ช่วยทีครับ ใจผมรับคุณมาเฟียไม่ไหว 97
“วาซีลี คามินสกี…”
พอเห็นเคย์กัดฟันกรอดแบบนั้น อึนฮันก็เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาหน่อย ๆ สำหรับเอฟบีไออย่างเคย์แล้ว วาซีลีนับว่าเป็นบุคคลสำคัญที่มีค่ามหาศาลทีเดียว ทั้งที่ชายหนุ่มคือ ‘บุคคลที่อยากจับจนแทบบ้า’ แต่อึนฮันกลับทำลายความหวังของเคย์จนไม่เหลือชิ้นดี
“ลืมเรื่องวันนี้ซะ อย่าเข้ามายุ่งกับฉันและยุนอีก เท่านี้ก็พอ ฉันเองก็จะลืมนายเหมือนกัน บอกเลยว่างานนี้ลดกระหน่ำ เพราะฉันไม่เคยลืมความแค้นด้วยราคาที่ถูกขนาดนี้มาก่อนเลยนะ”
“…ถ้าแกไม่เข้ามาโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว ป่านนี้ฉันคงจับแกได้แล้ว”
“นายก็เลยติดเครื่องส่งสัญญาณไว้กับยุนงั้นสิ”
อึนฮันหันขวับมามองวาซีลีด้วยความตกใจ วาซีลีเพียงแค่ยิ้มเท่านั้น
“สิ่งที่นายทำได้ก็มีแค่สั่งให้ผู้ชายที่ตัวเองเคยทิ้งขว้างเมื่อนานมาแล้วมาเป็นสายลับให้ คิดจะจับฉันด้วยทักษะแค่นั้นน่ะนะ นายนี่มันเลยคำว่าอวดดีจนใกล้บ้าเต็มทีแล้ว ปกติฉันควรต้องต้อนรับขับสู้นายให้สมกับที่นายทำไว้ แต่คราวนี้จะปล่อยไปสักครั้งก็แล้วกัน เพราะตอนนี้ฉันอยากกอดคนรักของฉันจะตายแล้ว”
“ถ้าแกคิดว่าเรื่องมันจบแล้ว แกคิดผิด”
“หมาที่สู้แพ้ย่อมเห่าดังกว่าเสมอ” เขาเยาะเย้ยทันทีที่เคย์แยกเขี้ยวขู่ “แล้วก็นะ” วาซีลีพูดเสริมก่อนที่รอยยิ้มจะอันตรธานไป ความอำมหิตฉายชัดอยู่บนใบหน้าที่เริ่มจะเย็นชาจนเคย์ตาเบิกโพลง ถึงอย่างนั้นอึนฮันซึ่งถูกวาซีลีโอบกอดจากด้านหลังก็ไม่อาจเอี้ยวตัวกลับไปมองได้แม้จะเห็นสีหน้าของเคย์ เพราะเขาก็ต้องคอยมองเคย์ไม่ให้คลาดสายตาขณะที่ยังถือโน้ตบุ๊กไว้เช่นกัน
“อย่าทำอะไรยุน วันไหนที่นายกล้าเข้ามาแตะแม้แต่เงาของยุน นายจะได้รับวิดีโอสนุก ๆ ของเคซีที่แสนน่ารักของนายแน่นอน”
อึนฮันได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ เพราะไม่รู้ว่าเคซีคือใคร
เคซี คีตัน ชื่อของลูกสาวถูกยกขึ้นมาพูดทั้งที่เขายังใช้นามแฝงอยู่ ทำเอาเคย์ถึงกับตวาดลั่น “ถ้าแกแตะต้องเด็กคนนั้นแม้แต่ปลายนิ้วละก็ แกตาย! ฉันจะฆ่าแกให้ได้!”
