ตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติด 2-1

Now you are reading ตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติด Chapter 2-1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หกโมงครึ่ง เวลาอาหารเช้า ถึงจะเป็นความตั้งใจของไดกิที่ต้องทานอาหารกับโทมะวันละหนึ่งมื้อ แต่การทานอาหารในเวลานี้ ไม่ว่าจะคิดอย่างไร มันก็เป็นเรื่องบ้าบอชัดๆ โดยเฉพาะยิ่งเมื่อได้เห็นพ่อคนหน้าตาดีกำลังจิบกาแฟราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่เมื่อคืน ไม่สิ เมื่อตอนเช้ามืดเพิ่งจะบังคับจูบคนอื่นไป มันก็ยิ่งทำให้การควบคุมอามรมณ์บกพร่อง อาการต่อต้านรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเพื่อแสดงให้อีกฝ่ายเห็น มินจุนจึงสวมชุดสีฟ้าทั้งบนล่าง กระทั่งถึงถุงเท้าและสลิปเปอร์คู่กับโทมะ นั่งจ้องหน้าเตรียมพร้อมรับมือ

‘เป็นไง หมัดของสเมิร์ฟ แค่เห็นก็อยากจะตายเลยล่ะสิ’

แต่นี่ก็เป็นเพียงแค่อาการต่อต้านเล็กๆ น้อยๆ ของมินจุนเท่านั้น หัวใจของเขาไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายลงเลย แถมยิ่งไปกว่านั้นคือริมฝีปากล่างของตัวเองที่โดนกัด ปกติก็อวบอิ่มกำลังดีอยู่แล้ว ตอนนี้มันบวมเป่ง แค่ตักซุปเต้าเจี้ยวเข้าปากก็แสบขึ้นมาทันทีแล้ว

“อึก!”

พอโทมะได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดของมินจุนก็ทำท่ากวักให้หันมามือน้อยๆ น่ารัก

“โทมะ ฟู่~ ให้นะ ฟู่~ ฟู่~”

เจ้าเด็กน้อยแอบมองไดกิแล้วทำเสียงฟู่~ ด้วยน้ำเสียงเล็กๆ ใส่ปากมินจุน เห็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ลูกชายทำแล้วทำไมยังไม่ยอมอีก ตอนกินข้าวก็ไม่ยอมให้พูด นี่น่ะเหรอป๊ะป๋า? หึ! เผด็จการน่ะสิ ร่างบางคิดพลางอ้าปากให้โทมะแล้วมองไดกิ ทว่ากลับประสานสายตากับคนที่พับหนังสือพิมพ์ลงพอดี มินจุนเลยทำเสียง “หึ” ใส่แล้วหันหน้าหนี

“หม่าม้าแมยงกัดเหยอ”

โทมะปิดปากและตาพร้อมกัน ทำท่าทางเลียนแบบแมลงที่มากัด มินจุนตื้นตันกับภาพที่เห็น

“อือ เป็นแมลงตัวใหญ่มากๆ เลย”

“เจ็บเหยอ”

“อือ เจ็บมากๆ เลย”

โทมะตัวสั่น คิ้วน่ารักขมวดแน่น เมื่อเห็นริมฝีปากของหม่าม้าบวมเป่งก็ตะเบ็งเสียงโกรธออกมา

“ฆ่ามะ ต้องฆ่าแมยงนะ แบบนี้”

ว่าแล้วก็ใช้ฝ่ามือทุบโต๊ะเสียงดัง ชั่วขณะนั้นมินจุนขนลุกไปทั้งสันหลัง เพราะรู้สึกถึงสายตาของไดกิที่จ้องมองราวกับจะฆ่าเขาให้ตาย รู้สึกเหมือนส้อมที่อยู่ไกลออกไปจะลอยเข้ามาหา จึงปลอบโทมะเบาๆ แล้วป้อนข้าว

