ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว 84
เฮ้ ๆ ๆ…นีโคไลตาโต รีบลากคุณหมอออกไปแทบไม่ทัน คุณหมอผู้เอื้ออารีเฉพาะกับบรรดาลูกค้ากระเป๋าหนักตรงกันข้ามกับหน้าตาที่ดูใจบุญสุนทานเข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็ว เขารีบเก็บข้าวของใส่กระเป๋าแล้วเดินตามนีโคไลออกจากห้องทันที อึนฮันเหลือบมองทั้งสองคนจนวาซีลีต้องทำให้เขากลับมาสนใจอีกครั้ง
อึนฮันจำต้องหันมาสบตาวาซีลีอย่างช่วยไม่ได้
“อย่างน้อยก็เชื่อใจกันบ้างเถอะ”
ให้เชื่อลมยังดีกว่าเลยครับ
ริมฝีปากอึนฮันแห้งผากจนต้องกลืนน้ำลาย จะให้เชื่อใจคนที่ขึ้นชื่อว่าเลวที่สุดในโลกได้ยังไงกัน ถ้าเขาชอบอีกฝ่ายก็ว่าไปอย่าง
…‘ถ้า’ เหรอ นี่พูดอะไรของนายน่ะยุนอึนฮัน เป็นบ้าไปแล้วหรือไง เมื่อกี้บอกว่าอาจจะชอบใครนะ ระหว่างที่อึนฮันเค้นถามตัวเองในใจ วาซีลีก็มองเขาอยู่เช่นกัน ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นเมื่อเห็นนัยน์ตาที่สั่นไหวด้วยความกังวลของอึนฮัน
“นายคือจุดอ่อนของฉัน”
พอพูดจบวาซีลีก็ทำหน้าแปลก ๆ ในแบบที่อึนฮันไม่อาจบอกได้ว่าสีหน้านั้นดีหรือไม่ดีอย่างไร
“เพราะฉะนั้นอย่าทำแบบนี้อีก”
อึนฮันได้แต่ก้มหน้างุดไม่ยอมพูดอะไร เขาเองก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน
…นั่นคือใบหน้าของวาซีลี
เมื่อใบหน้าแสนดีราวพ่อพระของเขาฉายแววเศร้าหมองโดดเดี่ยว หัวใจของอึนฮันก็สั่นไหวอย่างไร้ปรานีประหนึ่งกิ่งหลิวลิ่วลมในวันฤดูร้อน แม้จะรู้ดีว่าใบหน้ากับจิตใจของอีกฝ่ายต่างกันราวฟ้ากับเหวก็ตาม
“ที่คุณบอกให้ผมเชื่อใจคุณบ้าง…นั่นหมายความว่าคุณจะไม่ฆ่าคริสเหรอครับ”
เขาเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง อึนฮันรู้จักอีกฝ่ายดีพอที่จะรู้ว่าวาซีลีไม่ได้หมายความว่าจะไว้ชีวิตคริสเพียงเพราะคริสเป็นเพื่อนเขา แล้วก็เป็นไปตามที่อึนฮันคิด วาซีลีเหลือบตามองเขา สีหน้าคล้ายจะถามว่าทำไมถึงต้องทำอย่างนั้นด้วย ว่าแล้วเชียว อึนฮันคิดพลางก้มหน้าลง
“ให้เชื่อว่านายคือจุดอ่อนของฉันต่างหาก”
คำพูดที่บอกให้เขาเชื่อว่าไม่มีใครไม่อ่อนแอต่อหน้าคนที่ตัวเองชอบทำให้อึนฮันยิ้มขื่น ๆ คนส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้น แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ฆ่าคนหรือลักลอบค้าอาวุธสักหน่อยนี่ครับ แล้วผมจะนับว่าคุณเป็นคนส่วนใหญ่พวกนั้นได้ยังไง
วาซีลีประคองหน้าอึนฮันให้เงยขึ้นมองเขา อึนฮันจึงจำต้องมองอย่างไม่อาจหลีกหนี ก่อนจะเพิ่งสังเกตเห็นว่าสีหน้าของวาซีลีดูไม่ดีเอาเสียเลย ใบหน้าขาวนวลของอีกฝ่ายดูขาวเสียจนเรียกได้ว่าซีดเผือด
ตอนก่อเรื่องเมื่อก่อนหน้านี้อึนฮันไม่ได้คิดอะไรเลย เขาร้อนใจเพราะวาซีลีดูเหมือนจะฆ่าคริสจริง ๆ จนเขาคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างถึงได้ทำแบบนั้นลงไป แต่พอเห็นหน้าวาซีลีเป็นแบบนี้ก็ทำให้เขาเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมา
ทว่าเขาเชื่อใจวาซีลีไม่ได้ วาซีลีพูดขึ้นเมื่อเห็นอึนฮันเอาแต่มองหน้าเขาเงียบ ๆ
“เรามาลองเล่นเกมพูดความจริงกันดีไหม”
อึนฮันเอียงคอเล็กน้อยเพราะคำพูดที่ไม่คาดคิดนั้น
“นายเริ่มก่อนเลยก็ได้ อยากถามอะไรฉันล่ะ”
อึนฮันไม่มีเรื่องใดที่อยากถามเป็นพิเศษ วาซีลีพูดจนชัดแจ้งแล้วว่าชอบเขาและไม่คิดจะปล่อยให้ความสัมพันธ์นี้หลุดมือไป ดังนั้นเขาจึงไม่สงสัยอะไรในตัววาซีลีอีกแล้ว
“คุณเริ่มก่อนเถอะครับ” อึนฮันพูด วาซีลีจึงเอ่ยปากทันทีราวกับรออยู่ก่อนแล้ว
“นายรู้มาตลอดเลยรึเปล่าว่าลินเบิร์กเป็นเอฟบีไอ”
รู้งี้เขาถามก่อนเพื่อยื้อเวลาซะก็ดีหรอก
ใบหน้าของอึนฮันแข็งทื่อราวกับแผ่นน้ำแข็งในฤดูหนาวที่ปริร้าวจนแยกออกจากกัน แค่มองหน้าเขาวาซีลีก็พยักหน้าราวกับพอจะเดาคำตอบได้แล้ว อึนฮันจึงรีบพูดละล่ำละลักต่อทันที
“ผมไม่ได้รู้มาตั้งแต่แรกนะครับ”
“งั้นเหรอ”
“จริง ๆ นะครับ ผมถึงขั้นจัดงานศพให้เขาด้วยซ้ำ”
อึนฮันเริ่มเล่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาเล่าต่อไปพักใหญ่ก่อนที่วาซีลีจะหัวเราะออกมา
“นายนี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ นะ ทำเหมือนตัวเองเล่าตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ความจริงแล้วไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด”
อึนฮันที่จริง ๆ แล้วตั้งใจจะพูดเฉพาะเรื่องที่วาซีลีรู้อยู่ก่อนแล้วถึงกับเบิกตากว้าง นะ…นี่กำลังทรมานให้บอกความจริงกันอยู่งั้นเหรอ ไม่ว่าอย่างไรคนอย่างวาซีลี คามินสกีก็ต้องทำอย่างนั้นอยู่แล้วนี่นะ วาซีลีขมวดคิ้วเมื่อเห็นความหวาดกลัวปรากฏขึ้นในแววตาของอึนฮัน
“จำได้ไหมว่าเมื่อกี้ฉันพูดอะไรกับนาย”
วาซีลีทำหน้าบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าของอึนฮัน เขาพึมพำออกมาเบา ๆ ว่านายไม่เคยเชื่อใจฉันเลยสินะ ในขณะที่อึนฮันเอาแต่ปิดปากเงียบ จะให้เชื่อใจกันได้ยังไงล่ะ ถ้าหากอึนฮันไม่ใช่คนที่ทำงานด้านนี้ เขาอาจเชื่อวาซีลีไปแล้วก็ได้ แต่ยุนอึนฮันนั้นรู้จักวาซีลีดีกว่าใคร เขารู้จักตัวตนที่แท้จริงของชายผู้น่าประหวั่นพรั่นพรึงที่ใครต่อใครต่างพากันเรียกว่าจอมล้างแค้น รู้แม้กระทั่งว่าผู้ชายคนนี้ในอีกมุมก็อ่อนโยนได้อย่างคาดไม่ถึง แต่เขาก็รู้อีกเหมือนกันว่าเพราะแบบนั้นคนคนนี้จึงยิ่งน่ากลัว วาซีลีไม่ใช่ปีศาจที่ไหน เขามีชีวิต มีจิตใจ ทว่ากลับเป็นที่หนึ่งในด้านความอำมหิต ดังนั้นแม้ทำตัวอ่อนโยนเพียงไรแต่เขาก็โหดเหี้ยมได้มากมายพอ ๆ กัน
Comments