ตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติด 3-4

Now you are reading ตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติด Chapter 3-4 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทันทีที่รู้สึกเหมือนใครบางคนมาสัมผัสแก้ม มินจุนก็ทำหน้าบึ้งหลบสัมผัสจากมือนั้นแล้วซุกตัวเข้าใต้ผ้าห่ม ทว่าหลังจากนั้นมันกลับกลายเป็นริมฝีปากอุ่นร้อนทาบลงมาลามเลียต้นคอ ขบเม้มที่ติ่งหู และจุมพิตแผ่วเบาบนแก้ม…

จูบ? ฮะ!

พอรู้สึกถึงความเจ็บปวดบดเบียดผิวหนังบริเวณแก้ม เขาก็ดีดผ้าห่มออกแล้วลุกพรวดพลางใช้มือถูแก้มตัวเอง จ้องมองไดกิที่มองกลับมาด้วยสีหน้าบ่งบอกว่า ‘ปลุกขนาดนี้แล้วก็ควรจะตื่นสักที’

เจ็บมาก โดนผู้ชายไม่รู้จักความพอดีกัดเอาแบบนี้ คงจะเป็นรอยแน่ๆ แต่ต่อให้ความกลัวจะลดลงแล้ว เขาก็ยังไม่มีความกล้าพอจะลองเช็กดู แถมหลังจากมีเซ็กซ์กันอย่างหนักหน่วงถึงขนาดเปล่งเสียงออกมาไม่ได้แล้ว ก็เพิ่งจะได้หลับยังไม่ถึงสองชั่วโมงดีเลย

มินจุนง่วงนอนมาก ถึงจะรักอย่างไร แต่แววตาไม่พอใจก็ดูท่าจะฝืนความง่วงไม่ไหวมันค่อยๆ ปรือลง ทันทีที่คำว่า ‘ครับ’ ของประโยคคำถามว่า “มีอะไรเหรอครับ” จบลง ศีรษะก็เอนตุบไปทางด้านหลัง

ท่าทางแบบนั้นทำให้ริมฝีปากของไดกิวาดรอยยิ้มขึ้นมา หัวใจอ่อนยวบลงไปพร้อมๆ กัน ร่างสูงลุกจากเตียงแล้วสวมชุดคลุม

“ใส่กางเกงซะ เดี๋ยวจะไปอุ้มโทมะมา”

เมื่อได้ยินชื่อโทมะ มินจุนก็ลืมตาโพลงหันมองรอบๆ อย่างตื่นตระหนก

“อ๋อ ใช่แล้ว! นี่ห้องคุณนี่นา เดี๋ยวผมไปนอนกับโทมะเองครับ”

ทว่าพอมินจุนจะก้าวลงจากเตียงแล้วหยิบชุดนอนที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาใส่ ใบหน้าของไดกิก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา

“ฉันบอกว่าจะไปพาโทมะมาไง แล้วเหตุผลที่นายต้องกลับไปนอนกับโทมะคืออะไรอีก”

“ครับ? ก็เปล่า แต่มันจะเช้ามืด… ฟ้าก็ร้อง… ธะ… ธุระก็จบ… แล้ว”

“ธุระ? ธุระอะไร”

ร่างบางข่มปร่าไปทั้งปาก หลังน้ำเสียงของไดกิที่ดูราวกับกำลังโมโห

“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น… งั้นผมจะนอนนี่ครับ”

มินจุนไม่มีความกล้าพอจะพูดว่า ‘นี่ไม่รู้วว่าธุระคืออะไรจริงๆ ถึงได้ถามเหรอ เซ็กส์ไง อะไรเนี่ย’ มินจุนค่อยๆ หยิบชุดนอนมาใส่แล้วขึ้นไปบนเตียงพร้อมกับเงยหน้ามองไดกิอย่างสงบเสงียม

‘แค่บอว่าอยากอยู่ด้วยกันก็ได้นี่ ชิชิ! เขินอะไรถึงต้องทำหน้าโกรธขนาดนั้นด้วยละคุณ ดูยังไงก็น่ารักมากๆ เลย แฮ่ะแฮ่ะ’

มินจุนที่แสนจะหน้าบางไม่รู้เลยว่าใบหน้าตัวเองแสดงออกอย่างที่คิดมาหมด เมื่อเขาพยายามเม้มปากแล้วเงยหน้ามองไดกิก็โดนดีดเข้าที่หน้าผากด้วยใบหน้าโมโหๆ เสียเต็มแรง”อึก ตายแน่เรา” หลังเสียงกรีดร้องคร่ำครวญของมินจุน เขาก็ไปอุ้มโทมะเข้ามา

ทันทีที่เท้าของโทมะกระแทกลงมาที่ท้องของมินจุนอย่างไร้ปราณี มินจุนก็สะบัดแขนดิ้นรนอยู่กลางอากาศ คล้ายจะลุกขึ้นมาแต่แล้วก็หลับลงไปอีกครั้ง แต่เมื่อมือของโทมะตีลงไปแรงๆ ที่ใบหน้าของมินจุน เขาก็กุมหน้าตัวเองลุกขึ้นมาอย่างกับตุ๊กตาล้มลุกพร้อมกับน้ำตานองหน้า

ใบหน้าของมินจุนที่แสนเจ็บปวดราวกับจมูกจะหลุดออกเพราะโทมะที่ปาดลงมาเมื่อครู่ แล้วยังรอยบวมแดงที่อยู่บนแก้มอีก

น่าดูราวกับใบหน้าของคิกบ็อกซิ่งที่พ่ายแพ้

“ฮึก! โทมะ ทำไมล่ะ? ปกติออกจะเรียบร้อย…”

เมื่อมินจุนสบตากับไดกิที่นั่งพิงหลังเตียงอ่านหนังสือพิมพ์อยู่พอดี เขาเบนสายตาไปยังโทมะเพราะนิสัยตอนนอน ราวกับแหวกว่ายอยู่บนเตียงใหญ่ แต่ต่อให้เป็นเตียงซูเปอร์คิงคิงไซส์แต่ก็ทำได้กลิ้งไปทางโน้นทีทางนี้ทีบนพื้นที่แคบๆ ระหว่างผู้ใหญ่สองคนเท่านั้น

“ตื่นแล้วก็ไปกินข้าว”

“หกโมงครึ่งแล้วเหรอครับ”

“ยัง”

“งั้นก็นอนต่อได้อีกนิดสิ มันยังมืดอยู่เลย”

ไดกิหมุนนาฬิกามาให้มินจุนที่อุ้มโทมะให้กลับมานอนดีๆ อีกครั้ง มินจุนกระพริบตาซ้ำๆ จ้องมองไปทางนาฬิกา เจ็ดโมงสามสิบนาที หึ! เป็นไปไม่ได้ นาฬิกาพังน่ะสิ ไดกิไม่มีทางปล่อยให้พวกเขานอนจนถึงเวลานี้แน่…

“ไดดิ นาฬิกาเรือนเท่าไรครับ”

“แปดสิบล้านเยน”

“อ่า… เอาไปซ่อมเถอะครับ”

“หนวกหู มันไม่ได้พัง ถ้ารู้สึกถึงระดับความอดทนของฉันแล้วก็ปลุกโทมะซะ”

“เห เจ็ดโมงครึ่งจริงๆ เหรอครับ”

มินจุนดึงแขนไดกิมาดูเวลาอีกครั้ง เจ็ดโมงสามสิบสองนาที… เป็นไปไม่ได้… มินจุนจ้องหน้าได้กิ น้ำตาคลอด้วยความประทับใจเต็มตื้น ใบหน้าของไดกิแปรเปฃี่ยนเป็นดุร้าย มินจุนผงะจดจ้องไปทางเขา

“เป็นอะไร”

“ไดกิ ไดกิ คุณรักผมจริงๆ ด้วย ไม่อย่างนั้นคุณไม่มีทางปล่อยให้นอนจนเลยเวลาอาหารเช้าเป็นชั่วโมงอย่างนี้แน่ ยอมรับเถอะ ไดกิ ถ้ายอมรับทุกอย่างจะง่ายขึ้นนะ พูดว่ารักกับผมเร็วๆ สิ นะ? นะ… โอ๊ย!”

ไดกิดีดเข้าไปที่หน้าผากของมินจุนที่เกาะแขนเขาราวกับคนบ้าด้วยยังจุดเดิมที่เคยดีด 100% เป๊ะ แล้วจึงลุกจากเตียงพูดออกมาเสียงดุ

“ไม่มีครั้งที่สอง ไปกินข้าว”

ปากที่สร้างแต่ปัญหา หนึ่งในคำพูดที่แม่ที่แม่นยำที่สุดที่แม่มักจะพูดออกมาเสมอลอยขึ้นกลางอากาศตีกลลางหัวใจของมินจุน

“โทมะ ฟังดีๆ นะ โทมะมีลูกอมอยู่ห้าเม็ด ให้หม่าม้าสองเม็ด โทมะจะเหลือลูกอมกี่เม็ด จะใช้มือนับก็ได้นะ”

โทมะขยับมือน้อยๆ ไปมา แล้วส่ายหัว

“ม่ายมี ให้หม่าม้าหมดเลย โทมะไม่เหลือ”

“ไม่ใช่ ไม่ใช่สิ… ขอบใจนะ ขอบใจมากๆ เลย แต่นี่ไม่ใช่เรื่องจริง เรากำลังเรียนกันอยู่ จากที่โทมะมีอยู่ห้าเม็ดพอให้หม่าม้าสองเม็ดจะเหลือกี่เม็ด”

มินจุนลูบหัวที่ถูกดัดดเป็นคลื่น กางนิ้วออกมาห้านิ้วหักออกไปสองนิ้วให้โทมะดู โทมะกอดคอมินจุนนั่งลงบนตักทำท่าจะร้องไห้พร้อมกับบอกว่า”ม่ายมี จะให้หม่าม้าหมดเลย”

สามสิบนาทีเข้าไปแล้ว ก็ดีใจที่โทมะคิดถึงตัวเองแต่ก็กังวลว่าจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับตัวเลข มินจุนไม่คิดว่าห้าลบสองมันจะยากขนาดนี้ แม้ว่าอยากจะทำให้โทมะเรียนคณิตได้อย่างง่ายๆ สบายๆ แต่ด้วยนิสัยที่ถ้าได้เริ่มแล้วก็จะลองไปจนกว่าจะได้ อีกสักครั้งหนึ่ง… คิดพลางอุ้มโทมะลงจากตัก

“โทมะ งั้นครั้งสุดท้ายนะ ฟังดีๆ นะ”

ในตอนนั้นเคนตะถือกล่องของขวัญเข้ามาวางบนโต๊ะ

“เคนตะ มานี่สักครู่สิครับ”

“ยังไม่จบเหรอครับ”

“ก็นั่นแหละครับ วันนี้ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ต้องทำให้ได้ นั่งตรงนี้ก่อนครับ”

เคนตะคุกเข่านั่งลงหน้าโทะด้านใบหน้าที่ไม่อยากทำเท่าไรนัก มินจุนคิด จะนั่งสบายๆ ก็ได้นะแต่ทำไม่ได้เพราะเป็นยากูซ่าหรือไง แล้วมองไปที่โทมะ

“โทมะ โทมะมีลูกอมห้าเม็ด เอาให้เคนตะสองเม็ด ของโทมะเหลือ?”

“สามเม็ด”

ก่อนที่มินจุนจะถามจบโทมะก็ร้องไชโยขึ้นมา มินจุนอ้าปากสะกิดแขนเคนตะที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วชี้ไปที่โทมะ

“เห็นไหม โทมะของเรานี่อัจฉริยะเนอะ? ตอบก่อนจะถามเสร็จอีกนะ ผมยังไม่ขนาดนี้เลย ฮ่าฮ่าฮ่า โทมะ มานี่เร็ว หม่าม้ากอดหน่อย”

“อื้อ หม่าม้า โทมะจะให้หม่าม้าหมดเยย แต่เคงตะ… ให้แค่สองเม็ด! ที่เหลือของโทมะ”

มินจุนอุ้มโทมะที่กระโดดหย่องๆ ขึ้นมา เข้าใจแล้วว่าเพราะเป็นหม่าม้าถึงได้ตอบแบบนั้นทั้งๆ ที่รู้ว่าคำตอบก็คือสองเม็ดแล้วกอดโทมะแนบแน่นพลางกระซิบกระซาบ

“โทมะ หม่าม้าจะอยู่ในฐานะหม่าม้าไปตลอดเท่าที่โทมะต้องการเลย ไม่เป็นไรนะ บ้านหม่าม้ามีพี่ชายสองคนแล้ว เป็นหม่าม้าสักคนไม่มีปัญหาอะไรหรอก ไม่ต้องเป็นห่วงนะ จะทำให้ป๊ะป๋าเป็นของหม่าม้าแล้วก็จะอยู่ข้างๆ โทมะนะ”

“คร้าบ~ หม่าม้าของโทมะ ของโทมะ”

โทมะเองก็ขยับปากเล็กๆ กระซิบกระซาบเหมือนที่มินจุนทำ แล้วบี้หน้าตัวเองกับหน้าของมินจุน หัวเราะอย่างมีความสุข

เคนตะไม่ค่อยชอบดูหนังเท่าไร พอดูหนังที่ขี่อะไรบางอย่างบินไปบินมาแปลกๆ ก็ชวนให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะแต่… ช่วงนี้ไม่มีวันไหนเลยที่เขาไม่ปวดหัวเพราะมินจุนที่มักจะแสดงละครไม่เลือกประเภททั้งสยองขวัญ อีโรติก โรแมนติกเป็นครั้งคราวที่บ้าน

“ฮึ้ยย น่ารักจริงๆ! ฮ่าฮ่าฮ่า ว่าแต่เมื่อครู่กล่องอะไรเหรอครับ”

มินจุนเช็ดตาที่มีน้ำตา แล้วหันไปมองเคนตะที่ยืนด้วยใบหน้าที่แสนเหนื่อยล้า

“ของขวัญจากบอสครับ แล้วบอสก็กลับมาแล้วด้วยครับ”

หลังได้ยินคำว่าของขวัญ มินจุนก็ย้ายกล่องของขวัญนั่นขึ้นไปไว้บนเตียงอย่างหวาดๆ มีโทมะที่ปรบมืออย่างชอบอกชอบใจนั่งอยู่ คงจะไม่ได้ยินคำสุดท้ายที่เคนตะพูดแน่ๆ

“โทมะ ป๊ะป๋าส่งของขวัญมาให้ด้วยนะ อะไรเอ่ย อะไรเอ่ย”

“อะไร อะไร ให้โทมะดูหน่อย”

“แน่นอน จะของหม่าม้าหรือของโทมะก็เหมือนกัน เดี๋ยวจะเอาให้โทมด้วย แต่กล่องนี่ใหญ่จัง เสื้อผ้า? ไม่สิ เสื้อผ้า? ฮ่าฮ่าฮ่า ทำไมคิดถึงแต่เสื้อผ้าละเนี่ย”

มินจุนกำลังจะเปิดฝากล่องออกแต่กลับได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอก พวกไดกิเดินเข้ามาแล้ว หูของเขาไวกว่าปกติมาก มินจุนมองไดกิ ย่นคิ้วข้างหนึ่ง แล้วส่งวิงค์ไปให้ พร้อมกับไขว้นิ้วสองนิ้วเป็นรูปหัวใจเล็กๆ ปิ้วๆ ส่งไปให้อีก

ไดกิทำหน้าดุจ้องมินจุนราวกับจะหยิบเอาคีมเหล็กมาตีเสียเดี๋ยวนี้แต่มินจุนสนใจแต่ของขวัญ แม้แต่สายตาน่ากลัวนั่นก็ยังรู้สึกอ่อนโยนราวกับกวางซิกะ(กวางญี่ปุ่น)

“ไดกิ ขอบคุณสำหรับของขวัญนะครับ”

เห็นเหมือนมินจุนจะเปิดของขวัญไดกิใช้ความอดทนอย่างถึงที่สุดแล้วพูดออกไปเบาๆ

“ไว้เปิดทีหลัง”

“ไม่ได้ครับ ของขวัญน่ะต้องเปิดทันทีที่ได้มา เขินละสิ”

มือของมินจุนที่เปิดกล่องขวัญใช้เวลาเพียงแค่สองวินาที เทของที่อยู่ด้านในลงมาบนเตียงใช้เวลาไปหนึ่งวินาที เวลาที่โทมะหยิบเอาหนึ่งในนั้นซึ่งมีลูกกลมๆ หลายอันร้อยเรียงอยู่ด้วยกันเหมือนขนมดังโงะของญี่ปุ่นนั้นอยู่ที่สองวินาที มินจุนใช้เวลาห้าวินาทีถึงรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร… ทันทีที่เซ็กส์ทอย ของเล่นผู้ใหญ่ที่ไม่เคยเห็นแม้แต่บนอินเทอร์เน็ตจนถึงตอนนี้เริ่มขยับ และส่งเสียงวิ้งๆ ขึ้นมาในมือของโทมะ

“อ่า ลูกอมขยับได้”

เวลาที่มินจุนแย่งเอาสิ่งนั้นที่โทมะชื่นชอบ และกำลังจะเอาใส่ปากออกมาอยู่ที่หนึ่งวินาที มินจุนรีบเอาเซ็กส์ทอยที่อยู่บนเตียงเข้าไปซ่อนในเสื้อเชิ้ตของตัวเองแล้วตะโกนออกมาทันที

“ใครก็ได้เอาโทมะออกไปที เร็ว”

เมื่อมินจุนร้องออกมาอย่างน่ากลัว เคนตะรีบเข้าไปอุ้มโทมะพาออกไปจากห้องทันที อิสึกิ ฮาคุโตะ และเรนที่ยืนทำตัวไม่อยู่ถูกอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยเสียงหอบหายใจของมินจุนท่ามกลางบรรยากาศแปลกประหลาดจดจ้องไปที่ริมฝีปากของเขา รอให้ไดกิออกค่ำสั่งให้ออกไปอย่างใจจดใจจ่อ

“ออกไปได้”

เมื่อคำที่รอคอยออกมาจากปากของไดกิ ยากูซ่าทั้งสามทำความเคารพสั้นๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมามองอีก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด