ตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติด 3-11
เสียงครางดังออกมาจากริมฝีปากที่ถูกครอบครอง ไดกิกำลังคึกคักอย่างที่สุด มินจุนเองก็หายใจหอบถี่ไม่สามารถประคองสติกับจูบที่แสนกระตือรือร้นของไดกิได้ทว่าสิ่งที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือเป็นท่าทางของไดกิที่ไม่เคยพอบเห็นมาก่อนจนถึงตอนนี้ ไดกิฉีกทิ้งเสื้อผ้าของมินจุนจนเกือบหมดกกกอดมินจุนบนรถที่กำลังเคลื่อนที่ ไม่เคยเห็นไดกิที่เปแบบนี้มาก่อน มินจุนจับมือของไดกิที่เลียต้นคอขอของเขาและพยายามปลดกระดุมกางเกงอย่างเร่งรีบ
“ไม่เอา ไดกิ… อึก… ที่บ้านนะ…”
“รอไม่ได้แล้ว”
น้ำเสียงของไดกิที่เต็มไปด้วยความปราถนามหาศาลนั้นทำให้มินจุนหวั่นไหวยิ่งกว่ายากำหนัดใดๆ เขาไม่ชอบถูกกอดทั้งๆ ที่โกรธ และอยู่บนรถ การกระทำของเขาทำให้ไดกิไม่สบายใจมินจุนก็อยากจะกอดและจะขอโทษอย่างตรงไปตรงมา
“ไดกิ ได้โปรด…”
“ถ้านายกระซิบว่าได้โปรดแบบนี้มันก็ยิ่งเสียวจนมึนไปหมดน่ะสิ แต่อารมณ์ฉันในตอนนี้ไม่คิดจะปราณีนายเลยแม้แต่น้อย”
ไดกิปัดมือของมินจุนออกเบาๆ แล้วรูดซิปลงมาก่อนจะรั่งมันลงไปด้านล่าง แกนกายของมินจุนที่แข็งตึงขึ้นมาแล้วกระตุกอย่างเขินอายปรากฏอยู่ตรงหน้าไดกิ
“ต่อไปถ้านายไม่ฟังคำพูดของฉันจะเป็นยังไง วิธีที่ไวที่สุดก็คือการแสดงออกให้นายที่ไม่เข้าใจความหมายในคำพูดนั้นได้เห็นสินะ”
มือใหญ่ของไดกิจับเข้าที่แกนกายของมินจุน มินจุนสายหัวไปมา โก่งร่างกายราวกับคันชักธนู เรนก็อยู่… พอคิดว่าจะมีคนเห็น จะมีคนได้ยินเขาก็อับอายจนแทบทนไม่ไหว
“ไดกิ ขอร้อง.. อึก.. อย่า… เรนอยู่..”
“เพราะคิดถึงนายเลยใช้ผนังกันเสียง ทำไม อยากให้เรนดู?”
