ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว 70
วาซีลียืนดูอึนฮันเก็บของกลับบ้านอยู่เงียบ ๆ และแม้ชายหนุ่มจะยืนกอดอกมองเขา อึนฮันก็ยังคงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และรีบก้มหน้าจัดข้าวของต่อไปอย่างขะมักเขม้น สุดท้ายวาซีลีผู้เอาแต่ยืนมองอีกฝ่ายรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีแสร้งทำเป็นตั้งอกตั้งใจจัดของเพราะอยากหลุดพ้นจากเขาก็ทนไม่ไหว เขาเดินไปหยุดอยู่ข้างอึนฮันแล้วจับกระเป๋าอีกฝ่ายคว่ำลง สิ่งของทั้งหมดในนั้นร่วงกราวลงบนเตียง
“ฉันรอคำตอบอยู่ตั้งนาน คงปล่อยให้นายกลับไปทั้งที่ยังไม่ยอมตอบฉันไม่ได้หรอกนะ”
วาซีลีเขย่ากระเป๋าต่อไป
“คำตอบเหรอครับ”
วาซีลีแสยะยิ้มชั่วร้ายราวมัจจุราชเมื่อได้ยินอึนฮันเอ่ยถามเขากลับมาเช่นนั้น
“อ๋อ คำตอบนั้น…สินะครับ” อึนฮันพึมพำออกมาทันที
“คำตอบ ‘นั้น’ ละ”
“เอ่อ ไม่ใช่นะ ผมไม่ได้ลืมนะครับ”
ถึงความจริงจะลืม แต่ไม่ว่าอย่างไรอึนฮันก็จะตอบว่าไม่ได้ลืม
“คือ…ผมมีเรื่องวุ่นวายใจเลยเผลอไปคิดเรื่องอื่น…”
เขารีบใส่ความจริงเพิ่มไปด้วยเพราะกลัวว่าหากพูดแต่คำโกหกจะถูกจับได้ ทว่าทันทีที่ได้ยิน วาซีลีกลับดึงเขาเข้าหาทั้งสีหน้ารำคาญใจ ภาพที่อึนฮันมองเห็นพลันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว รู้ตัวอีกทีเขาก็มานอนอยู่บนเตียงหลังเดียวกับสิ่งของต่าง ๆ จากกระเป๋าของตัวเองเสียแล้ว วาซีลีกดไหล่เขาเบา ๆ
“รู้ได้ไง”
เขาเอ่ยถามเสียงทุ้ม อึนฮันได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ เหมือนวัวเพราะไม่รู้ว่าวาซีลีหมายถึงเรื่องอะไร วาซีลีก้มมองภาพนั้นอยู่สักพักก่อนจะเดาะลิ้นเมื่อไม่ได้ดังใจ
“ไม่ต้องมาแกล้งทำเป็นไม่รู้”
“ผมไม่รู้จริง ๆ นี่ครับว่าคุณหมายถึงอะไร…”
“ญาตินาย ยุนซ็องฮันน่ะ นายรู้ได้ยังไงว่าหมอนั่นคิดจะฆ่านาย”
ถึงแม้วาซีลีจะลองถามคนที่คอยสะกดรอยอึนฮันจนได้คำตอบแล้วก็เถอะ (แม้ว่าตามมาตรฐานของใครหลายคน วิธีของเขาอาจดูไม่เหมาะกับคำสุภาพอย่างคำว่า ‘ถาม’ ก็ตาม) และแน่นอน อึนฮันไม่เคยรู้ว่ามีคนพวกนี้อยู่ด้วย
วาซีลีรู้สึกไม่สบอารมณ์หน่อย ๆ เป็นเพราะอึนฮันไม่ยอมอยู่ในกำมือเขาอย่างนั้นหรือ วาซีลีนิ่งคิดถึงเหตุผลที่ทำให้เขาไม่พอใจอยู่สักพักแล้วถึงเข้าใจเขาไม่อยากให้อึนฮันรับรู้ ยุนอึนฮันคือผู้ชายขี้กลัวที่หวังเพียงความสงบสุขในชีวิต แม้คนอย่างเขาจะมอบความสงบสุขนั้นให้อึนฮันไม่ได้ อย่างน้อยเขาก็อยากทำให้อึนฮันไม่รู้สึกว่าถูกคุกคาม แต่ทว่า ‘คดีไม่มีอายุความ’ ที่อึนฮันพูดถึงนั้นชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายถูกเพ่งเล็ง เขาไม่อยากให้อึนฮันรับรู้ แต่ก็อยากทำให้อีกฝ่ายแน่ใจเช่นกันว่าตัวเองมีคนคอยปกป้อง
“มีคนโทรมาหาผมครับ”
“โทรมางั้นเหรอ” วาซีลีถามกลับอย่างไม่เข้าใจ
“หมอนั่น…เที่ยวไปร้องขอหลาย ๆ ที่ให้มาฆ่าผม แต่เหมือนจะถูกปฏิเสธหมดน่ะครับ สุดท้ายแล้วข่าวลือก็กระจายมา…”
มีคนโง่ขนาดนี้อยู่ด้วยเรอะ วาซีลีตกใจจนพูดไม่ออก มีคนมากมายรับงานจ้างวานฆ่าก็จริงอยู่ ตั้งแต่พวกแก๊งทั่วไปที่ยอมฆ่าคนเพียงเพราะเงินไม่กี่เหรียญ ไปจนถึงธุรกิจจ้างวานฆ่าที่รับประกันว่างานจะสำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ มีกลุ่มคนมากมายหลากหลายยึดงานนี้เป็นอาชีพ ถึงขนาดมีบางคนที่เสนอราคาห้าร้อยดอลลาร์ต่อการฆ่าคนถึงแปดคนด้วยซ้ำ จนตอนนี้การต่อรองเรื่องราคาชีวิตคนกลับกลายเป็นเรื่องไร้สาระไปเลย แล้ววาซีลี คามินสกีล่ะเป็นใคร เขาคือหนึ่งในนักธุรกิจชั้นนำที่ทำให้ราคาชีวิตของผู้คนมากมายต้องกลายเป็นของลดราคาไม่ใช่หรอกหรือ
ทว่าการจ้างวานฆ่าใช่จะมีขายให้เห็นกันในห้างสรรพสินค้าวอลมาร์ต มันยังเป็นความลับสุดอันตราย และเป็นเสมือนระเบิดที่ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง
“…เป็นญาติร่วมสายเลือดกันจริง ๆ เหรอ”
สายเลือดเดียวกันแท้ ๆ แต่นิสัยต่างกันขนาดนี้ได้ยังไง วาซีลีก้มลงมองอึนฮันอย่างไม่เข้าใจ ทั้งที่อึนฮันเป็นคนหูตาไวไหวพริบดี แม้จะขี้กลัวก็ยังสุขุม ทว่าญาติผู้พี่กลับโง่เขลาเบาปัญญาอย่างน่าสมเพช หมอนั่นอวดอ้างตัวเองอย่างหยาบคายไร้มารยาทและน่าขยะแขยงจนไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ เชื่อไหมว่าหมอนั่นน่ะต่ำช้าจนเกินคำว่าโง่แล้วอวดฉลาดไปแล้วด้วยซ้ำ ใช่ ตัวเขาเองก็ไม่ได้สูงส่งมาจากไหน แต่ไอ้นั่นมันไม่ใช่คน เป็นแค่แมลงตัวหนึ่งต่างหาก เมื่อเห็นวาซีลีผู้มีกฎเหล็กว่าถ้าหากเป็นแมลงแล้วไซร้ต้องจัดการให้สิ้นซากแบบไม่มีเงื่อนไขทำหน้าฉงนฉงายเช่นนั้น อึนฮันก็หัวเราะออกมาอย่างไร้เรี่ยวแรง
“ซ็องฮันน่ะ เหมือนคุณปู่ตอนหนุ่ม ๆ ออกจะตายครับ”
วาซีลีถึงกับพึมพำออกมาว่าให้ตายเถอะ พระเจ้า เมื่ออึนฮันยืนยัน ความจริงแล้วเขาเองก็ยอมรับอยู่หน่อย ๆ ว่าทั้งสองน่าจะมีสายเลือดเดียวกัน เพราะอึนฮันและซ็องฮันมีมุมที่คล้ายกันอยู่เล็กน้อย แต่เรื่องที่เขาไม่อยากยอมรับก็เป็นความจริงเช่นกัน วาซีลีเอนตัวลงนอนข้างอึนฮัน ยกมือข้างหนึ่งขึ้นค้ำศีรษะตนไว้
“แต่เขาทำแบบนั้นเป็นครั้งที่สองไม่ได้หรอกครับ คนอย่างหมอนั่นไม่กล้าพออยู่แล้ว”
“ดีแล้ว” วาซีลียิ้มให้อึนฮันเมื่อได้ยินแบบนั้น
Comments