คำขู่ที่คล้ายกับคำสาปแช่งนั้นเล่นเอาอึนฮันถึงกับสะดุ้ง แต่วาซีลีกลับตอบไปอย่างไม่ยี่หระ “แค่นายไม่มาแตะต้องยุนก็พอ”
เคย์เปิดประตูออกช้า ๆ
อึนฮันมองตรงไปที่เคย์ตาไม่กะพริบ ทันใดนั้นเคย์ก็จ้องเขากลับมาพอดี สิ่งที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเอฟบีไอหนุ่มมีเพียงความอาฆาตแค้น ถึงแม้ซ็องฮันจะจากไปทั้งที่ยังหลงใหลอึนฮันอยู่ แต่เคย์กลับมีเพียงสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเกลียดชังเท่านั้น เอาเถอะ ดูจากสิ่งที่เขาทำก็สมควรแล้ว ทั้งที่เขาคิดว่าตัวเองเข้าใจ อึนฮันก็ยังรู้สึกแปลกอยู่ดี
หลังจากประตูเปิดและปิดลงอย่างระมัดระวัง เสียงวิ่งก็ดังตามมาทันที อึนฮันลดโน้ตบุ๊กลงเมื่อแน่ใจว่าเสียงนั้นดังไกลออกไปแล้วจริง ๆ วาซีลีกระชับกอดเขาแน่นจากด้านหลัง
“หะ…หายใจไม่…”
วาซีลีประทับริมฝีปากลงบนแก้มของอึนฮันโดยไม่พูดอะไร ก่อนที่ริมฝีปากนั้นจะไล่ขึ้นมาจนถึงริมฝีปากอีกฝ่าย อึนฮันค่อย ๆ วางโน้ตบุ๊กลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวังแล้วยกแขนขึ้นคล้องคอวาซีลีไว้ ริมฝีปากประกบกัน สัมผัสถึงไออุ่นจากอีกฝ่าย ความรู้สึกว่าพวกเขาเป็นคนรักที่แท้จริงเริ่มก่อตัวขึ้น นี่คือช่วงเวลาที่ทั้งสองไม่คิดจะแบ่งปันกับใครนอกจากคนรักของตน
นี่ฉันยอมสละชีวิตตัวเองอย่างกับของไร้ค่าเมื่อกี้เพื่อวินาทีนี้อย่างนั้นเหรอ
อึนฮันหัวเราะออกมาทันทีที่คิดเช่นนั้น วาซีลีลืมตาขึ้นมาด้วยความแปลกใจที่อีกฝ่ายหัวเราะคิกคักทั้งที่ริมฝีปากยังประกบกันอยู่
“ยุน มีอะไรเหรอ”
“อ๋อ เปล่าครับ”
อึนฮันยิ้มพร้อมกับเลียริมฝีปากล่างของวาซีลีเบา ๆ
“ผมแค่คิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่าน่ะ”
“อ้อ” วาซีลีตอบรับพลางยิ้มจนตาหยีเมื่อได้ยินคำตอบจากเขา อึนฮันไม่มีทางรู้หรอกว่าอีกฝ่ายเข้าใจความหมายของสิ่งที่เขาพูดหรือเปล่า เพราะวาซีลีคามินสกีน่ะหูตาไวจนไม่น่าเชื่อ บางครั้งอึนฮันถึงได้สงสัยว่าเขามีพลังวิเศษอย่างไรล่ะ
แต่ต่อให้ชายหนุ่มไม่เข้าใจก็ไม่สำคัญ เพราะถึงอย่างไรช่วงเวลานี้ก็เกิดขึ้นที่นี่แล้ว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
นับเป็นโชคดีของซ็องฮันที่มีเที่ยวบินไปสนามบินอินช็อนพอดี และยิ่งโชคดีที่เที่ยวบินนั้นเป็นของสายการบินที่เขาทำงานอยู่ ซ็องฮันขบคิดถึงคำเตือนของอึนฮันขณะนั่งอยู่บนเครื่องบิน ยิ่งคิดถึงเขาก็ยิ่งอึดอัด ใจหนึ่งก็อับอาย ทว่าอีกใจกลับโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอก เขากดปุ่มเรียกพนักงานเพราะต้องการสั่งเบียร์มาดื่มเพื่อกดอารมณ์ย้อนแย้งที่ตีกันไปมาเหล่านี้ไว้
“อ้าว กัปตัน”
พนักงานสาวที่เดินเข้ามาใกล้นั้นช่างคุ้นตา ซ็องฮันจึงเงยหน้ามองเธอชัด ๆ หญิงสาวเจ้าของใบหน้าเย็นชาที่รวบผมขึ้นอย่างเรียบร้อยคนนี้คือสาวงามผู้โด่งดังในบรรดาชายหนุ่มทั้งหลาย ทั้งยังเป็นคนที่เขาหมายตาไว้อีกด้วย เขานี่ช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้มาเจอกับหญิงสาวอันดับหนึ่งในรายชื่อสาว ๆ ที่เขาอยากลองเล่นด้วยก่อนจะแต่งงาน
“อ้าว สวัสดี”
“กัปตันมาทำอะไรที่ไมแอมีเหรอคะ”
เธอกระซิบถาม ซ็องฮันตอบปัดไปว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอกขณะเงยหน้ามองเธออีกครั้ง
Comments