“ผนัง.. กันเสียงเหรอครับ”
มินจุนหันไปหาไดกิ เงยหน้ามองกระจกแก้วสีดำเข้ม
“ไม่ได้ยิน.. จริงๆ นะครับ”
“หุบปากได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจไม่ใช่แค่ผนังแต่จะเปิดหน้าต่างทั้งหมด”
“อุ้บ”
มินจุนรีบเงียบปาก หลับตาลงแล้วเริ่มหลุดลอยไปกับฝ่ามือของไดกิที่ลูบไล้ไปตามร่างกายของตน มือของไดกิไม่ผ่อนแรงเลยสักนิด เขารูดแกนกายที่มีน้ำสีขาวซึมออกมาเพียงเพื่อให้มินจุนอ้อนวอน มินจุนทนกับมือของไดกิได้ไม่นาน แม้จะเป็นผนังกันเสียงแต่ก็กลัวว่าเรนจะได้ยินเข้ามินจุนจึงเอามือปิดปาก กลั้นหายใจ บิดเอวเพราะความเสี่ยวซ่านพลุ่งพล่านขึ้นมา ไดกิจับมือของมินจุนที่ปิดปากอยู่ขึ้นมาแล้วกระซิบข้างหู
“ได้ยินไหม? เสียงลามกตรงนั้นของนายกำลังเปียกชุ่มอยู่ในมือของฉัน ถ้าไม่รีบทำให้เสร็จก็คงไม่ได้เตรียมตรงนั้น และฉันก็จะเข้าไปทั้งๆ อย่างนี้เลย”
แม้จะที่นั่งด้านหลังจะกว้างขวาง แต่สำหรับการเคลื่อนไหวของคนสองคนกลับเป็นที่ที่แคบ และไม่สะดวกเอาเสียเลย ทุกๆ ครั้งที่กลั้นเสียงคราง และส่ายหัวไปมา หัวของมินจุนก็จะชนเข้ากับประตูรถดังตึงๆ ไดกิจับสะโพกของมินจุนแน่นดึงลงมาให้อยู่ใต้ร่างตนเอง มินจุนสัมผัสได้ถึงแกนกายอุ่นร้อนของไดกิที่แข็งขืนชูชันขึ้นมาผ่านกางเกงสูทที่เกี่ยวอยู่ตรงสะโพก ในที่สุดก็ไม่อาจกลั้นเสียงคราวได้อีกต่อไป มินจุนกอดไปที่ลำคอของไดกิ ส่งเสียงออดอ้อน
“อึก.. ไดกิ… มา… อึก อ่าอ่า ไดกิ…”
มินจุนร้องเรียกชื่อของไดกิ ปลดปล่อยของเหลวขาวขุ่นใส่มือของเขา เสร็จสมไปเรียบร้อยแล้ว ไดกินำของเหลวที่มินจุนปลดปล่อยใส่มือของตนลงไปทาที่ปากทางอย่างไม่รีรอ ไดกิเองก็เต็มไปด้วยความต้องการในตัวของมินจุนจนคิดอะไรไม่ออกแล้วเช่นกัน
เมื่อนิ้วเปียกชุ่มของไดกิสอดแทรกเข้าไป และเริ่มถูกไถไปตามผนังด้านใน ร่างกายของมินจุนที่ยังคงอ่อนไหว และยังไม่หลุดออกจากความรู้สึกเพิ่งปลดปล่อยไป ในหัวพลันขาวโพลน ยืนมืออกไปยังกางเกงของไดกิ หลงลืมไปแล้วว่ากำลังอยู่ในรถ
ไดกิที่มักจะขี้เล่นเป็นพิเศษเวลามีเซ็กส์ เวลานี้กลับไม่ยอมให้มินจุนได้เป็นผู้นำง่ายๆ การกระทำของเขาดูรุนแรงขึ้นเล็กน้อย
เมื่อมินจุนจับที่แกนกายของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากไดกิ ก่อนหน้านี้ไดกิมักจะยอมทำให้เสมอ แต่วันนี้กลับต่างออกไป เมื่อมินจุนแตะเข้าที่แกนกายของไดกิที่นูนออกมาจากกางเกง เขาถูสิ่งนั้นในมือราวกับรออยู่ก่อนแล้ว ทว่าไร้เสียงใดๆ หลุดออกจากปาก
แกนกายที่ค่อยๆ อ่อนตัวลงหลังจากปลดปล่อยเพราะความอุ่นร้อนของมินจุนเริ่มแข็งขืนขึ้นมาอีกครั้ง
“ไดกิ.. เร็วเข้า…”
ไดกิยังคงเงียบงัน ไม่แม้แต่จะพูดจาลากมกใส่มินจุนที่กำลังออดอ้อน ทำเพียงปลดเข็มขัดของตนเองอย่างฉุนเฉียวกระตุ้นมินจุนอย่างรุนแรง
เสียงปลดเข็มขัดเหล็กช่างแจ่มชัดระหว่างเสียงลมหายใจของคนทั้งคู่ มินจุนหลังตาลงทั้งสองข้าง
“ลืมตา ไม่รู้หรอกนะว่ากำลังคิดอะไรแต่เวลาที่ฉันกอดนายให้คิดถึงฉันเท่านั้น ไม่อย่างนั้น..”
“ไม่อย่างนั้น? จะพูดเรื่องน่ากลัวอีกใช่ไหม”
มินจุนที่ลืมตาขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว สบตากับไดกิด้วยแววตาที่เปียกชื้น
“ฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะคลุ้มคลั่งแค่ไหน!”
คำพูดที่ไม่คาดคิดทำเอาหัวใจของมินจุนตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เป็นช่วงเวลาที่เขารู้สึกได้ทั้งหมดว่าอีกฝ่ายเป็นห่วงเขามากแค่ไหน มินจุนยืนมืออกไปสัมผัสใบหน้าของไดกิ
“ไดกิ.. รักนะครับ เสียดายที่ผมไม่ได้บอกรักคุณ”
“เงียบ ไม่ต้องอยู่อะไรทั้งนั้น ฉันอยากรู้สึกถึงนายคนเดียว”
ไดกิจับขาของมินจุนมาเกี่ยวที่สะโพกของเขา สัมผัสไปยังปากทางของมินจุนด้วยมือแล้วสอดใส่แกนกายของตนเองเข้าไปรวดเดียวในตอนที่ผนังนั่นสั่นระริก
“อึก”
เสียงครางที่กลั้นไว้ดังออกมาจากริมฝีปากของไดกิ ดึงร่างกายของมินจุนเข้ามา กอดรัดโดยไม่ให้พักหายใจ เมื่อไดกิเข้าไปในตัวของมินจุนแล้วด้านก็ในขยับขยายเพราะสัมผัสหนักแน่น ความเสียวซ่านพลุ่งพล่านขึ้นมาราวกับร่างกายจะระเบิด เรี่ยวแรงแข็งแกร่งดึงเข้าไปกอดรู้สึกราวกับปวดจะฉีกขาด มินจุนหายใจลำบากแต่ก็ยอมรับทุกอย่างที่ไดกิมอบให้
ในพื้นที่เล็กๆ ที่ถูกปิดผนึก ไดกิโอบสะโพกของมินจุนขยับร่างกาย สอดใส่เข้าไปยังจุดที่ลึกที่รู้สึกดีที่สุด สะโพกมินจุนโก่งเอวราวกับคันธนู ขยับสะโพกให้ตรงกับจังหวะรุนแรงของไดกิ
เร่าร้อน รุนแรง บรรยากาศเริ่มเร้าร้อนรุนแรงราวกับจุดติดด้วยไฟเพราะไดกิขับเคลื่อนไหวอย่างไม่คิดจะหยุด ทว่าเมื่อโลกทั้งใบแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลนเพราะความเสียวซ่าน ขนลุกขนชันจนช่วงขาสั่นไหวไดกิกลับหยุดการเคลื่อนไหว เมื่อไดกิถอนแกนกายออกจากตัวของมินจุนอย่างรวดเร็ว หยิบทิชชู่ที่อยู่ด้านข้างมาพันรอบสิ่งนั้นไว้ขมวดคิ้วเรียวสวยเหมือนทุกครั้งที่กำลังปลดปล่อยพร้อมกับจ้องตากับมินจุนไปด้วย แกนกายของมินจุนที่ได้เห็นภาพนั้นเองก็มีน้ำใสๆ ไหลออกมาเสร็จสมไปอีกหนึ่งครั้ง ไดกิมองลงมาที่มินจุนก่อนจะพูดว่า
“ถ้าเป็นตอนนี้ฉันยังพอปล่อยไปได้ โอกาสมีเพียงครั้งเดียว แต่ถ้าจะอยู่ข้างกายฉัน ฉันจะไม่มีวันปล่อยนายไปไหนอีก ความรักของฉันยังโหดร้ายได้มากกว่านี้ ก็ยังจะอยู่?”
มินจุนโอบรอบลำคอบ ดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดเพราะคำสารภาพที่เจ็บปวดของไดกิ
“คุณนี่โง่จริงๆ ความรักของผมน่ะหอมหวานนะ เพราะงั้นผมจะทำให้คุณยิ้มเอง.. รักนะครับ ไดกิ”
ไดกิจับใบหน้าของมินจุนที่กระซิบคำหวานอยู่ข้างหูของตนเข้ามากดจูบอย่างรุนแรง
“ไดกิ บอกรักกันหน่อยสิครับ”
“มินจุน ผู้ชายน่ะแค่แสดงความจริงใจให้ดูก็พอแล้ว อย่าไปยึดติดกับคำไร้สาระพวกนั้นนัก”
มินจุนผลักอีกฝ่ายออกลุกขึ้นดึงกางเกงขึ้นมาใส่
“อ๋อ เหรอ! คุณเป็นผู้ชายส่วนผมก็แค่ผู้หญิงที่มีลูกกระโปก! ต่อไปจะไม่พูดอีกแล้ว!”
“ก็ตามใจนายแล้วกัน แต่ที่นายผิดสัญญาครั้งนี้ก็ต้องรับผิดชอบด้วย”
“ก็ขอโทษไปแล้วไงครับ”
มินจุนจ้องเขม็ง คิดว่านี่ใช่ผู้ชายที่เพิ่งจะสารภาพรักกับเขาไปเมื่อครู่นี้จริงๆ นะเหรอ
“ใช่ว่าขอโทษแล้วจะจบนี่ ต้องมีการลงโทษด้วยสิ หรือไม่ใช่?”
“ทำโทษ?”
“ใช่ บอกรักฉันวันละครั้งเป็นการลงโทษที่ผิดสัญญา”
ไดกิจัดเสื้อแจ็กเก็ตให้เข้าที่เข้าทาง เต็มไปด้วยกลิ่นเลมอนสดชื่นเหมือนผู้ชายที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเมื่อครู่ เขาเคาะที่ผนังกั้นเสียง ทันทีที่เคาะก็มีเสียงครืนเหมือนกับตอนที่เลื่อนขึ้นมาแล้วก็หายไปโดยไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย มินจุนพองลมที่ปากราวกับปากของปลาคาร์พ ไม่สามารถส่งเสียงใดๆ ออกไปได้เพราะผนังกั้นที่หายไปในชั่วพริบตาเดียวจึงได้แต่มองอีกฝ่ายตาถลน
คำว่ารักเป็นคำพูดไร้สาระงั้นเหรอ! ขอให้บอกรักวันละครั้งงั้นเหรอ? ตลกแล้ว ฉันเองก็เป็นผู้ชายเหอะ ฉันจะไม่พูดจนกว่านายจะบอกรักฉัน ไดกิ! เข้าใจไหม? ไอ้คนเอาแต่ใจ! เพราะมีเรนอยู่ก็เลยไม่สามารถพูดออกไปได้ มินจุนจึงใส่ความตั้งใจอันรุนแรงของตนลงไปที่แววตาทั้งสองข้าง แล้วตีต้นขาอีกฝ่ายให้หันมามองยังตนเอง
‘เป็นไง รู้สึกถึงความตั้งใจของฉันละสิ!’ มินจุนที่ส่งเลเซอร์บีมไปที่ไดกิก็ได้บอกรักไดกิวันละครั้งอย่างอ่อนโยนเมื่อไดกิพูดประโยคถัดไปจบ
“อ่าใช่ ที่นายบอกว่าต้องมาเอาให้ได้ จนมาถึงโรงเรียนคืออันนั้นใช่ไหม อุปกรณ์ทำงานใช่ไหม? ฉันเอามาให้แล้ว ถ้าปฏิบัติตามคำสั่งได้ดีจะพิจารณาอีกทีว่าให้หรือไม่ให้”
Comments