้วถ้าเกิดถูกเจาะหัวเป็นรูขึ้นมา…”
ถึงขนาดงั้นเหรอ อึนฮันจ้องเขม็งไปยังตัวการที่ผลักเขาให้เข้ามาเดินบนทางเส้นนี้และคน (ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นญาติ) ที่ทำให้เขาได้เห็นโลกใหม่อย่างการข่มขืน พลันแข้งขากลับมีแรงขึ้นมา ครั้งนี้ไอ้เวรนี่อยากตายจริง ๆ สินะ ขณะที่เขากำลังจะตะโกนออกมาเช่นนั้นเอง
“หือ”
กองทัพชายสวมชุดสูทดูน่ากลัวกรูกันเข้ามาเป็นพรวน พวกเขาเดินย่ำเข้ามาไม่หยุดราวกับเป็นบ้านตัวเองจนอึนฮันได้แต่อ้าปากมองตาค้าง นีโคไลซึ่งยืนอยู่หน้าสุดแย้มยิ้มสดใสก่อนจะพูดกับอึนฮัน
“เลดี้ ทำอะไรอยู่เหรอครับ”
++++++++++++++++++++++++
อึนฮันเริ่มมองไปรอบตัว ตอนนี้ในบ้านของเขามีแขกอยู่สองคน คนหนึ่งคือเพื่อน อีกคนคือลูกพี่ลูกน้อง และคนหนึ่งเป็นตำรวจ ส่วนอีกคนเป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่มีอะไรน่ามอง ปัญหาถัดมาคือนีโคไลมาที่นี่ทำไมและเข้ามาได้อย่างไร เขาควรส่งแขกทั้งสองคนกลับไปก่อน หรือควรให้นีโคไลกลับไปดีล่ะ
“ผมก็แค่อยู่บ้านเฉย ๆ นี่ละครับ…แต่ คือ ถ้าไม่เป็นการเสียมารยาท ผมขอถามได้ไหมว่าคุณเข้ามาในบ้านผมได้ยังไง…”
อึนฮันเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง นีโคไลเพียงแค่ยักไหล่
“ประตูก็เปิดอยู่นี่”
หลังจากนั้นบรรดาชายหนุ่มที่ยืนอยู่หลังนีโคไลก็เริ่มก้าวเข้ามา กระเป๋าของพวกเขาเป็นกระเป๋ากีฬาใบใหญ่ อึนฮันสะดุ้งโดยไม่รู้ตัวเมื่อคิดว่านั่นคือกระเป๋าสำหรับใส่ศพ เสียงมือของเหล่าชายฉกรรจ์ทั้งหลายรูดซิปกระเป๋าดังก้องไปทั้งห้องอย่างน่าขนลุก ก่อนที่ชายคนหนึ่งจะหยิบบางสิ่งออกมาจากกระเป๋า นั่นอะไรน่ะ อึนฮันเหมือนเห็นสีแดงผ่านตาแวบ ๆ เลือดเรอะ บ้าน่า นี่คุณมาเฟียกำลังเตือนกันว่าจะทำให้ห้องนี้นองเลือดถ้าเขาคิดจะหักหลังอย่างนั้นเหรอ
ชายคนดังกล่าวโปรยสิ่งที่อยู่ในมืออย่างไม่ลังเล
อะ…อะไรกัน อึนฮันหลับตาแน่น
“…อ้าว”
นีโคไลส่งเสียงออกมาอย่างงุนงง
“ไม่ชอบเหรอครับ”
คำพูดนั้นทำให้อึนฮันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ เขามองผิดไป สิ่งที่ชายคนนั้นโปรยไม่ใช่เลือด แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีด้วยเช่นกัน พวกมันคือธนบัตรมูลค่ายี่สิบดอลลาร์ เหล่าชายฉกรรจ์รูปร่างน่าเกรงขามสวมสูทสีดำต่างโปรยเงินด้วยท่าทางราวกับเด็กน้อยโปรยกลีบกุหลาบต่อหน้าเจ้าสาวในงานแต่งงานไม่มีผิด นีโคไลส่งเสียงกระแอมแล้วเดาะลิ้นแก้เก้อเมื่อเห็นอึนฮันเอาแต่อ้าปากค้างมองมาอย่างเหม่อลอย เขาหันไปกระซิบถามคริส
“เพื่อนคุณไม่ชอบรวยสายฟ้าแลบเหรอครับ”
“เขาจะชอบแน่ครับ”
ถ้าได้รู้ที่มาของเงินน่ะนะ คริสแอบพูดต่อในใจ พลางมองดูธนบัตรทั้งหลายที่ลอยละล่องอยู่ภายในห้องตาละห้อยอย่างที่เขาก็ไม่รู้ตัว อา กระเป๋าปราดาลอยละล่อง ดูนั่นสิ มีสูทของเฟรด ซีกัลด้วย หวัดดีจ้า มาร์ก เจคอบส์ ในสายตาของเกย์ผู้คลั่งไคล้สินค้าแบรนด์เนมอย่างคริสนั้น เขาเห็นบรรดาข้าวของที่ตัวเองอยากได้ลอยละล่องขึ้นมาทุกครั้งที่เงินโปรยปรายขึ้นไปในอากาศ แม้จะเป็นเพียงภาพมายาแต่กลับรู้สึกเหมือนจริงเหลือเกิน
Comments