ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว 78

Now you are reading ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว Chapter 78 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คำว่า ‘ขอโทษ’ ที่คริสสั่งให้พูดนั้นช่างกระอักกระอ่วนเหลือเกิน สำหรับคนอย่างซ็องฮันแล้วนับว่ายอมอ่อนข้อให้คริสมากจริง ๆ คนที่มีความหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีสูงเสียดฟ้าแบบหมอนั่นต้องเจ็บปวดขนาดไหนกันที่โดนบังคับให้พูดคำนั้นออกมา เมื่อคืนคงหลับไม่ลงเป็นแน่ ไอ้ที่อยู่ใต้ตานั่นคงไม่ใช่รอยช้ำแต่เป็นรอยคล้ำจากการอดนอนสินะ แถวนี้ไม่มีแพนด้าลายจุดเสียหน่อย อึนฮันเดาะลิ้น

“ไอ้โง่เอ๊ย”

แค่เห็นหน้านายก็อยากด่าจะแย่แล้ว ไอ้เวรนี่

“เมื่อไรจะโตสักที ให้ตายสิ”

ทำเรื่องแบบนั้นแล้วคิดว่าจะจบเรื่องทุกอย่างด้วยคำคำเดียวง่าย ๆ ว่า ‘ขอโทษ’ หลังจากถูกซ้อมมาแค่ไม่กี่ทีเนี่ยนะ แถมยังขอโทษเป็นภาษาอังกฤษอีก นายคิดจะทำตัวเป็นคนโง่แบบนี้ไปถึงไหนและถึงเมื่อไรกัน ซ็องฮันถลึงตาหลังจากได้ยินน้ำเสียงดูหมิ่นของเขา อึนฮันมองความเคียดแค้นที่ปะทุอยู่ในแววตาคู่นั้นและกำลังจะแค่นหัวเราะออกมา แต่แล้วก็กลับมีเสียงปังดังลั่นขึ้นเสียก่อน

“ทำดี ๆ ไม่ได้ใช่ไหม”

คริสแยกเขี้ยวทำเอาซ็องฮันก้มหน้างุดลงไปทันที ตอนนั้นเองอึนฮันก็รู้สึกเหมือนตัวเองหูแว่วได้ยินเสียงดังแก๊ง เขากอดอกพลางทอดถอนใจ สายเกินไปแล้วที่จะจบเรื่องนี้ด้วยคำขอโทษ แม้จะรู้ทั้งรู้ แต่ดูเหมือนคริสจะยังอยากให้เขาได้รับคำขอโทษบ้าง และแม้จะรู้ทั้งรู้ ซ็องฮันก็กลัวคริสเกินกว่าจะขัดขืน

“เอาเป็นว่าฉันรับคำขอโทษแล้ว เพราะฉะนั้นก็พอเถอะ”

อึนฮันห้ามคริส ตำรวจหนุ่มตาถลนทันที

“รับแล้วอะไรของนาย แค่คำเดียวเนี่ยนะ”

“แล้วถึงกับต้องรับจดหมายขอโทษเลยไหมล่ะ พอเถอะน่า”

อึนฮันห้ามคริสก่อนจะพูดต่อ

“ฉันไม่คิดจะยกโทษให้หมอนี่หรอก ไม่ยกโทษให้ตลอดชีวิตและไม่คิดจะกลับไปยุ่งด้วยอีกแล้ว เมื่อก่อนก็ไม่คิด ยิ่งตอนนี้ยิ่งไม่คิด เพราะงั้นนายปล่อยหมอนี่ไปเถอะ ฉันขี้เกียจคุยด้วย”

คริสยิ้มร่าเมื่อถูกอึนฮันเอ็ดเข้าให้

“รอฉันเดี๋ยวนะ”

คริสพูดเสียงขึงขังเพราะยังอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ก่อนจะลากซ็องฮันออกไป อีกฝ่ายที่พูดและเข้าใจภาษาอังกฤษอย่างดีเพราะเป็นนักบินถูกคริสลากหายไปทั้งสีหน้าบูดบึ้ง เสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กดังขึ้นขณะที่อึนฮันนั่งเหม่อลอยมองนกมองไม้ไปเรื่อยระหว่างรอคริส เมื่อก้มลงมองก็พบว่ามีข้อความเข้ามา

‘คุยกันหน่อยสิ’

ส่งมาจากหมายเลขแปดสี่ห้า เคย์นั่นเอง อึนฮันกดปิดหน้าจอไปก่อน คุยงั้นเหรอ แล้วก่อนหน้านี้ไม่เรียกว่าคุยหรือไง ถึงคุยไปก็คงจบแบบเดิม แต่เขาก็ยังคาใจที่ตัวเองตัดสายเคย์เมื่อครู่อยู่ดี เขาควรจะโทรกลับไปดีไหม อึนฮันลังเลอยู่สักพัก แต่แล้วก็ต้องเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าตามเดิมเมื่อเห็นคริสโผล่มาตรงประตูทางเข้าร้าน

คริสหย่อนตัวลงนั่งข้างอึนฮันทั้งที่ฝั่งตรงข้ามก็ยังว่าง อึนฮันหันไปมองอย่างสงสัยว่าอีกฝ่ายเกิดเป็นอะไรขึ้นมาอีกแล้ว แต่พนักงานเสิร์ฟก็นำกาแฟเข้ามาเสิร์ฟพอดี พวกเขาสั่งลาเต้เหมือนกันทั้งคู่ ขณะที่อึนฮันกำลังคิดว่าพวกเขาสองคนชอบอะไรเหมือนกันนั้น คริสก็ถามขึ้นมาราวกับรู้ใจ

“พวกเราเหมือนกันมากเลยใช่ไหมล่ะ”

อึนฮันยิ้มอย่างอารมณ์ดี

“ก็เราชอบอะไรเหมือนกันหลายอย่างเลยน่ะสิ”

“ถ้าคนอื่นเห็นเขาคงคิดว่าเราเป็นญาติกัน”

คริสพูดอย่างภาคภูมิใจ เขากำลังบอกอึนฮันกลาย ๆ ให้ลืมญาติที่แท้จริงของตัวเองไปเสีย แล้วให้คิดว่าเขาเป็นญาติแทน แต่อึนฮันกลับพึมพำตอบในใจว่า ‘ไม่ใช่สักหน่อย’ เพราะอย่าว่าแต่เป็นญาติเลย พวกเขาสองคนดูไม่เหมือนคนชาติพันธุ์เดียวกันด้วยซ้ำไป

“เพราะงั้นอย่าไปยุ่งกับไอ้เวรนั่นอีก”

“ไม่ยุ่ง ๆ ๆ!”

“เป็นอะไรเนี่ย ที่รัก”

คริสพึมพำอย่างร้อนรนเมื่อเห็นเขาตะโกนออกมาแบบนั้น อึนฮันหันไปมองรอบตัว ภาพของวาซีลีเมื่อวานนี้ยังคงแจ่มชัดในสายตา ไม่ใช่วาซีลีคนที่บอกว่า ‘ฉันชอบนาย’ แต่เป็นวาซีลีคนที่พูดว่า ‘ฉันหวังไว้นะว่านายจะไม่มีวันพูดคำว่า ‘พี่’ ออกมาจากปากนายอีก’ คนนั้นต่างหาก ฮึก พอคิดดูอีกที หากเขาจะคบหากับชายหนุ่มก็ดูจะมากเกินไป อยากบีบคอตัวเองจริงโว้ย! อ๊าก! เมื่อกี้ว่าไงนะ ถ้าจะคบกับคนคนนั้นดูจะ ‘มากเกินไป’ งั้นเหรอ แปลว่าคิดจะคบกับเขาใช่ไหม ยุนอึนฮัน แกมันบ้าไปแล้ว!

“ฉันแค่จะบอกนายว่า…ให้คิดว่าฉันเป็นคนในครอบครัวเอง…”

คริสพูดต่อเสียงเบา เขาคิดว่าคำพูดนี้ฟังดูเท่ดีเลยตั้งใจจะทำให้บรรยากาศดีขึ้น แต่พอเห็นอึนฮันตกใจขนาดนั้นก็เสียงอ่อยลงทันตา ทั้งที่คริสคือหนึ่งในนายตำรวจสุดโหดประจำไมแอมีแท้ ๆ ทว่าเขากลับใจอ่อนกับอึนฮันเสมอ อึนฮันบอกให้มาก็มา บอกให้ไปก็ไป เขาไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงเป็นแบบนี้แต่ก็เป็นไปแล้ว

ไม่สิ ความจริงแล้วเขารู้ดี

‘เพื่อนของนายเคยเอาตัวเข้าเสี่ยงเพื่อช่วยนายมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่จะไม่มีครั้งที่สองอีก’

วาซีลีได้พูดไว้อย่างชัดเจนแล้ว คำพูดนั้นหมายความว่าอึนฮันเคยช่วยเขาจากเงื้อมมือของวาซีลีมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่อึนฮันกลับไม่เคยพูดออกมาจากปากเลยสักครั้ง อีกฝ่ายไม่เคยแสดงออกทั้งยังคอยดูแลคริสเหมือนเป็นคนในครอบครัว ดังนั้นหากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอึนฮัน เขาก็มักจะเข้าไปช่วยอย่างกระตือรือร้นเสมอ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด