ซวยจริง กลายเป็นสาวน้อยไม่พอยังเจอเหล่าเจ้าหญิงของโรงเรียนมาจีบอีก 31
หลังจากเหตุการณ์อันวุ่นวายที่โรงเรียนได้จบลงไป ผมก็กลับบ้านมาเตรียมตัวสำหรับการไปเที่ยวในวันพรุ่งนี้กับคุณน้ำ แต่ปัญหาตอนนี้ก็คือเรื่องของชุด เพราะนอกจากชุดนักเรียนแล้วส่วนใหญ่มันก็เป็นชุดไปรเวตใส่ง่าย ๆ หรือหนักกว่าหน่อยก็เป็นกางเกงผู้ชายไปเลยจากความชินของผม
“เอาตัวไหนดีเนี่ย”
พอคิดว่าจะต้องไปเที่ยวกับคุณน้ำแล้วมันก็ได้แต่สงสัยว่าจะใส่ชุดแบบไหนดี แต่เมื่อตระหนักอะไรบางอย่างได้ก็ทำเอาผมรีบคว้ากางเกงยีนตัวเก่าของตัวเองขึ้นมาทันที
ใช่แล้ว นี่ล่ะ…เวลาของการทวงคืนความเป็นชาย
“นี่ล่ะใช่เลย…. ว่าแต่ชุดมันไม่หลวมไปหน่อยเหรอเนี่ย….”
มองตัวเองหน้ากระจก ภาพที่สะท้อนกลับมานั้นคือภาพของเด็กสาวตัวน้อยผมสีดำที่อยู่ในเสื้อเชิร์ตสีดำ กางเกงยีนต์มีรอยขาดหน่อย ๆ เผยให้เห็นสีเนื้อที่บริเวณต้นขา
มันช่างเป็นการแต่งตัวที่สมกับชายชาตรีแบบไม่มีผิดเพี้ยน แต่ดันติดปัญหาใหญ่นั่นคือมันหลวมทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะชุดหรือกางเกง
ลืมไปเลยว่าพอกลายเป็นสาวน้อยแล้วร่างก็เล็กลงไปด้วย ให้ตายสิ แบบนี้จะทำอย่างไรดีนะ มีชุดเล็ก ๆ พอเหลือไหมเนี่ย
ผมพยายามค้นตู้เสื้อผ้าเรื่อย ๆ เผื่อว่ามันจะมีชุดสมัยก่อนพอเหลือบ้าง ซึ่งอันที่จริงบ้านนี้นั้น ชุดที่เตรียมไว้มันเป็นชุดผู้หญิงทั้งหมด ช่วงแรกที่ยังปรับตัวไม่ค่อยได้ผมก็เลยไปแอบขนของมาจากหอเก่า
โครม ๆ
“นี่ทำอะไรอยู่เหรอคะ เสียงดังไปถึงข้างล่างเลยนะคะน้องฟ้า”
ประตูได้เปิดขึ้น พร้อมกับร่างของพี่อีฟที่เดินเข้ามาและเอียงคอมองผมมาอย่างสงสัย
“เอ่อ…คือ กำลังเลือกชุดอยู่น่ะค่ะพี่อีฟ”
“เลือกชุด? ใส่ชุดเชิร์ตหลวม ๆ แบบนี้จะไปปาร์ตี้ชุดนอนเหรอคะ”
“ใครมันจะใส่กางเกงยีนนอนกันล่ะพี่อีฟ นี่หาชุดไปเที่ยววันพรุ่งนี้ต่างหาก”
“เที่ยวเหรอคะ?ไม่เห็นทราบว่าพรุ่งนี้มีแผนจะเที่ยวมาก่อน”
“อ่อ ลืมบอกไปเลย พรุ่งนี้พี่อีฟพอว่างไหม ว่าจะให้ไปส่งหน่อยน่ะ พอดีมีนัดเที่ยวกับคุณน้ำวันเสาร์นี้”
กึก
ตอนนั้นเองที่เหมือนกับว่าพี่อีฟจะชะงักไปชั่วขณะ ก่อนที่จะจ้องเขม็งมาที่ผม เธอขยับแว่นหนึ่งทีแบบพวกคุณพี่สาวสุดเคร่ง
“คุณน้ำ…หมายถึงเจ้าหญิงของโรงเรียนใช่ไหมคะ”
“อือ ๆ พอดีแพ้การแข่งเลยต้องไปเที่ยวตามสัญญาน่ะ”
“ถามหน่อยนะคะ นี่ชุดเดตเหรอคะ….อย่างกับช่างซ่อมไฟ นี่จะไปเดตกับเจ้าหญิงจากตระกูลใหญ่จริงเหรอคะ”
“แต่มันก็สมชายดีนะ!!!นี่ไงกางเกงยีน”
“สมชาย?แต่ตอนนี้คุณเป็นสาวน้อยน่ารักนะคะ กรุณาใส่ชุดให้เหมาะสมกับความน่ารักนั่นด้วยจะดีมากค่ะ”
“ตะ..แต่ไม่ใช่ว่าเราต้องรักษาความเป็นชายงั้นเหรอ”
“แต่ตอนนี้เป็นสาวน้อยค่ะ”
“ไม่ใช่ว่าต้องสู้กับฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป….”
“เป็นสาวน้อยค่ะ”
ไม่ว่าจะเถียงไปอย่างไร แต่พี่อีฟก็ยังคงตอบกลับมาแบบหน้านิ่งไร้ซึงความปราณีหรือเห็นใจ จนผมสงสัยว่าพี่แกกำลังสนุกอยู่เหรอเปล่ากับการแกล้งผมแบบหน้าตายเนี่ย
“เฮ้อ… ลองคิดดูดี ๆ นะคะน้องฟ้า “ที่น่ารัก” ตอนนี้คุณน่ะกำลังไปเดตนะคะ แถมคนที่ไปเดตด้วยยังเป็นถึงลูกเจ้าสัวระดับซื้อประเทศได้เนี่ย เหมาะสมแล้วเหรอคะ ที่จะแต่งตัวเป็นช่างซ่อมไฟไปน่ะ”
“ไม่ใช่เดตซะหน่อย แค่เที่ยวเฉย ๆ เอง!!”
“โห นี่ใสซื่อหนักหรือว่าหลอกตัวเองกันคะน้องฟ้า ปิดตามองยังรู้เลยว่าอีกฝ่ายคิดแบบไหน เที่ยวกันแบบนี้อย่างไรก็เป็นการเดตชัด ๆ ค่ะ”
“ฮืออออ”
ผมได้ยินแบบนั้นก็หน้าแดงขึ้นก่อนเอาตัวไปมุดลงกับเตียงเพื่อปิดซ่อนใบหน้าที่เขินอายนี้ แต่ก็โดนพี่อีฟลากออกมาจากเตียงก่อนที่จะมีเสียงกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู
“ลองพ่อคุณน้ำรู้ว่าคุณแต่งตัวเป็นช่างไฟไปเดตกับลูกสาวดูสิคะ คนเป็นพ่อเป็นแม่จะรู้สึกอย่างไร มันต้อง “ยัยสาวนี่ไม่ให้เกียรติลูกฉันเลย เอามันไปถ่วงอ่าว” แบบนี้แน่นอน”
“ถ่…ถ่วงอ่าวเลยงั้นเหรอ”
“ถ้าได้ไปเที่ยวกับคุณน้ำด้วย…. มีไปต่อกับคุณบีมด้วยใช่ไหมคะ”
“อะ…เออ วันอาทิตย์น่ะ”
“โห น้องฟ้าของพี่จะบาปหนาไปแล้ว แต่ก็นั่นล่ะค่ะ รู้ไหมคะว่าวงการมาเฟียเขาถือเรื่องศักดิ์ศรีขนาดไหน”
“ศั…ศักด์ศรีเหรอ…”
“ค่ะ น่าจะยิ่งคิดมากกว่าพ่อคุณฟ้าแน่นอน ระดับนี้คงคิดว่าคุณกำลังหยามเกียรติเจ้าพ่อแน่ ๆ เพราะงั้น “ยัยเด็กนี่มันคิดว่าลูกข้าเป็นคนง่าย ๆ จะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ แบ่งร่างมันมาครึ่งนึงแล้วเอาไปถ่วงอ่าว” แน่ ๆ เลยค่ะ”
กรี๊ดดดดดด แค่การแต่งตัวก็สามารถทำให้ชีวิตน้อย ๆ ของฟ้าหายไปกับท้องทะเลได้เลยงั้นเหรอ น่ากลัว โลกของผู้มีอิทธิพลนี่มันน่ากลัวจริง ๆ
“ละ…แล้วเราต้องทำไงอะพี่อีฟ นอกจากชุดนักเรียนแล้ว เราก็ใส่แต่ชุดพวกนี้อะ”
“ไม่ต้องห่วงนะคะ ห้างยังเปิดอยู่ เราจะไปซื้อชุดที่เหมาะสมกัน เรื่องนี้รับรองว่าผ่านมือดิฉันแล้ว ทุกอย่างหายห่วงแน่นอนค่ะ”
“งะ..งั้นฝากด้วยนะคะ”
“ค่ะ ไปซื้อชุดที่เหมาะกันค่ะ”
แม้เนื้อหาทั้งหลายจะช่างน่ากลัวแต่ด้วยน้ำเสียงอันแสนมั่นใจของพี่ทิพย์ก็ทำให้ผมคล้อยตามไปในที่สุด แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงเห็นรอยยิ้มกระตุกที่มุมปากของพี่อีฟ….
เมื่อตกลงปลงใจกันได้ พี่อีฟก็ลากผมขึ้นรถก่อนจะขับบึ่งตรงไปที่ห้างที่ใกล้ที่สุด และพวกเราก็ตรงไปที่ชั้นเสื้อผ้ากันในทันทีทันใดแต่ว่า….
“เอ่อพี่อีฟ ชุดผู้ชายมันไปทางนั้น….”
“เป็นสาวเป็นนาง จะไปซื้อชุดผู้ชายได้ไงคะ”
“แต่ว่า… พี่อีฟ เราชินกับชุดแบบนั้นนี่นา”
ผมพยายามพูดเสียงอ่อย ในขณะที่พี่อีฟจูงมือผมแน่น เดินตรงไปยังแผนกเสื้อผ้าผู้หญิงที่เต็มไปด้วยชุดกระโปรงสีสันสดใส จนสีของมันสะท้อนจนตาแทบจะบอด…
เจิดจ้า เจิดจ้าเกินไปแล้ว รัศมีของเสื้อสตรี!!!
“ชอบก็เรื่องของคุณค่ะ แต่ถ้าคุณน้ำหรือคุณบีมเห็นคุณใส่ชุดผู้ชายไปเดต รับรองว่ามีสงสัยแน่นอน… ไม่กลัวความลับแตกเหรอคะ”
พี่อีฟตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย หน้าตายสุด ๆ แต่มันได้ผล เพราะเพียงแค่มีคำว่าความลับแตก ใจผมมันก็เต้นตึก ๆ พร้อมกับคิดสภาพของคุณน้ำและคุณบีมที่ผิดหวังก็ทำเอาใจมันเหมือนจะดิ่งลงเหวทันที
“กะ..ก็จริงแต่ว่าเราไม่ชินกับชุดพวกนี้เลยอะ…”
“งั้นก็ชินตั้งแต่วันนี้ค่ะ”
คุณพี่สาวสุดเคร่งไม่เปิดช่องให้เถียง เจ้าตัวลากผมพุ่งตรงไปยังร้านเสื้อผ้าหนึ่งก่อนจะหยิบชุดกระโปรงลูกไม้สีฟ้าอ่อนขึ้นมา
“ตัวนี้น่ารักดี ลองดูค่ะ”
“เอ่อ…มันออกจะสาวน้อยเกินไปไหมอะ”
“ลองค่ะ”
“คือ….”
“ลองค่ะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
ผมจ้องชุดในมืออย่างหมดแรง ใจหนึ่งอยากจะเถียง แต่พอเห็นสายตาเด็ดขาดของพี่อีฟ ผมก็รู้ว่าต่อให้พูดไปก็คงไม่มีประโยชน์สุดท้ายก็เลยได้แต่รับชุดเดรสสีฟ้านั่นมาแล้วพุ่งไปห้องแต่งตัว
“ให้ตายสิ… ไม่น่าหลวมตัวเชื่อพี่อีฟเลย น่าจะสนุกอยู่แน่ ๆ”
ระหว่างแต่งตัวไปก็พลางบ่นไปด้วย แต่ก็นั่นล่ะ เจ้าชุดพวกนี้ดูแล้วอย่างไรก็ไม่ชินจริง ๆ แต่ถ้าไม่ใส่สงสัยได้เจอพี่อีฟบ่นยาวแน่นอนเพราะงั้น….
…..
ตอนนี้ที่ตรงหน้าของผม คือภาพสะท้อนของเด็กสาวผมสีดำตัวเล็กคนหนึ่งอยู่ในชุดเดรสสีฟ้าอันแสนสดใสตอบรับกับความน่ารักของเด็กสาวคนนี้ได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่นั้น มันยังเปิดไหล่ทั้งสองข้าง เผยให้เห็นไหล่ขาวนวลชวนมองอีกต่างหาก
เรามันก็น่ารักเหมือนกันนี่หว่า….