“เอาล่ะ พอแล้วเนอะ กินข้าวดีกว่า”

“คร้าบ~”

ถึงจะพูดกับโทมะแบบนั้น แต่มินจุนก็ไม่ได้ตักข้าวเข้าปากเลยสักคำ เขาได้แต่กินสลัดอย่างเชื่องช้า

“นี่ จะกินอย่างนั้นไปถึงเมื่อไร”

ในที่สุดไดกิก็ทนดูต่อไปไม่ไหว พับหนังสือพิมพ์ลงแล้วเอ่ยถามมินจุน

“ช่างผมเถอะครับ ปกติผมก็เป็นพวกค่อยๆ กินอยู่แล้ว ข้าวเช้าก็กินยันข้าวเที่ยง ข้าวเที่ยงก็กินยันข้าวเย็น ข้าวเย็นก็กินไปจนถึงอีกวันนู่นเลย”

ร่างสูงเพียงแค่หรี่ตามองเหมือนจะบอกว่าคำพูดไม่ชวนให้ขำของมินจุนไม่มีค่าอะไรให้โต้กลับเลย เขาพูดออกไปหนึ่งคำแล้วลุกจากที่นั่ง

“เป็นแมลงสินะ”

มินจุนไม่สามารถซักถามความหมายของคำพูดไดกิอย่างมั่นใจได้ จึงหันหน้าบึ้งตึงอุ้มโทมะลงจากเก้าอี้เด็กก่อนตัวเองจะลุกตาม เมื่อลงจากเก้าอี้แล้วโทมะก็วิ่งตึงๆ เข้าไปกอดผู้เป็นพ่อ

“ป๊ะป๋า วันนี้โทมะเปงสเมิร์ฟ อยู่หมู่บ้านเห็ด หม่าม้าก็อยู่ด้วย ป๊ะป๋าก็เปงสเมิร์ฟใช่มะ”

“โทมะ มาจุ๊บก่อนสิ”

“อื้อ จุ๊บ~”

ไดกิจุ๊บแทนการตอบคำถามของโทมะพลางส่งสายบอกมินจุนว่า ‘อย่าสอนอะไรแปลกๆ ให้เด็ก’ จากนั้นก็วางลูกชายลงแล้วเดินเข้ามาหาร่างบาง หัวใจของมินจุนเริ่มเต้นอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง ดูอย่างไรก็ไม่ปกติเลย ระหว่างกำลังคิดว่าคงต้องไปหาหมอสักครั้ง ชายหนุ่มก็เชยคางของเขาขึ้นแล้ว

จะมอร์นิ่งคิสนั่นเอง ก่อนหน้านี้เขาไม่มีสติเพราะความช็อกเลยโดนเข้าไปเต็มๆ แต่วันนี้มินจุนเต็มไปด้วยความเกลียดชังและหึงหวงในตัวไดกิ จึงตัดสินใจว่าจะไม่หลงกับหน้าตาของคนตรงหน้าอีกต่อไป เขารวมรวบศักดิ์ศรีที่ไม่ค่อยจะมีหันหนีริมฝีปากที่ใกล้เข้ามา

ไดกิใส่แรงลงไปที่นิ้วตรงปลายคางมนอยู่ กลัวอยู่เหมือนกันว่าจะโดนตบสักที… แต่อีกฝ่ายเพียงแค่ปล่อยมือออกช้าๆ แล้วถอยหลังอย่างคาดไม่ถึง

‘เยี่ยมมาก มินจุน ถ้าคิดจะทำก็ทำได้นี่! ใช่ ทางนี้ต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายปฏิเสธผู้ชายที่ไปกอดผู้หญิงคนอื่น’

มินจุนกำลังปลอบประโลมใจตัวเองตามลำพัง แต่แล้วจู่ๆ คนที่เดินไปถึงประตูก็หมุนตัวตรงเข้ามาหาอีกรอบ เอ๊ะ… ไม่ได้หันกลับมาเพราะคิดได้ว่าต้องกลับมาตบใช่ไหมนะ… ไดกิรวบเอวของมินจุนที่ยืนห่อไหล่ราวกับกระชาก ก่อนจะดูดเข้าที่ริมฝีปากล่างบวมเป่งตรงจุดที่ตนกัดด้วยแรงทั้งหมดที่มีจนเลือดซึม แล้วก็ผละตัวออกไปภายในชั่วพริบตาเดียว

“ลองใส่แบบนี้มาทั้งตัวอีกรอบสิ จะทำให้กินข้าวไม่ได้สักสี่วันเลย คอยดู”

หลังจากทำให้มินจุนละลายด้วยคำพูดเรียบๆ แล้ว ไดกิก็พาลูกน้องเดินออกจากห้องไป

มินจุนกล่อมโทมะเข้านอน และตัวเองก็นอนอยู่บนเตียงมาสักพักหนึ่งแล้ว ทว่าดวงตาก็ยังใสแจ๋วไม่มีทีท่าว่าจะง่วงเลยสักนิด ได้แต่นอนวาดแผนที่นู่นนี่อยู่บนเตียงนอน

“เป็นอะไรเนี่ย แกไม่ได้มีคาแรกเตอร์แบบนี้สักหน่อยนี่นา ทำไมเป็นงี้ล่ะ นอนเถอะน่า ขอร้อง”

สาเหตุมีเพียงหนึ่งเดียวก็คือไดกิ คิดๆ ดูแล้วก็เป็นตัวเองที่ไปชอบผู้ชายคนนั้นฝ่ายเดียว เฝ้าฝันอยู่คนเดียว ซึ่งไดกิก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่นิด แค่กอดผู้หญิงเอง เป็นยากูซ่านี่นา.. แต่ทำไมวันนั้นหลังจากเพิ่งกอดผู้หญิงไปไม่กี่นาทีถึงได้ลงมาจูบเขาแบบนั้นล่ะ นั่นเป็นคำถามที่มินจุนก็หาคำตอบไม่ได้ หรือว่าคืนนั้นรู้ว่าเราแอบดูก็เลยโกรธงั้นเหรอ แต่มันก็น่าแปลกอยู่ดี ถ้าจะบอกว่าโกรธ แต่ชายแท้ที่กอดผู้ชายไม่ได้กลับมาจูบกันแบบนั้น… ในคืนนั้นมินจุนเสร็จสมเพราะจูบของอีกฝ่าย พอคิดถึงทีไรก็รู้สึกอยากตายทุกที

นึกถึงตอนจับชายเสื้อของไดกิแล้วส่งเสียงครางกลัดกลั้นออกมาก่อนจะเสร็จสม แล้วก็ได้ทึ้งหัวตัวเอง คู้ตัวเหมือนปลาหมึก ร้องไห้คร่ำครวญราวกับคนบ้าอยู่ใต้ผ้าห่ม

แต่จู่ๆ ก็ลุกพรวดพรวดขึ้นจากเตียง

“ไม่ได้การ ถ้าเราเป็นบ้าขึ้นมาจริงๆ จะทำไงดี ใช่แล้ว เหล้า! ต้องโซจูเลย แค่สองแก้วแล้วเข้านอนทันที”

มินจุนรู้สึกผิดเหมือนกันที่ต้องทิ้งโทมะให้นอนคนเดียว แต่เขาทนต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงก้มไปจุ๊บแก้มเด็กน้อยก่อนจะเดินออกมาจากห้อง แค่รีบเดินไปหาฮาคุโตะที่ห้องอาหารให้ช่วยหาโซจูมาดื่มสักสองแก้ว เสร็จแล้วก็รีบกลับมานอน ก็คงจะไม่มีปัญหาแล้วล่ะ อันที่จริงมินจุนดื่มเหล้าไม่ค่อยได้เท่าไหร่นัก ดื่มไม่ถึงขวดก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าเกิดดื่มไปขวดหนึ่งเต็มๆ ล่ะก็…

นิสัยเวลาเมาของเขาก็จะออกมา อีโรติกมินจุน! เขาน่ะจำไม่ได้หรอก แต่หลังจากกลายเป็นหนุ่มอีโรติกปลดปล่อยด้านมืดออกมาที่เกาหลี ก็มีคนได้รับประสบการณ์การโดนคร่อมอยู่หลายคนเหมือนกัน หลังจากนั้นมินจุนก็ไม่ดื่มโซจูมากกว่าสองแก้วอีกเลย

ภายในห้องอาหาร ชินบะผู้รับผิดชอบดูแลห้องครัวกำลังเช็กวัตถุดิบสำหรับการทำอาหารในวันพรุ่งนี้อยู่ เมื่อเห็นมินจุนเดินเข้าไปในห้องครัว ชินบะตกใจและก้มหัวลง

“คือ ผมขอดื่มโซจูสักแก้วได้ไหมครับ ฮาคุโตะบอกว่าดื่มได้แต่โซจู…”

“ได้ครับ นั่งรอสักครู่นะครับ”

ผ่านไปไม่นานอีกฝ่ายก็ถือแก้วเล็กๆ และโซจูของเกาหลีเข้ามา

‘นั่นฝาแดง[1]นี่นา… เราดื่มได้แต่แบบเฟรช[2]ด้วยสิ ไอ้เจ้าคางคกฮาคุโตะไม่ได้หมายถึงแบบเฟรชหรอกเหรอ’

“อันนี้ดื่มได้ไหมครับ ถ้ายังไงผมจะทำกับแกล้มง่ายๆ”

“ไม่เป็นไรครับ ผมจะดื่มแค่สองแก้วแล้วกลับขึ้นไปเลย พอดีนอนไม่หลับน่ะครับ”

ทันทีที่มินจุนเดินเข้าไปคว้าแขนของคนที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องครัว ชินบะก็รีบก้มศีรษะให้ด้วยใบหน้าแดงก่ำแล้วก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องครัวราวกับหนีอะไรบางอย่าง

‘อะไรเนี่ย ทำไมพอเราจับตัว คนอื่นๆ ถึงได้หน้าแดงขนาดนั้นล่ะ กลัวติดเชื้อโฮโมเหรอ มันจะติดได้ไงเล่าไอ้พวกนี้นิ’ มินจุนกระดกโซจูเต็มแก้วเข้าปากรวดเดียวเพราะของขึ้น รสชาติของเหลวที่ไหลลงคอหวานกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก

ชินบะที่วิ่งหนีไปทางห้องครัวออกมาพร้อมของกับกับแกล้มเต็มถาด

“ทะ…ทานเป็นกับแกล้มนะครับ ทานเสร็จแล้วทิ้งไว้ตรงนี้ได้เลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมาทำความสะอาดเองครับ”

ก่อนจะก้มหัวให้อย่างนอบน้อมอีกครั้งแล้วเดินออกไป

บนทางเดินยาวคดเคี้ยวไปมา มินจุนชนเข้ากับกำแพงในทุกๆ ก้าวที่เดิน

“ฮึ่ย ต้องสร้างบนที่ราบสิ ทำไมมันคดเคี้ยวงี้ล่ะ เอ๊ะ มีทางชันด้วย ไดกิ ไอ้ไดกิมีเงินตั้งเยอะแยะ แต่มาสร้างบนเขา แค่จะกลับไปห้องนอน ถึงกับต้องปีนเขาเลยหรือไง อะไรวะเนี่ย”

ร่างบางเดินตรงไปตามเส้นทางบนทางเดิน ทว่าเมื่อถึงทางเลี้ยวแล้วกลับไม่ใช่ห้องของโทมะ แต่ดันตรงไปห้องของไดกิ ในมือมีขวดโซจูว่างเปล่าติดไปด้วย

“ไอ้เวรเอ๊ย รอก่อนเถอะ ฉันแค่คิดว่าจะอยู่ใต้ร่างนายเท่านั้นเองนะ แต่มันไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว หึๆ ฉันขึ้นเองก็ได้ ฮ่าๆ รอฉันก่อนไดกิ!”

มินจุนเมาจนหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง กระทั่งดวงตาก็ยังฉ่ำเยิ้มด้วยเสน่ห์ดึงดูดทางเพศชั้นยอด เขาเข้าไปในห้องไดกิพลางปลดกระดุมชุดนอนตัวเองทีละเม็ดๆ เผยลำคอเรียว ตุ่มไตบนแผ่นอกที่มองเห็นผ่านแสงจันทร์สาดส่องทางหน้าต่างนั้นแข็งเป็นไตราวกับถูกใครบางคนกระตุ้นมาเต็มแรง ร่างกายเต็มเปี่ยมด้วยแอลกอฮอล์ยิ่งอ่อนไหวกว่าเดิม เพียงแค่โดนขนนกสัมผัสก็ส่งเสียงร้องออดอ้อนออกมาได้

คนตัวเล็กเปิดประตูพรวดโดยไม่ได้เคาะ ไดกิกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงโดยเปิดเพียงโคมไฟบนโต๊ะเท่านั้น เจ้าของห้องไม่มีแม้แต่อาการตกใจ แต่กลับจ้องมองคนเผยลาดไหล่ครึ่งหนึ่งยืนอยู่หน้าห้อง ก่อนจะย้ายสายตาไปทางขวดโซจูว่างเปล่า

“จิ๊”

จากนั้นไดกิก็เดาะลิ้น มินจุนเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับปิดประตูเสียงดัง

“เฮ้ย”

“ไม่ใช่เฮ้ยสิ มินจุนเป็นชื่อที่เพราะจะตายไป ฮึ่ย ถ้าฉันมองนายแล้วพูดว่าเฮ้ยบ้าง นายจะชอบไหม แต่พอ วันนี้ฉันมีธุระกับนาย”

ระหว่างเดินโซเซไปหาร่างสูง หลังเท้าชนเข้ากับมุมของโซฟาจนร้อง ‘โอ๊ย’ กระโดดโหยงเหยงล้มลงบนโซฟา

“ไดกิ ทำไมนายถึงมาสร้างบ้านบนที่ที่มันคดเคี้ยวเลี้ยวลดขนาดนี้ รู้ไหม กว่าจะเดินมาถึงที่นี่ ฉันต้องเจ็บตัวไปเท่าไร โอ๊ยๆ เท้าฉัน”

มินจุนโยนขวดโซจูทิ้งและพยายามจะลุกขึ้นจากโซฟา แต่แขนกลับไม่มีแรงจนลุกขึ้นไม่ได้สักที พอเห็นสภาพนั้น ไดกิก็ทำท่าเหมือนจะลุกจากเตียง คนตัวเล็กเลยตะโกนใส่อีกฝ่าย

“อย่าขยับ เดี๋ยวฉันไปหานายเอง อยู่ตรงนั้นแหละ”

มินจุนพยายามลุกขึ้นอย่างยากลำบากจนกระทั่งเดินโซเซปีนขึ้นเตียงของไดกิสำเร็จ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ถึงเอาแต่จับจ้องอีกคนโดยไม่ขยับเขยื้อน ก่อนจะขึ้นไปนั่งหมิ่นๆ บนร่างกายกำยำแล้วถอดเสื้อผ้าส่วนบนของตัวเองออก แม้ว่าระยะห่างระหว่างกล้ามเนื้อจะมาก แต่แผ่นอกบางเรียบลื่นของมินจุนกลับแวววาวภายใต้แสงจากโคมไฟ

“คิดๆ ดูแล้ว ไม่จำเป็นต้องรอให้ได้อยู่ใต้ร่างคุณสักหน่อย ผมขึ้นให้คุณได้ด้วยนี่นา หึๆ ทำไมไม่คิดออกแต่แรกน้า วันนี้ผมจะกินคุณล่ะ”

“เฮ้ย”

“ไม่ใช่เฮ้ย นี่มินจุน มินจุน!”

มินจุนตะโกนเสียงแข็งทั้งน้ำตาแล้วจู่ๆ ก็ขยับก้นเข้าหาความเป็นชายที่สัมผัสได้ผ่านผ้าห่มผืนบาง

“ไอ้ขี้เมานี่มาจากไหนเนี่ย”

ไดกิใช้มือจับเอวบาง แต่ก็ไม่ได้มีความคิดจะดันออกแต่อย่างใด หนำซ้ำยังพึมพำด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ไม่ยอมหลบใบหน้าเรียวเล็กที่เริ่มขยับเข้ามาใกล้ด้วย ร่างบางโลมเลียหน้าอกแกร่งสมชายของไดกิด้วยลิ้น บดเบียดสะโพกเข้ากับความเป็นชายให้ตรงกับปากทางเข้าเพื่อปลุกเร้า

“ผมจะกิน… กินตรงนั้นได้อร่อยกว่าผู้หญิงอีก…”

มินจุนสะอื้นฮัก ไดกิคว้าศีรษะของคนที่ฝั่งอยู่กับต้นคอของตนเองเบาๆ

“พอ เหม็นกลิ่นเหล้า”

“หนวกหู! กินเหล้าไปก็ต้องมีกลิ่นสิ เพราะคุณนั่นแหละ ผมถึงกินโซจูไปตั้งขวดนึง แถมยังเป็นฝาแดงอีก… ไปด่าฮาคุโตะให้เลย ผมกินฝาแดงไม่ได้นะ…”

“อืม รู้แล้ว ลุกไปอาบน้ำไป นี่คิดจะกลับไปนอนกับโทมะทั้งสภาพนี้หรือไง”

“ไม่เอา ไม่เอา จะนอนกับคุณ… ทำแบบนั้นได้ยังไง ทำยังไง…”

มินจุนทุบแผ่นอกของไดกิ พร้อมน้ำตาไหลลงมาไม่หยุด

“โทมะก็อยู่ ผมอยู่ พาผู้หญิง… พาผู้หญิงมากอดได้ยังไง ไอ้คนเลว! ไหนบอกให้ฉันทำตัวเรียบร้อยไง… ฉันน่ะ หลังจากเสร็จด้วยมือของนาย ก็ไม่เคยเสร็จกับมือตัวเองอีกเลย… คนนิสัยไม่ดี ฉันจะทำบ้าง…กับใครก็ได้”

“ระวังคำพูดหน่อย”

ไดกิจับหน้าของมินจุนขึ้นมาแล้วคำรามอย่างโกรธเคือง

“เจ็บ ปล่อยนะ เห็นหัวผมเป็นลูกบาสหรือไง อะไรนิดอะไรหน่อยก็จับๆ ดึงๆ …คุณน่ะกับผู้หญิง… กับผู้หญิง… ไอ้คนเลว โทมะ ผมจะเลี้ยงเอง…”

เสียงสะอึกสะอื้นค่อยๆ เบาลง มินจุนหลับใหลพร้อมกับไถลตัวลงไปซบอยู่กับแผ่นอกแกร่ง

ร่างสูงลูบหัวของคนที่หลับพร้อมกับกรนคร่อกๆ ไปแล้ว ก่อนจะพึมพำด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว

“เรื่องใหญ่แล้วสิ…”

[1] โซจูฝาแดง จะมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์

[2] โซจูแบบเฟรช จะมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ประมาณ 17.8 เปอร์เซ็นต์

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด