ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว 6
อึนฮันได้แต่คิดว่าเวลาหนึ่งเดือนช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน ทั้งที่ตอนเด็กเขายังคิดว่าเวลาเท่านี้ออกจะยาวนานอยู่เลยแท้ ๆ หรือเป็นเพราะเขาอายุมากขึ้นกันนะ เวลาถึงได้สั้นเกินไป เมื่อถึงวันนัดกับคามินสกี อึนฮันได้แต่ถอนใจแล้วหยิบกระเป๋าสีดำที่ชายหนุ่มให้ไว้มาสะพาย เขาไม่อยากใช้เวลาอยู่กับคามินสกีนานนัก หากเป็นไปได้ก็อยากทำทุกอย่างให้จบลงอย่างรวดเร็วแล้วรีบกลับมา แค่สะพายกระเป๋านี่ไปแล้วบอกว่าตัวเองมีชุดว่ายน้ำอยู่แล้วแค่นั้น แต่ถึงอย่างไรเขาก็ทำแบบนั้นและปล่อยให้คามินสกีที่อุตส่าห์ถ่อมาถึงในเมืองกลับไปไม่ได้อยู่ดี เพราะฉะนั้นอย่างน้อยก็ควรจะกินข้าวด้วยกันสักมื้อ โธ่เอ๊ย พระเจ้า กินข้าวกับคามินสกีเนี่ยนะ ถ้าข้าวติดคอตายขึ้นมาจะทำยังไงล่ะครับ!
“ไอกู ที่รัก นายจะร้องไห้อยู่แล้วนะนั่น”
คริสถอนใจพลางกอดอึนฮันไว้จากด้านหลัง คริสชอบแตะเนื้อต้องตัวอึนฮันอยู่บ่อย ๆ จนหลายคนในแวดวงชาวเกย์คิดว่าพวกเขาคบกันอยู่ คริสกอดเอวอึนฮันแล้วจูบแก้มเขา
“วันนี้วันดีนา ยิ้มหน่อยสิ”
“ฉันยิ้มไม่ออกหรอก”
อึนฮันถอนใจทั้งที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของคริส วันนี้ไม่มีเรื่องที่ทำให้เขายิ้มออกเลยจริง ๆ คริสตอบรับคำพูดของเพื่อนว่านั่นก็จริง แล้วสบตากับอึนฮันผ่านกระจก
“แต่ถึงยังไงคามินสกีก็ไม่ฆ่านายหรอกใช่ไหม”
คริสพูดเช่นนั้นแล้วจึงเสริมว่า
“ถ้าเขาอยากฆ่านายน่ะ เขาฆ่าไปแล้วละ ทำใจให้สบาย ๆ คิดเสียว่าไปกินข้าวกับหนุ่มหล่อสักมื้อก็แล้วกัน”
“นายคิดว่าฉันจะคิดแบบนั้นได้หรือไง”
“ไม่ได้หรอก แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องพูดอะไรให้นายเบาใจขึ้นบ้างสิ ฉันจะไปตอกย้ำกับนายว่าคามินสกีเป็นผู้ชายที่น่ากลัวที่สุดที่นี่ได้ยังไงกันล่ะ”
อึนฮันหลับตาลง สุดท้ายแล้วคามินสกีก็ยังเป็นผู้ชายที่น่ากลัวที่สุดอยู่ดีนี่นา คริสมองหน้าอึนฮันแล้วก็จูบแก้มเขาอีกครั้ง
“ถ้ามีปัญหาอะไรขึ้นมาจริง ๆ ฉันจะวิ่งไปหานายให้ไวเหมือนพายุพัดเลย โอเคไหม”
“ขอบใจนะ นายนี่ปลอบใจฉันได้จริง ๆ”
“เด็กเอ๋ยเด็กดี”
คริสซุกหน้าลงกับต้นคอของอึนฮันโดยไม่มีทีท่าว่าจะผละออก เขาจึงต้องเป็นฝ่ายผลักออกไปเองแล้วมองดูตัวเองในกระจกอีกครั้ง
“พอได้ไหมเนี่ย ชุดนี้ไม่ดูเสียมารยาทใช่ไหม”
“เสียมารยาทอะไรล่ะ เสื้อเชิ้ต แจ็กเกต แล้วก็กางเกงขายาว ระดับนี้จะภัตตาคารไหนในไมแอมีก็เข้าได้หมดนั่นละ”
คริสที่เพิ่งถูกดันตัวออกไปกอดอกตอบ อึนฮันสวมกางเกงขายาวแบบสากลนิยม เสื้อเชิ้ต และเสื้อแจ็กเกต แทนที่จะใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนเหมือนปกติ ช่างน่าเศร้าเหลือเกินที่เขาต้องใส่เสื้อผ้าที่ตั้งใจเก็บไว้ใช้ออกเดตไปเจอคามินสกีแทน แต่อีกฝ่ายเป็นเศรษฐีและเขาก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าผู้ชายคนนั้นจะเลือกเข้าร้านอาหารแบบไหน จึงต้องใส่ใจเรื่องการแต่งตัวอย่างเลี่ยงไม่ได้ อึนฮันไม่ได้คิดจะไปกินฟรีอยู่แล้ว จึงได้แต่หวังว่าคามินสกีจะไม่เลือกร้านที่แพงมากนัก ทว่าพ่อคนมีอันจะกินอาจทำตัวไร้สาระงอแงว่าอาหารร้านของคนทั่วไปรสชาติไม่ถูกปากก็เป็นได้
“ถ้ามองเผิน ๆ นี่ก็เหมือนฉากในหนังรักโรแมนติกของเกย์เลยนะ”
คริสพูดอย่างเสียดาย เศรษฐีรูปหล่อที่มาพร้อมกับรถหรูราคาแพงและตัวฉันที่ไม่มีอะไรเลย หากมองโดยไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง นี่ก็คือฉากที่บรรดาเกย์ทั้งหลายเฝ้าฝันถึงดี ๆ นี่เอง อึนฮันเห็นด้วยกับคำพูดของคริส มันดูเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ด้วย แต่หากรู้จักพ่อรูปหล่อคนนั้นแล้วละก็ ประเภทของหนังคงเปลี่ยนไปตั้งแต่ที่รู้ว่าเขาเป็นโรคจิตแล้ว จากหนังรักจะกลายเป็นละครสืบสวนสอบสวนสักตอนหนึ่งแทนน่ะสิ
“ได้โปรดเถอะ ฉันอยากให้เวลาหยุดอยู่แค่นี้ชะมัด”
อึนฮันได้แต่หวัง ซึ่งก็เป็นความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ที่เป็นไปไม่ได้ คริสจึงเพียงแค่ใช้นิ้วปัดผมให้อึนฮัน
“ไว้กลับมาแล้วเราไปไนต์คลับทั้งชุดนั้นกันเถอะ”
คริสกล่าว วันนี้เป็นวันเสาร์พอดี เป็นวันที่เกย์ทั้งหลายจะได้ไปอวดมัดกล้ามที่เพิ่มขึ้นภายในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์กันที่ไนต์คลับ พวกผู้ชายที่มาอวดเบ่งกล้ามพวกนั้นไม่ใช่รสนิยมของอึนฮันจนเขาพูดได้ว่าออกจะอึดอัดด้วยซ้ำ แต่คริสกลับหลงใหลได้ปลื้มบรรดาชายหนุ่มเหล่านั้นเหลือเกิน อึนฮันยักไหล่ เวลามองผู้ชายพวกนั้น เขาก็ได้แต่คิดว่า ‘คามินสกีนี่หล่อจริง ๆ มันจะไม่มีใครสักคนที่หล่อได้แบบนั้นแต่จิตใจดีบ้างเลยรึไงนะ’ พลางหันไปมองรอบตัว แล้วสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการกลับมามือเปล่า แต่วันนี้อึนฮันรู้สึกว่าเขาต้องไปเปลี่ยนอารมณ์ในที่ที่มีเสียงดนตรีกระหึ่มกับแสงไฟน่าเวียนหัวบ้างแล้ว
“ก็ได้ ไปกัน”
“เยี่ยม! งั้นกลับมาบ้านก่อนหนึ่งทุ่มนะ!”
คำพูดของคริสทำเอาอึนฮันหน้าบูด
“ฉันต้องกลับมาก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว อยู่กับหมอนั่นน่ะ สองชั่วโมงก็พอ ไม่สิ สำหรับฉันแค่สองชั่วโมงก็ทรมานจะตาย”
เขาพึมพำเบา ๆ แล้วหันไปมองตัวเองในกระจกเป็นครั้งสุดท้าย แต่พอเริ่มจะอึดอัดกับกระเป๋าสีดำที่คามินสกีให้มา คริสก็พูดขึ้น
“ออกไปได้แล้วเลดี้ ถึงเวลาที่เจ้าคนบ้าจะมารับแล้วนะ”
Comments