จู่ ๆ ความคิดบางอย่างก็วิ่งเข้ามาในหัว ก่อนที่ผมจะสะบัดมันทิ้งอย่างรวดเร็ว ก่อนที่อะไร ๆ มันจะลามไปมากกว่านี้
พอมองภาพแล้วก็ยิ่งรู้สึกหน้ามันร้อนแดงเข้าไปใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกโล่ง ๆ ที่ทั้งบริเวณไหล่ทั้งสองข้างหรือความรู้สึกหวิว ๆ ที่ขานี่อีก
ไม่ไหว… แบบนี้ไม่ไหวจริง ๆ
“เสร็จเหรอยังคะคุณฟ้า หรือต้องให้พี่คนนี้เข้าไปแต่งตัวให้”
“เสร็จแล้วพี่อีฟ…แต่ไม่ไหวหรอก แบบนี้ไม่ไหวแน่ ๆ”
“เสร็จแล้วก็ออกมาค่ะ อยากจะขอชมความน่ารักของน้องสาวหน่อยค่ะ”
ผมค่อย ๆ ยื่นหัวของตัวเองออกไปช้า ๆ ก่อนที่จะเจอพี่อีฟที่จ้องเขม็งมาเป็นแววกดดันให้เปิดผ้าม่านที่เอามาคลุมตัวออก
“นี่ชุดกระโปรงเองนะคะ ไม่ใช่ชุดว่ายน้ำ จะอายอะไรกันคะคุณฟ้า”
“ก็มันไม่ชินนี่นา”
ตึง
ไม่รอช้า พี่อีฟเดินมาดึงผ้าม่านออกจนเผยให้เห็นตัวของผมในชุดกระโปรงสีฟ้าเปิดไหล่สุดน่ารัก นั่นเองที่ทำให้พี่อีฟที่แม้จะหน้านิ่งอยู่ก็พยักหน้าเบา ๆ
“ใช้ได้ค่ะ แบบนี้ค่อยสมเป็นสาวน้อยสุดน่ารักหน่อย”
“กะ…ก็บอกไม่ใช่สาวน้อยไง ว่าแต่ตัวนี้ใช่ไหมพี่อีฟ….เอ่อ งั้นขอเปลี่ยนกลับเลยนะ เขินจะแย่แล้วเนี่ย”
ผมพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ พลางเหลือบตามองซ้ายทีขวาทีเพื่อพยายามหาทางหลบหน้าผู้คนที่อยู่ในร้าน แต่ว่าพี่อีฟนั้นกลับส่ายหัวเบา ๆ
“พูดอะไรกันคะ มาถึงร้านเสื้อผ้าทั้งที จะลองตัวเดียวแล้วกลับแบบนี้ เสียชื่อสตรีหมด เพราะฉะนั้น…..”
ขณะที่พูดแบบนั้น พี่อีฟก็ยกมือของตัวเองขึ้นก่อนจะชี้ไปที่เก้าอี้ด้านหลังของตัวเองที่ตอนนี้มีชุดมากมายกองอยู่พร้อมกับคุณพนักงานที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยรอยยิ้มที่พร้อมจะขายเต็มที่
“ลองหมดนี่เลยค่ะ”
“เอาจริงดิ”
“เห็นว่าล้อเล่นเหรอคะ”
“เฮ้อออออออ อยากกลับบ้านแล้วอะ”
ดูท่าทางงานนี้จะไม่จบง่าย ๆ แล้วสิเนี่ย…..
จากนั้นการลองมหากาพย์แห่งการลองเสื้อก็ได้บังเกิดขึ้น สารพัดชุดที่ชุดที่ชาตินี้ไม่เคยรู้ว่ามันมีอยู่ในโลกใบนี้ก็ถูกพี่อีฟจับผมใส่ประดุจตุ๊กตาของพี่แก และสุดท้าย หลังจากลองเสื้อจำนวนมากก็ได้ชุดที่พี่อีฟพอใจเสียที ซึ่งมันก็มีทั้งหมดอยู่ด้วยกันสามชุดเล่นซะอยากให้ผมแต่งแบบไม่ซ้ำกันเลยแต่ละวัน หลากวันหลายรสชาติ….
ซึ่งแต่ล่ะชุดนี่มัน…….
น่าอายสุด ๆ!!!!
Comments